แม้จะผ่านไปหลายวันแล้วก็ตามหลังการสูญเสียโรบิน วิลเลียมส์ ที่ฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอ แต่โลกก็ยังคงมีผู้คนมากมายที่เศร้าเสียใจไปกับการจากไปของเขา หลายๆ คนยังคงพูดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเขาในวันนั้น รวมไปถึงสาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจดังที่รู้ๆ กัน และวันนี้ซูซาน ชไนเดอร์ ภรรยาของวิลเลียมส์ก็มีแถลงการณ์ออกมา
ซึ่งส่วนหนึ่งก็ทำให้หลายๆ คนถึงกับช็อค เมื่อเธอระบุว่า วิลเลียมส์นั้น ป่วยเป็นโรคพาร์กินสันในระยะแรกเริ่ม
“โรบินใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิต เพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการมอบความบันเทิงให้คนนับล้านบนเวที, จอภาพยนตร์ หรือโทรทัศน์, กองทัพของเราที่อยู่แนวหน้า หรือสร้างความสุขให้กับเด็กที่ไม่สบาย โรบินอยากให้พวกเราหัวเราะ และรู้สึกหวาดกลัวน้อยลง นับตั้งแต่เขาจากไป พวกเราทุกคนที่รักในตัวโรบิน ได้พบพานการปลอบใจมากมายมหาศาลที่หลั่งไหล จากความรู้สึกชื่นชม รักใคร่ ที่มีต่อเขาจากผู้คนนับล้านๆ ที่เขาสามารถสัมผัสไปถึง มรดกตกทอดอันยิ่งใหญ่ของเขา นอกจากลูกๆ ทั้งสามคน ก็คือความสุข ความหรรษาที่เขามีให้กับคนอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่กำลังต่อสู้กับปัญหาส่วนตัวที่รุมเร้า
“โรบินสามารถเลิกดื่มได้อย่างสมบูรณ์ และเขาก็กล้าหาญมากพอที่จะต่อสู้กับอาการซึมเศร้า รวมไปถึงความวิตกกังวลจากการป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน ในระยะเริ่มแรกด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขายังไม่พร้อมจะบอกกับสาธารณชน
“ความหวังของเราท่ามกลางการจากไปอย่างน่าเสียใจของโรบินก็คือ คนอื่นๆ จะค้นพบความแข็งแกร่ง เพื่อที่จะเสาะหาการดูแล และสนับสนุนในสิ่งที่พวกเขาต้องการ สำหรับต่อสู้กับอะไรก็ตามที่เผชิญหน้าอยู่ เพื่อที่จะได้คลายความหวาดกลัวลงไป”
ท่ามกลางการแสดงความยกย่องชื่นชมมากมายที่มีต่อวิลเลียมส์ หนึ่งในการแสดงออกที่น่าประทับใจก็คือ บรรดานักแสดงของละครเพลง Aladdin ที่เปิดทำการแสดงที่บรอดเวย์ เมื่อพวกเขาขอให้บรรดาผู้ชมการแสดง ในวันหลังการจากไปของวิลเลียมส์ ช่วยสร้างความคึกคักให้กับเพลงสำคัญของตัวละครยักษ์จีนี Friend Like Me ซึ่งวิลเลียมส์เป็นคนให้เสียงในแอนิเมชันของดิสนีย์ เมื่อปี 1992 และในครั้งนี้ เจมส์ อิเกลฮาร์ท เจ้าของรางวัลโทนี จากการแสดงเป็นยักษ์ใหญ่ในตะเกียง ก็วิ่งไปมาบนเวทีขณะที่เขาร้องเพลงนี้ ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ ก็พากันปรบมือให้จังหวะ และเมื่อถึงท่อนคอรัส… คนทั้งฮอลล์ก็ร่วมร้องไปกับพวกเขา…
วิลเลียมส์ทำให้บทจีนีในแอนิเมชันเรื่องนี้ กลายเป็นหนึ่งในสุดยอดการแสดงของตัวเอง โดยเฉพาะในการปรากฏตัวของตัวละครตัวนี้ ที่เขาถ่ายทอดลักษณะเด่นๆ ของคนดังๆ มากมายออกมา ตั้งแต่อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ไปจนถึงเอ็ด ซุลลิแวน และทางสถาบันศิลปะภาพยนตร์ และวิทยาการก็นำเอาภาพของจีนีที่กอดกับอะลาดินมาโพสท์ไว้อาลัยให้กับการจากไปของวิลเลียมส์ พร้อมกับข้อความสั้นๆ ว่า… “จีนี… นายเป็นอิสระแล้ว” ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในการสดุดีที่ถูกพูดถึงมากที่สุดที่มีต่อวิลเลียมส์
(ที่มา www.omidewire.com . www.rollingstone.com และคลิก Like ให้ได้ที่
www.facebook.com/Sadaos)
เรื่องชวนเศร้า... ยังทำหน้าที่ต่อกับชีวิตของโรบิน วิลเลียมส์ จากแถลงการณ์ของซูซาน ชไนเดอร์ ภรรยาของวิลเลียมส์
แม้จะผ่านไปหลายวันแล้วก็ตามหลังการสูญเสียโรบิน วิลเลียมส์ ที่ฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอ แต่โลกก็ยังคงมีผู้คนมากมายที่เศร้าเสียใจไปกับการจากไปของเขา หลายๆ คนยังคงพูดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเขาในวันนั้น รวมไปถึงสาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจดังที่รู้ๆ กัน และวันนี้ซูซาน ชไนเดอร์ ภรรยาของวิลเลียมส์ก็มีแถลงการณ์ออกมา
ซึ่งส่วนหนึ่งก็ทำให้หลายๆ คนถึงกับช็อค เมื่อเธอระบุว่า วิลเลียมส์นั้น ป่วยเป็นโรคพาร์กินสันในระยะแรกเริ่ม
“โรบินใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิต เพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการมอบความบันเทิงให้คนนับล้านบนเวที, จอภาพยนตร์ หรือโทรทัศน์, กองทัพของเราที่อยู่แนวหน้า หรือสร้างความสุขให้กับเด็กที่ไม่สบาย โรบินอยากให้พวกเราหัวเราะ และรู้สึกหวาดกลัวน้อยลง นับตั้งแต่เขาจากไป พวกเราทุกคนที่รักในตัวโรบิน ได้พบพานการปลอบใจมากมายมหาศาลที่หลั่งไหล จากความรู้สึกชื่นชม รักใคร่ ที่มีต่อเขาจากผู้คนนับล้านๆ ที่เขาสามารถสัมผัสไปถึง มรดกตกทอดอันยิ่งใหญ่ของเขา นอกจากลูกๆ ทั้งสามคน ก็คือความสุข ความหรรษาที่เขามีให้กับคนอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่กำลังต่อสู้กับปัญหาส่วนตัวที่รุมเร้า
“โรบินสามารถเลิกดื่มได้อย่างสมบูรณ์ และเขาก็กล้าหาญมากพอที่จะต่อสู้กับอาการซึมเศร้า รวมไปถึงความวิตกกังวลจากการป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน ในระยะเริ่มแรกด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขายังไม่พร้อมจะบอกกับสาธารณชน
“ความหวังของเราท่ามกลางการจากไปอย่างน่าเสียใจของโรบินก็คือ คนอื่นๆ จะค้นพบความแข็งแกร่ง เพื่อที่จะเสาะหาการดูแล และสนับสนุนในสิ่งที่พวกเขาต้องการ สำหรับต่อสู้กับอะไรก็ตามที่เผชิญหน้าอยู่ เพื่อที่จะได้คลายความหวาดกลัวลงไป”
ท่ามกลางการแสดงความยกย่องชื่นชมมากมายที่มีต่อวิลเลียมส์ หนึ่งในการแสดงออกที่น่าประทับใจก็คือ บรรดานักแสดงของละครเพลง Aladdin ที่เปิดทำการแสดงที่บรอดเวย์ เมื่อพวกเขาขอให้บรรดาผู้ชมการแสดง ในวันหลังการจากไปของวิลเลียมส์ ช่วยสร้างความคึกคักให้กับเพลงสำคัญของตัวละครยักษ์จีนี Friend Like Me ซึ่งวิลเลียมส์เป็นคนให้เสียงในแอนิเมชันของดิสนีย์ เมื่อปี 1992 และในครั้งนี้ เจมส์ อิเกลฮาร์ท เจ้าของรางวัลโทนี จากการแสดงเป็นยักษ์ใหญ่ในตะเกียง ก็วิ่งไปมาบนเวทีขณะที่เขาร้องเพลงนี้ ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ ก็พากันปรบมือให้จังหวะ และเมื่อถึงท่อนคอรัส… คนทั้งฮอลล์ก็ร่วมร้องไปกับพวกเขา…
วิลเลียมส์ทำให้บทจีนีในแอนิเมชันเรื่องนี้ กลายเป็นหนึ่งในสุดยอดการแสดงของตัวเอง โดยเฉพาะในการปรากฏตัวของตัวละครตัวนี้ ที่เขาถ่ายทอดลักษณะเด่นๆ ของคนดังๆ มากมายออกมา ตั้งแต่อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ไปจนถึงเอ็ด ซุลลิแวน และทางสถาบันศิลปะภาพยนตร์ และวิทยาการก็นำเอาภาพของจีนีที่กอดกับอะลาดินมาโพสท์ไว้อาลัยให้กับการจากไปของวิลเลียมส์ พร้อมกับข้อความสั้นๆ ว่า… “จีนี… นายเป็นอิสระแล้ว” ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในการสดุดีที่ถูกพูดถึงมากที่สุดที่มีต่อวิลเลียมส์
(ที่มา www.omidewire.com . www.rollingstone.com และคลิก Like ให้ได้ที่ www.facebook.com/Sadaos)