เหตุจราจลในมิซซูรี่สะท้อนปัญหาความแตกแยกในอเมริกา





จากกรณีที่ตำรวจได้สังหารวัยรุ่นผิวดำอายุ18ปีที่ขโมยของในร้านค้าแห่งหนึ่งในเมืองเฟอกูสัน รัฐมิสซูรี่จนถึงแก่ความตาย
จนเกิดเหตุการประท้วงของคนผิวดำจนลามกลายเป็นเหตุจราจล มีการปล้นสะดมร้านค้า
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าสังคมอเมริกันยังคงมีรอยร้าวที่ฝังอยู่ในจิตใจลึกๆเกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติและสีผิว
ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้ประธานาธิบดีจะชื่อบารัก โอบาม่า ซึ่งมีเชื้อสายแอฟริกัน อเมริกันก็ตาม

ซึ่งหากวัยรุ่นที่ถูกยิงเสียชีวิตเป็นเด็กผิวขาวเรื่องราวแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นแน่นอน

การจราจลที่เกิดขึ้น ผู้ว่าการรัฐยังใช้แค่ตำรวจในการควบคุมสถานการณ์
แต่ตำรวจที่ว่านี้ติดอาวุธหนักรวมถึงต้องใช้รถหุ้มเกราะ เพราะอย่างที่ทราบกันว่าปืนเป็นสิ่งที่คนอเมริกันสามารถซื้อหามาครอบครองได้โดยเสรี คนอเมริกันจึงมีปืนกันทุกบ้าน ในการก่อเหตุจราจลนี้ปืนจำนวนมากที่แต่ละบ้านครอบครองเอาไว้จึงถูกนำมาใช้ก่อเหตุด้วย

ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง ล่าสุดประธานาธิบดีโอบาม่าเข้ามาสั่งการโดยตรงแล้ว เพราะกลัวจะเป็นเหตุน้ำผึ้งหยดเดียว

ว่าไปแล้วประเทศที่เป็นผู้นำโลกอย่างอเมริกา ลึกๆแล้วมีปัญหาต่างๆซ่อนอยู่มากมาย ปัญหาบางอย่างเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก นี่ยังไม่นับเรื่องของเศรษฐกิจที่ตอนนี้กำลังแย่ เรื่องหนี้พันธบัตร เรื่องพิมพ์ดอลล่าออกมาใช้ เรื่องวินัยการออมของคนในชาติ

ไม่รู้ว่าอเมริกาจะรักษาสถานะมหาอำนาจหนึ่งเดียวของโลกได้อีกนานเท่าไร
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่