กรณีการเรียกเงินค่าประกันตัว มีข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการปล่อยชั่วคราวฯ อยู่ว่า
"คดีที่มีผลกระทบทางเศรษฐกิจซึ่งมีโทษปรับสูง ไม่ว่าจะมีโทษจำคุกหรือไม่ก็ตาม
ไม่ควรตีราคาประกันเกินกึ่งหนึ่งของค่าปรับขั้นสูง แต่ไม่ว่ากรณีใด ห้ามตีราคาประกันเกินค่าปรับขั้นสูง"

และมีกฎกระทรวงกำหนดให้นำข้อบังคับดังกล่าวมาใช้ในชั้นสอบสวนและชั้นอัยการด้วย
แต่ห้ามตีราคาประกันเกิน ๓ ใน ๔ ของราคาประกันตามข้อบังคับประธานศาลฎีกาฯ

กรณีที่ยกมา พรบ.ลิขสิทธิ์ วางโทษปรับ ๑๐๐,๐๐๐ - ๘๐๐,๐๐๐ บาท (ไม่ดูโทษจำคุก)
การตีราคาประกันชั้นสอบสวนจึงต้องไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท แต่ไม่ว่าจะอย่างไรต้องห้ามเกิน ๖๐๐,๐๐๐ บาท
ที่ตำรวจตีราคาประกัน ๒๐๐,๐๐๐ บาท จึงถือว่าอยู่ในเกณฑ์ (แต่ผมว่ามันมากไป)

ทั้งนี้ เงินค่าประกันตัวขอรับคืนได้เมื่อคดีเสร็จสิ้นจากชั้นนั้นๆ
เช่น หากส่งฟ้องแล้ว ก็ขอรับเงินค่าประกันในชั้นสอบสวน/อัยการคืนได้ *เต็มจำนวน
หากศาลมีคำพิพากษาหรือโจทก์ถอนฟ้องแล้ว ก็ขอรับเงินค่าประกันในชั้นศาลคืนได้ *เต็มจำนวน เช่นกัน
* หากไม่ผิดสัญญาประกัน

คดีลิขสิทธิ์เป็นคดีที่สามารถยอมความได้ครับ

ปล. เรื่องค่าประกันตัวรู้ไว้ใช่ว่านะครับ เพราะประชาชนส่วนมากมักไม่รู้ว่าเรทที่ตำรวจจะเรียกได้มันเท่าไรแน่
เคยเจอคดีฉ้อโกงทรัพย์ประมาณ ๑๘ ล้านบาท ตำรวจเรียกค่าประกันตัว ๑๒ ล้านบาท
ซึ่งเกินกว่าที่ข้อบังคับฯ กำหนดไปหลายเท่าตัว และฝ่าฝืนกฎหมายด้วยซ้ำ
คดีนี้ประกันชั้นศาลเพียง ๒๐๐,๐๐๐ บาท เท่านั้น