ผมสังเกตแล้วว่า โครงการที่นำโดย ปชป หรือ สานต่อจากรัฐบาลที่แล้ว นั้นมีข้อดีที่คาดไม่ถึงอยู่ นั้นคือ โครงการที่นำไป มักจะมีความมั่นคงสูง แข็งแรง ปลอดภัย ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม มากกว่าโครงการอื่นๆ เช่น
1.โฮปเวลล์
ถูกสร้างมาตั้งแต่ ธันวาคม 2534 จนมาถึงปี สิงหาคม 2540 โครงการถูกยกเลิกไป ไร้การดูแลโดยสิ้นเชิง โดยปล่อยให้ผุพังไปตามกาลเวลา แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะแทบไม่ผุพังเลย แถมยังเด่นเปนสง่าอยู่ข้างถนนวิภาวดี-รังสิตจบจนปี 2557 อย่างไม่น่าเชื่อ จนฝรั่งที่เที่ยวประเทศไทยต้องขนานนามไว้ว่า "สโตนเฮจ เมืองไทย"
และในปี 2556 ซึ่งได้มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ซึ่งจำเป็นต้องใช้พื้นที่ที่เคยสร้างโฮปเวล ซึ่งทำให้โฮปเวลล์ที่โดนทิ้งไป ต้องกลายเป็นของที่มีมูลค่าขึ้นอีกครั้ง เพราะต้องใช้รื้อต่อม่อโฮบเวลล์ทั้งหมดประมาน 200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นทิปเล็กๆ ให้แก่อิตาเลียนไทยไป
2.บางกอกอารีนา หรือ สนามฟุตซอลหนองจอก
เนื่องจาก ทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ได้ให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ฟุตซอลชิงแชมป์โลกปี 2012 ทางรัฐบาลในสมัยนั้น (ไม่ต้องบอกว่าใคร) จึงให้ทาง สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่า กทม รับผิดชอบในโครงการนี้
แต่พอเวลาการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลกครั้งที่ 7 เริ่มขึ้น ฟีฟ่าได้มาตรวจอาคารก่อนการใช้งาน ซึ่งทางหม่อมเค้าออกมายืนยันแล้วว่า สนามได้มาตรฐานจริงๆนะ ซึ่งทางหม่อมเค้าคงมีสถาปัตยกรรม วิศวกรรมแบบใหม่ที่รองรับคน และอพยพคนออกจากสนามได้มาตรฐานตามที่ฟีฟ่ากำหนดไว้
แต่เนื่องจาก ฟีฟ่าเค้าคงไม่มีความรู้สถาปัตยกรรม วิศวกรรมแบบใหม่ของหม่อมเค้า จึงทำให้สนามไม่ผ่านการตรวจของฟีฟ่าเค้า จนไปใช้สนามสำรองแทน
แต่เนื่องจากฟีฟ่าไม่เข้าใจ ถาปัตยกรรม วิศวกรรมแบบใหม่ของหม่อมเค้า จึงได้คำพูดมาอย่างมั่นใจว่า "ไม่เข้าใจมาตรฐานการอพยพคนของฟีฟ่าต้องใช้หลักเกณฑ์ใด"
ผลงาน ปชป ในที่สุดผมก็เจอแล้วครับบ
1.โฮปเวลล์
ถูกสร้างมาตั้งแต่ ธันวาคม 2534 จนมาถึงปี สิงหาคม 2540 โครงการถูกยกเลิกไป ไร้การดูแลโดยสิ้นเชิง โดยปล่อยให้ผุพังไปตามกาลเวลา แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะแทบไม่ผุพังเลย แถมยังเด่นเปนสง่าอยู่ข้างถนนวิภาวดี-รังสิตจบจนปี 2557 อย่างไม่น่าเชื่อ จนฝรั่งที่เที่ยวประเทศไทยต้องขนานนามไว้ว่า "สโตนเฮจ เมืองไทย"
และในปี 2556 ซึ่งได้มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ซึ่งจำเป็นต้องใช้พื้นที่ที่เคยสร้างโฮปเวล ซึ่งทำให้โฮปเวลล์ที่โดนทิ้งไป ต้องกลายเป็นของที่มีมูลค่าขึ้นอีกครั้ง เพราะต้องใช้รื้อต่อม่อโฮบเวลล์ทั้งหมดประมาน 200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นทิปเล็กๆ ให้แก่อิตาเลียนไทยไป
2.บางกอกอารีนา หรือ สนามฟุตซอลหนองจอก
เนื่องจาก ทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ได้ให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ฟุตซอลชิงแชมป์โลกปี 2012 ทางรัฐบาลในสมัยนั้น (ไม่ต้องบอกว่าใคร) จึงให้ทาง สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่า กทม รับผิดชอบในโครงการนี้
แต่พอเวลาการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลกครั้งที่ 7 เริ่มขึ้น ฟีฟ่าได้มาตรวจอาคารก่อนการใช้งาน ซึ่งทางหม่อมเค้าออกมายืนยันแล้วว่า สนามได้มาตรฐานจริงๆนะ ซึ่งทางหม่อมเค้าคงมีสถาปัตยกรรม วิศวกรรมแบบใหม่ที่รองรับคน และอพยพคนออกจากสนามได้มาตรฐานตามที่ฟีฟ่ากำหนดไว้
แต่เนื่องจาก ฟีฟ่าเค้าคงไม่มีความรู้สถาปัตยกรรม วิศวกรรมแบบใหม่ของหม่อมเค้า จึงทำให้สนามไม่ผ่านการตรวจของฟีฟ่าเค้า จนไปใช้สนามสำรองแทน
แต่เนื่องจากฟีฟ่าไม่เข้าใจ ถาปัตยกรรม วิศวกรรมแบบใหม่ของหม่อมเค้า จึงได้คำพูดมาอย่างมั่นใจว่า "ไม่เข้าใจมาตรฐานการอพยพคนของฟีฟ่าต้องใช้หลักเกณฑ์ใด"