เมื่อวานนี้ 15/8/57 ผมเดินทางจากชลบุรีเข้า กทม. โดยใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ พอไปได้เกือบถึงทางเข้าศูนย์อาหารรถผมก็มีเสียงดังมากที่ห้องเครื่องและรถก็ไม่มีกำลังขับเคลื่อน ผมจึงเลี้ยวเข้าไปจอดที่ทางเข้าศูนย์อาหาร อาการที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากหัวเทียนผมหลุดออกมาจากเบ้าหัวเทียน ที่ทราบเพราะว่าเคยเกิดขึ้นมาก่อนครับ เนื่องจากเกลียวที่เสื้อสูบมันเสีย หลังจากที่พยายามทดลองใส่อยู่เกือบ2ชม.ผมก็เลิกเพราะเครื่องมือไม่พร้อมจึงตัดสินใจโทรเข้าศูนย์บริการของมอเตอร์เวย์เพื่อขอความช่วยเหลือโดยทางศูนย์แนะนำให้ติดต่อกูภัยมอเตอร์เวย์แทน ซึ่งทางศูนย์แจ้งว่าจะส่งช่างมาดูให้ซึ่งผมได้ถามถึงค่าบริการทางศูนย์ก็แจ้งว่าบริการฟรี
หลังจากรอได้สักพักเจ้าหน้าที่ก็มาถึง มากัน3คนเลย ผมขอให้ทางช่างใส่หัวเทียนให้หน่อย แต่คนที่มีอายุกลับบอกว่าไม่ใช่เพราะหัวเทียน แต่เครื่องมันต้องมีปัญหามันถึงหลุด และจะให้ลากไปที่อยู่ใกล้ๆแทนโดยที่ไม่คิดจะลองใส่ให้เลย เลยให้ช่างโทรถามว่าที่อู่ทำเกลียวหัวเทียนได้หรือไม่แต่ช่างคนที่ผอม สูงกลับบอกว่าโทรไม่ติด ผมก็ตกลงให้ลากไปเพราะรู้อยู่แล้วว่าแค่หัวเทียนหลุดไม่น่ายากและเกรงใจช่างที่มาช่วย
แต่พอไปถึงอู่ผมพูดไม่ออกเลย เพราะอู่ที่ไปนี้มันแทบจะเป็นเพิงข้างถนน มีรถเก่าๆทำอยู่แค่คันเดียว เครื่องมืออะไรก็แทบไม่มี ก็ลองลงไปถามดู(ต้องรีบ เพราะพอไปถึงอู่ ทางช่างที่ลากรถให้ก็ทำท่าจะรีบชิ่งทันที ) ว่าเกลียวหัวเทียนรูดทำได้ไหม เท่าไร ช่างที่อู่ก็บอกว่า ต้องรู้เครื่อง รื้อฝาสูบ บลาๆๆๆๆ แต่ไม่ยอมบอกราคา ผมเลยเดินหนีเลย เพราะที่เคยเจอมาอาการนี้คือกำลังจะโดนฟันค่าซ่อม และคิดว่ามันต้องทำหลายวันแน่ ไม่ทิ้งดีกว่า(อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ทางอู่อาจจะเก่งแต่ภายนอกดูไม่ดีก็ได้ แต่ผมไม่ขอเสี่ยง)
ผมรีบเดินไปคุยกับทางช่างของกู้ภัยมอเตอร์เวย์ ว่าขอให้ลากไปที่อู่อื่นแทน ซึ่งอยู่ใกล้กับทางลงมอเตอร์เวย์พนัสนิคม คนที่ผอมสูงก็รีบบอกทันทีว่าแล้วพี่จะช่วยค่าลากผมเท่าไร พอได้ยินผมอึ้งไปเล็กน้อยเพราะที่ศูนย์บอกฟรีแต่ทำไมมาขอกันแบบนี้ (เดิมทีผมตั้งใจจะตอบแทนอยู่แล้วครับ แต่ไม่คิดว่าจะมาเรียกร้องเองแบบนี้) ผมถามกลับไปว่าสักเท่าไร เขาก็ตอบมาว่าสัก1000 แล้วกู้ภัยแก่ๆอีกคนก็เข้ามาก็บอกว่า อู่นั้นมันไกลมาก เกินขอบเขต ผมเลยบอกว่าลากไปก่อนละกัน ซึ่งระหว่างทางก็เจอรถที่กำลังเสียข้างทางเป็นผู้หญิงซึ่งกำลังรอรถลากของเขาอยู่ คนกลุ่มนี้ก็รีบลงไปถาม ว่ารถเป็นอะไร ให้ลากให้ไหมจะได้ไม่ต้องรอรถของเขาเอง ซึ่งเขาก็ตอบปฏิเสธมา ผมฟังดูแล้วก็งงๆ ทำไม่ไม่ดูให้เขาก่อนว่ารถเป็นอะไร จำเป็นต้องลากไหม คุณเป็นช่างไม่ใช่หรือ
หลังจากนั้นทางกู้ภัยก็ลากรถผมไปที่อยู่ของชลบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากทางลง ประมาณ9กม. พอไปถึงผมก็คุยกับทางกู้กัยและควักเงินออกมา พร้อมทั้งขอใบเสร็จรับเงิน 1000บาท แต่ทางคนผอมสูงกลับบอกว่าออกใบเสร็จไม่ได้ผมจึงถามต่อไปว่างั้นค่าใช้จ่ายนี่คือคุณเรียกเก็บเองหรือบริษัทเรียกเก็บ ทางกู้ภัยก็เงียบแล้วก็บอกว่าถ้างั้นผมลากมาให้พี่ฟรีก็ได้แล้วก็รีบขึ้นรถไปเลย นั่นก็แสดงว่าเงิน1000บาทนี้ไม่น่าจะเป็นค่าบริการของบริษัทนะครับ
กู้ภัยที่มามี3คนครับแต่มี2คนที่เรียกร้องคือคนที่สูงอายุหน่อย กับคนผอมสูง ส่วนคนที่เหลือที่ออกขาว-ท้วม ไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย
ดังนั้นหากคุณรถเสียบนทางมอเตอร์เวย์ผมขอแนะนำดังนี้ครับ
1.หลังจากที่นำรถหลบข้างทางที่ปลอดภัยแล้วให้โทรหาศูนย์มอเตอร์เวย์เลยเพื่อขอเบอร์กู้ภัย เบอร์โทรศูนย์ก็อยู่ที่หลังบัตรที่เราได้รับนั่นแหละครับ (กู้ภัยมีหลายที่ หลายเขต ติดต่อผ่านศูนย์ง่ายที่สุด)
2.ติดต่อกู้ภัยตามเบอร์ที่ได้มา แจ้งความต้องการว่าอยากให้ช่วยเหลืออย่างไร พร้อมทั้งถามถึงค่าบริการ (ผมคิดว่าฟรีนะ เพราะตอนที่ผมถามทางศูนย์บอกไม่มีค่าบริการ)
3.เมื่อรถกู้ภัยมาถึงให้เขาลองดูให้ก่อนว่าแก้ไขเฉพาะหน้าได้ไหม ถ้าได้ให้ทำเลย ในกรณีที่น้ำมันหมดอย่าลืมถามศูนย์นะครับว่าค่าน้ำมันเท่าไร เดี๋ยวจะเจอลิตรละ 100-200
4.ในกรณีที่ต้องลากไปอู่ อย่าให้เขาลากไปที่อู่ของเขาที่แนะนำเพราะอาจมีการฟันเกิดขึ้นแต่ถ้าอยากลองก็ลองได้ครับอู่ดีๆก็น่าจะมีแต่ก็ลองตัดสินใจเอาเองครับ และก็ให้ระวังนะครับ ถ้าเขาลากรถลงจากมอเตอร์เวย์แล้ว เขาอาจจะปฏิเสธเราได้นะครับ
5.ในกรณีที่อู่เราอยู่ไกลมากและอาจมีการเรียกค่าใช้จ่าย ให้โทรคุยกับศูนย์กู้ภัยแทน ซึ่งถ้าทางศูนย์บอกว่ามีค่าใช้จ่ายก็จ่ายๆไปเถอะครับมันคงไม่เยอะหรอก น่าจะถูกว่าที่ผมโดนเรียกเยอะ
ตืนภัย เมื่อรถคุณเสียบนมอเตอร์เวย์
หลังจากรอได้สักพักเจ้าหน้าที่ก็มาถึง มากัน3คนเลย ผมขอให้ทางช่างใส่หัวเทียนให้หน่อย แต่คนที่มีอายุกลับบอกว่าไม่ใช่เพราะหัวเทียน แต่เครื่องมันต้องมีปัญหามันถึงหลุด และจะให้ลากไปที่อยู่ใกล้ๆแทนโดยที่ไม่คิดจะลองใส่ให้เลย เลยให้ช่างโทรถามว่าที่อู่ทำเกลียวหัวเทียนได้หรือไม่แต่ช่างคนที่ผอม สูงกลับบอกว่าโทรไม่ติด ผมก็ตกลงให้ลากไปเพราะรู้อยู่แล้วว่าแค่หัวเทียนหลุดไม่น่ายากและเกรงใจช่างที่มาช่วย
แต่พอไปถึงอู่ผมพูดไม่ออกเลย เพราะอู่ที่ไปนี้มันแทบจะเป็นเพิงข้างถนน มีรถเก่าๆทำอยู่แค่คันเดียว เครื่องมืออะไรก็แทบไม่มี ก็ลองลงไปถามดู(ต้องรีบ เพราะพอไปถึงอู่ ทางช่างที่ลากรถให้ก็ทำท่าจะรีบชิ่งทันที ) ว่าเกลียวหัวเทียนรูดทำได้ไหม เท่าไร ช่างที่อู่ก็บอกว่า ต้องรู้เครื่อง รื้อฝาสูบ บลาๆๆๆๆ แต่ไม่ยอมบอกราคา ผมเลยเดินหนีเลย เพราะที่เคยเจอมาอาการนี้คือกำลังจะโดนฟันค่าซ่อม และคิดว่ามันต้องทำหลายวันแน่ ไม่ทิ้งดีกว่า(อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ทางอู่อาจจะเก่งแต่ภายนอกดูไม่ดีก็ได้ แต่ผมไม่ขอเสี่ยง)
ผมรีบเดินไปคุยกับทางช่างของกู้ภัยมอเตอร์เวย์ ว่าขอให้ลากไปที่อู่อื่นแทน ซึ่งอยู่ใกล้กับทางลงมอเตอร์เวย์พนัสนิคม คนที่ผอมสูงก็รีบบอกทันทีว่าแล้วพี่จะช่วยค่าลากผมเท่าไร พอได้ยินผมอึ้งไปเล็กน้อยเพราะที่ศูนย์บอกฟรีแต่ทำไมมาขอกันแบบนี้ (เดิมทีผมตั้งใจจะตอบแทนอยู่แล้วครับ แต่ไม่คิดว่าจะมาเรียกร้องเองแบบนี้) ผมถามกลับไปว่าสักเท่าไร เขาก็ตอบมาว่าสัก1000 แล้วกู้ภัยแก่ๆอีกคนก็เข้ามาก็บอกว่า อู่นั้นมันไกลมาก เกินขอบเขต ผมเลยบอกว่าลากไปก่อนละกัน ซึ่งระหว่างทางก็เจอรถที่กำลังเสียข้างทางเป็นผู้หญิงซึ่งกำลังรอรถลากของเขาอยู่ คนกลุ่มนี้ก็รีบลงไปถาม ว่ารถเป็นอะไร ให้ลากให้ไหมจะได้ไม่ต้องรอรถของเขาเอง ซึ่งเขาก็ตอบปฏิเสธมา ผมฟังดูแล้วก็งงๆ ทำไม่ไม่ดูให้เขาก่อนว่ารถเป็นอะไร จำเป็นต้องลากไหม คุณเป็นช่างไม่ใช่หรือ
หลังจากนั้นทางกู้ภัยก็ลากรถผมไปที่อยู่ของชลบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากทางลง ประมาณ9กม. พอไปถึงผมก็คุยกับทางกู้กัยและควักเงินออกมา พร้อมทั้งขอใบเสร็จรับเงิน 1000บาท แต่ทางคนผอมสูงกลับบอกว่าออกใบเสร็จไม่ได้ผมจึงถามต่อไปว่างั้นค่าใช้จ่ายนี่คือคุณเรียกเก็บเองหรือบริษัทเรียกเก็บ ทางกู้ภัยก็เงียบแล้วก็บอกว่าถ้างั้นผมลากมาให้พี่ฟรีก็ได้แล้วก็รีบขึ้นรถไปเลย นั่นก็แสดงว่าเงิน1000บาทนี้ไม่น่าจะเป็นค่าบริการของบริษัทนะครับ
กู้ภัยที่มามี3คนครับแต่มี2คนที่เรียกร้องคือคนที่สูงอายุหน่อย กับคนผอมสูง ส่วนคนที่เหลือที่ออกขาว-ท้วม ไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย
ดังนั้นหากคุณรถเสียบนทางมอเตอร์เวย์ผมขอแนะนำดังนี้ครับ
1.หลังจากที่นำรถหลบข้างทางที่ปลอดภัยแล้วให้โทรหาศูนย์มอเตอร์เวย์เลยเพื่อขอเบอร์กู้ภัย เบอร์โทรศูนย์ก็อยู่ที่หลังบัตรที่เราได้รับนั่นแหละครับ (กู้ภัยมีหลายที่ หลายเขต ติดต่อผ่านศูนย์ง่ายที่สุด)
2.ติดต่อกู้ภัยตามเบอร์ที่ได้มา แจ้งความต้องการว่าอยากให้ช่วยเหลืออย่างไร พร้อมทั้งถามถึงค่าบริการ (ผมคิดว่าฟรีนะ เพราะตอนที่ผมถามทางศูนย์บอกไม่มีค่าบริการ)
3.เมื่อรถกู้ภัยมาถึงให้เขาลองดูให้ก่อนว่าแก้ไขเฉพาะหน้าได้ไหม ถ้าได้ให้ทำเลย ในกรณีที่น้ำมันหมดอย่าลืมถามศูนย์นะครับว่าค่าน้ำมันเท่าไร เดี๋ยวจะเจอลิตรละ 100-200
4.ในกรณีที่ต้องลากไปอู่ อย่าให้เขาลากไปที่อู่ของเขาที่แนะนำเพราะอาจมีการฟันเกิดขึ้นแต่ถ้าอยากลองก็ลองได้ครับอู่ดีๆก็น่าจะมีแต่ก็ลองตัดสินใจเอาเองครับ และก็ให้ระวังนะครับ ถ้าเขาลากรถลงจากมอเตอร์เวย์แล้ว เขาอาจจะปฏิเสธเราได้นะครับ
5.ในกรณีที่อู่เราอยู่ไกลมากและอาจมีการเรียกค่าใช้จ่าย ให้โทรคุยกับศูนย์กู้ภัยแทน ซึ่งถ้าทางศูนย์บอกว่ามีค่าใช้จ่ายก็จ่ายๆไปเถอะครับมันคงไม่เยอะหรอก น่าจะถูกว่าที่ผมโดนเรียกเยอะ