AKR จ่อผุดโรงไฟฟ้า20MW งานใหญ่จ่อ-กำไรปีนี้สุดพีค
ทันหุ้น-AKR ฮุบงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าและหม้อแปลงล็อตใหญ่ หลัง คสช.ดีเดย์แผนพลังงานทางเลือก กันยายน นี้ “ดนุชา น้อยใจบุญ” จ้องผุดโรงไฟฟ้าโซล่าฟาร์ม 10-20 เมกกะวัตต์ ลั่นต้นทุนต่ำ โกยกำไรกระโดด แย้ม D/E ต่ำ 0.7 เท่า แบงก์เรียงคิวปล่อยกู้ ส่วนไตรมาส 3/2557 งบพุ่งโชว์งานใหม่ 3 พันล้านบาท ไตรมาส 4/2557 สุดแรงกำไรสูงแห่งปี ต้าน 2.00 บาท
นายดนุชา น้อยใจบุญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ AKR เปิดเผยกับ “หนังสือพิมพ์รายวันทันหุ้น” ว่า ประมาณเดือน กันยายน 2557 นี้คาดว่ารัฐบาลจะออกรายละเอียดของโครงการพลังงานทดแทนอย่างชัดเจน อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชุมชนรวม 800 เมกะวัตต์ มูลค่ากว่า 4.8 หมื่นล้านบาท
ทุ่มงบทำโรงไฟฟ้า10-20MW.
โดยขณะนี้บริษัทได้เดินหน้าเจรจาเพื่อรับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าแล้ว ซึ่งคาดหวังว่าจะได้รับงานมูลค่าค่อนข้างมาก จากปัจจุบันบริษัทไม่มีรายได้จากโครงการดังกล่าว ส่วนกรณีที่ คชส. มีนโยบายให้ตั้งโรงงานผลิตไฟฟ้าจากขยะในจังหวัดอยุธยาซึ่งเป็นโครงการนำร่องนั้น บริษัทจะได้รับอานิสงส์ขายหม้อแปลงไฟฟ้าในมูลค่าที่สูงด้วย
อีกทั้งบริษัทยังมีแนวคิดที่จะทุ่มงบเพื่อลงทุนทำโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซล่าฟาร์) จำนวน 10-20 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถสร้างกำไรได้มากกว่าผู้ประกอบการรายอื่นๆ เพราะบริษัทมีต้นทุนต่ำกว่า เนื่องจากมีโรงงานผลิตแผง และ ก่อสร้างเอง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างจัดหาที่ดินเพื่อเข้าลงทุน
ด้านงบลงทุนนั้นไม่ใช่ปัญหา เพราะขณะนี้บริษัทมีทั้งกระแสเงินสด และยังอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ต่ำเพียง 0.7 เท่า ซึ่งสามารถขอวงเงินกู้จากสถาบันการเงินได้นับพันล้านบาท และทางสถาบันการเงินเองก็ยินดีที่จะอนุมัติวงเงินกู้ให้กับโครงการดังกล่าวอยู่แล้ว โดยปัจจัยเชิงบวกเหล่านี้จะผลักดันให้ผลประกอบการปี 2558 เป็นต้นไปเติบโตในอัตราที่สูง
“ ปี 2558 มองว่าภาพรวมธุรกิจจะเร่งตัวขึ้น เพราะมีงานใหม่ๆเข้ามามาก เช่น การก่อสร้างโรงไฟฟ้า การลงทุนทำโรงไฟฟ้า และเชื่อมั่นว่าความต้องการหม้อแปลงจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ด้านลงทุนไม่ใช่ปัญหาเพราะสามารถกู้แบงก์ได้” นายดนุชา กล่าว
กำไรพีค-งบใหญ่จ่อ
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2557 จะเติบโตต่อเนื่อง จากไตรมาส 2/2557 ที่มีกำไรสุทธิที่ 14.33 ล้านบาท และ รายได้รวมที่ 465.04 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 3/2556 ที่ขาดทุนสุทธิที่ 6.97 ล้านบาท และรายได้รวมที่ 485.84 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 3/2557 บริษัทจะรับงานใหม่ๆ มากขึ้น ประกอบกับมีการบริหารจัดการด้านต้นทุนได้เป็นอย่างดี
โดยไตรมาส 3/2557 กำลังเข้าประมูลงานหม้อแปลงไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ของปีงบประมาณ 2557 (สิ้นเดือน ก.ย.57) มูลค่า 3 พันล้านบาท คาดได้รับงาน 10-15% หรือ 400 ล้านบาท ส่วนปีงบประมาณ 2558 คาดปริมาณงานประมูลจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10%
อีกทั้งอยู่ระหว่างประมูลงานหม้อแปลงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่อีก 2-3 พันล้านบาท คาดได้รับงานประมาณ 20-25% หรือประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งดีลนี้จะส่งมอบไตรมาส 1/2557 แต่ยังมีดีลหม้อแปลงไฟฟ้าของเอกชนรายเล็กอีกเป็นจำนวนมากที่คาดว่าจะได้รับและส่งมอบภายในปี 2557 นี้ ด้านงานประมูลต่างประเทศอยู่ที่ 500 ล้านบาท
สำหรับไตรมาส 4/2557 คาดกำไรสุทธิจะทำสถิติสูงสุดแห่งปี เพราะเป็นไตรมาสที่ทยอยส่งมอบงานเป็นจำนวนมาก ล่าสุดสิ้นไตรมาส 2/2557 บริษัทมีงานในมือ (Back log) ที่ 1.2 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในช่วงไตรมาส 3และ4/2557 กว่า 1 พันล้านบาท แต่จะรับรู้ในไตรมาส 4/2557 สูงสุด ส่วนทั้งปี 2557 คาดรายได้รวมจะเติบโตใกล้เคียงกับปี 2556 ที่มีรายได้ที่ 2.46 พันล้านบาท
นายดนุชากล่าวเสริมว่า แม้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เพิ่มกำลังผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าไปแล้ว และสามารถรองรับงานได้อีก 2-3 ปีข้างหน้า แต่หากปริมาณงานในระบบเข้ามาเป็นจำนวนมาก บริษัทก็มีโอกาสเพิ่มกำลังผลิตรอบใหม่เช่นเดียวกัน ด้วยการทุ่มงบเพื่อสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่เพิ่มเติมด้วย
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น AKR ในช่วงนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นแนะนำนักลงทุนเข้า “เก็งกำไร” โดยประเมินแนวต้าน 2 บาท ส่วนแนวรับที่ 1.80 บาท
AKR เริ่มปรับแผนธุรกิจ
ทันหุ้น-AKR ฮุบงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าและหม้อแปลงล็อตใหญ่ หลัง คสช.ดีเดย์แผนพลังงานทางเลือก กันยายน นี้ “ดนุชา น้อยใจบุญ” จ้องผุดโรงไฟฟ้าโซล่าฟาร์ม 10-20 เมกกะวัตต์ ลั่นต้นทุนต่ำ โกยกำไรกระโดด แย้ม D/E ต่ำ 0.7 เท่า แบงก์เรียงคิวปล่อยกู้ ส่วนไตรมาส 3/2557 งบพุ่งโชว์งานใหม่ 3 พันล้านบาท ไตรมาส 4/2557 สุดแรงกำไรสูงแห่งปี ต้าน 2.00 บาท
นายดนุชา น้อยใจบุญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ AKR เปิดเผยกับ “หนังสือพิมพ์รายวันทันหุ้น” ว่า ประมาณเดือน กันยายน 2557 นี้คาดว่ารัฐบาลจะออกรายละเอียดของโครงการพลังงานทดแทนอย่างชัดเจน อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชุมชนรวม 800 เมกะวัตต์ มูลค่ากว่า 4.8 หมื่นล้านบาท
ทุ่มงบทำโรงไฟฟ้า10-20MW.
โดยขณะนี้บริษัทได้เดินหน้าเจรจาเพื่อรับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าแล้ว ซึ่งคาดหวังว่าจะได้รับงานมูลค่าค่อนข้างมาก จากปัจจุบันบริษัทไม่มีรายได้จากโครงการดังกล่าว ส่วนกรณีที่ คชส. มีนโยบายให้ตั้งโรงงานผลิตไฟฟ้าจากขยะในจังหวัดอยุธยาซึ่งเป็นโครงการนำร่องนั้น บริษัทจะได้รับอานิสงส์ขายหม้อแปลงไฟฟ้าในมูลค่าที่สูงด้วย
อีกทั้งบริษัทยังมีแนวคิดที่จะทุ่มงบเพื่อลงทุนทำโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซล่าฟาร์) จำนวน 10-20 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถสร้างกำไรได้มากกว่าผู้ประกอบการรายอื่นๆ เพราะบริษัทมีต้นทุนต่ำกว่า เนื่องจากมีโรงงานผลิตแผง และ ก่อสร้างเอง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างจัดหาที่ดินเพื่อเข้าลงทุน
ด้านงบลงทุนนั้นไม่ใช่ปัญหา เพราะขณะนี้บริษัทมีทั้งกระแสเงินสด และยังอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ต่ำเพียง 0.7 เท่า ซึ่งสามารถขอวงเงินกู้จากสถาบันการเงินได้นับพันล้านบาท และทางสถาบันการเงินเองก็ยินดีที่จะอนุมัติวงเงินกู้ให้กับโครงการดังกล่าวอยู่แล้ว โดยปัจจัยเชิงบวกเหล่านี้จะผลักดันให้ผลประกอบการปี 2558 เป็นต้นไปเติบโตในอัตราที่สูง
“ ปี 2558 มองว่าภาพรวมธุรกิจจะเร่งตัวขึ้น เพราะมีงานใหม่ๆเข้ามามาก เช่น การก่อสร้างโรงไฟฟ้า การลงทุนทำโรงไฟฟ้า และเชื่อมั่นว่าความต้องการหม้อแปลงจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ด้านลงทุนไม่ใช่ปัญหาเพราะสามารถกู้แบงก์ได้” นายดนุชา กล่าว
กำไรพีค-งบใหญ่จ่อ
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2557 จะเติบโตต่อเนื่อง จากไตรมาส 2/2557 ที่มีกำไรสุทธิที่ 14.33 ล้านบาท และ รายได้รวมที่ 465.04 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 3/2556 ที่ขาดทุนสุทธิที่ 6.97 ล้านบาท และรายได้รวมที่ 485.84 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 3/2557 บริษัทจะรับงานใหม่ๆ มากขึ้น ประกอบกับมีการบริหารจัดการด้านต้นทุนได้เป็นอย่างดี
โดยไตรมาส 3/2557 กำลังเข้าประมูลงานหม้อแปลงไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ของปีงบประมาณ 2557 (สิ้นเดือน ก.ย.57) มูลค่า 3 พันล้านบาท คาดได้รับงาน 10-15% หรือ 400 ล้านบาท ส่วนปีงบประมาณ 2558 คาดปริมาณงานประมูลจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10%
อีกทั้งอยู่ระหว่างประมูลงานหม้อแปลงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่อีก 2-3 พันล้านบาท คาดได้รับงานประมาณ 20-25% หรือประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งดีลนี้จะส่งมอบไตรมาส 1/2557 แต่ยังมีดีลหม้อแปลงไฟฟ้าของเอกชนรายเล็กอีกเป็นจำนวนมากที่คาดว่าจะได้รับและส่งมอบภายในปี 2557 นี้ ด้านงานประมูลต่างประเทศอยู่ที่ 500 ล้านบาท
สำหรับไตรมาส 4/2557 คาดกำไรสุทธิจะทำสถิติสูงสุดแห่งปี เพราะเป็นไตรมาสที่ทยอยส่งมอบงานเป็นจำนวนมาก ล่าสุดสิ้นไตรมาส 2/2557 บริษัทมีงานในมือ (Back log) ที่ 1.2 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในช่วงไตรมาส 3และ4/2557 กว่า 1 พันล้านบาท แต่จะรับรู้ในไตรมาส 4/2557 สูงสุด ส่วนทั้งปี 2557 คาดรายได้รวมจะเติบโตใกล้เคียงกับปี 2556 ที่มีรายได้ที่ 2.46 พันล้านบาท
นายดนุชากล่าวเสริมว่า แม้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เพิ่มกำลังผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าไปแล้ว และสามารถรองรับงานได้อีก 2-3 ปีข้างหน้า แต่หากปริมาณงานในระบบเข้ามาเป็นจำนวนมาก บริษัทก็มีโอกาสเพิ่มกำลังผลิตรอบใหม่เช่นเดียวกัน ด้วยการทุ่มงบเพื่อสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่เพิ่มเติมด้วย
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น AKR ในช่วงนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นแนะนำนักลงทุนเข้า “เก็งกำไร” โดยประเมินแนวต้าน 2 บาท ส่วนแนวรับที่ 1.80 บาท