เด็กมะกัน 9 ขวบ ยิงอูซี่ เจาะหัวครูฝึกดับ

กระทู้สนทนา

9ขวบหัดยิงปืนกระสุนเจาะหัวครูดับ
ครูสอนยิงปืนกลอูซี่ ในอริโซนาเสียชีวิต หลังลูกศิษย์ซึ่งเป็นเด็กหญิง 9 ขวบ ยิงใส่โดยไม่ตั้งใจ จุดประเด็นถกเถียง ควบคุมอาวุธปืน-จำกัดอายุหัดยิงปืนได้

                             28 ส.ค. 57  เหตุสลดในรัฐอริโซนาที่เด็กหญิง วัย 9 ขวบ กำลังหัดใช้ปืนกลอูซี่ และกระสุนลั่นใส่นายชาร์ลส์ แวคกา ครูสอน วัย 39 ปี ที่ศีรษะ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ได้จุดประเด็นถกเถียงในสังคมสหรัฐอีกครั้ง ถึงแนวทางการควบคุมอาวุธปืน และการจำกัดอายุของเด็กที่สามารถหัดยิงปืนได้
                             อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (25 ส.ค.) ที่สนามฝึกยิงกลางแจ้ง บุลเลตส์ แอนด์ เบอร์เกอร์ส ในเมืองไวท์ฮิลล์ ห่างจากลาสเวกัสประมาณ 100 กิโลเมตร ขณะผู้เป็นครูกำลังสอนวิธีใช้ปืนแก่เด็กหญิง ที่อยู่ระหว่างไปท่องเที่ยวในสนามฝึกยิงพร้อมกับบิดาและมารดา
                              ตามข้อมูลเว็บไซต์ของสนามฝึกยิง อนุญาตให้เด็กอายุ 8-17 ปี หัดยิงได้หากมีผู้ปกครองอยู่ด้วย
                              คลิปวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ก่อนเกิดโศกนาฏกรรมแสดงให้เห็นว่า นายแวคกากำลังสอนเด็กหญิงถึงวิธีการจับปืน ช่วยจับแขนและท่าทางให้ถูกต้อง เธอยิงออกไปหนึ่งนัด จากนั้น ครูให้คำแนะนำต่อ และได้ยินเสียงรัวปืนหลายนัด แรงสะท้อนกลับทำให้ปืนเบนไปทางซ้ายขณะที่เด็กเสียการทรงตัว คลิปวิดีโอจบลงก่อนกระสุนมรณะทะลุศีรษะครู
                             โศกนาฏกรรมครั้งนี้ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ทันทีจากกลุ่มรณรงค์เรียกร้องให้ควบคุมอาวุธปืน โดยเฉพาะอาวุธปืนอัตโนมัติ และการจำกัดอายุของเด็กที่จะหัดยิงปืน ซึ่งเมื่อปี 2551 เคยเกิดเหตุทำนองเดียวกันนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง เด็กวัย 8 ขวบ เสียชีวิตจากปืนอูซี่ เพราะแรงสะท้อนกลับมาของปืนเช่นเดียวกัน
                              ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยอาวุธปืนคนหนึ่งกล่าวว่า สนามฝึกยิงส่วนใหญ่ มีกฎความปลอดภัยเข้มงวดเมื่อสอนเด็กหัดยิงปืน ครูจะต้องจับปืนตลอดเวลาเมื่อเด็กใช้อาวุธอานุภาพสูง ไม่ควรคาดหวังว่าเด็กอายุ 9 ขวบจะควบคุมได้
                              นอกจากนี้ทนายความของศูนย์ป้องกันเหตุรุนแรงจากอาวุธปืนในนครซานฟรานซิสโก บอกว่า ปัจจุบันในสหรัฐ มีเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี มากถึง 1 ล้าน 6 แสน 9 หมื่นคน อาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีปืนบรรจุกระสุน และปลดล็อกไว้ และคิดว่าถึงเวลาที่ควรจะเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้