จากมติชนออนไลน์
"ผู้การหลอ" พ.อ.วรวุฒิ ทองศรีงาม เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ เป็นประธานการประชุมสภากรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน เมื่อวันที่ 28 ส.ค.57
การประชุมใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง โดยประเด็นส่วนใหญ่พูดถึงเรื่องทีมชาติไทย ชุดต่างๆ ซึ่งในทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี ภายใต้การคุมทีมของ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ กุนซือใหญ่ได้มาขอคำตอบจาก ทีพีแอล, ดิวิชั่น 1 และ ดิวิชั่น 2 เรื่องการปรับโปรแกรมลีกเพื่อให้ได้นักเตะตัวหลักมาใช้งานในศึกชิงแชมป์เอเชีย ระหว่างวันที่ 9-23 ต.ค.57 ที่ประเทศพม่า เพื่อคัดเอา 4 ทีม เข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2015 รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี
"โค้ชเตี้ย" สะสม กล่าวว่า "ผมอยากให้สมาคมฟุตบอลฯ และฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกต่างๆ ช่วยปรับโปรแกรมลีกเพื่อเอื้อให้กับทีม 19 ปี เนื่องจากมีนักเตะตัวหลักถึง 10 คน ที่อยู่ในสโมสรใหญ่ๆ ของไทยพรีเมียร์ลีก และมีลุ้นแชมป์อยู่ในเวลานี้"
"ดังนั้นหากสโมสรไม่ปล่อยตัว ทางฝ่ายจัดฯ ก็ต้องปรับโปรแกรมเพื่อให้สโมสรปล่อยนักเตะออกมา ทั้งนี้หากไม่สามารถปรับโปรแกรมหรือนักเตะตัวหลักมาร่วมทีมชาติไทยไม่ได้ ก็คงต้องรับสภาพว่าอาจไปไม่ถึงเป้าหมายคือ 1 ใน 4 เพื่อไปฟุตบอลโลก"
ขณะที่ ดร.องอาจ ก่อสินค้า ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด กล่าวว่า โปรแกรมลีกไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เพราะเป็นช่วงโค้งสุดท้ายและมีผลต่อการลุ้นแชมป์ อีกทั้ง 3 นัดสุดท้ายจำเป็นต้องแข่งพร้อมกัน เพราะฉะนั้นคงไม่อาจทำตามที่ร้องขอมาได้ แต่จะพยายามพูดคุยกับสโมสรให้ปล่อยตัวนักเตะมาช่วยทีมชาติ
นอกจากนี้ ดร.องอาจ กล่าวอีกว่า ทีพีแอล มียอดค่าปรับจากสโมสรโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก และ ดิวิชั่น 1 รวม 9,965,000 บาท โดยชำระค่าปรับแล้ว 6,860,000 บาท หักกับที่มีการอุทธรณ์แล้ว 1,058,000 บาท และมีทีมที่ค้างชำระอยู่ 2,047,200 บาท ซึ่งมีการนำไปคืนสโมสรด้วยการซื้อเครื่องปั้มหัวใจประมาณ 3 ล้านกว่าบาท
ขณะเดียวกันได้รับแจ้งจาก ทรูวิชั่นส์ เจ้าของลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก และดิวิชั่น 1 ว่าฟุตบอลลีกของไทยมีเรตติ้งดีกว่าลีกต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของวงการฟุตบอลไทย
ด้าน วิชัย ล้ำสุทธิ อุปนายกฯ เผยว่า ขณะนี้มีการร่าง พ.ร.บ.กองทุนกีฬาอาชีพ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยรายละเอียดของ พ.ร.บ.กองทุนฯ คือการดูแลนักกีฬาประเภทต่างๆ ซึ่งรวมถึงฟุตบอลด้วย ที่ไม่มีสโมสรสังกัด โดยกองทุนจะเป็นผู้จ่ายเงินเดือนให้เพื่อเล่นให้ทีมชาติอย่างเดียว
ขณะที่ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งเดินทางมาถึงหลังการประชุม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 43 ซึ่งเดิมทีต้องจัดภายในปี 2557 ทว่าโปรแกรมฟุตบอลลีกที่แน่นขนัดทำให้ไม่สามารถจัดการแข่งขันในปีนี้ได้
"ปีนี้ทีมจากชาติต่างๆ ไม่สามารถมาแข่งด้วยได้เพราะไม่ใช่ช่วง ฟีฟ่าเดย์ อย่างไรก็ตามเราจะยกไปจัดในเดือน ม.ค. ที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งว่าจะมีทีมใดบ้าง ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือสโมสรต่างๆ ปล่อยตัวนักเตะมารับใช้ทีมชาติไทย เนื่องจากช่วงดังกล่าวจะเป็นการฝึกซ้อมช่วงปรีซีซั่นก่อนฤดูกาลใหม่จะเปิด" นายวรวีร์ กล่าว
′บังยี′ ยันปีนี้ไม่จัด ′คิงส์คัพ′, โค้ชเตี้ย′ เดือดสับสโมสรหวงเด็ก
"ผู้การหลอ" พ.อ.วรวุฒิ ทองศรีงาม เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ เป็นประธานการประชุมสภากรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน เมื่อวันที่ 28 ส.ค.57
การประชุมใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง โดยประเด็นส่วนใหญ่พูดถึงเรื่องทีมชาติไทย ชุดต่างๆ ซึ่งในทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี ภายใต้การคุมทีมของ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ กุนซือใหญ่ได้มาขอคำตอบจาก ทีพีแอล, ดิวิชั่น 1 และ ดิวิชั่น 2 เรื่องการปรับโปรแกรมลีกเพื่อให้ได้นักเตะตัวหลักมาใช้งานในศึกชิงแชมป์เอเชีย ระหว่างวันที่ 9-23 ต.ค.57 ที่ประเทศพม่า เพื่อคัดเอา 4 ทีม เข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2015 รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี
"โค้ชเตี้ย" สะสม กล่าวว่า "ผมอยากให้สมาคมฟุตบอลฯ และฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกต่างๆ ช่วยปรับโปรแกรมลีกเพื่อเอื้อให้กับทีม 19 ปี เนื่องจากมีนักเตะตัวหลักถึง 10 คน ที่อยู่ในสโมสรใหญ่ๆ ของไทยพรีเมียร์ลีก และมีลุ้นแชมป์อยู่ในเวลานี้"
"ดังนั้นหากสโมสรไม่ปล่อยตัว ทางฝ่ายจัดฯ ก็ต้องปรับโปรแกรมเพื่อให้สโมสรปล่อยนักเตะออกมา ทั้งนี้หากไม่สามารถปรับโปรแกรมหรือนักเตะตัวหลักมาร่วมทีมชาติไทยไม่ได้ ก็คงต้องรับสภาพว่าอาจไปไม่ถึงเป้าหมายคือ 1 ใน 4 เพื่อไปฟุตบอลโลก"
ขณะที่ ดร.องอาจ ก่อสินค้า ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด กล่าวว่า โปรแกรมลีกไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เพราะเป็นช่วงโค้งสุดท้ายและมีผลต่อการลุ้นแชมป์ อีกทั้ง 3 นัดสุดท้ายจำเป็นต้องแข่งพร้อมกัน เพราะฉะนั้นคงไม่อาจทำตามที่ร้องขอมาได้ แต่จะพยายามพูดคุยกับสโมสรให้ปล่อยตัวนักเตะมาช่วยทีมชาติ
นอกจากนี้ ดร.องอาจ กล่าวอีกว่า ทีพีแอล มียอดค่าปรับจากสโมสรโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก และ ดิวิชั่น 1 รวม 9,965,000 บาท โดยชำระค่าปรับแล้ว 6,860,000 บาท หักกับที่มีการอุทธรณ์แล้ว 1,058,000 บาท และมีทีมที่ค้างชำระอยู่ 2,047,200 บาท ซึ่งมีการนำไปคืนสโมสรด้วยการซื้อเครื่องปั้มหัวใจประมาณ 3 ล้านกว่าบาท
ขณะเดียวกันได้รับแจ้งจาก ทรูวิชั่นส์ เจ้าของลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก และดิวิชั่น 1 ว่าฟุตบอลลีกของไทยมีเรตติ้งดีกว่าลีกต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของวงการฟุตบอลไทย
ด้าน วิชัย ล้ำสุทธิ อุปนายกฯ เผยว่า ขณะนี้มีการร่าง พ.ร.บ.กองทุนกีฬาอาชีพ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยรายละเอียดของ พ.ร.บ.กองทุนฯ คือการดูแลนักกีฬาประเภทต่างๆ ซึ่งรวมถึงฟุตบอลด้วย ที่ไม่มีสโมสรสังกัด โดยกองทุนจะเป็นผู้จ่ายเงินเดือนให้เพื่อเล่นให้ทีมชาติอย่างเดียว
ขณะที่ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งเดินทางมาถึงหลังการประชุม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 43 ซึ่งเดิมทีต้องจัดภายในปี 2557 ทว่าโปรแกรมฟุตบอลลีกที่แน่นขนัดทำให้ไม่สามารถจัดการแข่งขันในปีนี้ได้
"ปีนี้ทีมจากชาติต่างๆ ไม่สามารถมาแข่งด้วยได้เพราะไม่ใช่ช่วง ฟีฟ่าเดย์ อย่างไรก็ตามเราจะยกไปจัดในเดือน ม.ค. ที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งว่าจะมีทีมใดบ้าง ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือสโมสรต่างๆ ปล่อยตัวนักเตะมารับใช้ทีมชาติไทย เนื่องจากช่วงดังกล่าวจะเป็นการฝึกซ้อมช่วงปรีซีซั่นก่อนฤดูกาลใหม่จะเปิด" นายวรวีร์ กล่าว