... แมน ยูฯ ทุกสมัยในความคิดของผมตั้งแต่สมัย ตอนที่ เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน เกือบจะถูกไล่ออกจากทีม ในปี 1990 โทษฐานที่ไม่สามารถนำแชมป์ใดๆมาเยือนถิ่นโอล์ดแทรฟฟอร์ด แมนยูฯเป็นทีมที่เล่นมันส์พะยะค่ะจริงๆนะครับ ไม่ว่าจะยิงประตูนำ หรือถูกโดนนำ นักเตะทุกคนสู้ไม่มีถอยจนถึงนาทีสุดท้ายที่กรรมการเป่าหมดเวลา มักจะมีหลายๆครั้งที่ตีเสมอได้ใน5นาทีสุดท้าย ยิงนำชนะได้ในนาทีต่อเวลา ด้วยความที่เราดูบอลแล้วลุ้นมันส์หยดจนถึงวินาทีสุดท้ายนี่เป็นเสน่ห์ที่แมนยูฯทุกยุคทุกสมัยภายใต้การนำทีมของเซอร์อเอล็กเฟอร์กูสันทำทีมมาตลอด 27ปี ความสำเร็จกว่า 3 ทศวรรษ ที่ท่านเซอร์สร้างไว้เป็นแนวทางปฏิบัติเป็นปรัชญา เป็นวัฒนธรรมของสโมสรไป รับแน่น รุกเร็ว ปีกแจ่มๆ หน้าคม เป็นแบบอย่างให้เด็กๆจากชุดเยาวชนที่สืบต่อรุ่นต่อรุ่นของสโมสรเธียเตอร์ออฟดรีมนี้ ทุกๆคนถูกปลูกฝังความเป็นยูไนเต็ด ความเป็นนักสู้ ความเป็นนักเตะที่ทำงานอย่างหนัก จนนาทีสุดท้าย มาตั้งแต่ๆเด็กๆแล้ว ...ซึ่งต่อจากนี้ไป คือ ความหายนะ 3 ประการ ที่แมนยูฯกำลังประสบพบเจอเข้าอย่างจัง และจะทำให้ทุกๆอย่างไม่เป็นเหมือนเดิมอีก...
…ประการแรก การทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อนักเตะ... ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไป พูดง่ายๆ แมนยูฯดังขึ้น หลังจากรากฐานที่ท่านเซอร์สร้างไว้เริ่มผลิดอกออกผลเป็นกอบเป็นกำ ความสำเร็จเดินพาเหรดเข้าสู้โอลด์แทรฟฟอร์ดมากขึ้นเรื่อยๆ แฟนบอลทั้งหลายโดยเฉพาะแฟนบอลรุ่นใหม่ๆ คุ้นเคยแต่กับภาพความสำเร็จที่ชินตา ความผิดหวังจึงไม่ใช่สิ่งที่แฟนบอลยูไนเต็ดปรารถนา แฟนบอลมหาศาลมักจะมาพร้อมกับความคาดหวังเสมอ ประกอบกับกิจการฟุตบอลเปลี่ยนสภาพจากกีฬาฟุตบอลกลายเป็นธุรกิจฟุตบอล การใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อความสำเร็จ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่เม็ดเงินมหาศาลถูกเอาไปทุ่มซื้อนักฟุตบอลเก่งๆและราคาแพง โดยที่ผู้จัดการทีมยังไม่รู้เลยว่านักเตะเหล่านั้นสามารถเข้ามาทำประโยชน์ให้กับทีมได้หรือไม่ มารูยาน เฟลไลนี่ ชินจิ คากาวะ วินฟรีด ซาฮา เป็นตัวอย่างอันดีของความหายนะประการแรก และกำลังจะมีอีกหลายๆความหายนะที่กำลังจะตบเท้าเดินเข้ามา อยากจะบอกว่าหัวใจหลักของความสำเร็จกว่า30ปีที่ผ่านมาของเซอร์อเล็กเฟอร์กูสัน คือการสร้างนักเตะจากชุดเยาวชนต่างหาก ที่สร้างความสำเร็จให้กับแมนยูไนเต็ด ไรอัน กิ๊ก แกรี่ เนวิลล์ เดวิด เบ็คแฮม พอล สโคลส์ นิกกี้ บัตต์ ผสมผสานกับการซื้อตัวละครลึกลับราคาไม่แพงที่โลกยังไม่รู้จัก ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล รอย คีน โอเล่ กุนน่าร์ โซลชาร์ คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ เนมานย่า วิดิช แพททริค เอฟร่า เข้าสู่ทีมต่างหากคือความสำเร็จอย่างแท้จริง แต่ต่อจากนี้ไป คงจะเห็นภาพ ตำแหน่งไหนเล่นไม่ดี แมนยูฯคงต้องทุ่มที 30-40 ล้าน เข้าสู่ทีม แล้วสุดท้ายก็เหมือนเดิม เล่นไม่ออก แล้วขายแบบขาดทุน
...ประการที่สอง การใช้ระบบที่ไม่สามารถรับมือกับ ระบบของทีมร่วมลีค... ผมคิดว่าการที่ แมนยูฯ สูญเสียผู้จัดการทีมระดับตำนานจากการรีไทร์ของเซอร์อเล็กเฟอร์กูสัน เปลี่ยนเป็นเดวิด มอยส์ จนกระทั่งเปลี่ยนมาเป็นหลุยส์ ฟาน กัล ระบบทีมถูกดัดแปลง ทดลองทีมมากมาย 4-4-2 เป็น 4-5-1 เป็น 4-2-3-1 จนกระทั่งกลายเป็น 3-5-2 ถึง ผจก.จะเก่งแค่ไหน นักบอลจะเล่นระบบนี้จนชินแค่ไหน จะสู้เขาได้ยังไง ในเมื่อทั้งลีคเล่น 4-4-2
...ประการที่สองจุดหนึ่ง ระบบวิงแบ็คใช้กับทีมในอังกฤษค่อนข้างลำบาก ...ความเห็นส่วนตัว ถึงแม้ว่าการจะเปลี่ยนระบบ เป็น 3-5-2 ภายใต้การทำทีมของ ผู้จัดการทีมสมองเพชร อย่าง LvG ก็คงไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นหรอก เพราะ ทีมในพรีเมียร์ลีคอังกฤษ ส่วนใหญ่เล่นระบบ 4-4-2 โดยใช้มิดฟิลด์ตัวรับ 2 ตัว แถมเวลาทีมไหนเจอแมนยูฯ จะเน้น แพ็คแดนกลางค่อยข้างต่ำ คือ เผลอๆต่อบอลกันนานเกิน กองกลางตัวรับสองตัวมาวิ่งมายืนบล็อคหน้าปากประตูหมดแล้ว กลายเป็นกองหลังเขาแน่นไปหมด ยืนกันทีเหมือนมีเซนเตอร์4-5คน ปัญหาแบบนี้ ผมเชื่อว่า ต่อไปนี้ แมนยูฯ คงเจอทุกนัด ไม่ใช่ว่ากองกลางเราด้อยคุณภาพนะครับ แต่ คู่แข่งแพ็คกันแน่นเหลือเกิน ทำอะไรไม่ได้ก็จ่ายออกปีกหาวิงแบ็ค ก็จะเจอทั้งปีก ทั้งฟูลแบ็ค ของฝ่ายตรงข้าม วิ่งมาประกบอีก เจอแบบนี้วิงแบ็คก็ง่อยแล้วครับ ทำได้แต่เพียงจ่ายคืนหลัง ตั้งเกมส์กันใหม่ สังเกตได้ง่ายๆ หลังๆมานี้ กองกลางแมนยูฯ ทำอะไรไม่ได้ เพราะ ฝ่ายตรงข้าง เน้นแพ็คเกมส์แดนกลางแทบทุกครั้งเวลาเจอแมนยูฯครับ กองกลางแมนยูฯ เจาะไม่เข้าบ่อยมากๆ ก็จ่ายออกปีก มองหา ยานาไซจ์ มองหาแอชลี่ ยัง มองหาวาเลนเซีย พอจ่ายออกข้างก็มักจะเจอประกบสองตลอด สุดท้ายก็จ่ายคืนหลัง -*-!
...ประการที่สองจุดสอง การยืนเซนเตอร์ 3 ตัว มันไม่ช่วยอะไร ...เพราะ ถ้าโดนตัดบอลได้ เจอสวนกลับ ก็จะมีแต่โดนกับโดน เพราะ กองหลัง 3 ตัว เป็นอะไรที่แมนยูฯไม่ถนัดเลยนะครับ บอกตรงๆ ยืนหลวมมากๆ ช่องให้แทงทะลุเยอะมากๆ ยืนเซนเตอร์ 3 คนนี้ไม่ได้ช่วยให้กองหลังแน่นขึ้นเลยครับขอบอก กลายเป็นว่า จุดเกรงใจในการเข้าบอลมี 2 จุด คือ มากกว่า จุดเกรงใจ 1 จุด ของกองหลังเซนเตอร์ 2 คนซะอีก โดนเจาะทีนึงไม่รู้ว่าเขาจะมาทางไหน แค่นี้ก็วิ่งมาบล็อคกันตับแล่บ ทำอะไรไม่ค่อยจะได้แล้วครับ ยืนเซนเตอร์ 3 คน ผมว่ายังไงๆก็สู้ กองหลางตัวรับอีก 1 คน วิ่งมาแพ็คแดนกลางหน้าเซนเตอร์2คนไม่ได้ (ดูแล้วแน่นกว่ายืน 3 คนอีก)
...ทั้งหมดทั้งมวลความหายนะประการที่สองนี้ การดันให้เล่น 3-5-2 ก็เหมือนกับการเปิดร้านขายเสื้อผ้าสินค้าแบรด์เนม กลางดงร้านค้าส้มตำ ร้านขายปลาร้า น่ะแหล่ะครับ โอกาสเกิดยาก แมนยูฯเคยใช้วิธีกองกลางตัวรับ 2 คน เน้นแพ็คเกมส์แดนกลาง แล้วสวนกลับทุกทีม แต่ปัจจุบัน มาเจอแผนของตัวเองนี้เล่นงานทีมตัวเองในตอนนี้ซะเองแล้วครับ (ไม่ต่างกับการที่แมนยูฯเจอทีมแมนยูฯในชุดของเซอร์อเล็กเฟอร์กูสันเลยครับ)
...ประการที่สาม ระบบทีมที่แมนยูฯ สืบทอดกันมา คือ 4-4-2 เด็กปั้นทุกรุ่น ถูกสอนให้เล่นในระบบนี้ ตำแหน่งของทีมสำรองที่ต้องสอดแทรกขึ้นชุดใหญ่ คือ ถูกพัฒนามาจาก 4-4-2 แล้ว เมื่อ LvG ใช้ 3-5-2 ก็มักจะมีคำถามที่ตามมาคือ แล้วเด็กปั้นสโมสรคนนั้น คนนี้จะเล่นอยู่ครงไหน ยานาไซจ์ จะเล่นตรงไหน ลินการ์ดจะเล่นตรงไหน ผมเชื่อว่าพอไม่มีนักเตะเยาวชนคนไหนเหมาะๆ ทีมแมนยูฯก็ต้องแก้ไขด้วยการทุ่มเงินซื้อครับ แทนที่การ ป้อนเด็กจากชุดเยาวชนเข้าสู่ทีม ปรัชญา วัฒนธรรมของสโมสร ที่ผมกล่าวไว้ตอนต้นกำลังจะถูกเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคน ด้วยการใช้ระบบ 3-5-2 นี้ ปีกแมนยูฯ เก่งๆ ที่สโมสรไม่เคยขาด world class winger กำลังจะถูกทำลายไป จนทำให้ทีมกลายเป็น ทีมที่กองหลังหลวม วิงแบ็คไม่แกร่ง(เพราะตำแหน่งนี้เล่นยาก) กลางเจาะไม่เข้า หน้าไม่ได้บอล แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
...มาถึงแฟนบอลอย่างเราๆต้องทำใจครับ ถ้าเป็นแบบนี้อยู่ คงจะลุ้นแชมป์ยากหน่อย จากนี้คงจะเห็น ทีมแมนยูฯ จ่ายเงินเยอะๆ เพื่ออุดรูรั่วอุดจุดอ่อนของทีมต่อไปเรื่อยๆ เม็ดเงินถึงจะไม่ใช่เงินเรา แต่ความเห็นส่วนตัว ต่อไปนี้คงได้เห็นแมนยูฯซื้อตัวเทพแพงๆ แต่ใช้การในระบบนี้ไม่ค่อยได้ ในตอนนี้การซื้อตัวเก่งๆมาเท่าไหร่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มากหรอกครับ เพราะปัญหาเป็นที่ระบบต่างหาก ถึงแม้ว่า LvG จะบอกว่า 3-5-2 ของเขาสามารถเปลี่ยนเป็น 4-4-2 ได้ แต่เท่าที่ผมเห็นคือ มักจะเปลี่ยนมาเมื่อสายรึเปล่าครับ ถึงเปลี่ยนกลับมา ก็ยังคงยืนกันรั่วๆอยู่ดี อย่าง เด็กเยาวชน ที่ชื่อ ไทเลอร์ แบล็คเกต ผมดูเด็กคนนี้ตั้งแต่เล่นปีกซ้าย แบ็คซ้าย จนมาเป็นเซนเตอร์ตัวซ้าย ปกติตอนเล่น4-4-2 หมอนี่เล่นรับแน่นนะครับ จ่ายเอาชัวร์ ใช้ความตัวใหญ่เอาชนะคู่แข่ง ยืนตำแหน่งดี พอ LvG เปลี่ยนจาก 3-5-2 มาเป็น 4-4-2 น้องไทเลอร์เหมือนเด็กบ๊องซ์ไปเลย ยืนมั่ว ทำตัวเหมือนแบ็คซ้าย ปล่อยให้ช่องว่างตรงกลางห่างเป็นวา ไม่ต้องพูดถึงเซนเตอร์อีก 2 คน โจนส์ ถูกถ่างเป้นแบ็คขวา สมอลลิ่ง เป็นเซนเตอร์ เหมือนเดิมครับ คราวนี้อาการหนัก สมอลลิ่งยืนประกบตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว กองหลังเล่นกันอย่างนี้ หลุดตลอดดดด สุดท้ายก็แพ้กับเสมอครับ เนี่ยแหล่ะปัญหาหายนะโดยรวม ที่ผมคิดว่า LvG ควรแก้ไขด่วนๆๆๆๆ เพื่อนๆทุกท่านคิดแบบไหนกันครับ
[ManUtdOnly] หายนะ 3-4 ประการของแมนยูฯ ที่ LvG ต้องแก้ไขอย่างเร็วที่สุด
…ประการแรก การทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อนักเตะ... ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไป พูดง่ายๆ แมนยูฯดังขึ้น หลังจากรากฐานที่ท่านเซอร์สร้างไว้เริ่มผลิดอกออกผลเป็นกอบเป็นกำ ความสำเร็จเดินพาเหรดเข้าสู้โอลด์แทรฟฟอร์ดมากขึ้นเรื่อยๆ แฟนบอลทั้งหลายโดยเฉพาะแฟนบอลรุ่นใหม่ๆ คุ้นเคยแต่กับภาพความสำเร็จที่ชินตา ความผิดหวังจึงไม่ใช่สิ่งที่แฟนบอลยูไนเต็ดปรารถนา แฟนบอลมหาศาลมักจะมาพร้อมกับความคาดหวังเสมอ ประกอบกับกิจการฟุตบอลเปลี่ยนสภาพจากกีฬาฟุตบอลกลายเป็นธุรกิจฟุตบอล การใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อความสำเร็จ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่เม็ดเงินมหาศาลถูกเอาไปทุ่มซื้อนักฟุตบอลเก่งๆและราคาแพง โดยที่ผู้จัดการทีมยังไม่รู้เลยว่านักเตะเหล่านั้นสามารถเข้ามาทำประโยชน์ให้กับทีมได้หรือไม่ มารูยาน เฟลไลนี่ ชินจิ คากาวะ วินฟรีด ซาฮา เป็นตัวอย่างอันดีของความหายนะประการแรก และกำลังจะมีอีกหลายๆความหายนะที่กำลังจะตบเท้าเดินเข้ามา อยากจะบอกว่าหัวใจหลักของความสำเร็จกว่า30ปีที่ผ่านมาของเซอร์อเล็กเฟอร์กูสัน คือการสร้างนักเตะจากชุดเยาวชนต่างหาก ที่สร้างความสำเร็จให้กับแมนยูไนเต็ด ไรอัน กิ๊ก แกรี่ เนวิลล์ เดวิด เบ็คแฮม พอล สโคลส์ นิกกี้ บัตต์ ผสมผสานกับการซื้อตัวละครลึกลับราคาไม่แพงที่โลกยังไม่รู้จัก ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล รอย คีน โอเล่ กุนน่าร์ โซลชาร์ คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ เนมานย่า วิดิช แพททริค เอฟร่า เข้าสู่ทีมต่างหากคือความสำเร็จอย่างแท้จริง แต่ต่อจากนี้ไป คงจะเห็นภาพ ตำแหน่งไหนเล่นไม่ดี แมนยูฯคงต้องทุ่มที 30-40 ล้าน เข้าสู่ทีม แล้วสุดท้ายก็เหมือนเดิม เล่นไม่ออก แล้วขายแบบขาดทุน
...ประการที่สอง การใช้ระบบที่ไม่สามารถรับมือกับ ระบบของทีมร่วมลีค... ผมคิดว่าการที่ แมนยูฯ สูญเสียผู้จัดการทีมระดับตำนานจากการรีไทร์ของเซอร์อเล็กเฟอร์กูสัน เปลี่ยนเป็นเดวิด มอยส์ จนกระทั่งเปลี่ยนมาเป็นหลุยส์ ฟาน กัล ระบบทีมถูกดัดแปลง ทดลองทีมมากมาย 4-4-2 เป็น 4-5-1 เป็น 4-2-3-1 จนกระทั่งกลายเป็น 3-5-2 ถึง ผจก.จะเก่งแค่ไหน นักบอลจะเล่นระบบนี้จนชินแค่ไหน จะสู้เขาได้ยังไง ในเมื่อทั้งลีคเล่น 4-4-2
...ประการที่สองจุดหนึ่ง ระบบวิงแบ็คใช้กับทีมในอังกฤษค่อนข้างลำบาก ...ความเห็นส่วนตัว ถึงแม้ว่าการจะเปลี่ยนระบบ เป็น 3-5-2 ภายใต้การทำทีมของ ผู้จัดการทีมสมองเพชร อย่าง LvG ก็คงไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นหรอก เพราะ ทีมในพรีเมียร์ลีคอังกฤษ ส่วนใหญ่เล่นระบบ 4-4-2 โดยใช้มิดฟิลด์ตัวรับ 2 ตัว แถมเวลาทีมไหนเจอแมนยูฯ จะเน้น แพ็คแดนกลางค่อยข้างต่ำ คือ เผลอๆต่อบอลกันนานเกิน กองกลางตัวรับสองตัวมาวิ่งมายืนบล็อคหน้าปากประตูหมดแล้ว กลายเป็นกองหลังเขาแน่นไปหมด ยืนกันทีเหมือนมีเซนเตอร์4-5คน ปัญหาแบบนี้ ผมเชื่อว่า ต่อไปนี้ แมนยูฯ คงเจอทุกนัด ไม่ใช่ว่ากองกลางเราด้อยคุณภาพนะครับ แต่ คู่แข่งแพ็คกันแน่นเหลือเกิน ทำอะไรไม่ได้ก็จ่ายออกปีกหาวิงแบ็ค ก็จะเจอทั้งปีก ทั้งฟูลแบ็ค ของฝ่ายตรงข้าม วิ่งมาประกบอีก เจอแบบนี้วิงแบ็คก็ง่อยแล้วครับ ทำได้แต่เพียงจ่ายคืนหลัง ตั้งเกมส์กันใหม่ สังเกตได้ง่ายๆ หลังๆมานี้ กองกลางแมนยูฯ ทำอะไรไม่ได้ เพราะ ฝ่ายตรงข้าง เน้นแพ็คเกมส์แดนกลางแทบทุกครั้งเวลาเจอแมนยูฯครับ กองกลางแมนยูฯ เจาะไม่เข้าบ่อยมากๆ ก็จ่ายออกปีก มองหา ยานาไซจ์ มองหาแอชลี่ ยัง มองหาวาเลนเซีย พอจ่ายออกข้างก็มักจะเจอประกบสองตลอด สุดท้ายก็จ่ายคืนหลัง -*-!
...ประการที่สองจุดสอง การยืนเซนเตอร์ 3 ตัว มันไม่ช่วยอะไร ...เพราะ ถ้าโดนตัดบอลได้ เจอสวนกลับ ก็จะมีแต่โดนกับโดน เพราะ กองหลัง 3 ตัว เป็นอะไรที่แมนยูฯไม่ถนัดเลยนะครับ บอกตรงๆ ยืนหลวมมากๆ ช่องให้แทงทะลุเยอะมากๆ ยืนเซนเตอร์ 3 คนนี้ไม่ได้ช่วยให้กองหลังแน่นขึ้นเลยครับขอบอก กลายเป็นว่า จุดเกรงใจในการเข้าบอลมี 2 จุด คือ มากกว่า จุดเกรงใจ 1 จุด ของกองหลังเซนเตอร์ 2 คนซะอีก โดนเจาะทีนึงไม่รู้ว่าเขาจะมาทางไหน แค่นี้ก็วิ่งมาบล็อคกันตับแล่บ ทำอะไรไม่ค่อยจะได้แล้วครับ ยืนเซนเตอร์ 3 คน ผมว่ายังไงๆก็สู้ กองหลางตัวรับอีก 1 คน วิ่งมาแพ็คแดนกลางหน้าเซนเตอร์2คนไม่ได้ (ดูแล้วแน่นกว่ายืน 3 คนอีก)
...ทั้งหมดทั้งมวลความหายนะประการที่สองนี้ การดันให้เล่น 3-5-2 ก็เหมือนกับการเปิดร้านขายเสื้อผ้าสินค้าแบรด์เนม กลางดงร้านค้าส้มตำ ร้านขายปลาร้า น่ะแหล่ะครับ โอกาสเกิดยาก แมนยูฯเคยใช้วิธีกองกลางตัวรับ 2 คน เน้นแพ็คเกมส์แดนกลาง แล้วสวนกลับทุกทีม แต่ปัจจุบัน มาเจอแผนของตัวเองนี้เล่นงานทีมตัวเองในตอนนี้ซะเองแล้วครับ (ไม่ต่างกับการที่แมนยูฯเจอทีมแมนยูฯในชุดของเซอร์อเล็กเฟอร์กูสันเลยครับ)
...ประการที่สาม ระบบทีมที่แมนยูฯ สืบทอดกันมา คือ 4-4-2 เด็กปั้นทุกรุ่น ถูกสอนให้เล่นในระบบนี้ ตำแหน่งของทีมสำรองที่ต้องสอดแทรกขึ้นชุดใหญ่ คือ ถูกพัฒนามาจาก 4-4-2 แล้ว เมื่อ LvG ใช้ 3-5-2 ก็มักจะมีคำถามที่ตามมาคือ แล้วเด็กปั้นสโมสรคนนั้น คนนี้จะเล่นอยู่ครงไหน ยานาไซจ์ จะเล่นตรงไหน ลินการ์ดจะเล่นตรงไหน ผมเชื่อว่าพอไม่มีนักเตะเยาวชนคนไหนเหมาะๆ ทีมแมนยูฯก็ต้องแก้ไขด้วยการทุ่มเงินซื้อครับ แทนที่การ ป้อนเด็กจากชุดเยาวชนเข้าสู่ทีม ปรัชญา วัฒนธรรมของสโมสร ที่ผมกล่าวไว้ตอนต้นกำลังจะถูกเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคน ด้วยการใช้ระบบ 3-5-2 นี้ ปีกแมนยูฯ เก่งๆ ที่สโมสรไม่เคยขาด world class winger กำลังจะถูกทำลายไป จนทำให้ทีมกลายเป็น ทีมที่กองหลังหลวม วิงแบ็คไม่แกร่ง(เพราะตำแหน่งนี้เล่นยาก) กลางเจาะไม่เข้า หน้าไม่ได้บอล แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
...มาถึงแฟนบอลอย่างเราๆต้องทำใจครับ ถ้าเป็นแบบนี้อยู่ คงจะลุ้นแชมป์ยากหน่อย จากนี้คงจะเห็น ทีมแมนยูฯ จ่ายเงินเยอะๆ เพื่ออุดรูรั่วอุดจุดอ่อนของทีมต่อไปเรื่อยๆ เม็ดเงินถึงจะไม่ใช่เงินเรา แต่ความเห็นส่วนตัว ต่อไปนี้คงได้เห็นแมนยูฯซื้อตัวเทพแพงๆ แต่ใช้การในระบบนี้ไม่ค่อยได้ ในตอนนี้การซื้อตัวเก่งๆมาเท่าไหร่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มากหรอกครับ เพราะปัญหาเป็นที่ระบบต่างหาก ถึงแม้ว่า LvG จะบอกว่า 3-5-2 ของเขาสามารถเปลี่ยนเป็น 4-4-2 ได้ แต่เท่าที่ผมเห็นคือ มักจะเปลี่ยนมาเมื่อสายรึเปล่าครับ ถึงเปลี่ยนกลับมา ก็ยังคงยืนกันรั่วๆอยู่ดี อย่าง เด็กเยาวชน ที่ชื่อ ไทเลอร์ แบล็คเกต ผมดูเด็กคนนี้ตั้งแต่เล่นปีกซ้าย แบ็คซ้าย จนมาเป็นเซนเตอร์ตัวซ้าย ปกติตอนเล่น4-4-2 หมอนี่เล่นรับแน่นนะครับ จ่ายเอาชัวร์ ใช้ความตัวใหญ่เอาชนะคู่แข่ง ยืนตำแหน่งดี พอ LvG เปลี่ยนจาก 3-5-2 มาเป็น 4-4-2 น้องไทเลอร์เหมือนเด็กบ๊องซ์ไปเลย ยืนมั่ว ทำตัวเหมือนแบ็คซ้าย ปล่อยให้ช่องว่างตรงกลางห่างเป็นวา ไม่ต้องพูดถึงเซนเตอร์อีก 2 คน โจนส์ ถูกถ่างเป้นแบ็คขวา สมอลลิ่ง เป็นเซนเตอร์ เหมือนเดิมครับ คราวนี้อาการหนัก สมอลลิ่งยืนประกบตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว กองหลังเล่นกันอย่างนี้ หลุดตลอดดดด สุดท้ายก็แพ้กับเสมอครับ เนี่ยแหล่ะปัญหาหายนะโดยรวม ที่ผมคิดว่า LvG ควรแก้ไขด่วนๆๆๆๆ เพื่อนๆทุกท่านคิดแบบไหนกันครับ