"ตำรวจ" จับมือเอกชน แพร่ 50 หมายจับ แก๊งลักรถ มีค่าหัว ประจานขึ้นบิลบอร์ด ทั่วกรุงเทพ

"ตำรวจ" จับมือเอกชน แพร่ 50 หมายจับ แก๊งลักรถ มีค่าหัว ประจานขึ้นบิลบอร์ด ทั่วกรุงเทพ พ่วงประชาสัมพันธ์ คนหาย ดึง ปชช. เป็นหูเป็นตา



เมื่อเวลา 10.00น. วันที่ 26 สิงหาคม 2557 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปจร.ตร.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบช.น. เปิดตัวโครงการปฏิทินหมายจับ "The Most Wanted by ศปจร.น." โดยมี สมาคมประกันวินาศภัยไทย ชมรมสินไหมยานยนต์ สนับสนุนเงินรางวัลนำจับให้แก่ผู้แจ้งเบาะแสเมื่อสามารถจับกุมผู้ต้องการตามปฏิทินหมายจับ



พล.ต.อ.สมยศ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง หรือเอ็มโอยู กับ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และมูลนิธิกระจกเงา และสมาคมประกันวินาศภัย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การติดตามการแจ้งและจับกุมผู้ต้องหาตามปฏิทินหมายจับ "The Most Wanted by ศปจร.น." และ ข้อมูลคนหาย ผ่านสื่อ ดิจิตอล บิลบอร์ด ของ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ที่ติดตาม 4 แยกต่างๆ ใน กทม. โดยมี พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ10) ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคนหายและศพนิรนาม พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รองผอ.ศูนย์ และข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล 88 สถานี ร่วมเป็นสักขีพยาน



พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ได้ประสานกับบริษัทแพลนบีฯ เพื่อนำภาพคนหาย เผยแพร่ผ่านจอแอลอีดี ของบริษัทแพลนบีที่ติดอยู่ทั่วกรุงเทพฯมาตั้งแต่ปี 2556 แต่ยังไม่มีการประชาสัมพันธ์เนื่องจากยังรอดูผลตอบรับ ซึ่งได้ผลดีมีการตามหาเด็กหายได้จากการประชาสัมพันธ์ผ่านจอภาพโฆษณา กระทั่ง ครั้งนี้พล.ต.ท.จักทิพย์ และ พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวส รอง ผบช.น. ในฐานะ หัวหน้า ศปจร.น. มีแนวคิดนำหมายจับผู้ต้องหาในคดีโจรกรรมรถ มาเผยแพร่ผ่านจอแอลอีดีโฆษณาด้วย เพื่อให้ประชาชนเป็นส่วนช่วยในการสืบหาคนร้าย โดยได้ปรึกษาหารือกับศาลแล้วว่า สามารถเผยแพร่หมายจับได้ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวน



ในอนาคตข้างหน้าจะพัฒนานำภาพรถหายเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ด้วย เป็นการใช้ช่องทางสื่อให้เป็นประโยชน์ในการทำงาน มองว่าเป็นการดึงภาคเอกชน เข้าช่วยเหลืองานตำรวจ นำเทคโนโลยีมาใช้ช่วยงานให้ตำรวจสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป็นการคิดใหม่ คิดต่าง ทำต่าง โดยจะเริ่มจากในกทม.และขยายไปทำแบบเดียวกันในเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ พัทยา ภูเก็ต ต่อไป

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ปัญหาการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ มีแนวโน้มสูงขึ้น น่าเป็นห่วง เกิดจากความต้องการรถของประเทศเพื่อนบ้าน และความต้องการใช้อะไหล่รถมือสอง อีกทั้งการนิยมรถสวมซาก ก็เป็นอีกปัจจัยของรถหาย ซึ่งขณะนี้ ศปจร. สามารถรวบรวมหลักฐานรถที่ถูกโจรกรรมแล้วนำสวมซากได้กว่า 600 คันแล้ว ทั้งนี้ขบวนการโจรกรรมรถนั้นคนร้าย พัฒนารูปแบบการก่อเหตุ มีการใช้ความชำนาญเฉพาะด้าน มีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างเป็นขั้นตอน และในบางครั้งมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องในขบวนการกระทำผิดนี้ด้วย ส่วนกรณีความร่วมมือว่าด้วยการประชาสัมพันธ์ข้อมูลคนหาย เป็นความต่อเนื่องที่เกิดขึ้นจากการที่ ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนตร์ รถจักรยานยนต์ สายด่วน 1192 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่อยู่ปฏิบัติรับแจ้งเหตุ รถหายประจำศูนย์ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง โดยไม่มีวันหยุด



ด้าน พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า การทำปฏิทินหมายจับผู้ต้องหาในคดีโจรกรรมรถ และการนำภาพหมายจับเผยแพร่ผ่านสื่อบิลบอร์ดเพื่อให้คนไม่ดีไม่มีที่ยืนในสังคม ให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาและกระตุ้นให้ตำรวจตามจับกุม เพราะคดีรถหายยังมีอยู่มาก โดยเฉพาะรถกระบะ รถเก๋ง ยี่ห้อที่เป็นที่นิยมของตลาด มักถูกโจรกรรม ครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากสมาคมประกันวินาศภัยร่วมลงขันรางวัลนำจับผู้ต้องหาตั้งแต่ระดับสั่งการ ไปจนถึงระดับปฏิบัติการ โดยแบ่งหมายจับเป็น 3 กลุ่ม ตามรางวัลนำจับ ตั้งรางวัลนำจับ 50,000 บาท 10 ราย รางวัลนำจับ 30,000 บาท 20 ราย และรางวัลนำจับ 15,000 บาท 20 ราย เชื่อว่าหลังหมายจับแพร่ตามสื่อต่างๆ จะทำให้สามารถตามจับกุมผู้ต้องหาได้



ผู้สื่อข่าวรายงาน ทั้งนี้ เว็ปไซต์ "www.lostcar.go.th" ได้เปลี่ยนแปลงชื่อเป็น "www.รถหาย.com" สำหรับโทรศัพท์สายด่วนยังคงเป็น 1192 เช่นเดิม มีเจ้าหน้าที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง หากประสบเหตุเรื่อง "รถหาย" หรือ "คนหาย" แจ้ง 1192  #รถหาย #Stolencarsreport

https://www.facebook.com/media/set/?set=a.283840895141991.1073746265.124266987766050&type=1

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่