ถ้าคุณมีพี่ชายแบบนี้ จะทำอย่างไรกันคะ

เรารู้ไม่ค่อยละเอียดนะ บางเรื่องแม่ไม่บอก แต่เราดูแม่เราออกว่ามีอีก และเมื่อพร้อม แม่เราจะพูดเอง
ขอบอกแค่เรื่องที่สำคัญนะ

นิสัยฝังลึกของพี่ชาย

เป็นคนที่ไม่เอาอะไรเลย ชอบอยู่สบาย ไม่รักสิ่งของ ครอบครัว ตัวเอง
ตามใจเพื่อนสุด ๆ ทุกอย่าง ไม่สนใจ แม้กระทั่งความรู้สึกของพ่อ แม่ และเรา
โกหกให้ตัวเองดี คนอื่นไม่ดี พอจับได้ บอกว่า " ขอโทษ "
ตัวเองไม่เคยผิด คนอื่นผิดตลอด น้ำไม่อาบ ฟันไม่แปรง ผมไม่สระ งานการไม่ทำ ชอบสร้างแต่ปัญหา

ประวัติชีวิต

ทุกอย่างดี อยู่ในลู่ทาง จนกระทั่ง ม.4
ติดเพื่อน ในที่นี้ คือ อยากได้อะไร จัดให้หมด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเกม PS1 รถจักรยานยนต์ เสื้อผ้า นาฬิกา มือถือ ฯลฯ
( รถจักรยานยนต์ได้คืนมา แม่ไปทวงถึงบ้านเพื่อน )
ติดผู้หญิง คือ หมดเงิน ไม่รู้เอาอะไรคิด จีบผู้หญิงใช้เงินอย่างเดียว ซื้อของให้ทุกอย่าง เลี้ยงทุกอย่าง สุดท้าย..โดนทิ้ง

จบ ม.6 โรงเรียนใช้เท้าดันให้จบ เข้าใจนะ

เรียนเทคนิคต่างจังหวัด
เรียนไม่จบ ติด 0 ติด ไม่สมบูรณ์ เยอะ ไม่ค่อยเข้าเรียน อาจารย์ไม่รู้จักหน้า
รู้เรื่องเพราะ จดหมายผลการเรียนส่งมาที่บ้าน
หมดเงินไปเป็นแสน ครั้งที่ 1

กลับมาบ้าน เรียนราชภัฏที่บ้าน เอกคอม
แต่ไม่อยู่บ้าน อยู่หอกับเพื่อน
เรียนไม่จบ ติด 0 ติด ไม่สมบูรณ์ เยอะ ไม่ค่อยเข้าเรียน อาจารย์ไม่รู้จักหน้า ( เหมือนเดิม )
รู้เรื่องเพราะ อาจารย์โทรมาเพราะ..
เทอมล่าสุดกำลังจะหมดช่วงลงทะเบียน ถ้ายังไม่อยากเรียน ให้มารักษาสภาพไว้ก่อน
แม่เลยให้ไป " รักษาสภาพไว้ " ตามที่อาจารย์บอก
พี่ชาย บอกว่า ทำเรียบร้อยแล้ว ( หอเพื่อนกับราชภัฏห่างกันแค่ไม่กี่สิบเมตร )
หลังจากนั้น..
.
.
ก็โดนไล่ออกสิ ไม่ทำอะไรเลย โกหกเห็น ๆ
บอกแม่อีกว่า " เรียนยาก ไม่ค่อยเข้าใจ เลยไม่เข้าเรียน "
แม่ : งั้นจะเรียนอะไรล่ะ
พี่ชาย : อายุเยอะล่ะ ไม่อยากเรียน อายรุ่นน้อง
แม่ : ตอนเรียนทำไมไม่ตั้งใจเรียน
* แทรกนิดนึง ระหว่างเรียน พี่ชายเคยขอโน๊ตบุ๊ค แบบเรา แต่แม่ไม่ซื้อให้ เพราะที่บ้านมีคอมอยู่แล้ว กลับมาใช้ที่บ้านสิ
พี่ชาย : ผมเรียนไม่จบ เพราะแม่ไม่ซื้อโน๊ตบุ๊ค ให้แบบน้องนั้นแหละ
แม่ : ถ้าจะใช้คอม ทำไมไม่ใช้ที่บ้านล่ะ
พี่ชาย : ( เงียบ.. )
ความเห็นส่วนตัว : จริง ๆ ถ้าจะเรียน ก็บอกรุ่นน้องว่าซิ่ว หรือ เรียน ป.ตรี ใบ 2 ก็ได้ ใครจะรู้
หมดเงินไปเป็นแสน ครั้งที่ 2

เมื่อไม่เรียน ก็ต้องหางานทำ ใช้ วุฒิ ม.6 แต่..คนหางานกลับเป็นแม่ เฮ้ย !
พี่ชายเราไม่หา แม่เราก็คอยบอก ตรงนี้ตรงนู่นรับสมัคร ลองไปสมัครสิ
พี่ชาย บอกว่าสมัครแล้ว เค้าไม่เห็นเรียกไม่เห็นรับ
เรา : หรออ..( พูดกับแม่ )
เรา : แม่คิดว่า ไปสมัครจริงหรือป่าว
แม่ : ...น่าจะไม่แหละ หรือท่าจริง เค้าคงดูคนออก และเลือกที่จะไม่รับ
เรา : คิดเหมือนกัน ( พูดในใจ )

ตรงนี้แม่ไม่ได้เล่า..ความเป็นมา
พี่ชายไปมีภรรยา ( ไปทำเขาท้อง ไม่ได้แต่ง )
มีลูกกันแล้ว 2 คน ( คนโตไปอยู่กับแม่ภรรยา )

สถานการณ์ตอนนี้
แม่ตัดสินใจ ลงทุนเปิดร้านอาหารอย่างนึงให้ เงินเป็นแสน ( อีกแล้ว )
ซึ่งแม่ไปคนไปศึกษา อบรม หาสูตร อุปกรณ์ หาเช่าตึกแถว และทุก ๆ อย่างเอง และมาสอนพี่ชาย
พี่ชายเรา ทำหน้าที่ ซื้อของ เตรียม ขาย ดูแลร้าน ฯลฯ
ผลคือ..สรุปว่าทั้งหมดนั้น แม่ต้องมาทำเองหมดเลย ทุกขั้นตอน ตั้งแต่ซื้อของ ตี 4 ตี 5 ถึงปิดร้านตอนเย็น ในวันเสาร์อาทิตย์
เพราะวันธรรมดาแม่ก็ต้องทำงาน ( วันธรรมดา พี่ชายก็ไม่เปิดร้าน )
ส่วนพี่ชาย ภรรยา และ ลูกสาวอีกหนึ่ง สิ่งที่ทำ คือ ซักเสื้อผ้า ( หยอดเหรียญ ) และนอนดูทีวี กินข้าว อยู่ข้างบน
ลูกก็ไม่พาไปโรงเรียน แม่ต้องพาไปให้ น้ำไม่อาบทั้งสามคน ที่นอนก็ไม่ซัก ไม่ทำความสะอาดที่อยู่ , ร้าน ฯลฯ
ถามว่า..ตอนเปิดร้านในวันเสาร์อาทิตย์ ทำยังไง แน่นอน แม่เราต้องเคลียร์ทุกอย่างเอง โดยที่พี่ชาย ภรรยา ลูกพี่ชาย ไม่ช่วยเลย
เรา : แล้วพี่ชายเอาเงินไหนมาใช้ล่ะ
แม่ : ขอเเม่ไง
เรา : สรุปว่า แม่เปิดร้านเพื่อ ?

ระหว่างเรากับพี่ชาย
เราเป็นคนตรงข้ามกับพี่ชาย เราจึงไม่ถูกกับพี่ชายอยู่แล้ว
อายุห่างจากพี่ชาย 3 ปี ตอนพี่ชายเรียนราชภัฏ เราอยู่ปี 1 ต่างจังหวัด จึงไม่รู้เรื่องเลย
ตอนนั้น เรารู้แค่ว่าพี่ชายเรียนอยู่ราชภัฏ

ส่วนตัวเราตอนนี้
ทำงานที่กรุงเทพ ฯ มองความก้าวหน้า และกำลังหาที่ทำงานใหม่
ที่สามารถพัฒนาตัวเองต่อขึ้นไปได้ ทั้งด้านงาน และเงินเดือน
ไป ๆ มา ๆ ตอนนี้ อยากกลับไปทำงานแถว ๆ ที่บ้านล่ะ แต่ต่างจังหวัดไม่ค่อยมีงานตามเว็บ ต้องไปเดินหาเอาสิ
เป็นห่วงแม่อยู่คนเดียวที่บ้าน กับหมาแมว ต้องมาทำงานในส่วนพี่ชายอีก

ขอบคุณทุก ๆ ความเห็นจ้า
เราเป็นสมาชิกใหม่ ยังใช้ไม่ค่อยเป็น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่