คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
เคยเจอหมอโมโหใส่เหมือนกัน อยู่ในกรุงเทพนี่เอง เป็นคนไข้หมอประจำ รักษากันมาหลายเดือนแล้ว วันนั้นหมอนัด 10 โมงเช้า ดิฉันก็นัดหมออีกคนโรงพยาบาลเดียวกัน 10.30 น. พอวันนัด ดิฉันไปถึงโรงพยาบาล ก่อนเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อตรวจเลือดก่อน แต่เจ้าหน้าที่หวังดีไปสลับคิวให้ ให้ดิฉันไปหาหมอคนที่นัดทีหลังก่อน เพราะยังไงก็ต้องรอผลเลือด และหมอคนที่สองว่างพอดี ดิฉันก็เลยไปตรวจกับหมอคนที่สอง
ปรากฏว่าหมอจับตรวจโน่นตรวจนี่ ต้องเอ็กซเรย์อีกแล้วคิวยาวมากจนเลยเวลานัดหมอคนแรกเยอะมาก ดิฉันให้พยาบาลโทรบอกหมอว่าดิฉันมาแล้วแต่ติดตรวจกับหมอ...อยู่ สรุปว่ากว่าจะเสร็จปาเข้าไปเที่ยง ก็รีบไปหาหมอคนแรกที่นัดไว้ แต่หมอออกไปทานข้าวและสั่งว่าเดี๋ยวจะเข้ามาตอนบ่ายครึ่ง ดิฉันก็นั่งรอ พอหมอมาแกดู
แฟ้มประวัติที่ดิฉันตรวจกับหมออื่นมา แล้วก็ตะโกนเสียงดังแบบโกรธมากว่า ไปตรวจอะไรมาเยอะแยะ ทำไมไม่มาหาผมก่อน ตรวจกับผม 10 นาทีก็เสร็จแล้ว
หมอดูโกรธมาก ดิฉันไม่กล้าพูดอะไรเลย หลังจากนั้นก็ถามอาการแบบเสียไม่ได้
และแนะนำสั้นๆ พร้อมจ่ายยา ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ดิฉันออกมาแล้วถึงนึกได้ว่าหมอมาโกรธคนไข้ทำไมเนี่ย ดิฉันไม่ได้เป็นคนสลับนัดเองสักหน่อย
สงสัยหมอคงโมโหที่ต้องออกตรวจ OPD ตอนบ่ายทั้งที่ต้องเสร็จตั้งแต่เที่ยงแล้ว
มาคิดตอนนี้ก็ปลงๆแล้ว หมออาจมีธุระก็ได้
เลยโมโห
ปรากฏว่าหมอจับตรวจโน่นตรวจนี่ ต้องเอ็กซเรย์อีกแล้วคิวยาวมากจนเลยเวลานัดหมอคนแรกเยอะมาก ดิฉันให้พยาบาลโทรบอกหมอว่าดิฉันมาแล้วแต่ติดตรวจกับหมอ...อยู่ สรุปว่ากว่าจะเสร็จปาเข้าไปเที่ยง ก็รีบไปหาหมอคนแรกที่นัดไว้ แต่หมอออกไปทานข้าวและสั่งว่าเดี๋ยวจะเข้ามาตอนบ่ายครึ่ง ดิฉันก็นั่งรอ พอหมอมาแกดู
แฟ้มประวัติที่ดิฉันตรวจกับหมออื่นมา แล้วก็ตะโกนเสียงดังแบบโกรธมากว่า ไปตรวจอะไรมาเยอะแยะ ทำไมไม่มาหาผมก่อน ตรวจกับผม 10 นาทีก็เสร็จแล้ว
หมอดูโกรธมาก ดิฉันไม่กล้าพูดอะไรเลย หลังจากนั้นก็ถามอาการแบบเสียไม่ได้
และแนะนำสั้นๆ พร้อมจ่ายยา ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ดิฉันออกมาแล้วถึงนึกได้ว่าหมอมาโกรธคนไข้ทำไมเนี่ย ดิฉันไม่ได้เป็นคนสลับนัดเองสักหน่อย
สงสัยหมอคงโมโหที่ต้องออกตรวจ OPD ตอนบ่ายทั้งที่ต้องเสร็จตั้งแต่เที่ยงแล้ว
มาคิดตอนนี้ก็ปลงๆแล้ว หมออาจมีธุระก็ได้
เลยโมโห
แสดงความคิดเห็น
เร็วๆค่ะคุณหมอกำลังโมโห!!...คำบอกจากพยาบาล
........วันแม่แห่งชาติ เรากลับจากกรุงเทพตั้งใจจะไปกราบแม่เหมือนทุกๆปี แต่พอดีวันนั้นแม่เราเกิดปวดท้องอย่างแรง
ตั้งแต่กลางดึกคืน11ส.ค เช้า12 เราเลยพาแม่ไปหาหมอที่ร.พเอกชนที่เคยผ่าใส้ติ่งมาเมื่อ3-4ปีก่อน
หมอบอกเหมือนมีก้อนในท้อง และแม่ก็รู้สึกเหมือนกันหมอแนะนำให้เข้าอุโมงค์ตรวจ เราก็ทำตาม
ผลออกมาทุกอย่างปกติ แต่ที่เหมือนมีก้อนน่าจะเกิดจากการอักเสบของลำใส้หมอบและให้ยามา
กินที่บ้าน วันนั้นจ่ายไปหมื่นหน่อยๆ.........................
วันที่14 แม่โทร.มาบอกว่าปวดท้องอีก แต่หนักกว่าเดิม เราเลยบอกให้แม่กลับไปหาหมอที่ร.พเดิม
แม่บอกไปไม่เป็นเอกชน เพราะทุกครั้งเราเป็นคนพาไปตลอด เราก็บอกไปร.พได้ เดี๋ยวเราโทร.ไปร.พเอง
แล้วเราก็โทร.ไปร.พ ฝากพยาบาลช่วยดูแลแม่หน่อย เพราะคนแก่ยื่นอะไร ทำอะไร ไม่เป็นและถ้าต้องนอน
ก็นอนได้เลย เพราะเราจะกลับกลางคืนถึงเช้า15แน่นอน พยาบาลก็ดูแลแม่อย่างดี และโทร.กลับมาบอกเรา
2ครั้งว่าแม่พบหมอแล้ว ได้นอนแล้ว เราสบายใจ..................และเดินทางกลับไปร้อยเอ็ดกลางคืนนั้น
เช้า15 เราไปหาแม่ที่ร.พ และได้พบหมอ หมอบอกแม่ไตเสื่อม ลำใส้อักเสบ เบาหวานสูง และมีอะไรอีกย่อยๆ
เราก็จำไม่ค่อยได้ หมอก็เข้าตรวจวันละ2ครั้งและบอกเรื่องอาการของแม่ตลอด หมอบอกแม่ต้องงดอาหารรสเค็ม
และคุ้มเบาหวาน เราก็บอกแม่กินรสเค็มมาตลอด และบอกหมอว่าถ้าแม่ออกจากร.พจะพาไปพักฟื้นที่กรุงเทพ
หมอก็ไม่ว่าอะไร วันที่16 เราก็ถามหมอว่าพรุ่งนี้กลับได้ไหม หมอบอกต้องรอดูค่าไต เบาหวาน และอะไรๆอีกก่อน
เราก็บอกอีกว่า ออกไปจะพาแม่ไปพักกทม. หมอก็ไม่ได้ว่าอะไร
เช้า17...หมอมาตรวจบอกผลของแม่ดีขึ้นถึงจะยังไม่เป๊ะก็ตาม แต่กลับบ้านได้ อีก5วันนัดเจาะเลือดดูอีกที
เราถามหมอว่ามีนัดอีกเหรอ เราบอกว่านึกว่าไม่มีนัดอีก หนูกะจะพาแม่ไปพักต่อที่กทม.ด้วย จะได้ดูเรื่อง
อาหารการกินของแม่ด้วย หมอแสดงอารมณ์โมโหเราขึ้นมาทันทีเลย ถามเราว่าแล้วใครจะรักษาแม่ต่อ
ส่วนมากคนไข้รักษากับหมอก็ต้องจบที่หมอ เราก็บอกเราไม่รู้ว่าโรคของแม่ต้องรักษายังไง เข้าใจว่าเหมือน
โรคทั่วไปคือออกจากร.พ ได้ยาไปกิน มีอะไรผิดปกติก็ค่อยกลับมาหาหมอ หมอบอกว่าค่าอะไรๆกับโรคแม่
ยังไม่ดีต้องรักษาต่อเนื่อง ถ้าไม่รักษาจะไตวาย ถ้าเราคิดว่าไปกท.ดีก็ไปหมอเก่งๆกท.เยอะแยะ
เราถามหมอว่า งั้นหมอแนะนำได้ไหมว่าควรทำยังไง เพราะเราเข้าใจผิดเอง หมอบอกว่า ถ้าเราคิดว่าไปกท.
ดีก็ไปและรับหน้าที่ดูแลแม่เราไปเองแล้วกัน แล้วก็ไปเริ่มต้นใหม่ที่ร.พ กท. แล้วหมอก็เดินออกจากห้องไป
.....ไม่ถึง5นาที พยาบาลวิ่งเข้าห้องมาถามเราว่า ช่วยบอกชือร.พที่จะไปรักต่อด้วย หมอต้องการชื่อร.พ
เราก็อธิบายกับพยาบาลว่า เราไม่ได้คิดว่าแม่จะต้องไปรักษาต่อที่ใหน นึกว่ากลับบ้านได้เลย หมอกับเราเข้า
คนละอย่างเราบอกแบบนี้ พยาบาลบอกว่า นั่นล่ะพี่บอกชื่อร.พก่อนเถอะ หมอกำลังโมโห!!อยู่ค่ะ
เราก็อึ้งหมอโมโหฉันทำไม แทนที่จะอธิบายเรื่องโรคของแม่ให้ฉันเข้าใจ แต่มาโมโหฉัน..............
เราเลยถามพยาบาลว่า แบบนี้เราควรทำไงดี พยาบาลบอกถ้าจะไปรักษาที่อื่นหมอจะได้ไม่ต้องจ่ายยาให้
เราเลยตัดสินใจบอกเอาแบบ5วันมาตรวจตามนัดแล้วกัน จบ............พยาบาลก็ออกจากห้องไป
เราคิดแค่ว่ากลับไปเอายาไปกินก่อนแล้วกัน แล้วค่อยคิดจะทำไงต่อไป
เราก็ได้แต่ งง ว่าทำไมหมอไม่พูดอธิบายกับเราดีๆว่าต้องทำยังไง หมอมีแผนรักษาแม่เรายังไง
สรุปแม่เข้านอน3คืน รวมๆจ่ายไป4หมื่นกว่าๆ ได้ยากลับกินที่บ้าน5วันวันละ3มื้อ มื้อละ14-12-13 เม็ด..
กลับบ้านไปแม่ก็ยังกินได้แต่อาหารอ่อนๆคือข้าวต้ม3-4คำและยามื้อละ10กว่าเม็ด ยังไม่มีเรี่ยวแรง
อ่อนเพลีย เสียงเหนื่อยตลอดเวลา วันที่2ที่กลับบ้านแม่วูบ เราต้องเรียกรถฉุกเฉินมารับ
คราวนี้เราเข้าร.พประจำจังหวัด(บัตรทอง) สรุปแม่เบาหวานขึ้นสูง395 และได้นอนต่อร.พนี้อีก2คืน
แต่แค่คืนเดียวแม่มีเรี่ยวแรงขึ้น และเหมือนคนปกติมากๆ อาหารกินได้ปกติแต่ให้เลือกเองเพราะเป็นเบาหวาน
การรักษาเราเห็นแค่ให้น้ำเกลือและฉีดยาเบาหวาน
ให้แม่เท่านั้น และหมอบอกเหมือนหมอร.พเอกชนคือ แม่ไตเสื่อมเพราะเป็นเบาหวานมา20ปี และให้เปลี่ยนมา
ฉีดยาเบาหวานแทนการกินยา จะได้ช่วยให้ไตที่ยังไม่เสื่อมใช้งานได้นาน...............
หลังจากออกจากร.พ แม่ก็เปลี่ยนจากกินยามาฉีดยาเบาหวานแทน และร่างกายหายเป็นปกติไม่เพลียหมดแรงค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ
ที่เราเอามาเล่า ก็เผื่อว่ามีท่านใดเคยเจอคุณหมอโมโหแบบเราหรือเปล่า
เราเจอครั้งเดียวคงเข็ดขยาดไม่กล้าเข้าร.พนี้อีกแล้วค่ะ