Credit:
https://www.facebook.com/careerconnext
อันที่จริงแล้วเทคนิคในการเขียน Resume นั้นก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากเทคนิคการจีบสาวของบรรดาชายหนุ่มทั้งหลาย เพราะการจะจีบใครซักคนนั้น หนุ่มๆ ก็จะต้องมีการทำการบ้านมาเป็นอย่างดี จะต้องรู้ว่าสาวคนนั้นชอบกินอะไร ทำอะไร และที่สำคัญที่สุด สเปคของสาวในฝันคนนั้นเป็นอย่างไร โดยในบทความนี้ เราจะมาไล่เรียงกันถึงขั้นตอนการนำชั้นเชิงการจีบหญิง ไปปรับใช้กับการเขียน Resume ให้ตรงใจกับนายจ้างกัน
ผู้หญิงแต่ละคนไม่เหมือนกัน
แน่นอน มุกจีบหญิงที่เวิร์กสำหรับสาว A อาจจะใช้ไม่ได้เลยกับ สาว B เพราะฉะนั้น เราจะต้องทำการศึกษามาเป็นอย่างดีว่าเธอคนที่เราหมายปองนั้นชอบทำอะไร ไม่ชอบทำอะไร ชอบผู้ชายแบบไหน ไม่ชอบผู้ชายแบบไหน ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการที่บริษัทแต่ละแห่งก็มองหาพนักงานที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นเราจะต้องทำการศึกษาให้เข้าใจว่างานที่เราต้องการสมัครนั้น ต้องการคนที่มีคุณสมบัติเป็นอย่างไร แล้วจึงเริ่มต้นลงมือเขียน Resume แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าคุณไม่ได้มีคุณสมบัติตามที่เธอคนนั้นต้องการ คุณก็ยังสามารถที่จะพยายามสร้างจุดขายบนจุดเด่นอื่นๆที่คุณมีได้เพื่อชนะใจเธอได้เช่นกัน เหมือนกับงานที่คุณสามารถจะปรับแต่ง Resume ของคุณเพื่อให้มีความใกล้เคียงกับความต้องการของงานนั้นๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ตรงเป๊ะก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ยอมให้เธอนั้นเปิดใจลองศึกษาคุณเพิ่มเติม หรือก็คือการที่บริษัทเรียกคุณไปสัมภาษณ์นั่นเอง
ตัวเรามีดีอะไร (โดยเฉพาะที่เจ๋งกว่าคนอื่น)
การซื้อดอกกุหลาบช่อใหญ่ไปฝากสาวในฝัน อาจจะเป็นการสร้างความประทับใจที่ดีอย่างหนึ่ง แต่ลองคิดซิดูว่า ถ้าเธอคนนั้นฮอตขนาดที่ว่าได้รับช่อดอกไม้จากหนุ่มๆเป็นประจำทุกวัน จนกลายเป็นเรื่องชินชาไปซะแล้ว คุณจะยังสามารถทำให้เธอประทับใจได้หรือไม่กับการซื้อดอกไม้ช่อโตไปให้เธอ การสมัครงานก็เหมือนกัน คุณอาจจะภูมิใจว่าเป็นคนเรียนเก่ง ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง แต่ถ้างานที่คุณสมัครเป็นงานที่เหล่าบรรดาเพื่อนๆเกียรตินิยมอันดับหนึ่งก็สมัครเช่นเดียวกัน การโชว์แค่ว่าคุณเรียนเก่งนั้นคงจะไม่เพียงพอเป็นแน่ ดังนั้นคุณจะต้องพยายามเขียนข้อดีของคุณออกมาให้เยอะที่สุด แล้วจึงนำเอาคุณสมบัติที่ตำแหน่งงานนั้นต้องการมาจับคู่กับความสามารถของเรา เพื่อนำเข้าไปใส่ใน Resume
First Impression สำคัญมากกกกกก
โดยทั่วไป มนุษย์จะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีแรกที่พบกันในการตัดสินใจว่าชอบคนๆนั้นหรือไม่ โดยที่ความชอบหรือไม่ชอบนั้น จะเปลี่ยนแปลงได้ค่อนข้างยากแต่ต้องใช้เวลานาน การส่ง Resume ไปสมัครงานก็เหมือนกับการที่เราไปลง Profile หาคู่ออนไลน์ เวลาที่คนเข้าไปเลือกที่จะติดต่อใคร จะใช้เวลาไม่เกินสิบวินาทีในการตัดสินใจ เพียงแค่รูป Selfie ของคุณเอียงมุมผิดไปองศานึง Profile คุณก็จะโดนลบทิ้งไปอย่างรวดเร็ว เวลาบริษัทอ่าน Resume ของพนักงานก็เช่นเดียวกัน ถ้าคุณไม่สามารถทำให้ผู้อ่านสนใจได้ภายในสิบวินาที เตรียมใจไว้เลยว่าในวินาทีที่ 11 Resume ของคุณก็จะถูกร่อนลงไปในกล่อง Recycle ทันที
จุดเด่นต้องเอาให้เด่น จุดด้อยก็ทำให้ดูไม่แย่
ถ้าคุณขับ Ferrari ก็อย่าลืมทำกุญแจรถตกให้เธอเห็น ถ้าคุณใส่ Patek ก็อย่าลืมทำเป็นเช็คเวลาต่อหน้าเธอ เหมือนกัน ถ้าคุณเคยไปฝึกงานกับ Nasa หรือ เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งโอลิมปิค จะต้องให้ผู้จ้างงานรับรู้ถึงจุดเด่นของคุณ และจะต้องให้เป็นสิ่งแรกๆ ที่เค้าจะเห็นใน Resume เลยทีเดียว
ในทางกลับกัน ถ้าคุณเป็นคนรูปร่างท้วม ก็หาเสื้อผ้าเข้มๆมาใส่ ถ้ารูปร่างไม่สูง ก็หาแผ่นเสริมความสูงมาเพิ่มความมั่นใจ ทีผู้หญิงยังแต่งหน้าได้เลย ทำไมผู้ชายจะเสริมความหล่อนิดๆหน่อยๆไม่ได้หล่ะ ดังนั้นถ้าคุณเกรดไม่ดี ก็อย่าไปใส่ ถ้าเค้าไม่ได้ถาม ถ้าตอนมหาลัยไม่ได้ทำกิจกรรมอะไร ก็อย่าไปใส่ว่าเป็นสมาชิกชมรม กขค เพราะการเป็นเพียงแค่สมาชิกโดยไม่ได้ทำอะไร มันไม่ได้สร้างความโดดเด่นให้กับคุณเลยแม้แต่น้อย การทำแบบนี้ไม่ถึงว่าคุณกำลังโกหกอยู่นะ เพราะบริษัทเองก็ไม่ได้บอกถึงจุดด้อยของตำแหน่งงานที่รับสมัครเหมือนกัน เพราะแทนที่บริษัทจะบอกว่าตำแหน่งนี้ต้องทำงานดึกทุกวัน ร้อยทั้งร้อยจะบอกว่า ต้องการคนที่สามารถทำงานในเวลาที่ยืดหยุ่นได้ (ดูดีขึ้นมาเลยใช่มั๊ยหล่ะ)
ต้องดูดีจากหัวจรดเท้า
หนุ่มๆมักจะคิดว่าสาวๆมองหนุ่มที่หน้าตา แต่แท้จริงแล้ว มีผู้หญิงจำนวนมากชอบแอบมองดูรองเท้าของชายหนุ่ม เพราะว่า จะได้รู้ว่าหนุ่มๆนั้นให้ความสำคัญกับการแต่งตัวมากน้อยแค่ไหน เพราะผู้ชายส่วนใหญ่เกินครึ่งมีรองเท้าแค่ไม่กี่คู่ แล้วใส่ซ้ำไปซ้ำมาอยู่แค่นั้น แถมไม่ทำความสะอาดซะอีกเพราะฉะนั้นการให้ความสำคัญกับรองเท้าเพื่อให้สาวๆนั้นประทับใจจึงมีความหมายมาก กลับมาที่การเขียน Resume หลายๆครั้งคนที่ Profile ดูดีมีสกุลกลับตกม้าตายกับเรื่องง่ายๆ เช่น การใส่ Email ที่ไปลงทะเบียนไว้ตั้งแต่สมัยยังเป็นวัยแว้นแรกรุ่นอยู่ ชื่อ Email ที่สมัยนั้นสุดแสนจะ Cool กลับกลายเป็นจุดที่ทำให้ Resume ของคุณนั้นตายสนิท (คิดว่าบริษัทอยากจะจ้างคนที่ใช้ Email bloodyzombie@hotmail.com มั๊ยหล่ะ) ดังนั้น ก่อนจะส่ง Resume สมัครงาน ลองอ่านดูอีกทีว่ามีอะไรแหม่งๆหรือเปล่า
เขียน Resume กับการจีบสาวเหมือนกันตรงไหน??
Credit: https://www.facebook.com/careerconnext
อันที่จริงแล้วเทคนิคในการเขียน Resume นั้นก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากเทคนิคการจีบสาวของบรรดาชายหนุ่มทั้งหลาย เพราะการจะจีบใครซักคนนั้น หนุ่มๆ ก็จะต้องมีการทำการบ้านมาเป็นอย่างดี จะต้องรู้ว่าสาวคนนั้นชอบกินอะไร ทำอะไร และที่สำคัญที่สุด สเปคของสาวในฝันคนนั้นเป็นอย่างไร โดยในบทความนี้ เราจะมาไล่เรียงกันถึงขั้นตอนการนำชั้นเชิงการจีบหญิง ไปปรับใช้กับการเขียน Resume ให้ตรงใจกับนายจ้างกัน
ผู้หญิงแต่ละคนไม่เหมือนกัน
แน่นอน มุกจีบหญิงที่เวิร์กสำหรับสาว A อาจจะใช้ไม่ได้เลยกับ สาว B เพราะฉะนั้น เราจะต้องทำการศึกษามาเป็นอย่างดีว่าเธอคนที่เราหมายปองนั้นชอบทำอะไร ไม่ชอบทำอะไร ชอบผู้ชายแบบไหน ไม่ชอบผู้ชายแบบไหน ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการที่บริษัทแต่ละแห่งก็มองหาพนักงานที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นเราจะต้องทำการศึกษาให้เข้าใจว่างานที่เราต้องการสมัครนั้น ต้องการคนที่มีคุณสมบัติเป็นอย่างไร แล้วจึงเริ่มต้นลงมือเขียน Resume แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าคุณไม่ได้มีคุณสมบัติตามที่เธอคนนั้นต้องการ คุณก็ยังสามารถที่จะพยายามสร้างจุดขายบนจุดเด่นอื่นๆที่คุณมีได้เพื่อชนะใจเธอได้เช่นกัน เหมือนกับงานที่คุณสามารถจะปรับแต่ง Resume ของคุณเพื่อให้มีความใกล้เคียงกับความต้องการของงานนั้นๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ตรงเป๊ะก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ยอมให้เธอนั้นเปิดใจลองศึกษาคุณเพิ่มเติม หรือก็คือการที่บริษัทเรียกคุณไปสัมภาษณ์นั่นเอง
ตัวเรามีดีอะไร (โดยเฉพาะที่เจ๋งกว่าคนอื่น)
การซื้อดอกกุหลาบช่อใหญ่ไปฝากสาวในฝัน อาจจะเป็นการสร้างความประทับใจที่ดีอย่างหนึ่ง แต่ลองคิดซิดูว่า ถ้าเธอคนนั้นฮอตขนาดที่ว่าได้รับช่อดอกไม้จากหนุ่มๆเป็นประจำทุกวัน จนกลายเป็นเรื่องชินชาไปซะแล้ว คุณจะยังสามารถทำให้เธอประทับใจได้หรือไม่กับการซื้อดอกไม้ช่อโตไปให้เธอ การสมัครงานก็เหมือนกัน คุณอาจจะภูมิใจว่าเป็นคนเรียนเก่ง ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง แต่ถ้างานที่คุณสมัครเป็นงานที่เหล่าบรรดาเพื่อนๆเกียรตินิยมอันดับหนึ่งก็สมัครเช่นเดียวกัน การโชว์แค่ว่าคุณเรียนเก่งนั้นคงจะไม่เพียงพอเป็นแน่ ดังนั้นคุณจะต้องพยายามเขียนข้อดีของคุณออกมาให้เยอะที่สุด แล้วจึงนำเอาคุณสมบัติที่ตำแหน่งงานนั้นต้องการมาจับคู่กับความสามารถของเรา เพื่อนำเข้าไปใส่ใน Resume
First Impression สำคัญมากกกกกก
โดยทั่วไป มนุษย์จะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีแรกที่พบกันในการตัดสินใจว่าชอบคนๆนั้นหรือไม่ โดยที่ความชอบหรือไม่ชอบนั้น จะเปลี่ยนแปลงได้ค่อนข้างยากแต่ต้องใช้เวลานาน การส่ง Resume ไปสมัครงานก็เหมือนกับการที่เราไปลง Profile หาคู่ออนไลน์ เวลาที่คนเข้าไปเลือกที่จะติดต่อใคร จะใช้เวลาไม่เกินสิบวินาทีในการตัดสินใจ เพียงแค่รูป Selfie ของคุณเอียงมุมผิดไปองศานึง Profile คุณก็จะโดนลบทิ้งไปอย่างรวดเร็ว เวลาบริษัทอ่าน Resume ของพนักงานก็เช่นเดียวกัน ถ้าคุณไม่สามารถทำให้ผู้อ่านสนใจได้ภายในสิบวินาที เตรียมใจไว้เลยว่าในวินาทีที่ 11 Resume ของคุณก็จะถูกร่อนลงไปในกล่อง Recycle ทันที
จุดเด่นต้องเอาให้เด่น จุดด้อยก็ทำให้ดูไม่แย่
ถ้าคุณขับ Ferrari ก็อย่าลืมทำกุญแจรถตกให้เธอเห็น ถ้าคุณใส่ Patek ก็อย่าลืมทำเป็นเช็คเวลาต่อหน้าเธอ เหมือนกัน ถ้าคุณเคยไปฝึกงานกับ Nasa หรือ เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งโอลิมปิค จะต้องให้ผู้จ้างงานรับรู้ถึงจุดเด่นของคุณ และจะต้องให้เป็นสิ่งแรกๆ ที่เค้าจะเห็นใน Resume เลยทีเดียว
ในทางกลับกัน ถ้าคุณเป็นคนรูปร่างท้วม ก็หาเสื้อผ้าเข้มๆมาใส่ ถ้ารูปร่างไม่สูง ก็หาแผ่นเสริมความสูงมาเพิ่มความมั่นใจ ทีผู้หญิงยังแต่งหน้าได้เลย ทำไมผู้ชายจะเสริมความหล่อนิดๆหน่อยๆไม่ได้หล่ะ ดังนั้นถ้าคุณเกรดไม่ดี ก็อย่าไปใส่ ถ้าเค้าไม่ได้ถาม ถ้าตอนมหาลัยไม่ได้ทำกิจกรรมอะไร ก็อย่าไปใส่ว่าเป็นสมาชิกชมรม กขค เพราะการเป็นเพียงแค่สมาชิกโดยไม่ได้ทำอะไร มันไม่ได้สร้างความโดดเด่นให้กับคุณเลยแม้แต่น้อย การทำแบบนี้ไม่ถึงว่าคุณกำลังโกหกอยู่นะ เพราะบริษัทเองก็ไม่ได้บอกถึงจุดด้อยของตำแหน่งงานที่รับสมัครเหมือนกัน เพราะแทนที่บริษัทจะบอกว่าตำแหน่งนี้ต้องทำงานดึกทุกวัน ร้อยทั้งร้อยจะบอกว่า ต้องการคนที่สามารถทำงานในเวลาที่ยืดหยุ่นได้ (ดูดีขึ้นมาเลยใช่มั๊ยหล่ะ)
ต้องดูดีจากหัวจรดเท้า
หนุ่มๆมักจะคิดว่าสาวๆมองหนุ่มที่หน้าตา แต่แท้จริงแล้ว มีผู้หญิงจำนวนมากชอบแอบมองดูรองเท้าของชายหนุ่ม เพราะว่า จะได้รู้ว่าหนุ่มๆนั้นให้ความสำคัญกับการแต่งตัวมากน้อยแค่ไหน เพราะผู้ชายส่วนใหญ่เกินครึ่งมีรองเท้าแค่ไม่กี่คู่ แล้วใส่ซ้ำไปซ้ำมาอยู่แค่นั้น แถมไม่ทำความสะอาดซะอีกเพราะฉะนั้นการให้ความสำคัญกับรองเท้าเพื่อให้สาวๆนั้นประทับใจจึงมีความหมายมาก กลับมาที่การเขียน Resume หลายๆครั้งคนที่ Profile ดูดีมีสกุลกลับตกม้าตายกับเรื่องง่ายๆ เช่น การใส่ Email ที่ไปลงทะเบียนไว้ตั้งแต่สมัยยังเป็นวัยแว้นแรกรุ่นอยู่ ชื่อ Email ที่สมัยนั้นสุดแสนจะ Cool กลับกลายเป็นจุดที่ทำให้ Resume ของคุณนั้นตายสนิท (คิดว่าบริษัทอยากจะจ้างคนที่ใช้ Email bloodyzombie@hotmail.com มั๊ยหล่ะ) ดังนั้น ก่อนจะส่ง Resume สมัครงาน ลองอ่านดูอีกทีว่ามีอะไรแหม่งๆหรือเปล่า