ความเห็นหลังดูแผลเก่า (มีสปอยล์)

วันนี้ได้ไปดูแผลเก่ามา อยากเล่าความรู้สึกที่มีต่อหนังเรื่องนี้ครับ มีสปอยล์นะครับ

ตอนแรกที่ได้ยินข่าวว่า หม่อมน้อยจะสร้างแผลเก่า มีนิว ชัยพลและใหม่ ดาวิกาเป็นขวัญเรียม ใจคิดว่าจะไหวหรือ จะดีหรือ เอาบทประพันธ์อมตะมาสร้างสไตล์หม่อมน้อยเดี๋ยวก็ปรุงแต่งออกมาเป็นละครเวที ดาราทั้งสองคนก็ไม่น่าใช่ขวัญเรียมที่น่าจะเป็น

พอเริ่มได้เห็นตัวอย่างหนัง ได้เห็นภาพ ได้ฟังเพลงประกอบ เอ๊ะ ไม่เลวนะ น่าดู

วันนี้ได้ดูหนังเรื่องนี้เต็มๆ แล้วอยากบอกว่า สมกับที่รอคอยจริงๆ ครับ

หม่อมน้อยทำแผลเก่าออกมาได้ลงตัวมาก ดูแล้วมีความเป็น "หนัง" มากที่สุดต่างกับเรื่องที่แล้วๆ มา (แม้ว่า เรื่องแผลเก่านี้ จะยังปรุงแต่งตามสไตล์หม่อมน้อยบ้างก็เถอะ แต่ก็เป็นส่วนน้อย) เป็นหนังที่น่าพึงพอใจในรอบหลายๆ ปี เป็นหนังรักที่ทำให้ดูแล้วรู้สึกถึงความรัก เป็นหนังเศร้าที่ทำให้ดูแล้วรู้สึกถึงความเศร้า เป็นหนังที่ทำออกมาได้สะเทือนอารมณ์อย่างไม่ฟูมฟาย แม้เรื่องราวอาจเป็นที่รู้กันดีว่าจะลงเอยอย่างไร (เว้นเด็กรุ่นใหม่มากๆ ที่ยังไม่เคยดู) แต่หนังก็ดึงอารมณ์ของคนดูไปสู่จุดมุ่งหมายที่ต้องการ โดยเฉพาะในตอนจบฉากใต้น้ำที่ขวัญและเรียมค่อยๆ จมหายไปในสายน้ำพร้อมกับเลือดที่ค่อยๆ ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำเบื้องบน และเพลงลำนำแผลเก่าก็ค่อยๆ ดังขึ้นเป็นการปิดฉากเรื่องราวความรักของทั้งคู่ที่เป็นตำนานรักอมตะ โดยไม่ต้องเล่าอะไรมากมาย

ข้อดีของการหยิบวรรณกรรมเรื่อง “แผลเก่า” มาทำหนัง คือมีความ "แข็งแรง" เป็นทุนเดิม ทั้งตัวบทดั้งเดิม โครงเรื่อง และเพลงประกอบ แต่ความแข็งแรงที่ว่า ถ้าทำออกมาได้ไม่ถึง ก็ตกม้าตายเอาง่ายๆ เหมือนกับเวอร์ชั่นก่อนที่ถ้าจำไม่ผิดเป็นหนังฝีมือนักวิจารณ์หนังท่านหนึ่งที่เปลี่ยนชื่อหนังเป็น "ขวัญเรียม" เป็นแผลเก่าฉบับที่ผมรู้สึกเฉยๆ ไม่มีอะไรน่าจดจำ เพราะหนังที่เป็นฝีมือของนักวิจารณ์ภาพยนตร์เวอร์ชั่นนั้นช่างเต็มไปด้วยทฤษฎีหนังเสียจนผมรู้สึกว่าไม่ใช่ขวัญเรียมที่เราอยากดู

ส่วนแผลเก่าเวอร์ชั่นนี้ หม่อมน้อยเล่าเรื่องได้อย่างกระชับ ไม่มากไป ไม่น้อยไป และกำกับตัวแสดงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก หนังมุ่งสู่โครงเรื่องความรักที่มั่นคงของขวัญและเรียมโดยไม่ต้องเสียเวลานำเสนอประเด็นที่ไมเกี่ยวข้อง ภายในเวลา ๓๐ นาทีแรก หนังทำให้เห็นลักษณะนิสัยของตัวละครแต่ละตัว เห็นปมความขัดแย้งได้อย่างชัดเจน และเดินเรื่องไปสู่จุดมุ่งหมายอย่างไม่หลงทาง จนเราไม่สงสัยในความรักของขวัญที่มีต่อเรียม ตรงนี้ต้องชื่นชมฝีมือการแสดงของนิว ชัยพล และใหม่ ดาวิกา ที่ทำให้เชื่อได้อย่างเต็มที่ว่า ตัวละครสองตัวนี้เป็นขวัญและเรียมจริงๆ โดยเฉพาะการแสดงของนิว ชัยพลที่แสดงออกของแววตาซื่อๆ ขี้เล่นในตอนแรก และเศร้าสร้อยละห้อยหาน่าสงสารในตอนท้าย เป็นขวัญสไตล์นิว ชัยพล ที่ต่างกับขวัญสไตล์ลูกทุ่งสรพงษ์ ชาตรี ส่วนใหม่ ดาวิกาก็เป็นเรียมในแบบของใหม่เองโดยไม่ต้องเลียนแบบความสำเร็จดารารุ่นพี่อย่างนันทนา เงากระจ่างเลย

ที่เว้นจะไม่กล่าวเลยไม่ได้คือสินจัย หงษ์ไทย เธอเล่นเป็นคุณหญิงทองคำเปลวได้อย่างมีพลังและน่าทึ่ง แม้จะออกมาไม่กี่ฉาก แต่ก็ไม่ถูกดาราเอกกลบจนมิด เรียกได้ว่า ถ้าเสนอชื่อเธอเป็นดาราประกอบหญิงดีเด่นในปีนี้ ก็ไม่ค้านสายตา

ส่วนดาราประกอบคนอื่นๆ ก็เล่นได้อย่างเรียบง่ายและเหมาะกับบทของตัวละคร ไม่โอเวอร์แอ็คติ้งหรือเล่นใหญ่เกินบท แม้กระทั่งรัดเกล้า อามระดิษที่ร่วมงานกับหม่อมน้อยในระยะหลังทุกเรื่อง ผมรู้สึกว่ารัดเกล้ามักจะเล่นออกมาได้ใหญ่เกินบททุกเรื่อง แต่สำหรับบท "สาย" ต้นห้องคุณหญิงของรัดเกล้าในเรื่องนี้รู้สึกว่าเธอเล่นได้อย่างพอเหมาะ นอกจากนี้ผมยังชอบปานเลขา ว่านม่วง มิสไทยแลนด์เวิล์ดคนแรกของไทยเล่นเป็นแม่ของเรียม รู้สึกว่าแสดงได้อย่างน่าสงสารและสมบทบาทจริงๆ

งานด้านภาพค่อนข้างประณีต งดงาม ถ่ายทอดบรรยากาศท้องทุ่งบางกะปิในสมัย พ.ศ. ๒๔๗๙ ได้สวยงามแต่ก็ไม่ถึงขนาดขาย "ความเป็นไทย" อย่างงานต้นฉบับของเชิด ทรงศรี และเห็นความงามในท่ามความเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลที่สัมพันธ์กับจิตใจของตัวละคร ส่วนฉากบางกอกมองเห็นความตั้งใจของหม่อมน้อยในการสะท้อนบรรยากาศของยุคที่เกิดเหตุการณ์ในเรื่อง มีการแทรกเรื่องราวที่เป็นภูมิหลังทางสังคมยุค “เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย” เช่น การรณรงค์ให้สวมหมวก (มีเพลง เชิญซีคะ เชิญมาสวมหมวกให้ฟังด้วย โดยส่วนตัวแล้วผมชอบจริงๆ เพลงนี้ น่ารักดีครับ) หรือการสอดแทรกบรรยากาศทางการเมืองในสมัยออกมาพอให้เห็นยุคสมัย เรียกได้ว่าหม่อมน้อยคุมโทนหนังได้ดี แม้ว่า บางช่วงของหนังจะไม่ทิ้งสไตล์เดิมของตัวเองในด้านการสร้างฉากและเครื่องแต่งกายที่อลังการ เช่น ฉากบ้านและชุดแต่งกายอันอลังการของคุณหญิงทองคำเปลว (เป็นละครเวทีลายเซ็นของหม่อมนั่นแหละ) ก็ตาม

ตัวละครคุณหญิงทองคำเปลวที่ซื้อเรียมมาเลี้ยงดูเป็นลูกแทนโฉมยงลูกสาวของตัวที่ตายไปนั้น ถ้าผมจำไม่ผิด ฉบับเชิด ทรงศรีจะเป็นแค่คุณนายทองคำ แต่แผลเก่าฉบับนี้หม่อมน้อยเปลี่ยนจากคุณนายให้เป็นคุณหญิง ซึ่งดูจากบ้านของคุณหญิง และบ่าวไพร่ในบ้านก็น่าจะเป็นระดับวังมากกว่าบ้าน และคุณหญิงทองคำเปลวน่าจะมีฐานันดรศักดิ์เป็นหม่อมราชวงศ์มากกว่าเป็นคุณหญิงสามัญชนภรรยาพระยา ผมเดาว่า การเพิ่มชื่อจาก "ทองคำ" เป็น "ทองคำเปลว" หม่อมน้อยอาจอยากสื่อความถึงลักษณะของคุณหญิงที่ไม่ใช่ทองคำแท้ เป็นเพียงทองคำเปลวที่ใช้ปิดพระพุทธปฏิมา เห็นได้จากการอ้างความรักและบุญคุณของตนที่ชุบเลี้ยงเรียมตอนที่มาตามเรียมกลับบางกอกในตอนท้ายเรื่อง แต่เรียมก็ตอกกลับอย่างเจ็บแสบว่า คุณหญิงก็แค่รัก "รูปกายภายนอก" ของเรียมที่มีใบหน้าเหมือนกับโฉมยงลูกสาวของคุณหญิงที่ตายไปเท่านั้นเอง ก็คือมีความรักตัวเอง หาใช่ใจบุญอย่างที่คุณหญิงกล่าวอ้างไม่

เพลงเก่าๆ ที่ใส่ประกอบเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเพลง เคียงเรียม แสนแสบ ขวัญเรียม หรือลำนำแผลเก่าในตอนท้ายเรื่อง ลงตัวและเข้ากับบรรยากาศของเรื่องได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยน้ำเสียงของคนรุ่นใหม่ เสียดายนิดเพลงขวัญเรียม (ที่ร้องว่า "เรียมเหลือทนแล้วนั่น") น้ำเสียงของแก้ม เดอะสตาร์ ความรู้สึกของผมคิดว่าเธอยังตีความอารมณ์ไม่ถึง อาจด้วยวัยและประสบการณ์ชีวิตที่ยังน้อยเทียบกับนักร้องรุ่นพี่ที่ร้องเพลงนี้มาก่อน แต่ก็ไม่ถึงขนาดทำให้เสียรสมากนักครับ อย่างไรก็ตาม หนังเรื่องนี้ถ้าไม่ใช้เพลงเหล่านี้ก็ไม่ใช่แผลเก่าแน่ๆ ส่วนดนตรีประกอบที่ใช้เครื่องเป่า เครื่องตี สำเนียงแบบไทยๆ และบางช่วงเป็นคอรัส ซึ่งค่อยๆ คลอไปกับอารมณ์ของหนังสร้างความรู้สึกร่วมไปกับความรักของไอ้ขวัญที่มีต่อเรียม จนในตอนท้ายซึ่งเป็นบทสรุป ความตายของตัวละครในสายน้ำหน้าเจ้าพ่อไทร ทำให้น้ำตาคลอออกมาเพราะความสะเทือนใจและอิ่มเอมอารมณ์ครับ

ข้อเสียของหนังในความเห็นของผมก็อาจมีบ้างเล็กๆ น้อยๆ ไม่ถึงกับสะดุดนัก เช่น ที่บอกว่า โฉมยงลูกสาวคุณหญิงตายไปแล้วยี่สิบกว่าปี ผมอาจฟังผิด เพราะตอนที่เรียมเจอสมชาย สมชายบอกว่า โฉมยงเป็นคู่หมั้นของเขาตั้งแต่เด็ก สมชายก็ดูวัยไม่น่าจะแก่ (หรืออาจจะอายุมากเพราะในเรื่องดูเหมือนจะมีตำแหน่งใหญ่อยู่ แต่การแต่งหน้าแต่งตัวออกมาดูหนุ่มเกินบทไปไม่เหมือนวัยในเรื่อง) ก็เลยงงๆ นิดๆ ครับ

หรือการเลือกดาราของหม่อมน้อยที่ใช้ดาราซ้ำๆ ในทุกเรื่องจนรู้สึกว่า เอ๊ะ ทำไมเรื่องนี้ก็เล่นอีกแล้ว เช่น ศักราช ฤกษ์ธำรง รัดเกล้า อามระดิษ หรือดารณีนุช ทองปิติ (ไม่มีบทเด่นก็หาบทเล็กๆ ให้) แต่คิดอีกแง่อาจเป็นเรื่องของการป้อนงานให้แก่ดาราที่ผู้กำกับชอบพอ จะเรียกว่า เป็นดาราในสังกัดของหม่อมน้อยก็ได้นะครับ

สรุปได้ว่า ดูหนังเรื่อง “แผลเก่า” ฉบับนี้แล้ว คุ้มค่า คุ้มอารมณ์ คุ้มเวลา คุ้มค่าตั๋ว ถ้าพลาดหนังเรื่องนี้ บอกได้ว่า ได้พลาดหนังที่ดีเยี่ยมของไทยอีกเรื่องหนึ่งไปอย่างน่าเสียดาย

อยากให้เด็กรุ่นใหม่ได้ไปดูกันมากๆ ได้เห็นอุดมคติของความรักหนุ่มสาว ได้เห็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของคนชนบท ได้ฟังเพลงเก่าๆ อมตะของหนังที่ไพเราะกินใจ

ส่วนวัยผู้ใหญ่ก็น่าจะไปดู แม้อาจจะยังมีภาพของขวัญเรียมรุ่นสรพงษ์-นันทนาติดตาอยู่ แต่ภาพของขวัญ-เรียมรุ่นนิว ชัยพล และใหม่ ดาวิกาก็อาจจะเป็นอีกภาพหนึ่งที่ติดตาติดใจไม่แพ้กันครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่