ตุ๊กแกรักแป้งมาก (สปอล์ย) ...ภาพความทรงจำที่ถูกย้อมสีใหม่

มีคนเคยบอกกับฉัน เมื่อครั้งเริ่มหัดเขียนนิยายใหม่ๆ ว่า ควรเริ่มจากเรื่องใกล้ตัวของเราก่อน เพราะจะทำให้เราสามารถถ่ายทอดเรื่องราวที่เขียนออกมาได้สมจริงและคนอ่านเข้าใจได้ง่าย

ฉันแย้งในใจว่า... ฉันทำไม่ได้ !

เพราะว่าประสบการณ์ในการเขียนของฉันไม่มีมากพอที่จะแยกแยะเรื่องจริงให้กลายเป็นเรื่องแต่ง
ดีไม่ดี จะทำให้คนใกล้ชิด เข้าผิดว่าเราเอาเรื่องของเขามาขาย มาแต่งเติมเสริมเรื่อง เป็นคนดีก็ดีไป เป็นคนร้ายก็จะเข้าหน้ากันไม่ติด
แต่เมื่อดู หนังเรื่องนี้จบแล้ว ทำให้ฉันเข้าใจในสิ่งที่เกริ่นมาในข้างต้น และเข้าใจในอดีตของตัวเองได้มากขึ้น อีกเยอะเลยยย

เข้าเรื่องหนังละนะ  ตุ๊กแกรักแป้งมาก เป็นหนังรักที่อุดมไปด้วยเรื่องราวและประสบการณ์ส่วนตัวของผู้กำกับ (ยุทธเลิศ สิปปภาค)
ที่นำมาปัดฝุ่น ตกแต่ง ร้อยเรียง เพิ่มเติม จนกลายเป็นหนังที่มีชั้นเชิงในการนำเสนอ อย่างแยบยล ผ่านการเขียนบทภาพยนตร์ด้วยตัวของเขาเอง อาจจะมีจิกมีกัด มีแซวใครต่อใครกันบ้าง แต่มันก็เป็นเรื่องที่เป็นเรื่องที่รู้ๆกันอยู่ ถ้าไม่รู้ ก็ไม่ได้ทำให้เอะใจ หรือสงสัยอะไรเป็นพิเศษ นับว่าเป็นการประทับลายเซ็นของเขาไว้ในหนังได้อย่างแนบเนียนจริงๆ
หากใครเคยติดตามเรื่องราวของเขามาบ้าง ถ้าไปดูหนังเรื่องนี้ก็จะยิ่งเข้าใจ ในที่มาและที่ไปของเขา กว่าจะได้มาเป็นผู้กำกับระดับนี้ได้

สำหรับฉันที่พยามยามจะติดตามผลงานของเขามาตั้งแต่แรก จนถึงปัจจุบัน

ชอบเรื่องนี้มากที่สุด

โดยไม่ขอเปรียบเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆทั้งของผู้กำกับคนนี้ หรือของผู้กำกับคนอื่นๆในแนวนี้

        ขอแสดงความนับถือ ในความกล้าที่จะหยิบเรื่องราวที่แสนเจ็บปวดในอดีต มาเล่าใหม่ในมุมมองที่แตกต่าง แต่ก็ยังคงไว้ด้วยความรู้สึกของช่วงเวลานั้นโดยที่ไม่ได้ทำให้คนดูรู้สึกว่าถูกยัดเยียด จังหวะในการถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครต่างๆในหนังเรื่องนี้ ทำให้คนดูรับรู้ได้โดยที่ไม่ต้องพยามยามวางองค์ประกอบอะไรเข้ามาช่วย ฉันมีความรู้สึกเหมือนได้ดูหนังไทยแบบเมื่อก่อน ที่ไม่ต้องมีอะไรเป๊ะๆ เป็นแบบสูตรสำเร็จตายตัว เหมือนที่หนังสมัยนี้ชอบทำกัน จนบางครั้งเราก็รู้สึกว่าเริ่มจะเอียนๆแล้วเหมือนกัน

ขอแสดงความนับถือ ในความกล้าที่จะล้อเลียนบุคคลต่างๆผ่านตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้ ฉันคิดว่าถ้าเกิดเจ้าตัวเขาได้มาดูหนังเรื่องนี้คงไม่โกรธหรอก เพราะผู้กำกับคนนี้ทำให้เราเห็น คนจริงๆ ที่ไม่ได้ขาวจนสุดโต่ง ดำจนสุดขั้วอยู่ในหนังเรื่องนี้เลย เขาให้เราตัดสินใจเองได้ว่าจะ ขำกับคนบุคลิกแบบนี้มั้ย จะซึ้งกับมิตรภาพในวัยเยาว์จากแก๊งค์เด็กในหนังเรื่องนี้มั้ย หรือจะเอาใจช่วยให้แป้งรักตุ๊กแกได้สำเร็จมั้ย

ทั้งหมด ทั้งมวล เป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคลล้วนๆ

ตามสไตล์ศิลปินที่อยากสร้างงานศิลปะ โดยไม่คำนึงว่ามันจะต้องประสบความสำเร็จอย่างเดียว มันอาจจะต้องมีความล้มเหลว พ่ายแพ้ ผิดหวัง ตามติดมาบ้าง

แต่เชื่อเถอะ งานแบบนี้ล่ะที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจคนดูไปแสนนาน

       โดยรวม ที่ทำให้ฉันชอบหนังเรื่องนี้ที่สุดคงเป็นเรื่องของตัวแสดง ถ้ามีการให้รางวัลนักแสดงทีม เรื่องนี้น่าจะได้รับอย่างไม่น่ากังขา
นักแสดงสมทบที่ปรากฏตัวอยู่ในหนังเรื่องนี้ ต่างทำหน้าที่ของตัวเองได้เหมาะเจาะและลงตัวเสียเหลือเกิน
ตั้งแต่ น้อย โพธิ์งาม, ก้องเกียรติ โขมศิริ ,ปื๊ด ธนิตย์, อังเคิล อดิเรก (ใช่! ๒ คนนี้เคยทำหนังร่วมกันมาก่อน) และอีกหลายต่อหลายคน
โดยเฉพาะเพื่อนนางเอก กับอาเฮียนายทุนเจ้าของโรงงานปลากระป๋อง ถือว่าเป็นสีสันสำคัญของเรื่องนี้เลยทีเดียว  

ในตอนแรกสงสัยว่าทำไมจึง ได้ให้ เก้า จิรายุ กับ เพลง ชนม์ทิดา มารับบทที่มีความสำคัญกับหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
ขนาดดูไปเกือบครึ่งเรื่องแล้วก็ยังเห็นเงาของนักแสดงคนอื่นๆที่น่าจะเหมาะสมกับหนังนี้มากกว่าปรากฏอยู่ในหัวอยู่รางๆ
แต่เมื่อดูหนังเรื่องนี้จบลงก็ได้คำตอบกับตัวเองแล้วว่าทำไม ๒ คนนี้จึงได้รับบทบาทที่สำคัญนี้ไป

สำหรับฉันคิดว่า   ยุทธเลิศ อาจหาคนที่มีชื่อเสียงมากมายแค่ไหนมารับบทนี้ในหนังของเขาได้อยู่แล้ว
แต่นั่นอาจไม่ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่สมบูรณ์แบบได้ในความคิด ความตั้งใจของเขา
ซึ่งฉันก็เห็นด้วยเ พราะมันทำให้ฉันอยากดูหนังเรื่องนี้อีก เพราะมันคือหนังที่ฉันอยากดู ดูได้เรื่อยๆ
ไม่ใช่ว่าอยากดูเพราะได้ดาราดังมาประดับสีสัน ซึ่งตัวหนังมีสีสันมากพออยู่แล้ว

สรุป ตุ๊กแกบอกว่า หนังที่เขาจะทำ คือการใช้ภาพความทรงจำในอดีต มาปะติดปะต่อ ร้อยเรียงให้เป็นเรื่องราว ใส่เพลงที่เขาชอบลงไปอย่างง่ายๆ
เพื่อบอกถึงความรู้สึกที่เขามีต่อคุณแป้งว่ามันลึกซึ้งมากมายแค่ไหน?

ภาพบางภาพ เหตุการณ์บางเรื่อง ความรู้สึกบางอย่าง ในหนังเรื่องนี้ มันเป็นเพียงเชื้อเพลิงที่จะกระตุ้น ให้เรากลับไปมองย้อนเข้าไปในความทรงจำ ที่มีทั้ง สุข ทุกข์ สนุก เศร้า

...แล้วเรากล้าที่จะกลับไปรื้อ ไปขุดมันมาจากหลุม ที่ฝังกลบมันไว้ในส่วนลึกของจิตใจเราบ้างไหม?

เพราะบางทีเวลาและประสบการณ์ในชีวิต อาจจะทำให้เราได้เห็นมุมมอง สีสัน รายละเอียด ที่เราเคยละเลยหรือพลาดไป
แล้วนำมันกลับมาเริ่มต้นใหม่ กับโอกาส หรือสิ่งดีๆที่จะเข้ามาในอนาคต
อย่างในตอนจบของหนังเรื่องนี้ ที่ไม่ว่าจะยังไง ความรักก็นำทางเราไปพบแต่สิ่งที่ดีๆเสมอ จริงไหม?

ขอให้สนุกกับการรับชมภาพยนตร์ แล้วพบกันเมื่อมีโอกาส

สวัสดี

ปล.อยากให้ไปดูกัน อาจจะเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย หากมีโอกาส โปรดมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันบ้างยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่