เมื่อวานอยู่ๆเค้าก็มาบอกผมว่า
แฟน : เค้ามีอะไรจะบอก มันเป็นความผิดเค้าเอง
ผม : อะไร เราทะเลาะกันเหรอ
แฟน : เปล่า ก็ปกติดี แต่อยากจะบอกว่า เค้าเป็นมุสลิมนะ ขอโทษที่ไม่เคยบอก
ผม : >>> สตั๊นไปประมาณ 10 วิ <<< แล้วยังไงอะ (แต่ในใจรู้แล้วว่าแต่งงานกันลำบากแน่ๆ)
แฟน : เค้ารู้ว่าหม่าม๊าเฮียไม่ให้แต่งกับเค้าหรอก เฮียคนจีน เค้าไม่รับสะใภ้มุสลิม และคงไม่ให้เฮียมาเข้ามุสลิมแน่ๆ
ผม : เฮียไม่รู้อะ แต่หม่าม๊าคงไม่ว่าอะไรหรอก คนอื่นก็ช่างเค้า (เจ๊กับอาอี้ผม ไม่ชอบแฟนผมตั้งแต่รู้ว่าไม่ใช่คนจีนแล้ว ถ้ายิ่งรู้ว่าเป็นมุสลิม บ้านแตกแน่)
แฟน : เค้าก็ไม่มีพ่อไม่มีแม่แล้ว เค้าก็ไม่ใช่มุสลิมที่ดีอะไรมาก หมูก็กิน ไม่ได้เคร่ง ฮิญาบก็ไม่ใส่ เค้าจะออกมุสลิมละกัน
ผม : เฮ้ย บ้าเหรอ มันทำได้ด้วยเหรอ พูดง่ายนะ งี้ที่รักก็บาปสิ
แฟน : บาปมานานแล้วล่ะ บ้านเค้าก็ไม่เคร่งเท่าไหร่หรอก ลุงกับป้าก็เคร่งพอเป็นพิธี แม่บุญธรรมค่อนข้างเคร่ง แต่เค้าไม่แคร์
ผม : ถ้ามันง่ายขนาดนั้น เค้าคงทำกันเยอะเลยสิ
แฟน : ไม่รู้สิ เคยเจอแต่ไม่เข้ามุสลามตามก็เลิกกัน
ผม : แล้วเพื่อนที่รักล่ะ เป็นมุสลิมรึป่าว เค้าจะแอนตี้มั้ย?
แฟน : เรื่องเพื่อนวางใจเถอะ มีเพื่อนมุสลิมแค่สองคน นอกนั้นไทยพุทธหมด
ผม : >>> หลังจากนั้นผมก็เงียบแล้วก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย งงๆเบลอๆไปเลย<<<
แฟน : เค้ารู้ว่าเฮียลำบากใจ แต่ที่เค้าจะยอมออก ยอมบาปหนักเพื่อเฮีย เพราะเค้าเสียเฮียไปไม่ได้จริงๆ เฮียคือที่สุดแล้วอะ เค้ามองหาคนที่จะมาพาเค้าออกไปจากจุดนี้มานานแล้ว พอเจอเฮีย เฮียก็มาตอบโจทย์ทุกอย่าง เค้าคิดว่าเค้าเจอคนนั้นแล้ว มันต้องใช้เวลามาตั้งเท่าไหร่กว่าจะมาเจอคนที่เราตามหา เค้าเสียใจ เค้าอยู่โดดเดี่ยวมาตั้งแต่เด็กๆ เฮียก็รู้ว่าพ่อแม่เค้าเสียไปนานแล้ว อยู่กับลุงป้ากับแม่บุญธรรมเค้าก็ไม่มีความสุข เค้าฝันว่าอยากมีครอบครัวเป็นของตัวเอง (พูดไปก็ร้องไห้ไป)
ผม : โอ๋ๆๆ ถ้าตัดสินใจดีแล้ว ก็แล้วแต่ที่รัก เฮียคิดอะไรไม่ออกแล้วจริงๆ (กอดแฟน ลูบหัวแฟน ซาบซึ้ง น้ำตาไหล ตั้งแต่คบกันมาแฟนพึ่งเคยพูดอะไรแบบนี้)
ช่วยแนะนำผมทีครับ ผมควรจะทำยังไงต่อไปดี? ให้เรื่องนี้จบแบบมีความสุขที่สุด ตลอดเวลาที่คบกันแฟนมา 3 ปี ผมรับรู้เรื่องครอบครัวแฟนทั้งหมด ผมรู้ว่าแฟนผมอึดอัดใจทุกครั้งที่กลับบ้านไปเจอป้า เพราะป้าไม่ดีกับเธอมากๆ เคยเอาเสื้อผ้าเธอไปโยนทิ้งไว้หน้าบ้านแล้วไล่ออกจากบ้าน ส่วนลุงก็ไม่ค่อยจะสนใจอะไร แม่บุญธรรมก็ชอบบังคับเธอไปทุกอย่างจนอยู่ด้วยไม่ได้ แฟนผมก็ต้องหอบเสื้อผ้ามาซื้อคอนโดอยู่ แต่ก็ยังต้องกลับไปบ้านเรื่อยๆ เพราะก็ไม่มีญาติที่ไหนแล้ว ถ้าหายไปเลย เธอก็จะไม่เหลือใคร เหลือแต่ผมที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายจริงๆ ตอนแรกผมยังไม่พร้อมจริงๆที่จะแต่งงาน แต่พอได้ยินแฟนพูดว่าผมคือที่สุดแล้ว ประกอบกับการยอมเสียสละที่จะเป็นคนบาปเพื่อจะได้แต่งงานกับผม บอกตรงๆเลย อยากแต่งพรุ่งนี้เลยครับ
**edit เพิ่มเติม เมื่อกี้ผมถามเค้าว่า "ทำไมไม่บอกตั้งแต่ตอนแรกๆที่คบกัน" คำตอบคือ ผมไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นๆ คนอื่นจะเข้ามาจีบเธอแบบตรงๆ แต่ผมไม่จีบเธอ คุยเล่นคุยสนุกกับเธอเหมือนเพื่อนคุยกัน ไม่เคยถามเธอว่าเธอมีแฟนอยู่รึป่าว บอกเธอแค่ว่าอยากมีเพื่อนคุย เราเป็นเพื่อนกัน ไม่จีบนะ ตอนนั้นต่างคนต่างไม่มีแฟน แค่อยากมีเพื่อนคุย แต่คุยกันยังไงไม่รู้ เธอชอบผมมาก ผมเองก็ชอบนะ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นแฟนกัน เราสนิทกันเหมือนเพื่อนไปแล้ว เราคุยกันได้ทุกเรื่องจริงๆ คุยไลน์กันแทบจะตลอดเวลา จนมานัดเดทกันครั้งแรก เจอหน้ากัน ผมเองก็เฉยๆอีกนั่นแหละ แต่เธอบอกว่าเธอถูกชะตากับผมมาก รู้สึกว่าผมใช่ ยิ่งมาสัมผัสกิริยาที่แสดงออก ต่อการปฏิบัติต่อผู้หญิงอย่างเธอ เธอยิ่งชอบ (ทั้งๆที่มันก็เป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายพึงกระทำ ถ้าพ่อแม่สอนมาให้เกียรติผู้หญิง) ซึ่งไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำให้และให้เกียรติเธอเท่าผมมาก่อน เจอกันครั้งแรกผมยังคิดว่าผู้หญิงคนนี้เยอะ รั่ว จนผมกลัว หลังจากเดทครั้งแรก มันก็เจอกันบ่อยขึ้น การกระทำของผมที่ทำให้เธอหลายๆอย่าง มันตอบโจทย์เธอแทบทุกข้อ เธอสัมผัสว่าผมไม่ได้แกล้งทำแน่ๆ (เอ่อ มันคือการกระทำปกติจริงๆนะที่ผมทำน่ะ -*-) มันเลยทำให้เธอไม่กล้าบอกความจริงว่าเธอเป็นมุสลิม เพราะกลัวความสัมพันธ์ของผมกับเธอจะจบเหมือนกับผู้ชายคนก่อนๆที่มาจีบเธอ และต้องเลิกกันเพราะเธอเป็นมุสลิม เพียงแค่ไม่อยากเข้าเป็นมุสลิมกับเธอ (ทุกคนบอกเธอว่ามีอคติกับศาสนานี้ ไม่ชอบ ผมว่าแมร่งบ้ามากนะ ดีแล้วที่พวกนั้นเลิกกับเธอ)
อีกคำถาม "หัดกินหมูตั้งแต่เมื่อไหร่" คำตอบคือ "ครั้งแรกก็ตอนผมชวนเธอไปทานปิ้งย่างมิยาบิ ด้วยความที่ผมไม่รู้ ตอนนั้นผมเองก็อยากทานมาก เป็นคนชอบกินปิ้งย่างด้วย เลยลากแฟนเข้าร้านมิยาบิ ด้วยความที่ปิดบังผมเรื่องเป็นมุสลิม ก็เลยต้องยอมกิน และหลังจากนั้นก็ฝืนกินมาเรื่อยๆ จนติดกินหมู พอพักหลังๆ เธอมักจะชอบแวะข้างทางซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งมากิน และฝึกกินเครื่องในหมูด้วย (ป๊าดดด มันต้องกินขนาดนั้นเลยเหรอ) เธอพยายามทำตัวปกติ ของแสลงอะไรก็ตามที่มุสลิมไม่กิน เธอฟาดเรียบ ฝึกทำกับข้าวที่ใช้หมูทำเพื่อทำให้ผมกิน"
ผมจะทำให้แฟนบาปไหมครับถ้าแฟนจะออกมุสลิมมาแต่งงานกับคนพุทธ
แฟน : เค้ามีอะไรจะบอก มันเป็นความผิดเค้าเอง
ผม : อะไร เราทะเลาะกันเหรอ
แฟน : เปล่า ก็ปกติดี แต่อยากจะบอกว่า เค้าเป็นมุสลิมนะ ขอโทษที่ไม่เคยบอก
ผม : >>> สตั๊นไปประมาณ 10 วิ <<< แล้วยังไงอะ (แต่ในใจรู้แล้วว่าแต่งงานกันลำบากแน่ๆ)
แฟน : เค้ารู้ว่าหม่าม๊าเฮียไม่ให้แต่งกับเค้าหรอก เฮียคนจีน เค้าไม่รับสะใภ้มุสลิม และคงไม่ให้เฮียมาเข้ามุสลิมแน่ๆ
ผม : เฮียไม่รู้อะ แต่หม่าม๊าคงไม่ว่าอะไรหรอก คนอื่นก็ช่างเค้า (เจ๊กับอาอี้ผม ไม่ชอบแฟนผมตั้งแต่รู้ว่าไม่ใช่คนจีนแล้ว ถ้ายิ่งรู้ว่าเป็นมุสลิม บ้านแตกแน่)
แฟน : เค้าก็ไม่มีพ่อไม่มีแม่แล้ว เค้าก็ไม่ใช่มุสลิมที่ดีอะไรมาก หมูก็กิน ไม่ได้เคร่ง ฮิญาบก็ไม่ใส่ เค้าจะออกมุสลิมละกัน
ผม : เฮ้ย บ้าเหรอ มันทำได้ด้วยเหรอ พูดง่ายนะ งี้ที่รักก็บาปสิ
แฟน : บาปมานานแล้วล่ะ บ้านเค้าก็ไม่เคร่งเท่าไหร่หรอก ลุงกับป้าก็เคร่งพอเป็นพิธี แม่บุญธรรมค่อนข้างเคร่ง แต่เค้าไม่แคร์
ผม : ถ้ามันง่ายขนาดนั้น เค้าคงทำกันเยอะเลยสิ
แฟน : ไม่รู้สิ เคยเจอแต่ไม่เข้ามุสลามตามก็เลิกกัน
ผม : แล้วเพื่อนที่รักล่ะ เป็นมุสลิมรึป่าว เค้าจะแอนตี้มั้ย?
แฟน : เรื่องเพื่อนวางใจเถอะ มีเพื่อนมุสลิมแค่สองคน นอกนั้นไทยพุทธหมด
ผม : >>> หลังจากนั้นผมก็เงียบแล้วก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย งงๆเบลอๆไปเลย<<<
แฟน : เค้ารู้ว่าเฮียลำบากใจ แต่ที่เค้าจะยอมออก ยอมบาปหนักเพื่อเฮีย เพราะเค้าเสียเฮียไปไม่ได้จริงๆ เฮียคือที่สุดแล้วอะ เค้ามองหาคนที่จะมาพาเค้าออกไปจากจุดนี้มานานแล้ว พอเจอเฮีย เฮียก็มาตอบโจทย์ทุกอย่าง เค้าคิดว่าเค้าเจอคนนั้นแล้ว มันต้องใช้เวลามาตั้งเท่าไหร่กว่าจะมาเจอคนที่เราตามหา เค้าเสียใจ เค้าอยู่โดดเดี่ยวมาตั้งแต่เด็กๆ เฮียก็รู้ว่าพ่อแม่เค้าเสียไปนานแล้ว อยู่กับลุงป้ากับแม่บุญธรรมเค้าก็ไม่มีความสุข เค้าฝันว่าอยากมีครอบครัวเป็นของตัวเอง (พูดไปก็ร้องไห้ไป)
ผม : โอ๋ๆๆ ถ้าตัดสินใจดีแล้ว ก็แล้วแต่ที่รัก เฮียคิดอะไรไม่ออกแล้วจริงๆ (กอดแฟน ลูบหัวแฟน ซาบซึ้ง น้ำตาไหล ตั้งแต่คบกันมาแฟนพึ่งเคยพูดอะไรแบบนี้)
ช่วยแนะนำผมทีครับ ผมควรจะทำยังไงต่อไปดี? ให้เรื่องนี้จบแบบมีความสุขที่สุด ตลอดเวลาที่คบกันแฟนมา 3 ปี ผมรับรู้เรื่องครอบครัวแฟนทั้งหมด ผมรู้ว่าแฟนผมอึดอัดใจทุกครั้งที่กลับบ้านไปเจอป้า เพราะป้าไม่ดีกับเธอมากๆ เคยเอาเสื้อผ้าเธอไปโยนทิ้งไว้หน้าบ้านแล้วไล่ออกจากบ้าน ส่วนลุงก็ไม่ค่อยจะสนใจอะไร แม่บุญธรรมก็ชอบบังคับเธอไปทุกอย่างจนอยู่ด้วยไม่ได้ แฟนผมก็ต้องหอบเสื้อผ้ามาซื้อคอนโดอยู่ แต่ก็ยังต้องกลับไปบ้านเรื่อยๆ เพราะก็ไม่มีญาติที่ไหนแล้ว ถ้าหายไปเลย เธอก็จะไม่เหลือใคร เหลือแต่ผมที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายจริงๆ ตอนแรกผมยังไม่พร้อมจริงๆที่จะแต่งงาน แต่พอได้ยินแฟนพูดว่าผมคือที่สุดแล้ว ประกอบกับการยอมเสียสละที่จะเป็นคนบาปเพื่อจะได้แต่งงานกับผม บอกตรงๆเลย อยากแต่งพรุ่งนี้เลยครับ
**edit เพิ่มเติม เมื่อกี้ผมถามเค้าว่า "ทำไมไม่บอกตั้งแต่ตอนแรกๆที่คบกัน" คำตอบคือ ผมไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นๆ คนอื่นจะเข้ามาจีบเธอแบบตรงๆ แต่ผมไม่จีบเธอ คุยเล่นคุยสนุกกับเธอเหมือนเพื่อนคุยกัน ไม่เคยถามเธอว่าเธอมีแฟนอยู่รึป่าว บอกเธอแค่ว่าอยากมีเพื่อนคุย เราเป็นเพื่อนกัน ไม่จีบนะ ตอนนั้นต่างคนต่างไม่มีแฟน แค่อยากมีเพื่อนคุย แต่คุยกันยังไงไม่รู้ เธอชอบผมมาก ผมเองก็ชอบนะ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นแฟนกัน เราสนิทกันเหมือนเพื่อนไปแล้ว เราคุยกันได้ทุกเรื่องจริงๆ คุยไลน์กันแทบจะตลอดเวลา จนมานัดเดทกันครั้งแรก เจอหน้ากัน ผมเองก็เฉยๆอีกนั่นแหละ แต่เธอบอกว่าเธอถูกชะตากับผมมาก รู้สึกว่าผมใช่ ยิ่งมาสัมผัสกิริยาที่แสดงออก ต่อการปฏิบัติต่อผู้หญิงอย่างเธอ เธอยิ่งชอบ (ทั้งๆที่มันก็เป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายพึงกระทำ ถ้าพ่อแม่สอนมาให้เกียรติผู้หญิง) ซึ่งไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำให้และให้เกียรติเธอเท่าผมมาก่อน เจอกันครั้งแรกผมยังคิดว่าผู้หญิงคนนี้เยอะ รั่ว จนผมกลัว หลังจากเดทครั้งแรก มันก็เจอกันบ่อยขึ้น การกระทำของผมที่ทำให้เธอหลายๆอย่าง มันตอบโจทย์เธอแทบทุกข้อ เธอสัมผัสว่าผมไม่ได้แกล้งทำแน่ๆ (เอ่อ มันคือการกระทำปกติจริงๆนะที่ผมทำน่ะ -*-) มันเลยทำให้เธอไม่กล้าบอกความจริงว่าเธอเป็นมุสลิม เพราะกลัวความสัมพันธ์ของผมกับเธอจะจบเหมือนกับผู้ชายคนก่อนๆที่มาจีบเธอ และต้องเลิกกันเพราะเธอเป็นมุสลิม เพียงแค่ไม่อยากเข้าเป็นมุสลิมกับเธอ (ทุกคนบอกเธอว่ามีอคติกับศาสนานี้ ไม่ชอบ ผมว่าแมร่งบ้ามากนะ ดีแล้วที่พวกนั้นเลิกกับเธอ)
อีกคำถาม "หัดกินหมูตั้งแต่เมื่อไหร่" คำตอบคือ "ครั้งแรกก็ตอนผมชวนเธอไปทานปิ้งย่างมิยาบิ ด้วยความที่ผมไม่รู้ ตอนนั้นผมเองก็อยากทานมาก เป็นคนชอบกินปิ้งย่างด้วย เลยลากแฟนเข้าร้านมิยาบิ ด้วยความที่ปิดบังผมเรื่องเป็นมุสลิม ก็เลยต้องยอมกิน และหลังจากนั้นก็ฝืนกินมาเรื่อยๆ จนติดกินหมู พอพักหลังๆ เธอมักจะชอบแวะข้างทางซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งมากิน และฝึกกินเครื่องในหมูด้วย (ป๊าดดด มันต้องกินขนาดนั้นเลยเหรอ) เธอพยายามทำตัวปกติ ของแสลงอะไรก็ตามที่มุสลิมไม่กิน เธอฟาดเรียบ ฝึกทำกับข้าวที่ใช้หมูทำเพื่อทำให้ผมกิน"