ผ่านมา 3 นัด อย่างเป็นทางการ กับการสะกดคำว่า "ชัยชนะ" ไม่เป็นของยูไนเต็ด
และแฟนบอลหลายคน เริ่มสงสัยและตั้งคำถามถึงฝีมือของนายใหญ่อย่าง หลุยส์ ฟาน กัล
ว่าของจริงรึป่าว ? ดื้อดึง ? หัวรั้น ? และมีหลายคน เริ่มออกมาต่อว่าถึงแนวทางการทำทีมและถามถึงปรัชญาฟุตบอลของฟานกัล ว่าคืออะไร ?
ผมขออนุญาตหาข้อมูลมาให้ในวันนี้ครับ

ปรัชญาฟุตบอลของฟานกัล เขาเรียกมันว่าฟุตบอลแบบ "Utopia"
Utopia ก็คือ สังคมในอุดมคติ ที่ๆคนในสังคมอยู่ร่วมกันด้วยศีลธรรมและความรับผิดชอบส่วนรวม
ดังนั้นเมื่อมันนำมาใช้กับทีมฟุตบอล เขาก็พยายามจะสร้างทีมให้มันเป็นเหมือนทีมในอุดมคติครับ
ไม่มีคนไหนเป็นนักเตะเกรด A เกรด B ไม่มีคำว่าคนดัง ทุกคนในทีมมีค่าเท่ากันหมด ทุกตัวทุกตำแหน่ง
ทุกคนทำงานอย่างหนักเท่ากัน มีความรับผิดชอบร่วมกัน ไม่เอาเปรียบกัน พูดง่ายๆคือฟานกัลต้องการสร้างวินัยก่อน
เดนนิส ฟาน เบิร์กแคมป์ เคยพูดถึงระบบการฝึกของฟานกัลสมัยที่เค้าอยู่ Ajax ว่า "ระบบศักดิ์สิทธิ์"
นักเตะหลายคนคิดว่าตัวเองแน่ ดัง อีโก้สูง ก็เตรียมโดนดองได้เลย (คากาวะ เคยปฏิเสธไม่เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง
แต่อยากเล่นในตำแหน่งเบอร์ 10 หรือ กลางรุก ถ้ายังไม่สามารถตอบสนองปรัชญาโค้ชได้ ก็เตรียมโดนจับดองอีกคน)



ซึ่งตอนที่เขาเข้ามาคุมทีมฮอลแลนด์ เขาทดลองทีมโดยใช้ นักเตะที่แตกต่างกันไม่เคยซ้ำกันถึง 17 นัด
และมีนักเตะที่อายุต่ำกว่า 23 ติดอยู่ในทีมที่เขาผลักดันให้แจ้งเกิดในบอลโลกหลายคนอย่าง De vrij , Martin Indi, Memphis Depay
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงให้โอกาสดาวรุ่งอย่าง นิคพาว แบล็คเค็ต คีน เวอร์มิล แปร์ไรร่า ก็เพราะเขากำลังดูว่านักเตะคนไหน
สามารถเล่นตรงไหนได้บ้าง ใครเข้าไม่เข้าระบบ ในส่วนนี้ฟานกัลเรียกกระบวนการนี้ว่า Searching for the right players
หรือ กระบวนการสรรหานักเตะที่ใช่ (ข้อนี้อาจจะคลายข้อสงสัยหลายคน ว่าสองสามนัดที่ผ่านมาทำไมเขาถึงเอาแต่จดๆ ยิ้มๆ ชิวๆดูไม่กระตือรือร้น)



ฟุตบอลแบบ Utopia มันเกิดขึ้นสมัยที่ฟานกัลคุม Ajax ชุดปี 95 ซึ่งตอนนั้นได้สามแชมป์ และยังแจ้งเกิดนักเตะชื่อดังอีกมากอย่าง
Patrick Kliuvert ตอนนั้นอายุ 19 ปี Jari Litmanen , Edgar Davids, Van der sar ที่อายุยังน้อยๆทั้งนั้น  





อ้างอิง : http://www.fourfourtwo.com/features/van-gaals-vision-seeks-recreate-football-utopia