"ตุ๊กแกรักแป้งมาก" ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่เหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา เมโลดราม่าดาดๆ (ท่าทางไม่น่ารอด)



ขอเท้าความตัวเองก่อนที่จะเข้าไปชม ตุ๊กแกรักแป้งมาก ก่อนนะครับ
เมื่อประมาณน่าจะร่วมสิบปีได้ ผมได้ยินชื่อ ยุทธเลิศ จากหนังเรื่อง กุมภาพันธ์ ตอนที่เป็นหนังตัวอย่างในโรงภาพยนตร์ โดยมีการเขียนลงไปในหนังตัวอย่างว่า ภาพยนตร์โดย ยุทธเลิศ ตอนนั้นผมก็ถามตัวเองนะครับว่า อีนี่ใครฟะ มั่นหน้าจัง เขียนชื่อตัวเองในหนังตัวอย่างด้วย ตูไม่รู้จัก และผมก็ไปดูกุมภาพันธ์ และผมก็ไม่ชอบเท่าไหร่ คือมองเป็นหนังเพลนๆ ไม่รู้สึกประทับใจ จากนั้นผมก็ตามหนังของยุทธเลิศอีกหลายเรื่อง แทบจะว่าเกือบทุกเรื่องก็ได้ เพราะผมชอบหนังไทย ที่ชอบมากๆหน่อยก็ตระกูล บุปผาราตรี ส่วนมือปืนสารพัดโลก หมาแก่อันตราย อะไรพวกนั้น ผมดูแล้วไม่ค่อยชอบเลย แต่ก็รู้สึกนะว่า ยุทธเลิศ ทำไมได้โอกาสทำหนังบ่อยจัง ฝีมือก็เฉยๆ หนังหลานเรื่องอยู่ในระดับดีปานกลางลงมาถึงแย่

จนมาได้ยินหนังชื่อเรื่อง ตุ๊กแกรักแป้งมาก เชื่อไหม ผมไม่เคยคิดอยากดูเลย

แต่ผมเห็นตัวอย่างในโรงตอนผมไปดูหนังเรื่องอื่นแล้วผมรู้สึกอยากดูมาก สาเหตุใหญ่ๆที่ผมคาดหวังคือ

1. ผมคิดว่าหนังได้แรงบันดาลใจมากจากแฟนฉัน ผมโอเคนะ เพราะผมชอบบรรยากาศอะไรแบบนี้
2.น้องแม็กน่ารัก ผมชอบเด็กคนนี้

รวมๆก็คาดหวังนะครับว่าหนังคงฟีลกู้ดมาก และสิ่งที่ตอกย้ำผมหนักมากคือคำวิจารณ์ของคนที่ไปชมรอบสื่อมาคือ 90%  ชมว่าดีมาก  ตัวผมเองน่ะ ผมบอกเลย ผมมีใจเป็นธรรมอยู่แล้ว เวลาจะไปดูหนังสักเรื่อง ยิ่งหนังไทย ถ้าดีจริง ผมอวยไส้แตก แต่สำหรับ ตุ๊กแกรักแป้งมาก ความรู้สึกของผมคือ อยากอวยนะ เพราะส่วนที่น่าอวยมันก็มี แต่พอเอามารวมๆกับส่วนที่แย่ ผมจะอวยก็อวยไม่เต็มปาก จะด่าก็ด่าได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่

ผมจะพูดในส่วนที่ดีก่อนนะครับ

ส่วนที่ผมขอชมเลยก็คือ ทุกส่วนที่น้องแม็กออกมานั่นคือส่วนของ ตุ๊กแก กับ แป้ง ในวัยเด็ก ซึ่งเป็นส่วนที่ฟีลกู้ดมากจริงๆ ในส่วนนี้เป็นส่วนที่เดินรอยตามหนัง แฟนฉัน ประมาณ 80% น่าจะเรียกว่าทำออกมาเพื่อคารวะ แฟนฉัน หนังไทย คลาสสิคไปเลยก็ว่าได้ บทสนทนาของตุ๊กแกกับยายเรียกน้ำตาได้ แลดูดราม่ามาก แต่ที่มาที่ไปของตุ๊กแกมันแลดูดราม่าและดูเป็นหนังมากเกินกว่าที่จะเป็นหนังซ้อนหนังกึ่งหนังส่วนตัวที่จะสื่อเหมือนเป็นประวัติผู้กำกับ ส่วนที่ทำให้หนังในส่วนนี้แย่ไปคือนักแสดงประกอบบางคนที่ดูเป็นส่วนเกินและขำแบบตลกสังขารคือ ครูของตุ๊กแกกับแป้ง ที่เอา แพนเค้กตลกอ้วนตาเหร่มาแสดง ซึ่งจริงๆมันไม่ใช่ส่วนที่จำเป็นของหนังเลย ในส่วนนี้แทนที่จะทำให้ตัวหนังดูคลาสสิค กลับทำให้หนังดูกลายเป็นหนังธรรมดาไป แต่ชั้นเชิงการเล่าเรื่องในส่วนนี้ ตลอดจนบทสนทนาผมก็ยอมรับได้นะครับว่ายุทธเลิศทำได้ดี น้องแม็คคือส่วนที่ดีที่สุดของพาร์ทนี้ น้องแม็คเอาอยู่ น่ารัก น่าเอ็นดู น่าสงสาร ส่วนน้องแป้งวัยเด็ก เด็กคนนี้น่ารักมากและสวยจริงๆ แต่น้องแป้งนั้น ถอดบุคลิก น้อยหน่าแฟนฉันออกมาราวกับโขลกออกมาเลย มันเลยทำให้ไม่รู้สึกประทับใจเท่าไหร่นัก แต่น้องคนนี้แสดงได้ดี และน้อย โพธิ์งาม ในบทยายของตุ๊กแก ก็เอาอยู่ สตั๊นท์คนดูทุกครั้งที่ปรากฏตัว แสดงดีครับ

ส่วนที่ผมไม่โอเค
พาร์ทที่ตุ๊กแกโต เป็นพาร์ทที่โผล่มาแล้ว ผมบอกกับตัวเองว่า ไม่อยากให้ตุ๊กแกโตเลย ไม่ใช่น้องเก้าไม่น่ารักนะ แต่เพราะผมชอบบรรยากาศในพาร์ทวัยเด็กมากกว่าครับ แต่น้องเก้าในพาร์ทของตุ๊กแกตอนโตก็ทำได้ดีมากครับ น่าจะเป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่น้องเก้าฝากฝีมือเอาไว้ดีมากๆเลยก็ว่าได้ น้องเก้าก็เอาบทตุ๊กแกอยู่ครับ น่าจะเป็นงานมาสเตอรืพีชเรื่องนึงของน้องเก้าเลยก้ว่าได้ แต่บรรยากาศยุคดิสโก้ ยุคเดอะพาเลซอะไรนั่น ผมมองว่ามันไม่อินเท่าไหร่ครับ และคนที่ทำให้หนังดูไม่โอเคมากๆก็คือ น้องเพลง ชนม์ธิดา ครับ น้องเพลง เป็นแป้ง ที่ไม่สวย ไม่น่าแย่ง ไม่น่าทนุถนอมเลย เอาเป็นว่าเพื่อนน้องแป้งในเรื่องที่เป็นแฟนผู้ช่วยผู้กำกับที่ชวนน้องแป้งมาถ่ายแบบยังสวยและน่ารักกว่าเลย

ผมไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ที่อะไร เพราะน้องเพลงในเรื่องแสดงดีครับ แต่ผมว่าผู้กำกับดีไซน์ตัวละครออกมาไม่น่าหลงไหลเลยแม้แต่นิดเดียว จริตหลายๆอย่างในยุคนี้แลดูฉาบฉวย และหนังใส่ความเป็นเมโลดราม่าที่ดูพื้นๆแบบยัดเยียด จนแทบจะเรียกว่าทำลายความดีงามในช่วงวัยเด็กออกมาจนพินาศพัง ฉากที่ให้อภัยไม่ได้เลยคือฉากงานแถลงข่าวเลือดสุพรรณ ผมมั่นใจมากว่า ดราม่างานแถลงข่าวแบบนั้น คงไม่ใช่จริตของงานแถลงข่าวในยุคนั้นแน่นอน ที่จะมาแหกกันกลางงานขนาดนั้น มันแลดูจงใจเพื่อหาทางออกให้หนังมากเกินไปเพื่อนำไปสู่บทสรุปตอนจบที่ดูโลกสวยเหมือนหนังไทยละครไทยพื้นๆ  เหมือนคนเขียนบทมีธงเอาไว้แล้วว่ามันจะต้องทำแบบนี้ให้ได้ ในส่วนนี้ผมว่าไม่มีชั้นเชิงครับ และมุขตลกที่สอดแทรกเข้าในยุคนี้ ผมยอมรับนะครับว่าบางมุขก็ตลกมาก บางมุขก็ฝืดมาก แต่ที่สำคัญ มันทำให้หนังดูไม่แพงครับ ทำให้หนังดูไม่คลาสสิคครับ

อีกจุดที่ผมรู้สึกขัดตาคือ น้องเก้าหล่อไปครับ หล่อเกินกว่าจะมารับบทผู้กำกับหนัง ผมมั่นใจมากว่า หล่อขนาดนั้น เข้ามาในวงการขนาดนี้ และยิ่งในยุคที่คนทำหนังต้องเซฟทุน ยังไงน้องเก้าก็ต้องโดนแมวมองทาบทามไปเป็นพระเอกหนังในยุคนั้นแน่ๆครับ

มุขในหนัง มุขจิกกัดหนังไทย จิกกัดวงการหนังไทย ผมไม่โอเค เพราะการวางตัวให้ ตุ๊กแก เป็นลูสเซอร์ เป็นนักเขียนการ์ตูน เป็นผู้กำกับที่เขียนบทหนังแล้วไม่มีคนเอา เป็นคนเขียนบทหนังที่ค่ายใหญ่เอาไปให้คนอื่นสร้าง มันจะสื่อแน่ๆว่าคือตัวคุณยุทธเลิศเอง ผมมองว่าในส่วนนี้ ตุ๊กแกแลดูโดนอวยเยอะไปหน่อย และคนในวงการหนังไทยก็โดนออกแบบให้แลดูเป้นตัวร้ายและเป้นตัวตลกมากเกินไปนิด เพราะในความเป็นจริง ตุ๊กแก(ตัวจริง) ไม่ใช่ผู้กำกับหนังที่ดีเลิศ และผลงานที่ผ่านมามากมายของคุณยุทธเลิศก็เป็นหนังที่ผมว่าไม่ค่อยโอเคเสีย 70-80%  ในความเป็นจริง ผมว่าคุณยุทธเลิศคือคนที่ได้โอกาสในการทำหนังไทยเยอะมาก(จนเกินเหตุ) ทั้งๆที่หนังที่คุณยุทธเลิศก็ลุ่มๆดอนๆ ไม่ได้ดีเด่นขนาดนั้นเลย

สุดท้ายนี้ บทสรุปสำหรับผมที่จะกล่าวถึง ตุ๊กแกรักแป้งมากก็คือ นี่คือหนังไทยที่ดีระดับนึงครับไม่ถึงกับแย่ แต่ไม่ใช่หนังที่โคตรดี เพราะบทสรุปของหนังดรื่องนี้คือหนังเมโลดราม่าดาดๆ ที่พยายามจะฟีลกู้ดด้วย และบทสรุปในตอนจบก็ออกแนวโลกสวยเหมือนการ์ตูนตาหวานเพลนๆ ที่เอาเข้าจริงๆ มันไม่ได้มีจุดเด่นจนจะขึ้นหิ้งเป็นหนังในดวงใจผมได้เลย ความคิดผมคือ พาร์ทวัยเด็กที่เชียงคานคือส่วนที่ดีมาก คุณยุทธเลิศทำออกมาได้ดีมาก แต่ถ้าพาร์ทวัยหนุ่มสาวที่โตขึ้นมาหน่อย ช่วยเปลี่ยนผู้กำกับเอาประมาณผู้กำกับ GTH มากำกับ ผมว่าหนังจะทำออกมาได้ดีกว่านี้ครับ และสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจจะไปดูหนังเรื่องนี้ ผมไม่ห้ามนะครับ เพราะถ้าอยากอุดหนุนหนังไทยสักเรื่องก็อุดหนุนไปเถอะครับ หนังฝรั่งห่วยๆเลวๆกว่านี้เรายังดูได้ เรื่องตุ๊กแกรักแป้งมาก อาจจะไม่โดนใจผม แต่อาจโดนใจอีกหลายคนครับ (รอบที่ผมไปชมมีคนดูทั้งโรง 3 คนครับ)​ ผมให้   6.5/10 ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่