ข้อมูลอ้างอิง + refference
ดูต่อได้ทางเว็บไซต์ต้นเรื่อง = > สาเหตุที่ Group เลือด ทำนายนิสัยมนุษย์ไม่ได้



Karl Landsteiner คือนักวิทย์ชาวออสเตรีย ผู้ค้นพบหมู่เลือด 4 หมู่ และที่รู้ๆ เขาไม่เคยบอกซักแอะว่ามันไปเชื่อมโยงกับนิสัย และหน้าที่ของเลือดในตัวเราก็คือมีไว้หล่อเลี้ยง cell ไม่ให้ตาย (ก็คล้ายๆต้นไม้หรือพิชต้องมีน้ำไปเลี้ยงลำต) หากแต่ทำไมมันจึงมีพวกคิดนอกกรอบวิทยาศาสตร์ นำกรุ๊ปเลือดมาตัดสินนิสัยคน คือ ใคร? เชิญอ่านต่อไปเรื่อยๆ ....

มีงานวิจัยชิ้นสำคัญจาก ScienceDirect (http://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S0191886902001010) ซึ่งเป็นแหล่งรวมข้อมูลอ้างอิงเชิงวิชาการอันน่าเชื่อถือที่ทำให้สามารถพูดได้เต็มปากว่า "ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว หมู่เลือดที่พ่อแม่ให้คุณมา ไม่ได้ทำให้คุณมีนิสัยเหมือนพ่อแม่เลย "

หากแต่มันขึ้นอยู่ที่ระบบชีวภาพของแต่ละคน (เช่น คนร่างกายผิดปกติอาจจะมีความคิดต่างจากคนอวัยวะครบ 32 ได้ จึงทำให้เขามีนิสัยบางอย่าง), สมองและสารเคมีในสมอง (เช่น สมองส่วนอมิกดาลามีผลเชื่อมโยงกับพฤติกรรมก้าวร้าว คนดื่มแอลกอฮอล์ทำให้สารเคมีในสมองส่วนหน้าได้รับการกดไว้ ทำให้มีพฤติกรรมก้าวร้าว), การเลี้ยงดู (เช่น ลำดับการเกิดในครอบครัว ลูกคนโตและคนเล็กจะได้รับการเอาใจใส่จากพ่อแม่ ทำให้ละเลยลูกคนกลาง: Birth Order) ประสบการณ์ที่พบเจอโดยตรงของเจ้าตัว (เช่น เคยถูกเพื่อนแกล้งที่โรงเรียนเป็นประจำตั้งแต่เด็กๆ พอโตมาเลยเป็นคนหลีกหนีสังคมได้; จีบใครก็อกหักทุกครั้งเลยส่งผลให้เราไม่กล้าที่จะเริ่มต้นใหม่กับใครอีกขออยู่แบบโสดแล้วกันเพราะประสบการณ์ที่ไม่ดีส่งผลกระทบต่อจิตใจ), ขนบธรรมเนียม ประเพณี ระบบสังคมส่งผลมายังความเชื่อส่วนบุคคล (เช่น สังคมโบราณเชื่อว่าโลกแบน และทุกคนถูกบังคับให้เชื่อแบบนั้นตามหลักคริสตจักร อาจเป็นความเชื่อที่ไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่เราก็เชื่อตามๆกันไป ไม่อยากเป็นแกะดำ), รวมไปถึงการเกิดนิสัยที่มาจากสภาพแวดล้อม สิ่งแวดล้อม ก็ส่งผลให้เรามีนิสัยที่ต่างกัน (เช่น คนอยู่ในสลัมมักต่างกับคนอยู่ในคฤหาสน์หรูๆ คนอยู่ในเมืองที่เร่งรีบมักมีวิถีชีวิตต่างกับคนอยู่ต่างจังหวัดไกลๆ ในขุนเขา สภาพแวดล้อมเหล่านี้ทำให้คนมีนิสัยต่างกัน)

ด้วยเหตุและผลของ Bio-Psycho-Social (ชีวภาพ/พันธุกรรม-จิตใจ-สภาพสังคมแวดล้อม) นั่นทำให้คนทุกคนมีนิสัยต่างกัน แม้แต่ฝาแฝดท้องเดียวกันแท้ๆ พี่ก็เคยเจอว่าเขาก็ยังชอบอะไรที่ไม่เหมือนกันเลยแม้จะถูกเลี้ยงมาเหมือนกันใส่เสื้อกางเกงลายเดียวกัน แต่พอโตมาก็คิดต่างกัน เลือกทำอาชีพไปคนละแนวแล้ว ดังนั้นการจะบอกว่าใครคนใดคนหนึ่งมีนิสัยอย่างไร ต้องสอบประวัติ ต้องพูดคุยกันซึ่งต้องใช้เวลาอย่างมาก และเราต้องมีข้อมูลหลายด้านมากจริงๆ เราไม่อาจด่วนสรุปใครจากแว่บเดียวได้เลย ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นไปตามหลักจิตวิทยาที่ว่า นักจิตวิทยาจะไม่ตัดสินว่าคนคนไหนเป็นคนยังไงจากการสังเกตพฤติกรรมใดพฤติกรรมหนึ่งเพียงพฤติกรรมเดียว หรือแม้แต่สิ่งที่เขาพูดเราก็เชื่อเขาไม่ได้ทั้งหมด เราจึงต้องดูภาษากาย (body language) ควบคู่กัน

ถ้าใครดูหนังแนวจิตวิทยาก็จะพบว่าเวลานักจิตวิทยาต้องการข้อมูล นอกจากพูดคุยกับคนไข้แล้ว ก็จะต้องสอบประวัติคนไข้จากญาติ หรือแม้กระทั่งเดินทางไปขอข้อมูลจากเพื่อนบ้านของคนไข้ด้วย... เป็นต้น ดังนั้น จึงบอกได้เลยว่า จิตวิทยาไม่เกี่ยวข้องกับกรุ๊ปเลือดแต่อย่างใด ในการตัดสินคนคนหนึ่งว่าเขาต้องเป็นแบบนั้นแน่ มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย และในเนื้อหาของศาสตร์จิตวิทยาเองจริงๆ ก็ไม่มีสอนเรื่องกรุ๊ปเลือดนี้เลย เราไม่ได้ศึกษาเลือด เพราะพฤติกรรมคนถูกสั่งการมาจากสมอง"




อ้าว! แล้วศาสตร์การทำนายนิสัยด้วยกรุปเลือดนี่มีที่มาจากไหนเนี่ยย ?
- พี่เองก็สงสัยมากๆ ครับ ว่า "ใครมันเขียนขึ้นฟะ" !!! กระทั่งได้อ่านบทความของฝรั่ง 'Can Blood Type Determine Your Personality?' เขียนโดย Natalie Josef เขาอธิบายไว้ละเอียดมากๆ และให้ข้อมูลที่นำไปสู่ "ต้นตอที่แท้จริงของการทำนายนิสัยด้วยกรุปเลือด"

ต่อไปนี้ คือความจริง เกี่ยวกับที่มาของการ ""ทำนาย"" นิสัยด้วยกรุปเลือด

ต้นกำเนิด"ความเชื่อ"เรื่องกรุปเลือดทำนายนิสัย มาจากประเทศ Japan (แบบว่า เมดอินเจแปนกันเลยทีเดียว) โดยในประเทศญี่ปุ่นนั้นสมัยก่อน (ปี 1926) จะมี""ความเชื่อ""เรื่องกรุปเลือดสามารถทำนายนิสัยได้ ซึ่งมีที่มาจากหนังสือของ Rin Hirano และ Tomita Yashima อ้างว่าเลือดเกี่ยวข้องกับนิสัย ซึ่งต่อมาพบว่ามันไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ และไร้ซึ่งข้อมูลทางสถิติ และมีการวิพากษ์ว่าอาจนำไปสู่การแบ่งแยกกลุ่มคน***

เมื่อแนวคิดนี้ไม่ได้รับการยืนยันว่าพิสูจน์ในหลักวิทยาศาสตร์ได้ ทฤษฎีนี้จึงค่อยๆจางหายในช่วงประมาณปี 1930

กระทั่งต่อมา อยู่ๆ หนังสือนี้ถูกเผยแพร่ตีพิมพ์ออกไปโดยนักกฎหมาย(ซึ่งไม่มีประวัติการศึกษาทางด้านการแพทย์หรือเชิงวิทยาศาสตร์)ชื่อ Masahiko Nomi **** ทำให้ผู้อ่านเกิดเป็นความเชื่อขึ้นมาจริงๆ โดยถ้าหากลองไปประเทศญี่ปุ่นก็ไม่แปลก ถ้าหลังจากเขาถามชื่อแซ่เราแล้วก็จะถามต่อว่า "คุณกรุปเลือดอะไร" หรือแม้กระทั่งในหนังสือโน้ตต่างๆ ของญี่ปุ่นที่มีช่องให้กรอกโปรไฟล์ของเรา ก็จะปรากฏช่องให้กรอกกรุปเลือดของเราด้วย คนญี่ปุ่นเชื่อเรื่องกรุปเลือดเกี่ยวข้องกับนิสัยมากๆ โดยมีความคิดว่ากลุ่มคนเลือด AB เป็นบุคคลที่ไม่น่าคบหาด้วย และบางบริษัทก็ไม่รับเข้าทำงานด้วย นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ แม้กระทั่งในการ์ตูน anime ของญี่ปุ่น ตัวที่เล่นบทร้ายมักจะมีเลือดกรุป AB


นี่คือนิสัยบางส่วนที่เขาบอกว่า คนกรุ๊ป B จะเป็น ตามในหนังสือ:
1- ชอบอะไรที่แตกต่างจากคนทั่วไปสนใจเวลานั้น
2- บางครั้งก็นึกสงสัยในเรื่องไม่เป็นเรื่อง
3- บางครั้งก็นึกอยากในเรื่องไม่เป็นเรื่อง

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อ 3 ข้ออ่านจบแล้ว
ขอให้คุณย้อนอ่านนิสัยนั้นอีกรอบโดยให้เอานิ้วปิดคำว่ากรุ๊ป B ซะ
แล้วก่อนอ่านให้คิดว่า"เรากำลังจะอ่านนิสัยของคนกรุ๊ป A นะ"
จากนั้นจึงเริ่มต้นอ่านทั้งสามข้อนั้นอีกที

อ่านจบแล้ว คราวนี้ขอให้ย้อนอ่านใหม่อีกรอบโดยลองเปลี่ยนเป็นกรุ๊ป O , AB

จะเห็นว่ามันคือ นิสัยโดยทั่วไปของมนุษย์ทุกคน โดยไม่ต้องไปแบ่งหรือแยกแยะว่าเป็นเรื่องเฉพาะของหมู่เลือดใดหรอก
และประเด็น ก็คือ ส่วนใหญ่คนเราจะอ่านแต่กรุ๊ปของตัวเองนี่เนอะ ฮา



จะเห็นได้ว่าจริงๆ แล้ว ที่เขาเขียนๆ อธิบายนิสัยเหล่านั้นไว้
มันก็คือ ""นิสัยที่สามารถเกิดขึ้นได้กับมนุษย์ทุกคน"" ครับ
โดยเคล็ดลับของการทาย คือ จะทายกว้างๆ เช่น เป็นคนรักสะอาด (แน่นอนว่าคงไม่มีใครบอกว่าไม่จริง ฉันรักความสกปรก ชอบกลิ่นหนูตาย อยากอยู่ในห้องเน่าๆ มันไม่มีใครบอกแบบนั้นแน่ๆ มันแปลกคนทั่วๆไป ดังนั้นเราก็เลยมักจะเห็นแต่ประโยคที่เขาทำนายไว้แบบตื้นๆ เขาไม่กล้าเจาะลึกลงมา เพราะกลัวจะไม่ตรงนั่นไงหละครับ)

สรุปง่ายๆ คือมันเป็นแค่ "ความเชื่อ" และการ "ทำนาย"
ไม่สามารถไปบอกหรือกล่าวหา ว่าคนหมู่เลือดนั้นจะเป็นแบบนั้นได้จริงครับ มันเป็นเพียงศาสตร์ที่เขียนขึ้นมาลอยๆ วิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่จริง และจริงๆ ไม่ใช่เนื้อหาที่มีสอนในวิชาจิตวิทยาเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ควรจะใช้คำว่าเป็นการ "การบิดเบือนข้อมูล/ข้อเท็จจริง โดยใช้จิตวิทยากับความเขลาของผู้อ่าน" -- แบบนี้น่าจะดีกว่า.

สุดท้ายนี้ ถ้าผู้อ่านอยากจะถามผมต่อ "ทำไมคนถึงฮอตฮิตหมู่เลือด ทั้งที่ในทางวิทย์ก็บอกอยู่ว่าไม่จริง"?
คำตอบนั้นง่ายมาก "ก็เพราะ We all love to know things about ourselves." (เราทุกคนชื่นชอบที่จะได้รู้เรื่องเกี่ยวกับตัวเอง)

เครดิต (ให้ไว้อยู่ด้านบนแล้ว)
ที่มา: http://www.dek-d.com/board/view/3359154/





ป.ล. รายละเอียดเพิ่มเติม - เรื่องหนังสือทำนายหมู่เลือดเล่มแรกที่ถูกเขียนเพื่อจำหน่ายในญี่ปุ่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จัดทำโดยนักกฏหมาย (เขามีความรู้วิทยาศาสตร์มาบ้างไหมเนี่ย?) ชื่อ Masahiko Nomi ในปี 1970 โดยต่อมาถูกโจมตีจากสถาบัน Japanese psychological community ในประเด็นเรื่องไม่ผ่านการตรวจสอบและไม่ใช่ศาสตร์ที่ศึกษาวิจัยมา และพิสูจน์พบว่าเลือดไม่ใช่ตัวบ่งบอกบุคลิกภาพของคนได้เลย หากแต่เป็นเรื่องที่นั่งเทียนเชียนขึ้นเอง แต่แปลกมากที่มันก็ยังคงมีคนหลงเชื่อจากกลุ่มคนญี่ปุ่นบางส่วนเสมอมา (มีบันทึกว่าหนังสือเล่มนี้ได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2008) ก็คงเพราะคนเราชอบ ส. ใส่เกือก อยากรุ้เรื่องของคนอื่นแหล่ะเนาะ มันถึงแลดูน่าสนใจ เหมือนกำลังอ่านไต๋ของคนอื่น ... แต่จริงๆ ในหนังสือนั้น ทั้งหมดมันเป็นเรื่องมโนของผู้เขียนล้วนๆ จ้า ไม่ใช่ fact ดังนั้นอ่านแล้วอย่าไปเออออเชื่อตามว่าทุกคนจะเป็นอย่างนั้นแล้วกัน ไม่เช่นนั้น จะเกิดเป็นอคติ หรือศัพท์จิตวิทยาเขาเรียกคนพวกนี้ว่า "คนเหมารวม" คือมองผู้อื่นว่าเหมือนๆ กันหมด ทั้งๆที่มนุษย์มีความเป็นปัจเจกชน หรือแปลเป็นไทยอีกทีก็คือ เราต่างชอบอะไรต่างกัน เจออะไรมาไม่เหมือนกัน มีแบคกราวนด์ชีวิตก็คนละอย่าง ร้อยพ่อพันแม่ ดังนั้นยากยิ่งนักที่จะมีใครสักคนที่คิดเห็นหรือชอบหรือคลั่งไคล้อะไรเหมือนกันทุกประการ 100% ส่วนตัวแล้วเราเองก็ยังไม่เคยเจอเลยสักคน (ใครเจอคนที่คิดและทำอะไรเหมือนกับตัวเองมากๆ นี่ถือว่าโคตรพรหมลิขิตจริงๆ นะ)

ปัจจุบัน ประเทศต่างๆ ในเอเชีย ได้รับอิทธิพลจากหนังสือเล่มดังกล่าวข้างต้น โดยมีการนำไปแปลขายกันเยอะแยะมากมาย (คาดว่าหนังสือนี้ไม่มีค่าลิขสิทธิ์ เพราะผู้เขียนก็มโนขึ้นมาเองอยู่แล้ว และไม่ได้รับการ approve หรืออนุมัติจากทาง JPC ดังนั้นมันจึงกลายเป็นเหมือน ความเชื่อที่เล่าๆต่อมา ในทางวิทยา ศาสตร์ ก็เตือนไว้ชัดเจนแล้วว่าไม่จริง) เช่น เกาหลี, ไทยเองก็เริ่มมีเอามาแปลแล้ว โดยแปลต่อมาจากการ์ตูนอีกที แต่หารู้ไม่ว่า ทั้งหมดทางสมาคมของญี่ปุ่นเขาก็ถือว่าเป็นเรื่อง เท็จ

http://en.wikipedia.org/wiki/Blood_types_in_Japanese_culture

ป.ล.2 รายละเอียดเพิ่มเติม - เรื่องปรากฏการณ์เฟอเร่อ (ยอมรับและมองเห็นแต่คำทำนายที่เป็นเรื่องดีๆทั่วไปกับตัวเอง...แล้วเหมารวมว่ามันแม่น แต่ไม่ยอมรับสิ่งไม่ดีหรือคำทำนายร้ายๆ หรือสิ่งที่เขาทายผิด)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หนังสือทำนายเทือกนี้ ีรวมๆแล้ว เขาเรียกว่าปรากฏการณ์เฟอเร่อ เอฟเฟค จ้า
คือเทคนิคการเขียนบบ "หว่านแห" ดังนั้น มันก็ไปฟลุคตรงกับนิสัยของคนคนนั้น แล้วเกิดเชื่อไปโดยปริยาย

แต่ส่วนที่มันไม่ตรงกับตัวเอง คนอ่านกลับลืม
พออะไรที่มันตรงหน่อย ก็สรุปว่ามันตรง

ยกตัวอย่างเช่น หมอลักษณ์ เรขานิเทษ
ที่ทำนายว่า นายกทักษิณ จะอยุ่ครบตำแหน่ง
อยู่ครบไหม ? ไม่ครบ
คนจำได้ไหม ไม่ได้

ต่อมา ทำนายอีก เชียงใหม่จะมีแผ่นดินไหวปี 47
แผ่นดินไหวไหม? ไม่มี
คนจำได้ไหม ไม่ได้

แต่พอ ทำนายว่าแหม่มท้องก่อนแต่ง
ท้องจริงไหม ท้อง
คนจำได้ไหม ได้
หมอลักษณ์แม่นไหม.... โคตรแม่น

เห้อ ให้ตายสิ นี่แหละ ปรากฏการณ์เฟอเร่อ

fake ขึ้นทั้งเพ นั่งเทียนเขียน ชัดเจน
เลือด ไม่ได้มีผลที่จะบอกบุคลิกภาพมนุษย์ได้เลยแต่อย่างใด

ถ้าสงสัย และอยากถามว่า กรุปเลือดนี้มาจากไหนล่ะ เห็นเขียนออกมาเป็นการ์ตูนได้ วางขาย เป็นเล่มๆ เยอะแยะ
อันนี้ต้องไปย้อนไป ต้นกำเนิดชองเรื่องโกหกทั้งเพนี้ สมัยก่อน คนที่เขียนเรื่องกรุปเลือดขึ้นมา ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์นะครับ (แล้วแบบนี้ คนเขียนเขาจะเอา fact มาจากไหน คำตอบก็คงรู้กันดีอยู่แล้ว) และหนังสือเล่มนี้โดนวิจารณ์ ในฐานะที่เสี่ยงต่อการ "แบ่งแยกบุคคล" หรือพูดง่ายๆ คือ แบ่งพรรคแบ่งพวก ในสมัยเยอรมัน นาซี

ก็ไม่แปลก ถ้าอ่านๆไปแล้วไม่เห็นตรงกับทุกๆคน
และไม่แปลกอีก ถ้าในหนังสือทำนายเหล่านี้ ไม่เคย มีการอ้างอิง หรือ reference ไปยังวารสารวิขาการใดๆ เลย แม้กระทั่งคำนำก็เขียนแบบแถๆ ไม่เห็นสักเล่มที่จริงใจจะบอกว่า ที่มาของกรุปเลือด เป็นเพียงการแต่งขึ้น ...ไม่มีสักเล่มที่กล้าระบุ ....เพราะอะไร... กลัวขายไม่ได้ (สำหรับคนที่รู้) จบ!

http://th.wikipedia.org/wiki/ปรากฏการณ์ฟอเรอร์