หลังจากได้ลองออกทริปปั่นจักรยานใกล้ ๆ กรุงเทพกันมาแล้วที่บางกระเจ้า ด้วยความติดใจ เบื่อกรุงเทพ อยากผจญภัย หรืออะไรก็แล้วแต่ เราเลยขอออกทริปไปปั่นกันไกล ๆ ถึงมวกเหล็ก จ.สระบุรีกันบ้าง โดยมีจุดหมายปลายทางสำคัญคือ น้ำตกเจ็ดสาวน้อย ซึ่งหากใครเคยอ่าน . . .

บันทึกการเดินทาง : ปั่นจักรยานเดี่ยว เที่ยวกระเพาะหมู (ช่องนนทรี-บางกระเจ้า) http://ppantip.com/topic/32456954

คงจะเห็นว่าครั้งนั้นเราเอาจักรยานขึ้นเรือหางยาวไปปั่นแบบชิลล์ ๆ แต่ครั้งนี้เราจะเอาจักรยานขึ้นรถไฟไปปั่นทางไกลเพื่อเที่ยวน้ำตกกัน ว่าแล้วก็กระโดดขึ้นจักรยานคู่ใจแล้วปั่นตามมาได้เลย

______________________________________
มวกเหล็ก : เมืองในสายน้ำ โอบล้อมด้วยขุนเขา
______________________________________

                   มวกเหล็กเป็นอำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดสระบุรี สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของที่นี่คงหนีไม่พ้น น้ำตกเจ็ดสาวน้อย อีกทั้งยังมีน้ำตกน้อยใหญ่มากมาย อาทิ น้ำตกมวกเหล็ก เป็นต้น สำหรับของกินแสนอร่อยที่พลาดไม่ได้ต้องเป็น กระหรี่ปั๊บกับเนื้อทอด ซึ่งหาซื้อได้ที่ ตลาดอ.ส.ค. ในตัวเมือง ส่วนการปั่นจักรยานนั้นเพียงแค่ปั่นตามถนนใหญ่ซึ่งทอดตัวยาวไปถึงน้ำตกเจ็ดสาวน้อยตรง ๆ เลย โดยสภาพถนนก็ค่อนข้างเอื้อต่อการปั่นจักรยาน ตลอดสองข้างทางก็เต็มไปด้วยต้นไม้และภูเขาสูงเป็นฉากหลังสวยงาม แต่อาจจะมีอุปสรรคเรื่องของเนินชัน ๆ ที่มีมาก แต่ก็ทำให้การปั่นจักรยานสนุกไปอีกแบบ

การเดินทาง รถไฟสายกรุงเทพ-อุบลราชธานี ชั้น 2 ค่าโดยสาร 122 บาท ลงสถานีมวกเหล็ก

แผนที่เส้นทางจักรยาน



                   อย่างที่บอกไปตั้งแต่แรก ว่าทริปนี้เราเลือกที่จะเอาจักรยานขึ้นรถไฟ ดังนั้นการเช็คตารางรถไฟทั้งขาไปและกลับจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยรถไฟที่ใช้โดยสารคือสาย กรุงเทพ-อุบลราชธานี ซึ่งเป็นสายอีสาน คนก็จะโล่ง ๆ ไม่ค่อยเยอะเท่าสายใต้ (ก่อนหน้านี้เราเคยเอาจักรยานขึ้นรถไฟไปปั่นที่หัวหิน คนเยอะมาก - - ) หลังจากโทรไปถามเที่ยวรถไฟเรียบร้อยแล้ว คือขาออก 06:40 น. ตีว่าใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง เผื่อเวลารถไฟสายแล้วจะได้เริ่มปั่นที่โน้นประมาณ 10 โมงกว่า ๆ . . . รู้ว่าต้องตื่นเช้าอย่างนี้ก็ต้องเช็คความพร้อมของจักรยาน และรีบนอน ไม่งั้นพอไปถึงได้เดี้ยงคาอานแน่ ฮ่า ๆ     

________________________________________
23 สิงหาคม 2014 ตื่นแต่เช้ามืด ขึ้นรถไฟแต่เช้าตรู่
________________________________________

วันนี้เราตื่นตี 5 เพราะจากที่พักปั่นไปหัวลำโพงประมาณ 6 ก.ม. รวมเวลาเตรียมนั้นโน่นนี้ จะได้ไม่ต้องเร่งอะไรมาก  ปั่นประมาณ 20 นาทีก็ถึงหัวลำโพงแล้ว เช้าวันเสาร์ถนนพระราม 4 โล่ง ปั่นสบาย ๆ ระหว่างทางก็แวะซื้อเสบียงไปกินบนรถไฟด้วย



สำหรับการเดินทางเราเลือกนั่งรถไฟชั้น 2 กรุงเทพ-มวกเหล็ก ราคา 122 บาท เวลาออก 06:40 น. ถึง 10:13 น. ส่วนรถจักรยานเป็นรถพับเอาขึ้นรถไฟฟรี แต่หากเป็นรถจักรยานคันใหญ่ต้องเสียค่าระวาง 90 บาท ติดต่อกับจนท.ออกตั๋วได้เลย

พอได้ตั๋วแล้วก็เข็นรถไปชานชาลา 7 ปลายทางอุบลราชธานี พับรถให้เรียบร้อยแล้วขึ้นไปรอเวลารถออกได้เลย แนะนำให้นั่งที่นั่งหน้าหรือหนังสุด จะได้มีพื้นที่เก็บจักรยานเย็นหน่อย ครั้งนี้รถออกไม่เลทมาก โอ้มายก็อด ! ฮ่า ๆๆ



ระหว่างการเดินทางกินข้าวเช้าที่เตรียมมาแล้วก็หลับชาร์ตแบท แต่ก็ไม่รูปเก็บรูปวิวระหว่างทางมาให้ชมกันเพลิน ๆ






อย่างที่บอกไว้ว่า 10 โมงกว่า ๆ รถไฟก็เทียบชานชาลาสถานีมวกเหล็กแล้ว ! เตรียมตัวลงไว้เนิ่น ๆ จะดีกว่า






ทริปนี้เป็นแบบ One Day Trip ดังนั้นก่อนออกปั่นควรไปจองตั๋วกลับก่อน เราจองรอบ 14:40 น. ถึงกรุงเทพประมาณทุ่มนึง
จากนั้นไม่รอช้า จุดหมายแรก คือ น้ำตกเจ็ดสาวน้อย ระยะทาง 10 ก.ม. กว่า ๆ ปั่นไปตามถนนใหญ่ (ยกจักรยานข้ามรางรถไฟลงไปได้เลย) ปั่นสบาย ๆ แต่เนินโหดมาก ! ล้อจิ๋วอย่างเราก็ลำบากหน่อย T__T




ระหว่างทางเจอนั่งปั่นจักรยานแบบชุดพร้อมอุปกรณ์พร้อมกลุ่มใหญ่ แอบคิดในใจว่าอยากได้ล้อใหญ่ ๆ บ้าง ฮ่า ๆ ความจริงเส้นทางั่นที่นี้ชิลล์ ถนนเรียบ รถไม่เยอะ วิวสวย ถ้าเหนื่อยข้างทางก็มีรีสอร์ทและร้านกาแฟ แต่ปัญหาอยู่ที่เนินเนี้ยแหละ ยิ่ง 2 เนินสุดท้ายก่อนถึงน้ำตกนี้ หนืดมาก ! ดังนั้นใจต้องสู้ !

หลังจากปั่นมาได้ 10 โลกว่าก็ถึงแล้ว น้ำตกเจ็ดสาวน้อย แวะถ่ายรูปกับป้ายข้างหน้าดีกว่า



สำหรับที่จอดจักรยานสามารถไปล็อคกับรั้วข้างทางเข้าน้ำตกได้เลย หากหาไม่เจอก็สอบถามเจ้าหน้าที่เลย เราก็ถาม ฮ่า ๆ



ให้จักรยานได้พักเหนื่อยกันแล้ว เราไปพักใจกับความสวยงามของน้ำตกเจ็ดสาวน้อยกันดีกว่า !






สำหรับชื่อน้ำตกเจ็ดสาวน้อยนั้นได้มาจากชื่อหมู่บ้านที่อยู่ด้านทิศเหนือของน้ำตกที่มีชื่อว่า "บ้านสาวน้อย" เมื่อจากหน้าที่ป่าไม้ได้เข้ามาสำรวจพื้นที่เพื่อจัดตั้งวนอุทยานได้พบน้ำตกมีจำนวน 7 ชั้น ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ดังนั้นจึงได้ตั้งชื่อน้ำตกว่า "น้ำตกเจ็ดสาวน้อย" ตามชื่อหมู่บ้านและจำนวนชั้นของน้ำตกที่ค้นพบนั่นเอง

เสพธรรมชาติจนชุ่มปอดแล้ว เราก็ขอพักกินข้าวกันที่ร้านอาหารในอุทยาน อยากบอกว่าอร่อยมากกกก มีเจ้าเหมียวด้วย อิอิ (ตัวเป็น ๆ นะไม่ใช่อาหาร ฮ่า ๆๆ)



มองอ้อนแบบนี้ตลอดการกิน ><

เติมพลังเรียบร้อยแล้วได้เวลาไปต่อ เราจะปั่นกลับเลยสถานีรถไฟไปตลาด อ.ส.ค. เพื่อซื้อของฝากส่งท้ายกัน
ปัญหามันอยู่ที่ตอนกลับเนี้ยแหละ ขาไปแม้จะไม่ชิลล์แต่แดดก็ยังไม่แรงเท่าไหร่ แต่ขากลับนี้ทั้งแดดแรง ทั้งเนินก็ทำร้ายกว่าเก่า พอปั่นขึ้นยอดเนินปุ๊บ ไม่มีให้ได้ปล่อยล้อลงสบาย ๆ เลย เป็นทางเรียบต่อ เห็นทีต้องแวะร้านกาแฟให้ชื่นใจ



อย่างที่บอกไว้ว่าตลอดทางมีรีสอร์ทและร้านกาแฟ หากเหนื่อยก็พักชิลล์กันก่อน ไม่ต้องฝืน ๆ ฮ่า ๆ
ปั่นมาแบบหนืด ๆ สักพัก ก็แวะถามเที่ยวรถไฟที่สถานีรถไฟก่อนก็ได้ว่าเลทมากมั้ย เพื่อมีเวลาเที่ยวอีก จากนั้นก็ปั่นไปอีกประมาณ 1 ก.ม. หากอยากเที่ยวน้ำตกอีกแวะน้ำตกมวกเหล็กหรือสวนรุกชาติก็ได้ แต่เราขอไปช้อปเลย แหะ ๆ


ถึงแล้ว . . . วันที่ไปคนไม่เยอะเท่าไหร่ ร้านส่วนใหญ่ก็ขายกะหรี่ปั๊บกับเนื้อทอดของขึ้นชื่อที่นี่ อีกอยากที่แนะนำคือน้ำองุ่นกับน้ำข้าวโพด ชื่นใจดี






ได้ชิมของอร่อย ๆ แถมของฝากติดไม้ติดมือแล้ว ก็ใกล้เวลารถไฟจะมาแล้วหล่ะ ปั่นกลับสถานีไปรอกันดีกว่า . . . พับจักรยานให้เรียบร้อย เตรียมยกขึ้นรถไฟ !



ระหว่างทางพอตกเย็น ท้องฟ้ากำลังสวยเลย ใกล้ถึงกรุงเทพแล้ว เลยขอเก็บภาพสักหน่อย





ประมาณทุ่มกว่า ๆ รถไฟชั้น 2 ก็พาเรามาส่งที่สถานีหัวลำโพงแล้ว ได้เวลาปั่นกลับบ้านบนถนนวัดใจของกรุงเทพมหานครแล้ว ^^

สำหรับบันทึกการเดินทางนี้คงต้องจบลงตรงนี้ ใครที่เบื่อถนนในกรุงเทพก็ลองพาจักรยานขึ้นรถไฟมาปั่นเที่ยวน้ำตกกันได้ที่มวกเหล็ก อาจจะเหนื่อยสักหน่อย แต่แค่ได้สัมผัสธรรมชาติสวย ๆ ฟังเสียงน้ำตกเพราะ ๆ แค่นี้ก็หายเหนื่อย หนำซ้ำยังอยากจะปั่นมาอีกแน่นอน