ก่อนหน้าจะเดินทางทริปนี้ได้มีโอกาสดูสารคดีพื้นที่ชีวิตตอนทางรถไฟสายมรณะและสารคดีไม้หมอนสุดท้ายบนรางรถไฟสายมรณะของ Thai PBS เลยเข้าใจว่าทางรถไฟสายมรณะไม่ใช่แค่ช่วงสะพานข้ามแม่น้ำแควอย่างที่เราเข้าใจกันในตอนเด็ก
Info คร่าวๆ : ทางรถไฟสายมรณะเป็นทางรถไฟเชื่อมไทย สู่ มืองทันบูซายัด ประเทศพม่า ระยะทางของไทยเริ่มสร้างจากสถานีชุมทางหนองปลาดุก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ผ่านจังหวัดกาญจนบุรีข้ามแม่น้ำแควใหญ่ สุดที่ด่านเจดีย์สามองค์ ความยาวรวม 415 กิโลเมตร อยู่ในเขตประเทศไทยประมาณ 303.95 กิโลเมตร และอยู่ในเขตพม่า 111.05 กิโลเมตร ปัจจุบันเส้นทางที่ใช้ได้ในฝั่งไทยเดินทางถึงแค่สถานีน้ำตก กาญจนบุรีเท่านั้น
ทางรถไฟสายมรณะ สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งตามจริงแล้วต้องใช้เวลานานถึง 6 ปี แต่กองทัพญี่ปุ่นใช้เวลา 14 เดือนในการก่อสร้าง ใช้เชลยศึก ประมาณ 61,700 คน รวมแรงงานไทยและต่างชาติอีกจำนวนมาก ด้วยความเร่งรีบและสภาพภูมิประเทศที่โหดร้าย ทำให้นับหมื่นชีวิตล้มตายลง มีคำเปรียบที่ว่า หนึ่งชีวิตเท่ากับหนึ่งไม้หมอนบนทางรถไฟ ด้วยความที่อยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไร การเดินทางเพื่อตามรอยทางรถไฟสายมรณะเลยเริ่มต้นขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะอารมณ์อยากล้วนๆ และแพลนล่วงหน้าแค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเดินทาง
เริ่มต้นตีตั๋ว ออกเดินทางจากสถานีรถไฟบางซื่อ รถไฟจะมาถึงเวลาประมาณ 6.50 น. เป็นรถไฟเที่ยวพิเศษสำหรับนำเที่ยวน้ำตก ราคาตีตั๋วไปกลับ 120 บาท เท่านั้น (รถไฟออกจากสถานีหัวลำโพง-สามเสน-บางซื่อ-บางซ่อน-บางบำหรุ-ศาลายา) ใครใกล้สถานีไหนขึ้นสถานีนั้นได้เลย
ประมาณ 7.45 น. รถไฟจะมาจอดแวะที่สถานีนครปฐม ให้ลงไปกราบสักการะพระปฐมเจดีย์ อยู่ใกล้กับสถานี เดินไปประมาณ500 เมตร มีของขายไว้สำหรับเป็นอาหารเช้าและเสบียงเดินทาง
* เด็กมาทัศนศึกษาแบบเหมาทั้งโบกี้เลย
8.25 น. กลับมาที่รถไฟพร้อมเดินทางต่อ บนรถไฟมีคุณตำรวจและเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูล อำนวยความสะดวกและรับซื้อของฝาก อาหารสำหรับมื้อเย็น แนะนำใครไปอย่าลืมสั่งก๋วยเตี๋ยวแห้ง ห่อละ 20 บาทไว้กินขากลับ เพราะจะหิวมาก คุณตาที่เห็นในภาพติสแตกไม่แพ้กันแกมาเที่ยวคนเดียว พร้อมกับโค๊กลิตรขวดใหญ่ กระดกเอื้อกๆ
เดินทางถึงสถานีชุมทางหนองปลาดุก ราชบุรี ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นทางรถไฟสายมรณะจริงๆ ถึงสถานีนี้เขาจะตัดขบวนที่จะเดินทางไปเที่ยวหัวหินออกจากขบวนของเรา ทำให้ตู้เดินทางไปน้ำตกเหลือแค่ 4 ตู้เท่านั้น โชคดีที่ได้ตู้สุดท้ายเลยได้วิวเจ๋งๆมาเพียบ
นั่งมาสักพักก็เลยสถานีกาญจนบุรีแล้วรถไฟก็มาจอดที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว จอดให้เราลงไปถ่ายรูป25นาที บนสะพานและรางรถไฟก่อนที่จะพาเรามุ่งหน้าข้ามแม่น้ำแควไปเที่ยวกันต่อ ก่อนจะออกเดินทางเตรียมน้ำดื่มไว้ให้พร้อมเพราะจะใช้เวลาไปถึงสถานีน้ำตกอีกประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า แล้วจะถึงน้ำตกตอนเที่ยงพอดี
ต่อจากตรงนี้จะเป็นทางรถไฟสายมรณะแบบจริงจัง รถไฟจะวิ่งผ่านป่า ผ่านแม่น้ำ เลียบหน้าผา ตรงถ้ำกระแซ ความยาว 400 เมตร ข้างทางด้านหนึ่งเป็นผาสูง อีกด้านหนึ่งเป็นแม่น้ำแควใหญ่ เทือกเขาตะนาวศรีขวางกั้นเป็นกำแพง มีรีสอร์ทแพข้างล่างมองไปสวยมากๆ แต่อยากให้คนที่เดินทางได้รู้ว่า บริเวณตรงนี้สร้างยากมากและมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยในสมัยนั้น แต่เชลยก็เนรมิตมันขึ้นมาจนได้ สมัยก่อนจะใช้ไม้ค้ำยันรางรถไฟไว้ แต่สมั้ยนี้ปรับปรุงทางและตอม่อแล้ว ตกลงไปถึงตายเลยนะ หวาดเสียว แต่สวยงาม ปนหดหู่ มองไม้หมอนแล้วก็เศร้าใจนิดๆ รถไฟจะวิ่งยาวต่อไปจนสุดท้างที่สถานีน้ำตก จบกับน้ำตกไทรโยคน้อย น้ำน้อยสมชื่อ จะพักรถประมาณ 2 ชั่วโมง หาข้าวเที่ยงกิน นั่งเล่น แล้วก็เดินทางกลับกรุงเทพ ตอนประมาณ บ่ายสองเกือบบ่ายสาม ถึงกทม. 2 ทุ่ม 40 นาที พอรถไฟวิ่งเข้ากทม. เจ้าหน้าที่ออกมาขอบคุณการเดินทาง ผู้โดยสารปรบมือขอบคุณเป็นการตอบแทน เหนื่อยแต่ประทับใจ
ข้อแนะนำ
- เตรียมน้ำดื่ม ขนม ของกินจากบ้านไปมากๆ
- อ่านหนังสือ ดูสารคดี เพิ่มความอิน
- เตรียมเพลง เตรียมแบต เตรียมหนังสือไปอ่านบนรถไฟได้เลย
- ใครอยากฝึกภาษาอังกฤษ แนะนำไปกับรถขบวนนี้ มีทั้งฝรั่ง คนจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น โดยสารมาด้วย
- รถไฟวิ่งมาถึงสถานีหนองปลาดุกแล้วให้ไปถ่ายรูปชมวิวที่ท้ายขบวนได้ จะได้มุมโคตรวิเศษ
- ที่น้ำตกไทรโยคน้อย ใครมีเวลาให้เดินขึ้นไปข้างบนต่อรถมอไซค์อีก 20 บาท จะเจอกับบ่อพุต้นน้ำ ตรงนั้นมีร้านอาหารน้ำเยอะและดีกว่าเล่นข้างล่าง
ค่าใช้จ่าย
- ตั๋วรถไฟนำเที่ยวไปกลับ สถานีกรุงเทพฯ-น้ำตก 120 บาท ซื้อได้ที่สถานีเลย โทรถามการรถไฟก็ได้ รถมีวิ่งทุกเสาร์อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์
- อาหารกลางวันที่น้ำตกไทรโยค ราคาไม่แพง อาหารตามสั่งจานละ 35 -40 บาท มีเสื่อที่นั่งไว้ปู ร้านส้มตำสำหรับคนที่มาเป็นครอบครัว
- ก่อนรถไฟจะถึงสถานีกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่รถไฟจะถามว่าใครจะซื้อของฝากบ้างมั้ย ออร์เดอร์กับเจ้าหน้าที่ได้เลย อย่าลืมสั่งก๋วยเตี๋ยวแห้ง 20 บาทด้วย ตอนกลับหิวมากๆ ของฝากก็จำพวกขนมไทย หม้อแกง น้ำตาลสด รวมๆถ้าไม่กินอะไรมากและเอาของกินไปเองก็น่าจะไม่เกิน 200 บาท
twitter @Nookkill
ทริปติสแตก ตามรอยทางรถไฟสายมรณะ[One Day]งบ200บ.ขาดตัว
Info คร่าวๆ : ทางรถไฟสายมรณะเป็นทางรถไฟเชื่อมไทย สู่ มืองทันบูซายัด ประเทศพม่า ระยะทางของไทยเริ่มสร้างจากสถานีชุมทางหนองปลาดุก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ผ่านจังหวัดกาญจนบุรีข้ามแม่น้ำแควใหญ่ สุดที่ด่านเจดีย์สามองค์ ความยาวรวม 415 กิโลเมตร อยู่ในเขตประเทศไทยประมาณ 303.95 กิโลเมตร และอยู่ในเขตพม่า 111.05 กิโลเมตร ปัจจุบันเส้นทางที่ใช้ได้ในฝั่งไทยเดินทางถึงแค่สถานีน้ำตก กาญจนบุรีเท่านั้น
ทางรถไฟสายมรณะ สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งตามจริงแล้วต้องใช้เวลานานถึง 6 ปี แต่กองทัพญี่ปุ่นใช้เวลา 14 เดือนในการก่อสร้าง ใช้เชลยศึก ประมาณ 61,700 คน รวมแรงงานไทยและต่างชาติอีกจำนวนมาก ด้วยความเร่งรีบและสภาพภูมิประเทศที่โหดร้าย ทำให้นับหมื่นชีวิตล้มตายลง มีคำเปรียบที่ว่า หนึ่งชีวิตเท่ากับหนึ่งไม้หมอนบนทางรถไฟ ด้วยความที่อยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไร การเดินทางเพื่อตามรอยทางรถไฟสายมรณะเลยเริ่มต้นขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะอารมณ์อยากล้วนๆ และแพลนล่วงหน้าแค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเดินทาง
เริ่มต้นตีตั๋ว ออกเดินทางจากสถานีรถไฟบางซื่อ รถไฟจะมาถึงเวลาประมาณ 6.50 น. เป็นรถไฟเที่ยวพิเศษสำหรับนำเที่ยวน้ำตก ราคาตีตั๋วไปกลับ 120 บาท เท่านั้น (รถไฟออกจากสถานีหัวลำโพง-สามเสน-บางซื่อ-บางซ่อน-บางบำหรุ-ศาลายา) ใครใกล้สถานีไหนขึ้นสถานีนั้นได้เลย
ประมาณ 7.45 น. รถไฟจะมาจอดแวะที่สถานีนครปฐม ให้ลงไปกราบสักการะพระปฐมเจดีย์ อยู่ใกล้กับสถานี เดินไปประมาณ500 เมตร มีของขายไว้สำหรับเป็นอาหารเช้าและเสบียงเดินทาง
* เด็กมาทัศนศึกษาแบบเหมาทั้งโบกี้เลย
8.25 น. กลับมาที่รถไฟพร้อมเดินทางต่อ บนรถไฟมีคุณตำรวจและเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูล อำนวยความสะดวกและรับซื้อของฝาก อาหารสำหรับมื้อเย็น แนะนำใครไปอย่าลืมสั่งก๋วยเตี๋ยวแห้ง ห่อละ 20 บาทไว้กินขากลับ เพราะจะหิวมาก คุณตาที่เห็นในภาพติสแตกไม่แพ้กันแกมาเที่ยวคนเดียว พร้อมกับโค๊กลิตรขวดใหญ่ กระดกเอื้อกๆ
เดินทางถึงสถานีชุมทางหนองปลาดุก ราชบุรี ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นทางรถไฟสายมรณะจริงๆ ถึงสถานีนี้เขาจะตัดขบวนที่จะเดินทางไปเที่ยวหัวหินออกจากขบวนของเรา ทำให้ตู้เดินทางไปน้ำตกเหลือแค่ 4 ตู้เท่านั้น โชคดีที่ได้ตู้สุดท้ายเลยได้วิวเจ๋งๆมาเพียบ
นั่งมาสักพักก็เลยสถานีกาญจนบุรีแล้วรถไฟก็มาจอดที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว จอดให้เราลงไปถ่ายรูป25นาที บนสะพานและรางรถไฟก่อนที่จะพาเรามุ่งหน้าข้ามแม่น้ำแควไปเที่ยวกันต่อ ก่อนจะออกเดินทางเตรียมน้ำดื่มไว้ให้พร้อมเพราะจะใช้เวลาไปถึงสถานีน้ำตกอีกประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า แล้วจะถึงน้ำตกตอนเที่ยงพอดี
ต่อจากตรงนี้จะเป็นทางรถไฟสายมรณะแบบจริงจัง รถไฟจะวิ่งผ่านป่า ผ่านแม่น้ำ เลียบหน้าผา ตรงถ้ำกระแซ ความยาว 400 เมตร ข้างทางด้านหนึ่งเป็นผาสูง อีกด้านหนึ่งเป็นแม่น้ำแควใหญ่ เทือกเขาตะนาวศรีขวางกั้นเป็นกำแพง มีรีสอร์ทแพข้างล่างมองไปสวยมากๆ แต่อยากให้คนที่เดินทางได้รู้ว่า บริเวณตรงนี้สร้างยากมากและมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยในสมัยนั้น แต่เชลยก็เนรมิตมันขึ้นมาจนได้ สมัยก่อนจะใช้ไม้ค้ำยันรางรถไฟไว้ แต่สมั้ยนี้ปรับปรุงทางและตอม่อแล้ว ตกลงไปถึงตายเลยนะ หวาดเสียว แต่สวยงาม ปนหดหู่ มองไม้หมอนแล้วก็เศร้าใจนิดๆ รถไฟจะวิ่งยาวต่อไปจนสุดท้างที่สถานีน้ำตก จบกับน้ำตกไทรโยคน้อย น้ำน้อยสมชื่อ จะพักรถประมาณ 2 ชั่วโมง หาข้าวเที่ยงกิน นั่งเล่น แล้วก็เดินทางกลับกรุงเทพ ตอนประมาณ บ่ายสองเกือบบ่ายสาม ถึงกทม. 2 ทุ่ม 40 นาที พอรถไฟวิ่งเข้ากทม. เจ้าหน้าที่ออกมาขอบคุณการเดินทาง ผู้โดยสารปรบมือขอบคุณเป็นการตอบแทน เหนื่อยแต่ประทับใจ
ข้อแนะนำ
- เตรียมน้ำดื่ม ขนม ของกินจากบ้านไปมากๆ
- อ่านหนังสือ ดูสารคดี เพิ่มความอิน
- เตรียมเพลง เตรียมแบต เตรียมหนังสือไปอ่านบนรถไฟได้เลย
- ใครอยากฝึกภาษาอังกฤษ แนะนำไปกับรถขบวนนี้ มีทั้งฝรั่ง คนจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น โดยสารมาด้วย
- รถไฟวิ่งมาถึงสถานีหนองปลาดุกแล้วให้ไปถ่ายรูปชมวิวที่ท้ายขบวนได้ จะได้มุมโคตรวิเศษ
- ที่น้ำตกไทรโยคน้อย ใครมีเวลาให้เดินขึ้นไปข้างบนต่อรถมอไซค์อีก 20 บาท จะเจอกับบ่อพุต้นน้ำ ตรงนั้นมีร้านอาหารน้ำเยอะและดีกว่าเล่นข้างล่าง
ค่าใช้จ่าย
- ตั๋วรถไฟนำเที่ยวไปกลับ สถานีกรุงเทพฯ-น้ำตก 120 บาท ซื้อได้ที่สถานีเลย โทรถามการรถไฟก็ได้ รถมีวิ่งทุกเสาร์อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์
- อาหารกลางวันที่น้ำตกไทรโยค ราคาไม่แพง อาหารตามสั่งจานละ 35 -40 บาท มีเสื่อที่นั่งไว้ปู ร้านส้มตำสำหรับคนที่มาเป็นครอบครัว
- ก่อนรถไฟจะถึงสถานีกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่รถไฟจะถามว่าใครจะซื้อของฝากบ้างมั้ย ออร์เดอร์กับเจ้าหน้าที่ได้เลย อย่าลืมสั่งก๋วยเตี๋ยวแห้ง 20 บาทด้วย ตอนกลับหิวมากๆ ของฝากก็จำพวกขนมไทย หม้อแกง น้ำตาลสด รวมๆถ้าไม่กินอะไรมากและเอาของกินไปเองก็น่าจะไม่เกิน 200 บาท
twitter @Nookkill