สวัสดีคะ ชื่อกานต์นะคะ ท้องนี้เป็นท้องที่ 2 คะ เนื่องจากข้อมูลของ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า มีน้อยมากจึงอยากมาเล่า
ถึงประสบการณ์ที่เพิ่งผ่านมาคะ เราฝากท้องกับ คุณหมอปราโมทย์ ที่นาคราชสุวรรณภูมิคลีนิคตรงครุใน พระประแดงคะ
หาคุณหมอวันพฤหัสบดีคะ แรกๆ ก็เดือนละ 1 ครั้ง พบคุณหมอพร้อมรับยาบำรุงประมาณ 800 บาท แต่ที่นี่ไม่มีเครื่องอัลตราซาวด์นะคะ
ถ้าอยากซาวด์ต้องไปอีกคลีนิคของคุณหมอตรงบางปะแก้วคะ คุณหมอใจดีคะ เป็นห่วงสุขภาพเราดีคะ แกจะคอยดูเรื่องน้ำหนักแม่
และจะคอยถามถึงการดิ้นของลูกตลอด พอช่วง 34 สัปดาห์จะเริ่มนัดอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ของเราต้องนัดผ่าคลอดเพราะท้องแรกก็ผ่าคลอด
คุณหมอจะให้เข้าไปที่ รพ. เพื่อกำหนดวันผ่า เราก็เลยเลือกเข้าไปช่วงเช้า โดยใช้เส้นทาง ถนนสุขสวัสดิ์ แล้วไปตัดเข้า ถนนราษฎร์บูรณะ
เลี้ยวซ้ายไปทางแยกมไหสวรรย์ แล้วก็ไปเลี้ยวขวาเข้าถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน จากนั้นก็ชิดซ้ายขับไปเรื่อยๆ จนเจอรพ. ด้านซ้ายมือ
ก็เลี้ยวซ้ายขับไปตามทางจะเจอป้ายห้องคลอด ก็ขวาไปตามทางจนเจอสนามฟุตบอลทางซ้ายมือก็มองตรงจะเจอตึก 80 ปี ถ้ามาแท๊กซี่ก็วนไปจอดหน้าตึกเลย
รถส่วนตัวก็พอขับเลยจากสนามบอลให้เลี้ยวซ้ายจะมีตึกให้จอดรถด้านขวามือคะ พอเข้าไปในตึก 80 ปี ก็จะเจอพี่พยาบาลด้านขวามือถามว่า เคยมาที่รพ. หรือไม่
ของกานต์ไม่เคย พี่พยาบาลก็จะให้ลงทะเบียนใหม่นะคะ (แต่ถ้าเคยมีประวัติเค้าจะให้ไปห้องฝั่งตรงข้ามเพื่อตรวจสอบสิทธิ์) พอลงทะเบียนเสร็จเค้าก็ให้กานต์ไปที่ห้องฝั่งตรงข้าม
เพื่อทำบัตรรพ. โดยการนำบัตรประชาชนที่เป็นสมาร์ทการ์ดเสียบเข้าเครื่อง แล้วดึงข้อมูลส่วนตัวเราออกมาคะ จากนั้นก็เดินไปที่แผนกสูตินารีเวช ซึ่งอยู่ถัดจากโต๊ะลงทะเบียน
เสียค่าทำบัตร 20 บาทคะ ไปเสียในแผนกสูตินารีเวชเลยคะ แต่ก่อนหน้านั้นพี่พยาบาลก็จะทำการชั่งน้ำหนัก วัดความดัน ตามปกติคะ
รอสักพักคุณหมอก็มาทำการนัดหมายคิวที่จะจองห้องผ่าคลอดคะ จากนั้นพี่พยาบาลก็จะบอกค่าใช้จ่ายคร่าวๆ เราเลือกห้องพิเศษ 4 เตียง
ญาติผู้หญิงเฝ้าได้ 1 คน ค่าใช้จ่ายราวๆ 20,000-25,000 บาท และเราก็เลือกฝากพิเศษกับคุณหมอด้วยก็ต้องใส่ซองอีก 5,000 บาท
ในตอนแรกกำหนดของเราคือ 13 ส.ค.57 แต่ปรากฏว่า วันที่ 08 ส.ค. 57 เราดันปวดท้องก่อนก็เลยโทร.หาคุณหมอเพื่อปรึกษา คุณหมอเลยให้ไปรพ.ก่อน
พอไปถึงก็นำบัตรไปยื่นที่ตรงโต๊ะลงทะเบียน จากนั้นคุณหมอก็ตรวจภายใน หลังตรวจเสร็จจ่ายไป 100 บาท ปากมดลูกก็ยังไม่เปิด ก็ไปทำการฟังเสียงหัวใจ
เด็กในครรภ์เสียงหัวใจน้องเต้นดีคะ แต่เราปวดท้องจนทนไม่ไหว คุณหมอเลยถามว่าจะผ่าเลยไหม
เราทนไม่ไหวเลยผ่าเลยดีกว่า ด่านนี้โดนไปอีก 250 บาท จากนั้น คุณหมอส่งตัวเราไปห้องคลอดชั้น 2 ตัวคนไข้ไปก่อนเอกสารอีก แหะๆ
อ๋อลืมบอกติดญาติไปด้วย 1 คนนะคะ เอาไว้ทำเรื่องเอกสารต่างๆคะ ก่อนที่คุณหมอจะส่งตัวเราไปห้องผ่าคลอด
คุณหมอถามว่าจะใส่ยากันผังผืดด้วยไหม ราคา 3,210 บาท เราใส่เพราะเราท้องที่ 2 แล้วกลัวจะมีปัญหาก็เลยกันไว้ก่อนดีกว่า
หลังจากผ่าเสร็จก็ไปพักฟื้นที่ห้องดูอาการ จากนั้นก็ไปที่ห้องพักผู้ป่วยชั้น 8 เนื่องจากเรามาก่อนคิวที่จองห้องพิเศษเต็มคะ 5555
เลยไปอยู่ห้องสามัญ 6 เตียง เวลาเข้าเยี่ยม 12.00 น.- 20.00 น. แต่ตอนเราไปอยู่ไม่มีคุณแม่ท่านอื่นเลยคะ พวกพี่พยาบาลเลยแซวว่า เหมือนอยู่ห้องพิเศษคนเดียวเลย
แต่ห้ามญาติเฝ้า เราก็ไม่เป็นไรเพราะสามีกับแม่สามีต้องคอยดูลูกคนโตด้วย พยาบาลที่นี่อัธยาศัยดีเยอะนะคะ คือยิ้มแย้มแจ่มใส
ถามอะไรก็ตอบ บางคนก็เหมือนจะดุ ใช้น้ำเสียงขู่ๆ เวลาให้นมน้อง แต่พอสักพักเสียงก็จะอ่อนลงคือเข้าใจว่านางคงจะดุเพื่อให้เราทำให้ได้
ในเรื่องการให้นมแม่ พยาบาลที่นี่จะปล่อยให้เราพยายามเลี้ยงลูกเอง แต่ก็ต้องมีวินัยในการให้ลูกกินนม เราเห็นบางคนเค้าเตรียมเสื้อผ้าเด็ก
ผ้าขนหนู ผ้าห่อตัวไปใช้ก็ดีนะคะ เพราะตอนที่เราไป เป็นช่วงวันหยุดยาวก่อนวันแม่ พวกเสื้อผ้าเด็กและผ้าอ้อมเด็กที่ชั้น 8 ไม่พอใช้คะ แผนกซักเอามาส่งน้อย
แพมเพริส์ เตรียมไปก็ได้คะ หรือจะไปซื้อที่พยาบาลก็ได้คะ บรรยากาศในห้องพักผู้ป่วยแบบสามัญก็สะอาดดีคะ เพราะเป็นตึกใหม่ด้วยก็เลยยังโอเคอยู่
เราอยู่ตั้งแต่วันศุกร์ - อังคาร จริงๆ คุณหมอจะให้กลับตั้งแต่วันจันทร์แล้วแต่น้องตัวเหลืองเลยต้องอาบแดดอีก 1 วันคะ ค่าเสียหายทั้งหมด 14,850 บาท
ส่วนค่ายากันผังผืด 3 พันกว่านั้น จ่ายต่างหากตั้งแต่วันแรกเลยคะ รวมทั้งหมด 20+100+250+3,210+14,850+5,000=23,430 บาท
สำหรับเรารอบนี้ถูกกว่าตอนลูกคนแรกเยอะเลย ตอนคนแรกโดนไป 3 หมื่นนิดๆ ยังไม่รวมค่าฝากพิเศษอีก 5,000 บาท
โดยส่วนตัวประทับใจกับการบริการของที่นี่นะคะ อ๋อ เวลาเรากลับบ้านที่ห้องเนิร์สเค้าจะให้กระปุกสำลีกลับบ้านด้วย เหมือนของที่ระลึกเลย
สำหรับประสบการณ์ในห้องผ่าคลอด สนุกดีคะ พวกคุณหมอกับพยาบาลคุยกันหนุงหนิง เพื่อให้เราผ่อนคลายมั้งคะ
แอบดีใจคุณหมอชมว่าเราไม่มีผังผืดเลย แสดงว่าคนไข้ฟื้นตัวดี เอ่อปลื้มมากคะ
แต่สักพักคุณหมอก็ดับความดีใจของเราด้วยการบอกเราว่า คุณแม่ไขมันเยอะนะ กรี๊ดดดด
คุณหมอคะ เลาะออกไปเลยได้ไหม คุณหมอกับพยาบาลขำก๊ากเลยอ่ะ เราดิอย่างเซ็งเพราะท้องนี้น้ำหนักขึ้นเยอะ
เจอคุณหมอทีไร โดนบ่นทุกรอบว่าให้งด แป้ง ของมัน ของทอด ขนมหวาน แหะๆ งดไม่ได้สักอย่าง
ตอนนี้เลยนั่งพุงห้อยอยู่นี้ น้ำหนักเราขึ้นรวม 18 กก. หลังจากคลอดมา 6 วัน น้ำหนักลงไป 10 กก. ค้างอยู่อีก 8 กก.
โอ้ววววว ม่ายยยยยย !!!!! ลืมเรื่องน้ำหนักไปดีกว่าเนอะ มาคุยเรื่องรอยผ่ากันเนอะ
รอยผ่าคุณหมอสวยเรียบสมคำร่ำลือจริงๆ คะ (สวยเหมือนกับของ อ.วิทยา ที่ รพ.ศิริราชเลย)
หลังจากเปิดแผลคุณหมอจะให้ยามาทาด้วยคะ ยาชื่อ Dermatix Ultra คะ แผลเนียนจริงชอบมากเลย
หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ สำหรับคนที่กำลังคิดตัดสินใจเลือก รพ. นะคะ
กานต์
ผ่าคลอดที่ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือคะ
ถึงประสบการณ์ที่เพิ่งผ่านมาคะ เราฝากท้องกับ คุณหมอปราโมทย์ ที่นาคราชสุวรรณภูมิคลีนิคตรงครุใน พระประแดงคะ
หาคุณหมอวันพฤหัสบดีคะ แรกๆ ก็เดือนละ 1 ครั้ง พบคุณหมอพร้อมรับยาบำรุงประมาณ 800 บาท แต่ที่นี่ไม่มีเครื่องอัลตราซาวด์นะคะ
ถ้าอยากซาวด์ต้องไปอีกคลีนิคของคุณหมอตรงบางปะแก้วคะ คุณหมอใจดีคะ เป็นห่วงสุขภาพเราดีคะ แกจะคอยดูเรื่องน้ำหนักแม่
และจะคอยถามถึงการดิ้นของลูกตลอด พอช่วง 34 สัปดาห์จะเริ่มนัดอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ของเราต้องนัดผ่าคลอดเพราะท้องแรกก็ผ่าคลอด
คุณหมอจะให้เข้าไปที่ รพ. เพื่อกำหนดวันผ่า เราก็เลยเลือกเข้าไปช่วงเช้า โดยใช้เส้นทาง ถนนสุขสวัสดิ์ แล้วไปตัดเข้า ถนนราษฎร์บูรณะ
เลี้ยวซ้ายไปทางแยกมไหสวรรย์ แล้วก็ไปเลี้ยวขวาเข้าถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน จากนั้นก็ชิดซ้ายขับไปเรื่อยๆ จนเจอรพ. ด้านซ้ายมือ
ก็เลี้ยวซ้ายขับไปตามทางจะเจอป้ายห้องคลอด ก็ขวาไปตามทางจนเจอสนามฟุตบอลทางซ้ายมือก็มองตรงจะเจอตึก 80 ปี ถ้ามาแท๊กซี่ก็วนไปจอดหน้าตึกเลย
รถส่วนตัวก็พอขับเลยจากสนามบอลให้เลี้ยวซ้ายจะมีตึกให้จอดรถด้านขวามือคะ พอเข้าไปในตึก 80 ปี ก็จะเจอพี่พยาบาลด้านขวามือถามว่า เคยมาที่รพ. หรือไม่
ของกานต์ไม่เคย พี่พยาบาลก็จะให้ลงทะเบียนใหม่นะคะ (แต่ถ้าเคยมีประวัติเค้าจะให้ไปห้องฝั่งตรงข้ามเพื่อตรวจสอบสิทธิ์) พอลงทะเบียนเสร็จเค้าก็ให้กานต์ไปที่ห้องฝั่งตรงข้าม
เพื่อทำบัตรรพ. โดยการนำบัตรประชาชนที่เป็นสมาร์ทการ์ดเสียบเข้าเครื่อง แล้วดึงข้อมูลส่วนตัวเราออกมาคะ จากนั้นก็เดินไปที่แผนกสูตินารีเวช ซึ่งอยู่ถัดจากโต๊ะลงทะเบียน
เสียค่าทำบัตร 20 บาทคะ ไปเสียในแผนกสูตินารีเวชเลยคะ แต่ก่อนหน้านั้นพี่พยาบาลก็จะทำการชั่งน้ำหนัก วัดความดัน ตามปกติคะ
รอสักพักคุณหมอก็มาทำการนัดหมายคิวที่จะจองห้องผ่าคลอดคะ จากนั้นพี่พยาบาลก็จะบอกค่าใช้จ่ายคร่าวๆ เราเลือกห้องพิเศษ 4 เตียง
ญาติผู้หญิงเฝ้าได้ 1 คน ค่าใช้จ่ายราวๆ 20,000-25,000 บาท และเราก็เลือกฝากพิเศษกับคุณหมอด้วยก็ต้องใส่ซองอีก 5,000 บาท
ในตอนแรกกำหนดของเราคือ 13 ส.ค.57 แต่ปรากฏว่า วันที่ 08 ส.ค. 57 เราดันปวดท้องก่อนก็เลยโทร.หาคุณหมอเพื่อปรึกษา คุณหมอเลยให้ไปรพ.ก่อน
พอไปถึงก็นำบัตรไปยื่นที่ตรงโต๊ะลงทะเบียน จากนั้นคุณหมอก็ตรวจภายใน หลังตรวจเสร็จจ่ายไป 100 บาท ปากมดลูกก็ยังไม่เปิด ก็ไปทำการฟังเสียงหัวใจ
เด็กในครรภ์เสียงหัวใจน้องเต้นดีคะ แต่เราปวดท้องจนทนไม่ไหว คุณหมอเลยถามว่าจะผ่าเลยไหม
เราทนไม่ไหวเลยผ่าเลยดีกว่า ด่านนี้โดนไปอีก 250 บาท จากนั้น คุณหมอส่งตัวเราไปห้องคลอดชั้น 2 ตัวคนไข้ไปก่อนเอกสารอีก แหะๆ
อ๋อลืมบอกติดญาติไปด้วย 1 คนนะคะ เอาไว้ทำเรื่องเอกสารต่างๆคะ ก่อนที่คุณหมอจะส่งตัวเราไปห้องผ่าคลอด
คุณหมอถามว่าจะใส่ยากันผังผืดด้วยไหม ราคา 3,210 บาท เราใส่เพราะเราท้องที่ 2 แล้วกลัวจะมีปัญหาก็เลยกันไว้ก่อนดีกว่า
หลังจากผ่าเสร็จก็ไปพักฟื้นที่ห้องดูอาการ จากนั้นก็ไปที่ห้องพักผู้ป่วยชั้น 8 เนื่องจากเรามาก่อนคิวที่จองห้องพิเศษเต็มคะ 5555
เลยไปอยู่ห้องสามัญ 6 เตียง เวลาเข้าเยี่ยม 12.00 น.- 20.00 น. แต่ตอนเราไปอยู่ไม่มีคุณแม่ท่านอื่นเลยคะ พวกพี่พยาบาลเลยแซวว่า เหมือนอยู่ห้องพิเศษคนเดียวเลย
แต่ห้ามญาติเฝ้า เราก็ไม่เป็นไรเพราะสามีกับแม่สามีต้องคอยดูลูกคนโตด้วย พยาบาลที่นี่อัธยาศัยดีเยอะนะคะ คือยิ้มแย้มแจ่มใส
ถามอะไรก็ตอบ บางคนก็เหมือนจะดุ ใช้น้ำเสียงขู่ๆ เวลาให้นมน้อง แต่พอสักพักเสียงก็จะอ่อนลงคือเข้าใจว่านางคงจะดุเพื่อให้เราทำให้ได้
ในเรื่องการให้นมแม่ พยาบาลที่นี่จะปล่อยให้เราพยายามเลี้ยงลูกเอง แต่ก็ต้องมีวินัยในการให้ลูกกินนม เราเห็นบางคนเค้าเตรียมเสื้อผ้าเด็ก
ผ้าขนหนู ผ้าห่อตัวไปใช้ก็ดีนะคะ เพราะตอนที่เราไป เป็นช่วงวันหยุดยาวก่อนวันแม่ พวกเสื้อผ้าเด็กและผ้าอ้อมเด็กที่ชั้น 8 ไม่พอใช้คะ แผนกซักเอามาส่งน้อย
แพมเพริส์ เตรียมไปก็ได้คะ หรือจะไปซื้อที่พยาบาลก็ได้คะ บรรยากาศในห้องพักผู้ป่วยแบบสามัญก็สะอาดดีคะ เพราะเป็นตึกใหม่ด้วยก็เลยยังโอเคอยู่
เราอยู่ตั้งแต่วันศุกร์ - อังคาร จริงๆ คุณหมอจะให้กลับตั้งแต่วันจันทร์แล้วแต่น้องตัวเหลืองเลยต้องอาบแดดอีก 1 วันคะ ค่าเสียหายทั้งหมด 14,850 บาท
ส่วนค่ายากันผังผืด 3 พันกว่านั้น จ่ายต่างหากตั้งแต่วันแรกเลยคะ รวมทั้งหมด 20+100+250+3,210+14,850+5,000=23,430 บาท
สำหรับเรารอบนี้ถูกกว่าตอนลูกคนแรกเยอะเลย ตอนคนแรกโดนไป 3 หมื่นนิดๆ ยังไม่รวมค่าฝากพิเศษอีก 5,000 บาท
โดยส่วนตัวประทับใจกับการบริการของที่นี่นะคะ อ๋อ เวลาเรากลับบ้านที่ห้องเนิร์สเค้าจะให้กระปุกสำลีกลับบ้านด้วย เหมือนของที่ระลึกเลย
สำหรับประสบการณ์ในห้องผ่าคลอด สนุกดีคะ พวกคุณหมอกับพยาบาลคุยกันหนุงหนิง เพื่อให้เราผ่อนคลายมั้งคะ
แอบดีใจคุณหมอชมว่าเราไม่มีผังผืดเลย แสดงว่าคนไข้ฟื้นตัวดี เอ่อปลื้มมากคะ
แต่สักพักคุณหมอก็ดับความดีใจของเราด้วยการบอกเราว่า คุณแม่ไขมันเยอะนะ กรี๊ดดดด
คุณหมอคะ เลาะออกไปเลยได้ไหม คุณหมอกับพยาบาลขำก๊ากเลยอ่ะ เราดิอย่างเซ็งเพราะท้องนี้น้ำหนักขึ้นเยอะ
เจอคุณหมอทีไร โดนบ่นทุกรอบว่าให้งด แป้ง ของมัน ของทอด ขนมหวาน แหะๆ งดไม่ได้สักอย่าง
ตอนนี้เลยนั่งพุงห้อยอยู่นี้ น้ำหนักเราขึ้นรวม 18 กก. หลังจากคลอดมา 6 วัน น้ำหนักลงไป 10 กก. ค้างอยู่อีก 8 กก.
โอ้ววววว ม่ายยยยยย !!!!! ลืมเรื่องน้ำหนักไปดีกว่าเนอะ มาคุยเรื่องรอยผ่ากันเนอะ
รอยผ่าคุณหมอสวยเรียบสมคำร่ำลือจริงๆ คะ (สวยเหมือนกับของ อ.วิทยา ที่ รพ.ศิริราชเลย)
หลังจากเปิดแผลคุณหมอจะให้ยามาทาด้วยคะ ยาชื่อ Dermatix Ultra คะ แผลเนียนจริงชอบมากเลย
หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ สำหรับคนที่กำลังคิดตัดสินใจเลือก รพ. นะคะ
กานต์