เจาะลึกหุ้น XO ซอสไทยไปเวทีโลก!

กระทู้สนทนา
เรามาดูหุ้น IPO ร้อนแรงตัวใหม่กันดีกว่าครับ ได้ข่าวว่างบสวย โบรกเชียร์ ปิดตลาดวันแรกพุ่งไป 100% ขอลองชมดูสักที

First Touch


กับ P/E ที่ 30 กว่า งบกำไรขาดทุนค่อนข้างดูดีเลยทีเดียวครับ กับยอดขายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด



ด้วยอัตราส่วนทรัพย์สินหมุนเวียนมากกว่าหนี้สินหมุนเวียน เกือบ 2:1 ตบท้ายด้วยเงินสด 93.21 ล้านบาท เรียกว่าเงินสดเหลือใช้กันเลยทีเดียว
และหนี้ส่วนใหญ่เกิดจากเจ้าหนี้การค้าหรือตั๋วเงินจ่ายการค้า ถ้าหากตั๋วเป็นแบบไม่มีดอกเบี้ยก็ถือว่าเยี่ยมเลยครับ นำเงินสดไปฝากประจำได้ดอกอีก
Note: ตั๋วเงินจ่ายการค้ามีสองแบบ คือแบบมีดอกเบี้ย และไม่มีดอกเบี้ยครับ

แต่เท่าที่ผมได้ยินมาหุ้น IPO ส่วนใหญ่จะเน้น "แต่งตัว" เข้าตลาด เรามาทำความรู้จักหุ้นตัวนี้ลึก ๆ จากงบการเงินกันดีกว่าครับ

NOTE:
เจ็บใจว่าผมไม่สามารถหาเอกสาร filing ใด ๆ ของ XO ในเว็บ กลต ได้ T_T

สามารถเข้าไปอ่านงบการเงินของบริษัทได้ที่นี่ครับ
http://www.irplus.in.th/Listed/XO/download_financial.asp

เมื่ออ่าน comment ของนักตรวจสอบก็พบว่ามีข้อสงสัยในเรื่องสินค้าคงเหลือ แต่เป็นเรื่องเมื่อปี 2554 ซึ่งไม่มีในงบการเงินที่ให้ download ได้
ผมก็จะขอข้ามไปเพราะรู้สึกว่าเป็นแค่ minor ครับ และหลังจากนั้นก็ไม่มี comment อีกทั้งงบปี 2556 ไตรมาส 1 และ ไตรมาส 2

ที่ต้องระวังสำหรับบริษัทประเภทนี้สามารถ write down คือลดมูลค่าของสินค้าคงเหลือในบางปี (แต่จริงๆ มูลค่าไม่ได้ลด) เพื่อไป boost กำไรในปีถัดไป

แต่ดูจากงบ note ของนักตรวจสอบ และรายการสินค้าคงเหลือย้อนหลังไม่ได้ลดลงไปมากครับ ไม่น่าจะเข้า case นี้
ลองดูรายได้แยกสินค้า


เมื่อเทียบกับสินค้าคงเหลือ


เรียกว่ามันค่อนข้างจะตามกันพอสมควร นึกภาพออกมั้ยครับ แต่จริงๆ ถ้ามีการ write down จะมี comment จากนักตรวจสอบ
แล้วเราค่อยมาตามดูกันอีกทีก็ยังได้ (แต่ในกรณีนี้นักตรวจสอบเริ่มเข้ามาตอนงบปี 56)


แต่ว่ากราฟนี้ทำให้ผมรู้สึกเป็นกังวลนิดหน่อย


สาเหตุเป็นเพราะว่ายอดขายของบริษัทส่งออกไปยังยุโรปเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างเยอะ และการที่ยูโร อ่อนค่า (บาทแข็ง) ทำให้บริษัทซึ่งพึ่งพาส่งออก
รายได้จะลดลงเพราะขาดทุนค่าเงินครับ และจะเยอะขนาดไหนมาดูกันครับ


จะเห็นได้ว่ายอดขายไปยังยุโรปมากถึง 150 ล้าน ซึ่งเทียบก็ประมาณ 75% เลยทีเดียวครับ ผมก็จะขอมองค่าเงินเป็นหลัก
โดยเฉพาะงบไตรมาสสองบริษัท book ขาดทุนค่าเงินประมาณ 7 ล้านบาท ครับ (ไตรมาส 1 8 ล้าน คาดว่ากำไรเพิ่มมา 1 ล้าน)
ยิ่งช่วงนี้ค่าเงินบาทแข็งแล้วบริษัทจะเป็นอย่างไรต่อไป

แล้วผมก็พบกับเจ้านี้ครับ


และถ้าย้อนกลับไปดูตอนไตรมาส 1 จะพบว่าบริษัทซื้อสัยญาขายยูโรไว้ที่ประมาณ 38 บาทกว่าๆ ค่อนข้างเยอะ ซึ่งตอนหลังบาทอ่อนลง
ทำให้บริษัทลงขาดทุน (จากค่าเงิน) ไป แต่บริษัทได้ซื้อสัญญาขายเงินตราต่างประเทศไปที่ 42.50 – 45.20 บาท จนถึงสิ้นปี
ดังนั้นกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนน่าจะยังไม่มีผลกระทบจนถึงสิ้นปี ซึ่งหากยูโรอ่อนลงไปอีก เผลอ ๆ บริษัทจะได้กำไรค่าเงินด้วยซ้ำครับ
แต่หลังจากนั้นไม่รู้ครับ ฮา เพราะผมไม่สามารถคาดเดาค่าเงินได้เลย

My Take: Neutral
ขอตอบว่ากลางๆ สำหรับตัวนี้ครับ เพราะผมสามารถหางบการเงินได้ถึงแค่ 56 ซึ่งบริษัทโชว์ผลกำไรที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แต่ผมอยากจะเข้าไปดูช่วง 54-55 ที่บริษัทพลิกกลับมามีกำไรมากกว่า
บริษัทมีข้อดีที่มี brand สินค้าของตัวเอง แต่ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะสามารถสร้างความภักดีของลูกค้าให้เกิดขึ้นได้หรือเปล่า
และยอด order จากยุโรปจะยั่งยืนหรือไม่ ก็ต้องให้ผู้บริหารและบริษัทพิสูจน์ตัวเองครับ
ราคาตอนนี้อยู่ในขั้นกลางๆ ค่อนไปทางแพงครับ
สำหรับผมยังจะขอยึดแนวทางของ Ben Graham และ Warren Buffett ที่จะต้องมองให้ยาวกว่า 5 ปีครับ (ผมคาดเดาไม่ถึงจริงๆ)

จริงๆ ผมพอจะคาดเดา Forward P/E ได้นะแต่ให้เพื่อนๆ ลองคำนวณดูเอาเองละกันครับ

ผมเขียนจบแล้วไม่อยากจะโพสต์ลงเลยจริงๆ ให้ตายสิพับผ่า 555

Disclaimer: ผมไม่มีหุ้น XO และจะไม่เข้าซื้อภายใน 72 ชั่วโมง (และจนกว่าบริษัทจะแสดงผลกำไรอย่างยั่งยืนกว่านี้)

อ้างอิง:
เจาะลึก XO หุ้นไทยไปเวทีโลก!

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่