โรบิน วิลเลียมส์ นักแสดงตลกชื่อดัง ที่สร้างชื่อให้กับตัวเอง จากซิต-คอมเรื่อง Mork and Mindy ในบทมนุษย์ต่างดาวจอมจี้เส้น มอร์ค ก่อนจะประสบความสำเร็จกับหนังใหญ่ และคว้ารางวัลออสการ์มาได้จาก Good Will Hunting เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 63 ปี
โดยเมื่อเวลา 11.55 น. ของวันที่ 11 สิงหาคม หน่วยพยาบาลฉุกเฉินได้รับแจ้งให้ไปที่บ้านของวิลเลียมส์ ที่ทิบูรอน, แคลิฟอร์เนีย พบร่างหมดสติของวิลเลียมส์ ก่อนจะมีการประกาศในเวลาต่อมาว่า เขาเสียชีวิตแล้วในที่เกิดเหตุ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป แต่หลักฐานในขั้นต้นชี้ว่า เป็นการฆ่าตัวตายโดยทำให้ตัวเองขาดอากาศหายใจ
ในคำแถลงการณ์สั้นๆ ที่มารา บักซ์บอม ประชาสัมพันธ์ของวิลเลียมส์แจ้งมานั้น ระบุว่า เขาต้อง “ต่อสู้กับสภาวะซึมเศร้าของคนสูงวัยมานาน และนี่คือเรื่องโศกนาฎกรรม เป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน ทางครอบครัวขอความเป็นส่วนตัว ขณะที่พวกเขากำลังเศร้าโศกเสียใจ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้”
“เช้านี้ ฉันสูญเสียสามี และเพื่อนที่ดีที่สุดไป” ซูซาน ขไนเดอร์ ภรรยาของวิลเลียมส์กล่าว “ขณะที่โลกต้องเสียหนึ่งในศิลปินที่รักที่สุด และชายคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความดีงาม หัวใจของฉันแตกสลายไม่มีชิ้นดี ในฐานะตัวแทนครอบครัวของโรบิน เราใคร่ขอความเป็นส่วนตัว ในช่วงเวลาที่เศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง เพื่อให้เขาได้รับการจดจำ เราหวังว่าคงไม่มีการมุ่งเน้นไปที่การเสียชีวิตของเขา แต่อยากให้เป็นไปที่ช่วงเวลามากมายนับไม่ถ้วนของความสุข รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะที่เขามอบให้”
ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา วิลเลียมส์ต้องเข้าไปสถานบำบัดเป็นหนที่สอง แต่ไม่ใช่เป็นเพราะสาเหตุเดิมๆ “หลังจากทำงานอย่างต่อเนื่อง เรื่องต่อเรื่อง โรบินต้องหาโอกาสพัก และให้ความสำคัญไปที่การทำงานชิ้นต่อไป ซึ่งเขายังคงภาคภูมิใจกับงานที่ทำ” ประชาสัมพันธ์ของวิลเลียมส์กล่าวในตอนนั้น
เมื่อปี 2006 มีรายงานว่า วิลเลียมส์ใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ที่ ศูนย์รักษาผู้เสพติด ฮาเซลเดน ในมินเนโซตา ซึ่งทางเจ้าตัวเองก็ยอมรับในที่สาธารณะว่า เขาต้องสู้กับการติดสารเสพติด และล่าสุดวิลเลียมส์กำลังหาสถานบำบัดผู้ติดแอลกอฮอล หลังจากเลิกมานานถึง 20 ปี ทางตัวแทนของเขากล่าวในแถลงการณ์ว่า โรบิน “พบว่าตัวเองกลับมาดื่มอีกครั้ง และตัดสินใจที่จะควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อความสุขของตัวเขาเองและครอบครัว”
ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ Good Morning America วิลเลียมส์เล่าถึง การกลับไปดื่มอีกครั้งว่า “ค่อยๆ เป็นไปอย่างช้าๆ” และ “มันเป็นเสียงในความคิดเดิมๆ... คุณพบว่าตัวเองอยู่ในสถานภาพที่ล่อแหลม แล้วก็มองลงไป มีเสียงหนึ่งดังขึ้น มันเป็นเสียงเบาๆ ที่บอกว่า ‘โดดเลย’” วิลเลียมส์เล่าในรายการ “เป็นเสียงเดียวกับที่บอกว่า ‘แค่แก้วเดียว...’ และความคิดเรื่อง แค่แก้วเดียวสำหรับคนที่ไม่มีความอดกลั้น มันไม่มีทางเป็นไปได้”
เมื่อถูกถามว่า ทำไมถึงกลับมาหามันอีก โรบินตอบว่า “การเสพติด ไม่ได้มีสาเหตุมาจากอะไรเลย มันอยู่ตรงนี้แหละ... มันแค่รอคอย รอเวลาที่คุณจะคิดว่า ‘ฉันปกติละ ฉันไม่มีปัญหาอะไรแล้ว’ จากนั้น สิ่งต่อไปที่คุณรู้ก็คือ มันไม่ได้ไม่มีปัญหาอะไร แล้วคุณก็เริ่มคิด ‘ผมอยู่ที่ไหน? ผมไม่ได้รู้สึกเลยว่าตัวเองอยู่ที่คลีฟแลนด์’”
ในตอนต้นยุค 80s วิลเลียมส์ต้องรับมือกับการติดโคเคน ขณะที่รับบทเป็นมอร์ค ในซีรี่ส์เรื่อง Mork and Mindy แต่เลิกทันทีหลังจากจอห์น เบลูชี เพื่อนของเขาเกิดโอเวอร์โดสในปี 1982
“โคเคนสำหรับผม มันคือสถานที่ซ่อนตัว” วิลเลียมส์ ให้สัมภาษณ์เอาไว้ในปี 1988 “คนส่วนใหญ่จะรู้สึกพลุ่งพล่านกับโค้ก แต่มันทำให้ผมสงบลง บางครั้งมันทำให้ผมหวาดวิตก และไร้สมรรถภาพทางเพศ แต่ส่วนใหญ่มันทำให้ผมเก็บตัว และจากนั้นผมก้กลับมาสนุกสนานอีกครั้ง ทำงานทั้งวัน ปาร์ตีได้ทั้งคืน ผมไม่มีข้อแก้ตัวหรอกนะ ผมอยากมีเวลาสงบๆ และผมใช้โค้กเพื่อไบ่ถึงตรงนั้น”
วิลเลียมส์ ใช้ชีวิตอยู่ที่ชิคาโก เรียนมาที่สถาบันจูเลียร์ด ซึ่งมีเพื่อนร่วมห้องในช่วงเวลาสั้นๆ อย่าง คริสโตเฟอร์ รีฟส์ หลังจากได้ไปออกรายการ Richard Pryor Show ของเอ็นบีซี ชีวิตของเขาก็มาถึงจุดเปลี่ยน กับการรับบทมอร์ค ซึ่งทีแรกจะเป็นเพียงแค่แขกรับเชิญตอนเดียวในรายการ Happy Days ของเอ็นบีซี แต่กลับได้รับความนิยมมากขึ้น จนต้องมีตอนแยกของตัวเองออกมาเป็น Mork & Mindy ที่มีแพม ดอว์เบอร์ และโจนาธาน วินเตอร์ส เป็นนักแสดงร่วมจอ ซิต-คอมเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยออกอากาศตั้งแต่ปี 978 - 1982
จากนั้นวิลเลียมส์ก็ก้าวมาสู่จอใหญ่ และมีงานที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพูดออกมาราวกับเป็นเครื่องยนต์ในแบบด้นสด ทำให้เขากลายเป็นที่จดจำ มีผลงานชั้นดีอย่าง The World According to Garp, Moscow on the Hudson, Awakenings, The Birdcage, Mrs. Doubtfire, Patch Adams และ Insomnia นอกจากนี้เขายังใช้เสียงในการพากย์เป็นตัวละครอื่นๆ ด้วย เช่นในแอนิเมชัน Aladdin, Happy Feet, Robots และ FernGully
วิลเลียมส์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จาก Dead Poets Society, The Fisher King และ Good Morning, Vietnam ก่อนจะคว้ามาได้จาก Good Will Hunting หนังที่แม็ทท์ เดมอน และเบน อัฟเฟล็คเขียนบทร่วมกันในบทสมทบ
สำหรับภาพยนตร์ที่เขาถ่ายทำเสร็จสมบูรณ์ก่อนเสียชีวิตก็ได้แก่ The Angriest Man in Brooklyn กับ ปีเตอร์ ดิงค์เลจ และมิลา คูนิส รวมไปถึงหนัง Night at the Museum: Secret of the Tomb ที่เขากลับมารับบทเท็ดดี รูสเวลท์อีกครั้ง ประกบกับเบน สติลเลอร์ ที่มีกำหนดเปิดตัวในเดือนธันวาคมนี้
ถึงแม้จะเป็นนักแสดงทำงานคนหนึ่งของฮอลลีวูดในหนังจอใหญ่ แต่วิลเลียมส์ก็ไม่เคยลืมงานโทรทัศน์ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคนดูได้เห็นเห็นเขาผ่านจอแก้วหลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเดี่ยวไมโครโฟน หรือจับมือกับวูปี โกลด์เบิร์ก และบิลลี คริสตัล ทำรายพิเศษหาเงินให้องค์กร Comic Relief นอกจากนี้เขายังไปเล่นในซีรี่ส์อย่าง Friends, Homicide: Life on the Street, Law & Order: SVU และ The Larry Sanders Show บางตอนอีกด้วย ในปีที่ผ่านมาเขากลับไปเล่นซีรี่ส์เบาสมองเรื่อง The Crazy Ones ทางช่องซีบีเอสประกบกับซาราห์ มิเชลล์ เกลลาร์
นอกจากรางวัลออสการ์ วิลเลียมส์ได้รับรางวัลเอ็มมีมา 2 รางวัล, แกรมมี 5 รางวัล และลูกโลกทองคำ 6 รางวัล (รวมรางวัลซีซิล บี เดอมิลล์ส อวอร์ด) รวมทั้งเป็นนักแสดงตลกที่มีผู้ชื่นชอบมากที่สุดของยุค
วิลเลียมส์อยู่กินกับชไนเดอร์ และลูกๆ อีก 3 คนจากการแต่งงาน 2 ครั้งก่อน ได้แก่ เซลดา-ลูกสาว, ลูกชาย - แซคารี กับโคดี อายุ 31 และ 22 ปีตามลำดับ
วิลเลียมส์โพสท์ทวีต และอินสตาแกรมครั้งสุดท้ายเมื่อ 31 กรกฎาคม อวยพรให้ลูกสาวมีความสุขในวันเกิดครบรอบ 25 ปี "#tbt and Happy Birthday to Ms. Zelda Rae Williams! Quarter of a century old today but always my baby girl. Happy Birthday @zeldawilliams Love you!”
ดาวลับ ดับไปอีกดวงแล้ว....
อ่านเรื่องบทบาทที่น่าจดจำของ โรบิน วิลเลียมส์ได้ที่
http://wp.me/p4rjP2-5c7 และกดไลค์ได้ที่
www.facebook.com/Sadaos
แปลและเรียบเรียง จาก Robin Williams Dead of Apparent Suicide at 63 โดย มาร์คัส เออร์ริโค ใน Yahoo Celebrity (
https://celebrity.yahoo.com)
อำลา-อาลัย โรบิน วิลเลียมส์ นักแสดงมากฝีมือผู้จากไปด้วยวัยเพียง 63 ปี
โรบิน วิลเลียมส์ นักแสดงตลกชื่อดัง ที่สร้างชื่อให้กับตัวเอง จากซิต-คอมเรื่อง Mork and Mindy ในบทมนุษย์ต่างดาวจอมจี้เส้น มอร์ค ก่อนจะประสบความสำเร็จกับหนังใหญ่ และคว้ารางวัลออสการ์มาได้จาก Good Will Hunting เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 63 ปี
โดยเมื่อเวลา 11.55 น. ของวันที่ 11 สิงหาคม หน่วยพยาบาลฉุกเฉินได้รับแจ้งให้ไปที่บ้านของวิลเลียมส์ ที่ทิบูรอน, แคลิฟอร์เนีย พบร่างหมดสติของวิลเลียมส์ ก่อนจะมีการประกาศในเวลาต่อมาว่า เขาเสียชีวิตแล้วในที่เกิดเหตุ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป แต่หลักฐานในขั้นต้นชี้ว่า เป็นการฆ่าตัวตายโดยทำให้ตัวเองขาดอากาศหายใจ
ในคำแถลงการณ์สั้นๆ ที่มารา บักซ์บอม ประชาสัมพันธ์ของวิลเลียมส์แจ้งมานั้น ระบุว่า เขาต้อง “ต่อสู้กับสภาวะซึมเศร้าของคนสูงวัยมานาน และนี่คือเรื่องโศกนาฎกรรม เป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน ทางครอบครัวขอความเป็นส่วนตัว ขณะที่พวกเขากำลังเศร้าโศกเสียใจ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้”
“เช้านี้ ฉันสูญเสียสามี และเพื่อนที่ดีที่สุดไป” ซูซาน ขไนเดอร์ ภรรยาของวิลเลียมส์กล่าว “ขณะที่โลกต้องเสียหนึ่งในศิลปินที่รักที่สุด และชายคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความดีงาม หัวใจของฉันแตกสลายไม่มีชิ้นดี ในฐานะตัวแทนครอบครัวของโรบิน เราใคร่ขอความเป็นส่วนตัว ในช่วงเวลาที่เศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง เพื่อให้เขาได้รับการจดจำ เราหวังว่าคงไม่มีการมุ่งเน้นไปที่การเสียชีวิตของเขา แต่อยากให้เป็นไปที่ช่วงเวลามากมายนับไม่ถ้วนของความสุข รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะที่เขามอบให้”
ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา วิลเลียมส์ต้องเข้าไปสถานบำบัดเป็นหนที่สอง แต่ไม่ใช่เป็นเพราะสาเหตุเดิมๆ “หลังจากทำงานอย่างต่อเนื่อง เรื่องต่อเรื่อง โรบินต้องหาโอกาสพัก และให้ความสำคัญไปที่การทำงานชิ้นต่อไป ซึ่งเขายังคงภาคภูมิใจกับงานที่ทำ” ประชาสัมพันธ์ของวิลเลียมส์กล่าวในตอนนั้น
เมื่อปี 2006 มีรายงานว่า วิลเลียมส์ใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ที่ ศูนย์รักษาผู้เสพติด ฮาเซลเดน ในมินเนโซตา ซึ่งทางเจ้าตัวเองก็ยอมรับในที่สาธารณะว่า เขาต้องสู้กับการติดสารเสพติด และล่าสุดวิลเลียมส์กำลังหาสถานบำบัดผู้ติดแอลกอฮอล หลังจากเลิกมานานถึง 20 ปี ทางตัวแทนของเขากล่าวในแถลงการณ์ว่า โรบิน “พบว่าตัวเองกลับมาดื่มอีกครั้ง และตัดสินใจที่จะควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อความสุขของตัวเขาเองและครอบครัว”
ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ Good Morning America วิลเลียมส์เล่าถึง การกลับไปดื่มอีกครั้งว่า “ค่อยๆ เป็นไปอย่างช้าๆ” และ “มันเป็นเสียงในความคิดเดิมๆ... คุณพบว่าตัวเองอยู่ในสถานภาพที่ล่อแหลม แล้วก็มองลงไป มีเสียงหนึ่งดังขึ้น มันเป็นเสียงเบาๆ ที่บอกว่า ‘โดดเลย’” วิลเลียมส์เล่าในรายการ “เป็นเสียงเดียวกับที่บอกว่า ‘แค่แก้วเดียว...’ และความคิดเรื่อง แค่แก้วเดียวสำหรับคนที่ไม่มีความอดกลั้น มันไม่มีทางเป็นไปได้”
เมื่อถูกถามว่า ทำไมถึงกลับมาหามันอีก โรบินตอบว่า “การเสพติด ไม่ได้มีสาเหตุมาจากอะไรเลย มันอยู่ตรงนี้แหละ... มันแค่รอคอย รอเวลาที่คุณจะคิดว่า ‘ฉันปกติละ ฉันไม่มีปัญหาอะไรแล้ว’ จากนั้น สิ่งต่อไปที่คุณรู้ก็คือ มันไม่ได้ไม่มีปัญหาอะไร แล้วคุณก็เริ่มคิด ‘ผมอยู่ที่ไหน? ผมไม่ได้รู้สึกเลยว่าตัวเองอยู่ที่คลีฟแลนด์’”
ในตอนต้นยุค 80s วิลเลียมส์ต้องรับมือกับการติดโคเคน ขณะที่รับบทเป็นมอร์ค ในซีรี่ส์เรื่อง Mork and Mindy แต่เลิกทันทีหลังจากจอห์น เบลูชี เพื่อนของเขาเกิดโอเวอร์โดสในปี 1982
“โคเคนสำหรับผม มันคือสถานที่ซ่อนตัว” วิลเลียมส์ ให้สัมภาษณ์เอาไว้ในปี 1988 “คนส่วนใหญ่จะรู้สึกพลุ่งพล่านกับโค้ก แต่มันทำให้ผมสงบลง บางครั้งมันทำให้ผมหวาดวิตก และไร้สมรรถภาพทางเพศ แต่ส่วนใหญ่มันทำให้ผมเก็บตัว และจากนั้นผมก้กลับมาสนุกสนานอีกครั้ง ทำงานทั้งวัน ปาร์ตีได้ทั้งคืน ผมไม่มีข้อแก้ตัวหรอกนะ ผมอยากมีเวลาสงบๆ และผมใช้โค้กเพื่อไบ่ถึงตรงนั้น”
วิลเลียมส์ ใช้ชีวิตอยู่ที่ชิคาโก เรียนมาที่สถาบันจูเลียร์ด ซึ่งมีเพื่อนร่วมห้องในช่วงเวลาสั้นๆ อย่าง คริสโตเฟอร์ รีฟส์ หลังจากได้ไปออกรายการ Richard Pryor Show ของเอ็นบีซี ชีวิตของเขาก็มาถึงจุดเปลี่ยน กับการรับบทมอร์ค ซึ่งทีแรกจะเป็นเพียงแค่แขกรับเชิญตอนเดียวในรายการ Happy Days ของเอ็นบีซี แต่กลับได้รับความนิยมมากขึ้น จนต้องมีตอนแยกของตัวเองออกมาเป็น Mork & Mindy ที่มีแพม ดอว์เบอร์ และโจนาธาน วินเตอร์ส เป็นนักแสดงร่วมจอ ซิต-คอมเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยออกอากาศตั้งแต่ปี 978 - 1982
จากนั้นวิลเลียมส์ก็ก้าวมาสู่จอใหญ่ และมีงานที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพูดออกมาราวกับเป็นเครื่องยนต์ในแบบด้นสด ทำให้เขากลายเป็นที่จดจำ มีผลงานชั้นดีอย่าง The World According to Garp, Moscow on the Hudson, Awakenings, The Birdcage, Mrs. Doubtfire, Patch Adams และ Insomnia นอกจากนี้เขายังใช้เสียงในการพากย์เป็นตัวละครอื่นๆ ด้วย เช่นในแอนิเมชัน Aladdin, Happy Feet, Robots และ FernGully
วิลเลียมส์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จาก Dead Poets Society, The Fisher King และ Good Morning, Vietnam ก่อนจะคว้ามาได้จาก Good Will Hunting หนังที่แม็ทท์ เดมอน และเบน อัฟเฟล็คเขียนบทร่วมกันในบทสมทบ
สำหรับภาพยนตร์ที่เขาถ่ายทำเสร็จสมบูรณ์ก่อนเสียชีวิตก็ได้แก่ The Angriest Man in Brooklyn กับ ปีเตอร์ ดิงค์เลจ และมิลา คูนิส รวมไปถึงหนัง Night at the Museum: Secret of the Tomb ที่เขากลับมารับบทเท็ดดี รูสเวลท์อีกครั้ง ประกบกับเบน สติลเลอร์ ที่มีกำหนดเปิดตัวในเดือนธันวาคมนี้
ถึงแม้จะเป็นนักแสดงทำงานคนหนึ่งของฮอลลีวูดในหนังจอใหญ่ แต่วิลเลียมส์ก็ไม่เคยลืมงานโทรทัศน์ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคนดูได้เห็นเห็นเขาผ่านจอแก้วหลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเดี่ยวไมโครโฟน หรือจับมือกับวูปี โกลด์เบิร์ก และบิลลี คริสตัล ทำรายพิเศษหาเงินให้องค์กร Comic Relief นอกจากนี้เขายังไปเล่นในซีรี่ส์อย่าง Friends, Homicide: Life on the Street, Law & Order: SVU และ The Larry Sanders Show บางตอนอีกด้วย ในปีที่ผ่านมาเขากลับไปเล่นซีรี่ส์เบาสมองเรื่อง The Crazy Ones ทางช่องซีบีเอสประกบกับซาราห์ มิเชลล์ เกลลาร์
นอกจากรางวัลออสการ์ วิลเลียมส์ได้รับรางวัลเอ็มมีมา 2 รางวัล, แกรมมี 5 รางวัล และลูกโลกทองคำ 6 รางวัล (รวมรางวัลซีซิล บี เดอมิลล์ส อวอร์ด) รวมทั้งเป็นนักแสดงตลกที่มีผู้ชื่นชอบมากที่สุดของยุค
วิลเลียมส์อยู่กินกับชไนเดอร์ และลูกๆ อีก 3 คนจากการแต่งงาน 2 ครั้งก่อน ได้แก่ เซลดา-ลูกสาว, ลูกชาย - แซคารี กับโคดี อายุ 31 และ 22 ปีตามลำดับ
วิลเลียมส์โพสท์ทวีต และอินสตาแกรมครั้งสุดท้ายเมื่อ 31 กรกฎาคม อวยพรให้ลูกสาวมีความสุขในวันเกิดครบรอบ 25 ปี "#tbt and Happy Birthday to Ms. Zelda Rae Williams! Quarter of a century old today but always my baby girl. Happy Birthday @zeldawilliams Love you!”
ดาวลับ ดับไปอีกดวงแล้ว....
อ่านเรื่องบทบาทที่น่าจดจำของ โรบิน วิลเลียมส์ได้ที่ http://wp.me/p4rjP2-5c7 และกดไลค์ได้ที่ www.facebook.com/Sadaos
แปลและเรียบเรียง จาก Robin Williams Dead of Apparent Suicide at 63 โดย มาร์คัส เออร์ริโค ใน Yahoo Celebrity (https://celebrity.yahoo.com)