ตุ๊กแกรักแป้งมาก (ยุทธเลิศ สิปปภาค,๒๕๕๗) คะแนน B+
By Form Corleone
“ความรักส่งผ่านถึงคนรุ่นหลัง ผ่านยุคสมัยที่อะไรรวดเร็วเหลือเกิน” สำหรับคนเสพติดโลก “social” การได้ประสบพบเจอกับใครสักคนในสมัยนี้คงเป็นสิ่งที่ง่ายเหลือเกิน แต่สำหรับสมัยก่อนรุ่นพ่อแม่พวกเรา คนไม่ได้ติดต่อกันง่ายขนาดนั้น มีคำจำกัดความของ ‘เวลา’ มากมายที่เป็นเครื่องพิสูจน์ระยะทางและความสัมพันธ์ สำหรับ ‘ตุ๊กแกรักแป้งมาก’ จัดเป็นหนังย้อนยุคที่จัดแสดงในยุคที่เรียกว่า ‘ความรวดเร็ว’ ของความสัมพันธ์ ความจงใจในความผิดพลาดเริ่มต้นด้วย “ชื่อเรื่อง” ที่ทำให้คนทั่วไปหรือคนเดินผ่านหน้าโรงหนังเลือกตัดสินใจละเลยหนังเรื่องนี้ไปแบบง่ายดายเพราะมันอาจกลายเป็นหนังไร้สาระจากชื่อเรื่อง แต่สำหรับคนที่ไม่เสียโอกาสจนได้ลองสัมผัสหนังย้อนยุคเรื่องนี้ คงจะคิดถึงช่วงเวลาในอดีตที่เคยผ่านมา ต้องยอมรับว่า “ตุ๊กแกรักแป้งมาก” คือหนังที่ข้ามผ่านเวลาในอดีตมาเล่าเรื่องราวให้คน “ปัจจุบัน” ได้ตระหนักถึง “ความสัมพันธ์” และ “การกระทำ” ของตัวเองผ่านตัวหนังที่จะเรียกว่าอบอุ่นก็ไม่เชิง จัดว่าโรแมนติกก็ไม่เท่าไหร่ แล้วเศร้ามากแค่ไหนคงตอบยาก แต่ดูจบแล้วรู้สึกยังไง ตอบง่ายๆ “รู้สึกดีมากครับ” ลองหาเวลาไปดูกันครับ
แม้ว่าตัวหนังจะมีข้อบกพร่องมากมายเหลือเกิน แต่สิ่งต่างๆก็มองข้ามไปได้ง่ายมากเมื่อคุณรู้สึกกับการเล่าเรื่องหรือการขับเคลื่อนของตัวหนังเอง สิ่งที่ชอบมากคงเป็น “บรรยากาศ” ของตัวหนังบวก “โทนสี” ที่ให้ความรู้สึก “อบอุ่น” ผสม “ความเศร้า” บทสนทนาที่ ‘น่ารัก’ จนทำให้เราเขิน!!! ผมชอบที่ตัวหนังไม่ได้เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ ระหว่าง “ตุ๊กแก กับ แป้ง” เพียงอย่างเดียว ถ้าใครได้ดูคงรู้สึกได้ว่า มันคือหนังของ “ต้อม ยุทธเลิศ” ล้วนๆ เพราะแนวความคิดหรือวิธีคิดมันคือหนังที่สะท้อน แนวทางของผู้กำกับคนนี้ได้ดีที่สุดกว่าทุกเรื่องที่ผ่านมา มีทั้งแรงบันดาลใจของตัวผู้กำกับเองจากหนังในอดีต แต่จนแล้วจนรอด “ตุ๊กแกรักแป้งมาก” ก็เป็นหนังที่ยืนด้วยตัวเอง ‘น่าชื่นชม’ และ ‘ประทับใจ’ ที่สุดในรอบปีนี้ของผมครับ สำหรับการแสดงทั้งรุ่นเด็กและรุ่นโต ถือว่าทำได้ดีในระดับที่ชวนให้ “อมยิ้ม” ตลอดทั้งเรื่อง
เพราะความสัมพันธ์มันเดินช้าๆ ความรู้สึกเลยน่า “จดจำ” ความอบอุ่นของความสัมพันธ์ล้วนเป็น “ความทรงจำ” ของคนสองคน การรอคอยของคนๆหนึ่ง คือ การจากลาของใครบางคน “ตุ๊กแกรักแป้งมาก” คือสูตรสำเร็จของหนังย้อนยุคในโลกปัจจุบันที่การสื่อสารส่งถึงกันเพียงแค่ปลายนิ้วมือ แม้บทสรุปของตัวหนังเองจะเดาได้ไม่ยาก เรื่องราวจะคาดเดาหรือจงใจแบบยังไงก็รู้ สุดแล้วแต่ ทุกสิ่งอย่างมันก็มองผ่านไปได้แบบสนิทใจเพราะภาพรวมของหนังทำให้รู้สึก “อบอุ่นหัวใจ” พร้อมกับเพลงประกอบที “น่ารัก” ไม่เพียงแค่ความอบอุ่นน่ารักแค่นั้น ตัวหนังเองยังสื่อผ่านคนดูรวมไปถึงแนวทางของคนทำหนังไทยหรือนายทุนคนสร้างหนัง ให้คนดูได้เข้าใจและเก็บไปคิดกันแบบตรงๆ ในแง่นี้ถือเป็นการ “เสียดสี” ที่ดูจริงจนน่าปรบมือให้ เพราะผมเป็นหนึ่งคนที่เบื่อหนังไทยมากๆ แต่สำหรับ “ตุ๊กแกรักแป้งมาก” มันทำให้ผมอยากลองหันกลับมามองหนังไทยแบบจริงๆ สักครั้งก่อนทีเราอาจจะพลาดอะไรไป!!
สุดท้าย “ตุ๊กแกรักแป้งมาก” คงเป็นหนังซ้อนหนัง!! และเป็นหนังไทยไม่กี่เรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ ในแง่ของความรู้สึก การได้นั่งดูเรื่องราวของคนสองคนมันก็แสนจะพิเศษที่สุดแล้ว แต่สำหรับ “ตุ๊กแกรักแป้งมาก” มันพิเศษยิ่งกว่านั้น เพราะเราไม่ได้เป็นแค่คนดูแต่เราคือคนที่กำลังอ่านบทภาพยนตร์ที่ “ตุ๊กแก เขียนให้ แป้ง” และไม่ใช่แค่เขียนให้อย่างเดียว เพราะ “รักมาก” จึงเขียนให้ >< ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
ขอบคุณที่สละเวลาอันมีค่าอ่านความรู้สึกผมครับ
อ่านเรื่องอื่น
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
Review: ตุ๊กแกรักแป้งมาก (ยุทธเลิศ สิปปภาค,๒๕๕๗)
By Form Corleone
“ความรักส่งผ่านถึงคนรุ่นหลัง ผ่านยุคสมัยที่อะไรรวดเร็วเหลือเกิน” สำหรับคนเสพติดโลก “social” การได้ประสบพบเจอกับใครสักคนในสมัยนี้คงเป็นสิ่งที่ง่ายเหลือเกิน แต่สำหรับสมัยก่อนรุ่นพ่อแม่พวกเรา คนไม่ได้ติดต่อกันง่ายขนาดนั้น มีคำจำกัดความของ ‘เวลา’ มากมายที่เป็นเครื่องพิสูจน์ระยะทางและความสัมพันธ์ สำหรับ ‘ตุ๊กแกรักแป้งมาก’ จัดเป็นหนังย้อนยุคที่จัดแสดงในยุคที่เรียกว่า ‘ความรวดเร็ว’ ของความสัมพันธ์ ความจงใจในความผิดพลาดเริ่มต้นด้วย “ชื่อเรื่อง” ที่ทำให้คนทั่วไปหรือคนเดินผ่านหน้าโรงหนังเลือกตัดสินใจละเลยหนังเรื่องนี้ไปแบบง่ายดายเพราะมันอาจกลายเป็นหนังไร้สาระจากชื่อเรื่อง แต่สำหรับคนที่ไม่เสียโอกาสจนได้ลองสัมผัสหนังย้อนยุคเรื่องนี้ คงจะคิดถึงช่วงเวลาในอดีตที่เคยผ่านมา ต้องยอมรับว่า “ตุ๊กแกรักแป้งมาก” คือหนังที่ข้ามผ่านเวลาในอดีตมาเล่าเรื่องราวให้คน “ปัจจุบัน” ได้ตระหนักถึง “ความสัมพันธ์” และ “การกระทำ” ของตัวเองผ่านตัวหนังที่จะเรียกว่าอบอุ่นก็ไม่เชิง จัดว่าโรแมนติกก็ไม่เท่าไหร่ แล้วเศร้ามากแค่ไหนคงตอบยาก แต่ดูจบแล้วรู้สึกยังไง ตอบง่ายๆ “รู้สึกดีมากครับ” ลองหาเวลาไปดูกันครับ
แม้ว่าตัวหนังจะมีข้อบกพร่องมากมายเหลือเกิน แต่สิ่งต่างๆก็มองข้ามไปได้ง่ายมากเมื่อคุณรู้สึกกับการเล่าเรื่องหรือการขับเคลื่อนของตัวหนังเอง สิ่งที่ชอบมากคงเป็น “บรรยากาศ” ของตัวหนังบวก “โทนสี” ที่ให้ความรู้สึก “อบอุ่น” ผสม “ความเศร้า” บทสนทนาที่ ‘น่ารัก’ จนทำให้เราเขิน!!! ผมชอบที่ตัวหนังไม่ได้เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ ระหว่าง “ตุ๊กแก กับ แป้ง” เพียงอย่างเดียว ถ้าใครได้ดูคงรู้สึกได้ว่า มันคือหนังของ “ต้อม ยุทธเลิศ” ล้วนๆ เพราะแนวความคิดหรือวิธีคิดมันคือหนังที่สะท้อน แนวทางของผู้กำกับคนนี้ได้ดีที่สุดกว่าทุกเรื่องที่ผ่านมา มีทั้งแรงบันดาลใจของตัวผู้กำกับเองจากหนังในอดีต แต่จนแล้วจนรอด “ตุ๊กแกรักแป้งมาก” ก็เป็นหนังที่ยืนด้วยตัวเอง ‘น่าชื่นชม’ และ ‘ประทับใจ’ ที่สุดในรอบปีนี้ของผมครับ สำหรับการแสดงทั้งรุ่นเด็กและรุ่นโต ถือว่าทำได้ดีในระดับที่ชวนให้ “อมยิ้ม” ตลอดทั้งเรื่อง
เพราะความสัมพันธ์มันเดินช้าๆ ความรู้สึกเลยน่า “จดจำ” ความอบอุ่นของความสัมพันธ์ล้วนเป็น “ความทรงจำ” ของคนสองคน การรอคอยของคนๆหนึ่ง คือ การจากลาของใครบางคน “ตุ๊กแกรักแป้งมาก” คือสูตรสำเร็จของหนังย้อนยุคในโลกปัจจุบันที่การสื่อสารส่งถึงกันเพียงแค่ปลายนิ้วมือ แม้บทสรุปของตัวหนังเองจะเดาได้ไม่ยาก เรื่องราวจะคาดเดาหรือจงใจแบบยังไงก็รู้ สุดแล้วแต่ ทุกสิ่งอย่างมันก็มองผ่านไปได้แบบสนิทใจเพราะภาพรวมของหนังทำให้รู้สึก “อบอุ่นหัวใจ” พร้อมกับเพลงประกอบที “น่ารัก” ไม่เพียงแค่ความอบอุ่นน่ารักแค่นั้น ตัวหนังเองยังสื่อผ่านคนดูรวมไปถึงแนวทางของคนทำหนังไทยหรือนายทุนคนสร้างหนัง ให้คนดูได้เข้าใจและเก็บไปคิดกันแบบตรงๆ ในแง่นี้ถือเป็นการ “เสียดสี” ที่ดูจริงจนน่าปรบมือให้ เพราะผมเป็นหนึ่งคนที่เบื่อหนังไทยมากๆ แต่สำหรับ “ตุ๊กแกรักแป้งมาก” มันทำให้ผมอยากลองหันกลับมามองหนังไทยแบบจริงๆ สักครั้งก่อนทีเราอาจจะพลาดอะไรไป!!
สุดท้าย “ตุ๊กแกรักแป้งมาก” คงเป็นหนังซ้อนหนัง!! และเป็นหนังไทยไม่กี่เรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ ในแง่ของความรู้สึก การได้นั่งดูเรื่องราวของคนสองคนมันก็แสนจะพิเศษที่สุดแล้ว แต่สำหรับ “ตุ๊กแกรักแป้งมาก” มันพิเศษยิ่งกว่านั้น เพราะเราไม่ได้เป็นแค่คนดูแต่เราคือคนที่กำลังอ่านบทภาพยนตร์ที่ “ตุ๊กแก เขียนให้ แป้ง” และไม่ใช่แค่เขียนให้อย่างเดียว เพราะ “รักมาก” จึงเขียนให้ >< ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
ขอบคุณที่สละเวลาอันมีค่าอ่านความรู้สึกผมครับ
อ่านเรื่องอื่น http://moviesdelightclub.blogspot.com/