คิดยังไงกับบทลงโทษของคดีนี้?

กระทู้คำถาม
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 ส.ค. ที่ห้องพิจารณาคดี 911 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.647/2554 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 และ นางสวรรค์ ใจสงัด มารดาของจ.ส.อ.หญิง เกสรา ใจสงัด อายุ 40 ปี ทหารสังกัดกองพลาธิการ กรมยุทธบริการทหารบก ผู้ตาย พร้อมบุตร 2 คน เป็นโจทก์ ฟ้องร.ต.อ.นพฤทธิ์ วิเศษศักดิ์ อายุ 45 ปี อดีตรอง สว.ธุรการ บก.น.7 ช่วยราชการ สน.เตาปูน เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย พาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต



โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย.53 จำเลยกับ จ.ส.อ.หญิง เพื่อนสาวคนสนิทของจำเลย พร้อมเพื่อนรวม 8 คน นั่งรับประทานอาหารและดื่มสุรา ที่ร้านอาหารอีสาน ริมถนนประชาราษฎร์ 2 ต่อมาจำเลยเกิดความหึงหวงผู้ตาย จึงใช้ปืนขนาด 9 ม.ม. ยิงจ.ส.อ.หญิง จนเสียชีวิต หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ต่อมาวันที่ 5 พ.ย.53 จำเลยเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมให้การปฏิเสธอ้างว่าปืนลั่น ไม่มีเจตนายิงผู้ตาย



ศาลชั้นต้นพิพากษว่าจำเลยมีความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลงโทษจำคุก 15 ปี ฐานพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ ปรับ 2,100 บาท คำให้การของจำเลยมีประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 10 ปี ปรับ 1,400 บาท ริบของกลางอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนปืน ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์สู้คดี ซึ่งศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จากนั้นจำเลยได้ยื่นฎีกา ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า ที่จำเลยฎีกาว่าไม่มีเจตนาฆ่า ขอให้ลงโทษสถานเบานั้นไม่เป็นสาระสำคัญที่จะรับไว้พิจารณา ซึ่งศาลล่างวินิจฉัยไว้ชัดเจนแล้ว ให้จำหน่ายฎีกาออกจากสารบบ 



ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยแล้ว คดีจึงถึงที่สุด ซึ่งต้องมีการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ที่ให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 10 ปี และปรับ 1,400 บาท นอกจากนี้ระหว่างการพิจารณาในชั้นอุทธรณ์ จำเลยตกลงจ่ายเงินชดเชยให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นเงิน 4.5 ล้านบาท 

# ก็อยากรู้เหตุผลต่างของเพื่อนๆ เกี่ยวกับบทลงโทษของคดีนี้ ถึงแม้ศาลจะตัดสินมาแล้ว  ว่าเป็นยังไงกัน  แต่ต้องไม่มีเอี่ยวการเมืองนะ คับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่