ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ผมมีโอกาสได้ดูในโรงหนังคือ 'แผลเก่า' การได้ดูหนังโรงของเด็กบ้านสวนเมืองนนท์ริมแม่น้ำเจ้าพระยานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องรอโอกาสเหมาะเจาะและหนังดัง หนังมีคุณภาพจริงๆ ครอบครัวเราถึงจะนัดแนะ รอวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ โดยสารเรือหางยาวพาเด็กๆ ไปท่าน้ำเมืองนนท์ เดินลัดเลาะไปถึงหน้าตลาดเพื่อตีตั๋วเข้าชมที่โรงภาพยนตร์ศรีพรสวรรค์ สมัยนั้นเมืองนนท์มีโรงหนังอยู่แค่ 2 โรงครับ คือศรีพรสวรรค์ และนนทบุรีรามา (ปัจจุบันไม่ได้ไปเยี่ยมเยือนเสียนาน ไม่ทราบว่า 2 โรงหนังในตำนานนี้ยังมีอยู่ไหม)
แม้จะเป็นเด็กน้อยแต่จำได้แม่นว่ากลับจากดูหนังโรงเรื่องแผลเก่าครั้งนั้น ผมโดนผู้ใหญ่แซวเรื่องปาดน้ำตาป้อยร้องไห้น้ำตาริน อายแสนอาย แต่ทำไงได้ครับ มันอินและลึกซึ้งกับโศกนาฏกรรมแห่งความรักที่จบลงด้วยความตายและน้ำตา
แผลเก่าขึ้นทำเนียบเป็นวรรณกรรมคลาสสิก และเป็นผลงานประพันธ์เรื่องแรกของ ไม้ เมืองเดิม ซึ่งการดูหนัง ณ วันนั้นได้ประทับแผลเก่าให้อยู่ในความทรงจำของเด็กน้อยอย่างผม แม้จะผ่านเวอร์ชั่นละครอีกหลายครา แต่ก็ไม่ประทับและตราตรึงเท่ากับการดูหนังโรงครั้งแรกในชีวิต
วันนี้...หม่อมน้อย-พันธ์ุเทวนพ เทวกุล นำแผลเก่ากลับมาตีความและสร้างใหม่ ด้วยเครดิตและเชิงชั้นทำให้ไว้เนื้อเชื่อใจว่าหม่อมน้อยจะต้องตีความและถ่ายทอดแผลเก่าออกมาบนแผ่นฟิล์มได้เหมือนหนังทุกเรื่องของท่านในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งมีน้อยมากครับที่ผิดหวัง แม้บางเรื่องจะไม่โดนใจจังๆ แต่เครดิตของหม่อมน้อยนั้นการันตีคุณภาพของผลงานได้เสมอ
มีผู้กำกับฯ เพียงไม่กี่ท่านนักหรอกครับที่ผมไว้เนื้อเชื่อใจ นอกจากหม่อมน้อยแล้วก็เห็นจะมีมะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ที่ตั้งใจว่าผู้กำกับฯ 2 ท่านนี้หากนำเสนอผลงานอะไรก็จะตามดูตามให้กำลังใจทุกๆ เรื่อง ปวารณาตัวไว้แล้วว่าจะเป็นแฟนคลับติดหนึบผลงานของหม่อมน้อย และมะเดี่ยว
แรกเมื่อทราบข่าวว่าแคสติ้งขวัญและเรียมออกมาเป็น ชยพล พูพาร์ต และดาวิกา โฮร์เน่ บอกตามตรงครับว่าทำใจยาก เพราะภาพของสรพงษ์ ชาตรี กับนันทนา เงากระจ่าง นั้นฝังลึก ตรึงตรา จนไม่สามารถสลัดหลุดและทำใจยอมรับ 2 นักแสดงรุ่นใหม่ในบทขวัญและเรียมได้ เนื่องจากทั้งคู่เป็นลูกครึ่งยุโรปที่กำลังจะมาสวมบทบาทเป็นชาวนาแห่งท้องทุ่งบางกะปิ
ทว่า...ทั้งนิวและใหม่ (ใหม่และใหม่) กลับสร้างภาพจำของขวัญและเรียมในเวอร์ชั่นนี้ด้วยฝีมือและเชิงชั้นทางการแสดง ทั้งคู่สร้างการยอมรับและกลบข้อกังขา กลบอคติในใจผมได้อย่างเนียนสนิท ลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังดูขวัญและเรียมหน้าลูกครึ่งขณะกำลังไถ ดำ และเกี่ยวข้าว ทำนาอยู่กลางทุ่ง แม้จะไม่สนิทใจเพราะลุคของทั้งนิวและใหม่ดูอย่างไรก็ไม่ไทย ไม่ใช่ชาวนา แต่ฝีมือการแสดงที่เข้าถึงและแทบไม่มีที่ติ (ติแค่ช่วงเปิดเรื่องที่ขวัญจีบเรียมแบบกุ๊กกิ๊กเกินเหตุ) ของทั้งคู่ทำให้รู้สึกคล้อยตามและเชื่อว่าคือขวัญและเรียมตัวจริง
ชอบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่หม่อมน้อยแทรกเข้าไปในหนังให้เห็นภาพบรรยากาศการทำนา และวิถีชนบทของคนไทยสมัยก่อน ทุ่งบางกะปิยังดูบ้านน้อก...บ้านนอก คลองแสนแสบยังเป็นคลองที่น้ำใส มีสวน มีทุ่ง มีชาวบ้านประกอบสัมมาอาชีพกสิกรรม
คนหัวใหญ่ในขบวนกลองยาว จำได้ว่าผมเห็นครั้งสุดท้ายตอนเรียนชั้นประถม รู้สึกกลัวมาก เพราะโดนพี่สาวหลอกว่าอย่าโผล่หน้าออกไปให้เขาเห็น เพราะเขาจะมาไถเงิน ไถของ จึงต้องแอบดูคนหัวใหญ่ผ่านช่องผนังครัวขณะขบวนกลองยาวกฐินเดินผ่านคันสวนตามประสาเด็กขลาด
หรือแม้แต่รำเคียวเกี่ยวข้าวซึ่งเป็นการแสดงพื้นเมืองของชาวนาภาคกลาง ก็ถูกนำมาขับร้องและสอดแทรกอยู่ในหนังแผลเก่าเวอร์ชั่นนี้ได้อย่างเหมาะเจาะ พอดิบพอดี ให้ได้หวนคิดถึงตัวเองที่เคยได้รำเคียวเกี่ยวข้าวในการแสดงหน้าศาลากลางจังหวัดเมื่อวันวาน (อันนี้เรื่องส่วนตัว แต่อยากเล่า)
บทพูดถ้าจะมีหลุดอยู่บ้าง (ยอมรับว่าตั้งใจจับผิด) คือสงสัยคำว่า "เปิดบริสุทธิ์" แน่ใจหรือว่ายุคสมัยหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองมีศัพท์คำนี้ใช้ กับเครื่องสีโบก ที่น่าจะหมายถึงเครื่องแยกเมล็ดข้าวออกจากรวง ไม่ใช่เครื่องสีข้าวเปลือกที่เรียมเทลงไปและนางรวยเป็นคนหมุนเครื่อง (อันนี้ต้องรอให้ลูกหลานชาวนามาเฉลยจะดีกว่า) รวมถึงศัพท์คุ้นเคยแต่เรียกผิดกันจนเคยชินอย่าง "บ้านนอกขอกนา" ที่นางเอกพูด "คอกนา" สมัยบุร่ำบุราณนั่นน่าจะเรียก "ขอก" เพราะแม้แต่พจนานุกรมฉบับล่าสุดปี 2555 ก็เพิ่งจะเปลี่ยนศัพท์คำนี้เป็น "คอก" ตามภาษาพูดนิยม
นักแสดงรุ่นใหญ่ทุกคน โดยเฉพาะ พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง สินจัย เปล่งพานิช ศักราช ฤกษ์ธำรงค์ เหล่านี้ล้วนเป็นศิษย์เอกของหม่อมน้อยที่เห็นหน้าคาดตาอยู่บ่อยในหนังหม่อมแทบทุกเรื่อง (ยกเว้นสินจัย) อ้อ! พี่โต๊งเหน่ง-รัดเกล้า ก็เป็นนักแสดงคู่บุญของหม่อมที่ผมชื่นชอบมากๆ อีกคน และที่ต้องชื่นชมอีกท่านหนึ่งคือ คุณปอ-ปานเลขา ว่านม่วง เธอรับบทเป็นนางรวย แม่ของเรียม ฝีมือและเชิงชั้นทางการแสดง เข้าใจเลยว่าทำไมบทสำคัญนี้จึงตกถึงมือเธอ บางฉากไม่ต้องมีน้ำตา ทว่าสายตาของอดีตมิสไทยแลนด์เวิล์ดคนแรกของเมืองไทยนั้นบ่งบอกถึงความเศร้า เหมือนร้องไห้ออกมาโดยไม่ต้องมีน้ำตา ขออนุญาตชื่นชมเป็นพิเศษนะครับ
ความรักที่ไม่สมหวัง แถมจบลงด้วยความพลัดพรากของลมหายใจชั่วนิรันดร์นั้นสร้างความประทับใจได้ไม่ยาก แต่ที่ต้องเขียนเล่าเสียยืดยาวก็เพื่อจะชื่นชมรายละเอียดของเนื้อบท การตีความและเพิ่มใหม่ของแผลเก่าเวอร์ชั่นนี้...ว่า...คือดีงาม ยิ่งได้ทีมนักแสดงคุณภาพ (แฟนคลับเดอะสตาร์ไม่ควรพลาดเด็ดขาด) ทุกคนสามารถถ่ายทอดเรื่องราวของแผลเก่าได้งดงาม หมดจด ยกนิ้วให้เลยครับว่าเยี่ยมยอด แผลเก่าเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาดด้วยเหตุผลทั้งปวง
แฟนหนังหม่อมน้อยที่เกรงว่าจะผิดหวังกับความง่ายและสำเร็จรูปเกินไปของวรรณกรรมคลาสสิกที่ใครๆ ก็รู้จัก ความง่ายนี้ละคือบทพิสูจน์ฝีมือของผู้กำกับฯ ชั้นครู ว่าจะสามารถถ่ายทอดแผลเก่าเวอร์ชั่นนี้ออกมาอย่างไรให้ชัดเจนในความต่าง ไม่เดินทับ ไม่ซ้ำรอยความสำเร็จเดิมของเวอร์ชั่นก่อนเก่า
แค่เห็นสินจัยในลุค โกโก้ ชาเนล กลางทุ่งกว้าง...เท่านี้...กลิ่นอายหนังหม่อมน้อยก็กรุ่นอวล เชื่อขนมกินได้ครับ...ว่าคุ้มค่า
(Spoil) อ่านเจอในเฟซบุ๊ก Critic แผลเก่า: สดๆ ใหม่...ใหม่
แม้จะเป็นเด็กน้อยแต่จำได้แม่นว่ากลับจากดูหนังโรงเรื่องแผลเก่าครั้งนั้น ผมโดนผู้ใหญ่แซวเรื่องปาดน้ำตาป้อยร้องไห้น้ำตาริน อายแสนอาย แต่ทำไงได้ครับ มันอินและลึกซึ้งกับโศกนาฏกรรมแห่งความรักที่จบลงด้วยความตายและน้ำตา
แผลเก่าขึ้นทำเนียบเป็นวรรณกรรมคลาสสิก และเป็นผลงานประพันธ์เรื่องแรกของ ไม้ เมืองเดิม ซึ่งการดูหนัง ณ วันนั้นได้ประทับแผลเก่าให้อยู่ในความทรงจำของเด็กน้อยอย่างผม แม้จะผ่านเวอร์ชั่นละครอีกหลายครา แต่ก็ไม่ประทับและตราตรึงเท่ากับการดูหนังโรงครั้งแรกในชีวิต
วันนี้...หม่อมน้อย-พันธ์ุเทวนพ เทวกุล นำแผลเก่ากลับมาตีความและสร้างใหม่ ด้วยเครดิตและเชิงชั้นทำให้ไว้เนื้อเชื่อใจว่าหม่อมน้อยจะต้องตีความและถ่ายทอดแผลเก่าออกมาบนแผ่นฟิล์มได้เหมือนหนังทุกเรื่องของท่านในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งมีน้อยมากครับที่ผิดหวัง แม้บางเรื่องจะไม่โดนใจจังๆ แต่เครดิตของหม่อมน้อยนั้นการันตีคุณภาพของผลงานได้เสมอ
มีผู้กำกับฯ เพียงไม่กี่ท่านนักหรอกครับที่ผมไว้เนื้อเชื่อใจ นอกจากหม่อมน้อยแล้วก็เห็นจะมีมะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ที่ตั้งใจว่าผู้กำกับฯ 2 ท่านนี้หากนำเสนอผลงานอะไรก็จะตามดูตามให้กำลังใจทุกๆ เรื่อง ปวารณาตัวไว้แล้วว่าจะเป็นแฟนคลับติดหนึบผลงานของหม่อมน้อย และมะเดี่ยว
แรกเมื่อทราบข่าวว่าแคสติ้งขวัญและเรียมออกมาเป็น ชยพล พูพาร์ต และดาวิกา โฮร์เน่ บอกตามตรงครับว่าทำใจยาก เพราะภาพของสรพงษ์ ชาตรี กับนันทนา เงากระจ่าง นั้นฝังลึก ตรึงตรา จนไม่สามารถสลัดหลุดและทำใจยอมรับ 2 นักแสดงรุ่นใหม่ในบทขวัญและเรียมได้ เนื่องจากทั้งคู่เป็นลูกครึ่งยุโรปที่กำลังจะมาสวมบทบาทเป็นชาวนาแห่งท้องทุ่งบางกะปิ
ทว่า...ทั้งนิวและใหม่ (ใหม่และใหม่) กลับสร้างภาพจำของขวัญและเรียมในเวอร์ชั่นนี้ด้วยฝีมือและเชิงชั้นทางการแสดง ทั้งคู่สร้างการยอมรับและกลบข้อกังขา กลบอคติในใจผมได้อย่างเนียนสนิท ลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังดูขวัญและเรียมหน้าลูกครึ่งขณะกำลังไถ ดำ และเกี่ยวข้าว ทำนาอยู่กลางทุ่ง แม้จะไม่สนิทใจเพราะลุคของทั้งนิวและใหม่ดูอย่างไรก็ไม่ไทย ไม่ใช่ชาวนา แต่ฝีมือการแสดงที่เข้าถึงและแทบไม่มีที่ติ (ติแค่ช่วงเปิดเรื่องที่ขวัญจีบเรียมแบบกุ๊กกิ๊กเกินเหตุ) ของทั้งคู่ทำให้รู้สึกคล้อยตามและเชื่อว่าคือขวัญและเรียมตัวจริง
ชอบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่หม่อมน้อยแทรกเข้าไปในหนังให้เห็นภาพบรรยากาศการทำนา และวิถีชนบทของคนไทยสมัยก่อน ทุ่งบางกะปิยังดูบ้านน้อก...บ้านนอก คลองแสนแสบยังเป็นคลองที่น้ำใส มีสวน มีทุ่ง มีชาวบ้านประกอบสัมมาอาชีพกสิกรรม
คนหัวใหญ่ในขบวนกลองยาว จำได้ว่าผมเห็นครั้งสุดท้ายตอนเรียนชั้นประถม รู้สึกกลัวมาก เพราะโดนพี่สาวหลอกว่าอย่าโผล่หน้าออกไปให้เขาเห็น เพราะเขาจะมาไถเงิน ไถของ จึงต้องแอบดูคนหัวใหญ่ผ่านช่องผนังครัวขณะขบวนกลองยาวกฐินเดินผ่านคันสวนตามประสาเด็กขลาด
หรือแม้แต่รำเคียวเกี่ยวข้าวซึ่งเป็นการแสดงพื้นเมืองของชาวนาภาคกลาง ก็ถูกนำมาขับร้องและสอดแทรกอยู่ในหนังแผลเก่าเวอร์ชั่นนี้ได้อย่างเหมาะเจาะ พอดิบพอดี ให้ได้หวนคิดถึงตัวเองที่เคยได้รำเคียวเกี่ยวข้าวในการแสดงหน้าศาลากลางจังหวัดเมื่อวันวาน (อันนี้เรื่องส่วนตัว แต่อยากเล่า)
บทพูดถ้าจะมีหลุดอยู่บ้าง (ยอมรับว่าตั้งใจจับผิด) คือสงสัยคำว่า "เปิดบริสุทธิ์" แน่ใจหรือว่ายุคสมัยหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองมีศัพท์คำนี้ใช้ กับเครื่องสีโบก ที่น่าจะหมายถึงเครื่องแยกเมล็ดข้าวออกจากรวง ไม่ใช่เครื่องสีข้าวเปลือกที่เรียมเทลงไปและนางรวยเป็นคนหมุนเครื่อง (อันนี้ต้องรอให้ลูกหลานชาวนามาเฉลยจะดีกว่า) รวมถึงศัพท์คุ้นเคยแต่เรียกผิดกันจนเคยชินอย่าง "บ้านนอกขอกนา" ที่นางเอกพูด "คอกนา" สมัยบุร่ำบุราณนั่นน่าจะเรียก "ขอก" เพราะแม้แต่พจนานุกรมฉบับล่าสุดปี 2555 ก็เพิ่งจะเปลี่ยนศัพท์คำนี้เป็น "คอก" ตามภาษาพูดนิยม
นักแสดงรุ่นใหญ่ทุกคน โดยเฉพาะ พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง สินจัย เปล่งพานิช ศักราช ฤกษ์ธำรงค์ เหล่านี้ล้วนเป็นศิษย์เอกของหม่อมน้อยที่เห็นหน้าคาดตาอยู่บ่อยในหนังหม่อมแทบทุกเรื่อง (ยกเว้นสินจัย) อ้อ! พี่โต๊งเหน่ง-รัดเกล้า ก็เป็นนักแสดงคู่บุญของหม่อมที่ผมชื่นชอบมากๆ อีกคน และที่ต้องชื่นชมอีกท่านหนึ่งคือ คุณปอ-ปานเลขา ว่านม่วง เธอรับบทเป็นนางรวย แม่ของเรียม ฝีมือและเชิงชั้นทางการแสดง เข้าใจเลยว่าทำไมบทสำคัญนี้จึงตกถึงมือเธอ บางฉากไม่ต้องมีน้ำตา ทว่าสายตาของอดีตมิสไทยแลนด์เวิล์ดคนแรกของเมืองไทยนั้นบ่งบอกถึงความเศร้า เหมือนร้องไห้ออกมาโดยไม่ต้องมีน้ำตา ขออนุญาตชื่นชมเป็นพิเศษนะครับ
ความรักที่ไม่สมหวัง แถมจบลงด้วยความพลัดพรากของลมหายใจชั่วนิรันดร์นั้นสร้างความประทับใจได้ไม่ยาก แต่ที่ต้องเขียนเล่าเสียยืดยาวก็เพื่อจะชื่นชมรายละเอียดของเนื้อบท การตีความและเพิ่มใหม่ของแผลเก่าเวอร์ชั่นนี้...ว่า...คือดีงาม ยิ่งได้ทีมนักแสดงคุณภาพ (แฟนคลับเดอะสตาร์ไม่ควรพลาดเด็ดขาด) ทุกคนสามารถถ่ายทอดเรื่องราวของแผลเก่าได้งดงาม หมดจด ยกนิ้วให้เลยครับว่าเยี่ยมยอด แผลเก่าเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาดด้วยเหตุผลทั้งปวง
แฟนหนังหม่อมน้อยที่เกรงว่าจะผิดหวังกับความง่ายและสำเร็จรูปเกินไปของวรรณกรรมคลาสสิกที่ใครๆ ก็รู้จัก ความง่ายนี้ละคือบทพิสูจน์ฝีมือของผู้กำกับฯ ชั้นครู ว่าจะสามารถถ่ายทอดแผลเก่าเวอร์ชั่นนี้ออกมาอย่างไรให้ชัดเจนในความต่าง ไม่เดินทับ ไม่ซ้ำรอยความสำเร็จเดิมของเวอร์ชั่นก่อนเก่า
แค่เห็นสินจัยในลุค โกโก้ ชาเนล กลางทุ่งกว้าง...เท่านี้...กลิ่นอายหนังหม่อมน้อยก็กรุ่นอวล เชื่อขนมกินได้ครับ...ว่าคุ้มค่า