จากกระทู้รีวิวปืน
http://ppantip.com/topic/34061453 ออกทะเลกลายเป็นกระทู้หลบกระสุนพ่อตาอย่างผม ไหนๆ ก็ไหนๆ เอาวิธีฝึกลูกสาวเป็นมือปืนมาเล่าสู่กันฟังซะเลยละกัน
ก่อนอื่น ขอออกตัวก่อนว่าบ้านผมนั้น คุ้นเคยกับอาวุธปืนมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะคุณพ่อชื่นชอบและสอนวิธีใช้งานให้กับลูกๆ ทุกคนตั้งแต่เริ่มโตพอจะสนใจ โดยเริ่มตั้งแต่กฎแห่งความปลอดภัยพื้นฐาน เช่น เมื่อจับปืนทุกครั้งให้พึงระลึกเสมอว่าปืนทุกกระบอกมีกระสุนบรรจุอยู่ / อย่าเล็งปืนไปที่บุคคล สิ่งมีชีวิต หรือสิ่งของมีค่า ถ้าผู้ยิงไม่ต้องการยิง / อย่าหันปากกระบอกปืนไปทางด้านข้างหรือด้านหลัง ขณะจับปืนอยู่ในแนวยิง / อย่าเอานิ้วเข้าโกร่งไกถ้าไม่ได้เช็คความปลอดภัย หรือไม่พร้อมจะยิงจริงๆ
พี่น้องบ้านผมท่องกฎเหล่านี้จนขึ้นใจ และไม่รู้สึกว่าปืนเป็นสิ่งแปลกปลอมหรือวัตถุอันตรายที่ต้องห้ามสำหรับเด็กๆ เพราะคุณพ่ออนุญาตให้เอามา Dry Fire เล่นได้ในความดูแลครับ เทียบกับเพื่อนหลายๆ คนที่พ่อแม่ห้ามสุดฤิทธิ์ แต่เด็กก็คือเด็ก ก็มักจะแอบเอามาเล่นจนได้เมื่อผู้ใหญ่เผลอ และเมื่อเด็กไม่รู้กฎแห่งความปลอดภัยก็กลายเป็นเรื่องร้ายให้เราได้เห็นในข่าวบ่อยๆ
ผมเริ่มพาลูกสาวไปสนามยิงปืนตั้งแต่อายุ 10 ขวบครับ แต่ก่อนจะไปก็จะให้ลองจับ จัดศูนย์หน้าหลัง ประทับยิง และฝึกจับถืออยู่ที่บ้านก่อน พร้อมทำตามกฎอย่างเคร่งครัดดีแล้วจึงมั่นใจจึงพาไปด้วย
สนามยิงปืนในบ้านเราเยอะมากครับ รอบนอกมีสนามบางบัวทอง เป็นสนามเอกชนมาตรฐานดีมาก ถัดเข้ามามีสนามยิงปืนสโมสรตำรวจ กับสนามยิงปืนกองทัพอากาศ และราบ 11 ซึ่งเป็นของทหาร/ตำรวจแต่เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปยิงได้ไม่ต้องสมัครสมาชิก สภาพอาจจะโทรมหน่อยแต่มีเจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิด รวมถึงมีครูฝึกสอนการยิงปืนให้มือใหม่ ส่วนสนามที่ผมพาลูกไปประจำคือ ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ตรงรามอินทรา ผมคิดว่ามาตรฐานดีสุด แต่ต้องสมัครสมาชิก แต่ผลพลอยได้คือซื้อกระสุนในราคาถูกกว่าทุกสนามข้างต้นครับ
ปืนกระบอกแรกที่ให้หัดยิงคือ Colt M4 เป็นปืนยาวกึ่งอัตโนมัติขนาด .22 ซึ่งเสียงเบาและแรงรีคอยล์น้อยมากครับ เด็กๆ ยิงได้สนุกและมีความแม่นยำพอสมควร ส่วนพ่อ ก็ยิงอยู่ใกล้ๆ ให้เขาคุ้นเคยกับเสียงปืนสั้นซึ่งจะหัดให้ยิงเมื่อมีความพร้อมในอนาคต
สังเกตนิ้วชี้ที่อยู่นอกโกร่งไกเสมอ ซึ่งอันนี้ลูกสาวฝึกจนเป็นนิสัยไปแล้วทั้งปืนสั้นและปืนยาวครับ เริ่มต้นด้วยระยะยิง 10-25 เมตร ยิงด้วยศูนย์เปิด คือศูนย์ที่ติดมากับตัวปืนนั่นแหละครับ
ระยะหัดยิงมาตรฐาน 25 เมตร กลุ่มกระสุนดีพอ ค่อยยืดระยะเป็น 50 เมตร
กลุ่มกระสุนได้ประมาณนี้ก็เริ่มสนุกแล้ว
หลังจากนั้นก็หัดใช้กล้องเล็ง (Scope) เริ่มจากรุ่นเล็กๆ ประมาณ CQB ที่มีอัตราขยายไม่เกิน 3-9 เท่ากำลังสวยเพราะเล็งง่ายครับ ระยะ 50 เมตร กลุ่มกระสุนไม่เกินเหรียญสลึง จะใช้ขาทรายหรือพาดเป้ก็เอาตามที่สบายใจ
รูปนี้ถ่ายล่าสุดตอนอายุ 13 คุณลูกสาวเลิกยิง M4 ไปแล้วเพราะยิงบ่อยๆ เข้าก็รู้เองครับ ว่าอะไรเหมาะกับตัวเขา เราก็ได้แต่ให้เขาลองปืนแปลกๆ ใหม่ๆ เพื่อได้ใช้ศักยภาพของตัวเองไดเต็มที่
สุดท้ายก็เริ่มเบื่อๆ อาชีพ “มือปืน” ไปแล้วหลังจากพบว่ามีสิ่งอื่นให้ทำมากมายที่น่าสนุกกว่า อันนี้ก็แล้วแต่ใจของเขาละครับว่าอยากจะทำอะไรเพราะคนเป็นพ่อก็อยากให้ลูกได้ลองทำหลายๆ อย่างจนกว่าจะเจอสิ่งที่เขาชอบที่สุด
ท้ายสุดตอนนี้เลิกไปหลายเดือนแล้วครับ เพราะระยะหลังหันมาทำกิจกรรมวิชาการค่อนข้างมาก และตกลงคัดเลือกเป็นตัวแทนแข่งขันวิชาการในต่างประเทศ ซึ่งเขาภูมิใจที่ได้รับเลือกจากโรงเรียนก็เลยต้องพักอาชีพการเป็น “มือปืน” ไปก่อน ส่วนจะกลับมายิงอีกหรือไม่ ก็อยู่ที่เจ้าตัวละครับ
โจทย์ที่ค้างอยู่คือปืนสั้น กำลังคิดจะให้เข้าหลักสูตร “ทำนองรบหลัก” ของ ศรภ. ซึ่งเป็นหลักสูตรที่น่าจะได้มาตรฐานครบถ้วนที่สุดในบ้านเราครับ
เมื่อผมฝึกลูกสาววัย 10 ขวบให้เป็น “มือปืน”
ก่อนอื่น ขอออกตัวก่อนว่าบ้านผมนั้น คุ้นเคยกับอาวุธปืนมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะคุณพ่อชื่นชอบและสอนวิธีใช้งานให้กับลูกๆ ทุกคนตั้งแต่เริ่มโตพอจะสนใจ โดยเริ่มตั้งแต่กฎแห่งความปลอดภัยพื้นฐาน เช่น เมื่อจับปืนทุกครั้งให้พึงระลึกเสมอว่าปืนทุกกระบอกมีกระสุนบรรจุอยู่ / อย่าเล็งปืนไปที่บุคคล สิ่งมีชีวิต หรือสิ่งของมีค่า ถ้าผู้ยิงไม่ต้องการยิง / อย่าหันปากกระบอกปืนไปทางด้านข้างหรือด้านหลัง ขณะจับปืนอยู่ในแนวยิง / อย่าเอานิ้วเข้าโกร่งไกถ้าไม่ได้เช็คความปลอดภัย หรือไม่พร้อมจะยิงจริงๆ
พี่น้องบ้านผมท่องกฎเหล่านี้จนขึ้นใจ และไม่รู้สึกว่าปืนเป็นสิ่งแปลกปลอมหรือวัตถุอันตรายที่ต้องห้ามสำหรับเด็กๆ เพราะคุณพ่ออนุญาตให้เอามา Dry Fire เล่นได้ในความดูแลครับ เทียบกับเพื่อนหลายๆ คนที่พ่อแม่ห้ามสุดฤิทธิ์ แต่เด็กก็คือเด็ก ก็มักจะแอบเอามาเล่นจนได้เมื่อผู้ใหญ่เผลอ และเมื่อเด็กไม่รู้กฎแห่งความปลอดภัยก็กลายเป็นเรื่องร้ายให้เราได้เห็นในข่าวบ่อยๆ
ผมเริ่มพาลูกสาวไปสนามยิงปืนตั้งแต่อายุ 10 ขวบครับ แต่ก่อนจะไปก็จะให้ลองจับ จัดศูนย์หน้าหลัง ประทับยิง และฝึกจับถืออยู่ที่บ้านก่อน พร้อมทำตามกฎอย่างเคร่งครัดดีแล้วจึงมั่นใจจึงพาไปด้วย
สนามยิงปืนในบ้านเราเยอะมากครับ รอบนอกมีสนามบางบัวทอง เป็นสนามเอกชนมาตรฐานดีมาก ถัดเข้ามามีสนามยิงปืนสโมสรตำรวจ กับสนามยิงปืนกองทัพอากาศ และราบ 11 ซึ่งเป็นของทหาร/ตำรวจแต่เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปยิงได้ไม่ต้องสมัครสมาชิก สภาพอาจจะโทรมหน่อยแต่มีเจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิด รวมถึงมีครูฝึกสอนการยิงปืนให้มือใหม่ ส่วนสนามที่ผมพาลูกไปประจำคือ ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ตรงรามอินทรา ผมคิดว่ามาตรฐานดีสุด แต่ต้องสมัครสมาชิก แต่ผลพลอยได้คือซื้อกระสุนในราคาถูกกว่าทุกสนามข้างต้นครับ
ปืนกระบอกแรกที่ให้หัดยิงคือ Colt M4 เป็นปืนยาวกึ่งอัตโนมัติขนาด .22 ซึ่งเสียงเบาและแรงรีคอยล์น้อยมากครับ เด็กๆ ยิงได้สนุกและมีความแม่นยำพอสมควร ส่วนพ่อ ก็ยิงอยู่ใกล้ๆ ให้เขาคุ้นเคยกับเสียงปืนสั้นซึ่งจะหัดให้ยิงเมื่อมีความพร้อมในอนาคต
สังเกตนิ้วชี้ที่อยู่นอกโกร่งไกเสมอ ซึ่งอันนี้ลูกสาวฝึกจนเป็นนิสัยไปแล้วทั้งปืนสั้นและปืนยาวครับ เริ่มต้นด้วยระยะยิง 10-25 เมตร ยิงด้วยศูนย์เปิด คือศูนย์ที่ติดมากับตัวปืนนั่นแหละครับ
ระยะหัดยิงมาตรฐาน 25 เมตร กลุ่มกระสุนดีพอ ค่อยยืดระยะเป็น 50 เมตร
กลุ่มกระสุนได้ประมาณนี้ก็เริ่มสนุกแล้ว
หลังจากนั้นก็หัดใช้กล้องเล็ง (Scope) เริ่มจากรุ่นเล็กๆ ประมาณ CQB ที่มีอัตราขยายไม่เกิน 3-9 เท่ากำลังสวยเพราะเล็งง่ายครับ ระยะ 50 เมตร กลุ่มกระสุนไม่เกินเหรียญสลึง จะใช้ขาทรายหรือพาดเป้ก็เอาตามที่สบายใจ
รูปนี้ถ่ายล่าสุดตอนอายุ 13 คุณลูกสาวเลิกยิง M4 ไปแล้วเพราะยิงบ่อยๆ เข้าก็รู้เองครับ ว่าอะไรเหมาะกับตัวเขา เราก็ได้แต่ให้เขาลองปืนแปลกๆ ใหม่ๆ เพื่อได้ใช้ศักยภาพของตัวเองไดเต็มที่
สุดท้ายก็เริ่มเบื่อๆ อาชีพ “มือปืน” ไปแล้วหลังจากพบว่ามีสิ่งอื่นให้ทำมากมายที่น่าสนุกกว่า อันนี้ก็แล้วแต่ใจของเขาละครับว่าอยากจะทำอะไรเพราะคนเป็นพ่อก็อยากให้ลูกได้ลองทำหลายๆ อย่างจนกว่าจะเจอสิ่งที่เขาชอบที่สุด
ท้ายสุดตอนนี้เลิกไปหลายเดือนแล้วครับ เพราะระยะหลังหันมาทำกิจกรรมวิชาการค่อนข้างมาก และตกลงคัดเลือกเป็นตัวแทนแข่งขันวิชาการในต่างประเทศ ซึ่งเขาภูมิใจที่ได้รับเลือกจากโรงเรียนก็เลยต้องพักอาชีพการเป็น “มือปืน” ไปก่อน ส่วนจะกลับมายิงอีกหรือไม่ ก็อยู่ที่เจ้าตัวละครับ
โจทย์ที่ค้างอยู่คือปืนสั้น กำลังคิดจะให้เข้าหลักสูตร “ทำนองรบหลัก” ของ ศรภ. ซึ่งเป็นหลักสูตรที่น่าจะได้มาตรฐานครบถ้วนที่สุดในบ้านเราครับ