หากลูกสาวมาขอลองสูบบุหรี่

สวัสดีค่ะ อยากขอความเห็นและคำแนะนำจากคุณพ่อ คุณแม่ รวมทั้งวัยรุ่นและทุกรุ่นค่ะ

หากวันนึงลูกสาวอายุ 18 มาบอกว่าอยากลองและขอลองสูบบุหรี่
อยากทราบว่า คุณพ่อและคุณแม่จะมีวิธีพูดและรับมือกับเหตุการณ์นี้อย่างไรคะ

ส่วนน้องๆ วัยรุ่น อยากทราบว่า หากขออนุญาตจากพ่อแม่
คาดหวังอย่างไรคะ ต้องการให้พ่อแม่อนุญาตหรือไม่อนุญาต
และรู้สึกอย่างไร อยากให้พ่อแม่มี feedback ในลักษณะไหน


ปล สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นพ่อแม่ และวัยรุ่น เราก็อยากได้คำแนะนำและความเห็นเช่นกันค่ะ

รบกวนด้วยนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
ผมคนนึงละที่ตอนวัยรุ่น ม.ปลาย หม่รู้ว่าตอนนั้นอยู่ในอารมณ์ไหน ถามแม่ว่าสูบบุหรี่ดีมั้ย?
แม่ผมทำหน้าผิดหวังมาก แล้วด่าๆ เอาไปบอกคนอื่นหมดว่าผมถามคำถามสิ้นคิดแบบนี้
มันทำให้ผมยั๊วะ เลยสูบจริงซะเลย

แต่พอโตขึ้นมาก็เลิกครับ เพราะรู้สึกเองว่ามันไม่ดี
แถมที่บ้านก็ไม่มีใครทำเป็นตัวอย่าง
ไม่เคยเห็นพ่อสูบ แต่ยอมรับว่าตอนวัยรุ่นก็สูบอยู่
พ่อไม่เคยเมาเหล้ากลับบ้าน ผมก็เลยอายถ้าตัวเองจะเมาเหล้ากลับบ้าน
อยู่กับน้อง น้องสูบบุหรี่ ผมบังคับเลยว่าอยู่กับผมอย่าสูบให้เห็น และไม่ต้องแบบว่าคุยๆอยู่เสี้ยนบุหรี่แล้วขอตัวออกไปสูบ

ผมว่าจังหวะนี้สำคัญมากๆนะ ถ้าเราตอบไปไม่ดี จะทำให้เด็กเตลิดไปจริงๆ
ทำให้ดูเป็นตัวอย่างเถอะครับ ชี้ให้เห็นว่าคนสูบบุหรี่กับไม่สูบต่างกันยังไง
บอกเลยว่าของอย่างนี้ห้ามยาก แต่ถ้าเราปลูกฝังความคิดลงไป เด็กมันจะรู้เองว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ วัยนี้อาจตามเพื่อน แต่โตมาก็คิดได้เอง

คนที่ลองแล้ว ผมว่า 100คน เลิกไม่ได้ 90กว่าคนครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
เป็นเราจะให้ลองในบ้านค่ะ ตอนเด็กๆจำได้ว่าญาติเราคนหนึ่งจะให้ลูกๆลองทานเหล้าที่บ้าน บอกว่าถ้าเด็กไปเจอเพื่อนชวนทานเหล้าข้างนอกแล้วเพื่อนมาท้าทายว่า ไม่เคยกินเหล้าอะดิ ลูกจะได้ตอบได้ว่า เคยกินแล้ว ไม่เห็นอร่อยเลย หรือถ้าเด็กอยากรู้อยากลองอยู่แล้ว ให้ลองในบ้านดีกว่าไปลองไกลหูไกลตา ถ้าอยากเมาก็ให้เมาเลย ให้รู้ลิมิตตัวเอง พอออกไปทานข้างนอกจะได้รู้ว่าทานเท่าไหร่ถึงจะคุมสติอยู่

เราว่าการที่ลูกมาขอนี่แปลว่าเลี้ยงมาดีมากเลยนะคะ เพราะเด็กวัยรุ่นคนอื่นเขาอาจจะไม่บอกพ่อแม่ ไปลองเองกับเพื่อน

แต่เราจะบอกเขาก่อนว่า การสูบบุหรี่นั้นเป็นอันตรายต่อปอดอย่างไร เป็นสาเหตุของมะเร็งปอด สูบนานๆ อาจจะเจ็บคอมีเสมหะตลอดเวลา บอกลูกว่าคนที่เขาไม่ชอบกลิ่นบุหรี่อาจจะรังเกียจเรา อาจจะเหม็นรำคาญ คือเราจะบอกเขาว่าข้อเสียของมันเป็นอย่างไร ให้เขารู้ครบถ้วน แล้วเลือกตัดสินใจเอง เราคงไม่พูดคำเช่นว่า "เป็นผู้หญิง ทำไม่ได้นะ มันดูไม่ดี" จะไม่เอาความคิดจารีตนิยมหรือเอาความคิดเห็นของเราไปตัดสินลูก เพราะสิ่งนี้มันไม่ได้ผิด มันเป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตที่เขาเลือกจะทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ แล้วแต่เขาจะชั่งน้ำหนักประโยชน์และโทษของมัน
ความคิดเห็นที่ 3
ผมจะถามลูกว่า ทำไมถึงอยากสูบ?

แล้วดูว่าที่จริงแล้วลูกต้องการอะไรกันแน่ เช่น ความเท่ หรือ การยอมรับ

แล้วส่งเสริมและช่วยในตัวเลือกอื่นที่ไม่ใช่บุหรี่ ที่ทำให้ลูกได้สิ่งนั้นๆมาครับ

แต่ถ้ายังยืนยันที่จะอยากลอง ก็จะพาไปดูผลเสียจากบุหรี่ เอาแบบหาตัวอย่างที่รุนแรงให้มากที่สุด

แล้วค่อยถามอีกทีว่าอยากลองจริงๆใช่มั้ย

ถ้าหากเขายังไม่ฟัง ก็คงต้องให้เขาลอง แต่เราก็คอยควบคุมอยู่ห่างๆ เพราะผมคิดว่า ถ้าหากเราไม่ให้ ยังไงเขาก็แอบทำอยู่ดีถ้าเขาจะทำ

สู้เราให้เขาลอง แต่เราคอยดูแลอยู่ดีกว่า โดยเน้นว่า "คือการลองนะ" ไม่ใช่ "การสูบแบบจริงจัง"

ปล. ผมก็เคยลอง แบบไม่ขอพ่อแม่ด้วย(แอบๆ) ดูดอยู่ปีนึง แล้วก็เลิกไป เพราะรู้สึกว่าตั้งแต่ดูดบุหรี่กลายเป็นคนเหนื่อยง่ายมาก
จากเมื่อก่อนเป็นนักกีฬาวิ่งเต็มสปีดได้หลายกิโลยังไม่เหนื่อย พอสูบบุหรี่ แค่เดินขึ้นบรรไดก็เหนื่อยแล้ว เลยเลิก เพราะอยากได้ร่างกายเดิมคืนมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่