สวัสดีค่ะทุกท่าน วันนี้ดิชั้นอยากมาแชร์ประสบการณ์ที่ไม่รู้สึกประทับใจอย่างแรง กับการที่เราอยู่ในภาวะผู้ที่เดือดร้อน แต่กับบุคคลบางกลุ่มที่ยังหากินอยุ่บนความทุกข์ของคนอื่นค่ะ
วันอังคารที่ผ่านมาดิชั้นและสามีเดินทางจะไปฮันนิมูนเล็กๆที่พัทยา และเดินทางโดยใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ ก่อนออกจากบ้านสามีก็ทำการตรวจเช็ค น้ำหม้อน้ำก่อนเดินทางไกลทุกครั้ง ขับมาได้สักใกล้ๆจุดพักรถ รถมีอาการคือ แอร์ไม่เย็น และความร้อนขึ้นสูง สามีตึงตัดสินใจปิดแอร์ เปิดหน้าต่าง และรีบขับรถไปจอดตรงปั้ม ปตท. เพื่อเช็คเครื่องยนต์
แต่พอเปิดดูปรากฎว่าถังพักน้ำ (อาจจะเรียกไม่ถูกต้องขออภัยด้วยค่ะ) ไม่มีน้ำเหลือสักหยดแถมมีควันขึ้นละสั่นเหมือนจะระเบิดออกมา จึงแจ้งขอคงามช่วยเหลือจากสายด่วนทางหลวง 1586 ทางเจ้าหน้าที่ก็ประสานงานให้ทางศูนย์ให้ความช่วยเหลือในเขตนั้นเข้ามาดูค่ะ
รอประมาณ 1 ชั่วโมงเจ้าหน้าก็มาถึง และแจ้งว่าถังพักน้ำรั่ว ต้องเปลี่ยน ยังไงก็ต้องเปลี่ยน แต่สามีเถียงว่าไม่น่าใช่เพราะรถเพิ่งเข้าอู่มาละให้อู่เช็คแล้ว อาจจะเป็นที่คอมแอร์หรือพัดลม แต่ตัวเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเช็คให้ได้
จึงเสนอว่าให้ลากรถไปที่อู่ที่ใกล้ที่สุดที่พนัสนิคม เพื่อให้อู่เช็คให้ แต่รถของดิชั้นลากไม่ได้ เนื่องจากเป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อมีความเสี่ยงที่เกียร์จะพังและทางเจ้าหน้าที่จะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นหากให้เค้าลากไปแล้วเกียร์พัง เราจึงไม่มีทางเลือกเลยต้องเลือกให้เอารถมายกไป โดยทั้งอู่และรถยกเจ้าหน้าที่ทำการติดต่อให้
ค่ารถยกจากจุดพักรถไปพนัสนิคมราคา 1800 บาทซึ่งเราคุยกันคิดว่า เอาไปเถอะอย่างน้อยถึงอู่แล้ว ช่างอาจจะให้คำตอบเราได้มากขึ้น เมื่อติดต่อให้เสร็จเจ้าหน้าที่ก็จากไป เราก็รอรถยกอีก30 นาที จากนั้นรถยกก็พาเราไปที่อู่ ในช่วงที่รอดิชั้นก็เซิร์ทในอินเตอร์เน็ต พบว่ามีสมาชิกในพันทิพเองก็เคยตั้งกระทู้เตือนภัยรถเสียบนมอเตอร์เวย์ไว้แต่พอเล่าให้สามีฟัง เค้าก็บอกว่าเราอาจจะไม่ซวยขนาดนั้น
พอถึงอู่แล้วเหมือนข้อความที่มีสมาชิกพันทิพย์เคยแชร์ไว้คือ เป็นเหมือนอู่ร้าง ทางเข้าห่างจากถนนใหญ่ เป็นซอยเล็กๆ ไม่มีรถซ่อม ไม่มีใครอยุ่ สอบถามรถยกบอกอู่นี้แหละ ทั้งอู่มีช่างคนเดียว ซ่อมไว พอเอารถเราลงเสร็จเค้าก็จากไป และให้เบอร์ช่างไว้ โทรไปสอบถามช่างบอกอีก1 ชั่วโมงจะรีบเข้าไป
ในขณะที่รอเราก็นึกขึ้นได้ว่าเคยขอเบอร์ช่างซ่อมรถในอู่ๆนึงเอาไว้ เลยให้สามีโทรไปปรึกษา เค้าแนะนำให้รอให้รถเย็นจนเอามือจับเครื่องได้ เติมน้ำในหม้อให้เต็ม ปิดแอร์แล้วขับออกมาได้ เพราะกลัวต้องทิ้งรถไว้แล้วเค้าจะรื้อของในรถ
พอช่างเจ้าของอู่มาถึง เค้าก็เอาที่เป่าลมมาพยามพ่นที่หม้อน้ำ เพื่อบอกว่าหม้อน้ำเรารั่วนะ เค้าก็พยามพ่นๆอยุ่นั่นล่ะ แล้วเค้าบอกเครื่องเราพังนะต้องทิ้งรถไว้ ยังไงก็ต้องทิ้งไว้ให้ซ่อม จากนั้นก็ถอดท่ออะไรออกก็ไม่รู้แล้วเอากาวมาป้ายๆแล้วบอกเนี่ยท่อเปื่อยต้องเปลี่ยน สามีเห็นท่าไม่ดีเลยบอกพี่เติมน้ำก็พอเดี๋ยวผมเอาไปซ่อมที่กทม. เค้าเหมือนจะโมโหๆที่ไม่ยอมทิ้งรถให้เค้า เค้าก็ฮึดฮัท สามีเลยรีบตัดบทว่าเท่าไหร่ เค้าบอกงั้นเอามา 200 เราเลยรีบจ่ายแล้วรีบเผ่นออกมา
พอมาถึงกทม. เข้าอู่ใกล้บ้านปรากฎว่า พัดลมพัดเอื่อย เปลี่ยนพัดลม ขอเช็คหม้อน้ำ และเช็คระบบน้ำทั้งหมดเพราะกลัวอุดตัน เสียไป 700 บาทรถกลับมาดีเหมือนเดิม พอลองเล่าให้ช่างของอู่ใกล้บ้านฟัง เค้าบอกว่าพวกนี้เค้ากินกันเป็นทอดๆ เค้ารุ้จักกัน ดีแล้วที่ไม่ซ่อม
จะเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมเลยค่ะ ในขณะที่เราเดือดร้อนและไม่รู้จะพึ่งใคร ยังมีพวกเหลือบไร หากินง่ายๆบนความเดือดร้อนของคนอื่น
ขอบคุณค่ะ
############### อัพเดทที่ คห. 26 ค่ะ ###############
ขอบคุณทุกท่านค่ะ ที่เข้ามาอ่านและร่วมกันแชร์ประสบการณ์ค่ะ ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำตอนไหนไม่รู้ แต่วันนี้ตอนบ่ายๆ สามีแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ของทางมอเตอร์เวย์ที่เข้ามาดูให้ได้โทรมา ให้แก้ไขข้อมูลที่โพสลงไปนี้เพราะเค้าโดยเจ้านายด่าและทำให้หน่วยงานเสียหายค่ะ
- อย่างแรกเลยคือเค้าแจ้งให้แก้ไขว่าเค้าเสนอทางเลือกให้เราแล้วว่าเค้าลากให้ได้ แต่มีโอกาสสูงที่เกียร์จะพัง ซึ่งเรามองว่าถ้าเกียร์พังน่ะงานช้างเลย เราเลยเลือกทางที่2ที่จะเอาขึ้นรถยกไป(ถ้าลากแล้วรถมีโอกาสเสียมากกว่าเดิม เป็นใครก็คงไม่เลือกทางนั้นเนอะ)
- ให้แก้ข่าวประมาณว่าหน่วยงานของเค้าไม่ได้กินกันเป็นทอดๆนะ ไม่รู้จักกัน ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางอู่ (คำพูดอาจจะไม่เป๊ะแต่จับใจความได้ประมาณนี้ค่ะ)
เพื่อนๆพี่ๆ คิดว่าอย่างไรกันบ้างคะ เอายังไงดีเอ่ย
### แชร์ประสบการณ์ รถเสียบน มอเตอร์เวย์ ###
วันอังคารที่ผ่านมาดิชั้นและสามีเดินทางจะไปฮันนิมูนเล็กๆที่พัทยา และเดินทางโดยใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ ก่อนออกจากบ้านสามีก็ทำการตรวจเช็ค น้ำหม้อน้ำก่อนเดินทางไกลทุกครั้ง ขับมาได้สักใกล้ๆจุดพักรถ รถมีอาการคือ แอร์ไม่เย็น และความร้อนขึ้นสูง สามีตึงตัดสินใจปิดแอร์ เปิดหน้าต่าง และรีบขับรถไปจอดตรงปั้ม ปตท. เพื่อเช็คเครื่องยนต์
แต่พอเปิดดูปรากฎว่าถังพักน้ำ (อาจจะเรียกไม่ถูกต้องขออภัยด้วยค่ะ) ไม่มีน้ำเหลือสักหยดแถมมีควันขึ้นละสั่นเหมือนจะระเบิดออกมา จึงแจ้งขอคงามช่วยเหลือจากสายด่วนทางหลวง 1586 ทางเจ้าหน้าที่ก็ประสานงานให้ทางศูนย์ให้ความช่วยเหลือในเขตนั้นเข้ามาดูค่ะ
รอประมาณ 1 ชั่วโมงเจ้าหน้าก็มาถึง และแจ้งว่าถังพักน้ำรั่ว ต้องเปลี่ยน ยังไงก็ต้องเปลี่ยน แต่สามีเถียงว่าไม่น่าใช่เพราะรถเพิ่งเข้าอู่มาละให้อู่เช็คแล้ว อาจจะเป็นที่คอมแอร์หรือพัดลม แต่ตัวเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเช็คให้ได้
จึงเสนอว่าให้ลากรถไปที่อู่ที่ใกล้ที่สุดที่พนัสนิคม เพื่อให้อู่เช็คให้ แต่รถของดิชั้นลากไม่ได้ เนื่องจากเป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อมีความเสี่ยงที่เกียร์จะพังและทางเจ้าหน้าที่จะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นหากให้เค้าลากไปแล้วเกียร์พัง เราจึงไม่มีทางเลือกเลยต้องเลือกให้เอารถมายกไป โดยทั้งอู่และรถยกเจ้าหน้าที่ทำการติดต่อให้
ค่ารถยกจากจุดพักรถไปพนัสนิคมราคา 1800 บาทซึ่งเราคุยกันคิดว่า เอาไปเถอะอย่างน้อยถึงอู่แล้ว ช่างอาจจะให้คำตอบเราได้มากขึ้น เมื่อติดต่อให้เสร็จเจ้าหน้าที่ก็จากไป เราก็รอรถยกอีก30 นาที จากนั้นรถยกก็พาเราไปที่อู่ ในช่วงที่รอดิชั้นก็เซิร์ทในอินเตอร์เน็ต พบว่ามีสมาชิกในพันทิพเองก็เคยตั้งกระทู้เตือนภัยรถเสียบนมอเตอร์เวย์ไว้แต่พอเล่าให้สามีฟัง เค้าก็บอกว่าเราอาจจะไม่ซวยขนาดนั้น
พอถึงอู่แล้วเหมือนข้อความที่มีสมาชิกพันทิพย์เคยแชร์ไว้คือ เป็นเหมือนอู่ร้าง ทางเข้าห่างจากถนนใหญ่ เป็นซอยเล็กๆ ไม่มีรถซ่อม ไม่มีใครอยุ่ สอบถามรถยกบอกอู่นี้แหละ ทั้งอู่มีช่างคนเดียว ซ่อมไว พอเอารถเราลงเสร็จเค้าก็จากไป และให้เบอร์ช่างไว้ โทรไปสอบถามช่างบอกอีก1 ชั่วโมงจะรีบเข้าไป
ในขณะที่รอเราก็นึกขึ้นได้ว่าเคยขอเบอร์ช่างซ่อมรถในอู่ๆนึงเอาไว้ เลยให้สามีโทรไปปรึกษา เค้าแนะนำให้รอให้รถเย็นจนเอามือจับเครื่องได้ เติมน้ำในหม้อให้เต็ม ปิดแอร์แล้วขับออกมาได้ เพราะกลัวต้องทิ้งรถไว้แล้วเค้าจะรื้อของในรถ
พอช่างเจ้าของอู่มาถึง เค้าก็เอาที่เป่าลมมาพยามพ่นที่หม้อน้ำ เพื่อบอกว่าหม้อน้ำเรารั่วนะ เค้าก็พยามพ่นๆอยุ่นั่นล่ะ แล้วเค้าบอกเครื่องเราพังนะต้องทิ้งรถไว้ ยังไงก็ต้องทิ้งไว้ให้ซ่อม จากนั้นก็ถอดท่ออะไรออกก็ไม่รู้แล้วเอากาวมาป้ายๆแล้วบอกเนี่ยท่อเปื่อยต้องเปลี่ยน สามีเห็นท่าไม่ดีเลยบอกพี่เติมน้ำก็พอเดี๋ยวผมเอาไปซ่อมที่กทม. เค้าเหมือนจะโมโหๆที่ไม่ยอมทิ้งรถให้เค้า เค้าก็ฮึดฮัท สามีเลยรีบตัดบทว่าเท่าไหร่ เค้าบอกงั้นเอามา 200 เราเลยรีบจ่ายแล้วรีบเผ่นออกมา
พอมาถึงกทม. เข้าอู่ใกล้บ้านปรากฎว่า พัดลมพัดเอื่อย เปลี่ยนพัดลม ขอเช็คหม้อน้ำ และเช็คระบบน้ำทั้งหมดเพราะกลัวอุดตัน เสียไป 700 บาทรถกลับมาดีเหมือนเดิม พอลองเล่าให้ช่างของอู่ใกล้บ้านฟัง เค้าบอกว่าพวกนี้เค้ากินกันเป็นทอดๆ เค้ารุ้จักกัน ดีแล้วที่ไม่ซ่อม
จะเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมเลยค่ะ ในขณะที่เราเดือดร้อนและไม่รู้จะพึ่งใคร ยังมีพวกเหลือบไร หากินง่ายๆบนความเดือดร้อนของคนอื่น
ขอบคุณค่ะ
############### อัพเดทที่ คห. 26 ค่ะ ###############
ขอบคุณทุกท่านค่ะ ที่เข้ามาอ่านและร่วมกันแชร์ประสบการณ์ค่ะ ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำตอนไหนไม่รู้ แต่วันนี้ตอนบ่ายๆ สามีแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ของทางมอเตอร์เวย์ที่เข้ามาดูให้ได้โทรมา ให้แก้ไขข้อมูลที่โพสลงไปนี้เพราะเค้าโดยเจ้านายด่าและทำให้หน่วยงานเสียหายค่ะ
- อย่างแรกเลยคือเค้าแจ้งให้แก้ไขว่าเค้าเสนอทางเลือกให้เราแล้วว่าเค้าลากให้ได้ แต่มีโอกาสสูงที่เกียร์จะพัง ซึ่งเรามองว่าถ้าเกียร์พังน่ะงานช้างเลย เราเลยเลือกทางที่2ที่จะเอาขึ้นรถยกไป(ถ้าลากแล้วรถมีโอกาสเสียมากกว่าเดิม เป็นใครก็คงไม่เลือกทางนั้นเนอะ)
- ให้แก้ข่าวประมาณว่าหน่วยงานของเค้าไม่ได้กินกันเป็นทอดๆนะ ไม่รู้จักกัน ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางอู่ (คำพูดอาจจะไม่เป๊ะแต่จับใจความได้ประมาณนี้ค่ะ)
เพื่อนๆพี่ๆ คิดว่าอย่างไรกันบ้างคะ เอายังไงดีเอ่ย