[Spoil] EXEcutional - 239 # Above the sea of clouds 3

กระทู้สนทนา
มาถึงตอนสุดท้ายของศึกระหว่างพี่พริกและมินต์กับตี๋นรกแล้ว (เร็วจริง) แต่คาดไม่ถึงในตอนท้ายสุดของตอนจริงๆ อุตส่าห์รอลุ้นฉาก......แท้ๆ แบบนี้อดลุ้นเลย ว่าแล้วก็เริ่มเลยดีกว่า


ต่อจากตอนที่แล้ว มินต์ขู่เตรียมจะซื้อสกิล Invisible form จากพัมพ์กิ้นทำให้พัมพ์กิ้นพยายามโจมตีมินต์แต่ก็เข้าไม่ถึงตัวเพราะวิศนะใช้มือซ้ายสร้างเป็นบาเรียป้องกันมินต์อยู่ ทางวิศนะเองก็ปล่อยให้พัมพ์กิ้นโจมตีตัวเขาแบบไม่ป้องกันอะไรไป ยังไงซะก็มีพลังการฟื้นฟูทำให้ยากที่จะตายอยู่แล้ว

เมื่อวิศนะไม่ละการป้องกันจากมินต์เลย พัมพ์กิ้นเลยยิ้มแซวๆวิศนะบอกวิศนะจะไม่ป้องกันตัวเองหน่อยเหรอพร้อมกับบอกให้ดูข้างหลัง พอวิศนะดูด้านหลังตามที่พัมพ์กิ้นพูดก็เห็นแส่ของพัมพ์กิ้นกำลังโผล่ขึ้นจากพื้นจำนวนมาก ถึงจะรู้แต่วิศนะก็ตัดสินใจไม่ดึงมือซ้ายมาป้องกันตัวเองและยอมโดนการโจมตีของพัมพ์กิ้นแบบเต็มๆ ทางมินต์เองก็มียูนิเวอร์แซลสปีริทพุ่งลงมาโจมตีเหมือนกันแต่ก็ฝ่าทะลุบาเรียมือซ้ายของวิศนะไม่ได้ พอพัมพ์กิ้นเห็นแบบนี้ก็ถึงกับคิดแบบไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลยว่าวิศนะจะไม่ปล่อยการป้องกันจากมินต์เลยจนคิดเลยว่าวิศนะร่วมมือสู้กับคนอื่นได้ตั้งแต่เมื่อไรกัน

ทางวิศนะพอดูพัมพ์กิ้นแล้วก็รู้เลยว่าพัมพ์กิ้นเริ่มร้อนรนแล้ว ถึงพัมพ์กิ้นจะมีความสามารถซ่อนไว้เยอะ ยิ่งจากที่ดูการต่อสู้กับการ์ลิคแล้วยิ่งดูพัมพ์กิ้นไม่สะทกสะท้านเลยด้วย แต่การมาเจอมินต์แล้วออกอาการแบบนี้ถือได้ว่าพัมพ์กิ้นแพ้ทางมินต์จริงๆ

มินต์ก็เริ่มขู่อีกรอบว่าจะแลกสกิลกับสกิลปาก้อนหินที่เธอมีอยู่พอดีเลยแล้วกันเลยยิ่งทำให้พัมพ์กิ้นถึงจะแกล้งร้องโอดครวดตามนิสัยแต่ก็รู้สึกไม่ดีจริงๆ ยิ่งวิศนะเสริมท้าอีกบอกให้มินต์เอาเลย จะดูว่าพัมพ์กิ้นจะฆ่าเขาได้ก่อนหรือจะโดนแย่งสกิลไปก่อน พัมพ์กิ้นก็แกล้งบ่นว่าวิศนะขี้โกงเพราะฟื้นพลังอัตโนมัติแต่ในใจก็คิดว่าเริ่มเป็นการเล่นสนุกที่เสี่ยงเกินไปแล้ว พอคิดแบบนั้นแล้วพัมพ์กิ้นก็เปลี่ยนเป้าหมายการโจมตีทันที จากที่โจมตีตรงๆคราวนี้พัมพ์กิ้นเปลี่ยนไปทำลายเสาหืนแทน

ทันทีที่เสาหินถูกทำลายก็เท่ากับสูญเสียที่หยั่งเท้าจนทั้งสามคนเริ่มตกจากเสาหิน มินต์รีบถามวิศนะเลยว่าจะใช้สกิลบินสู้ดีไหม วิศนะบอกว่าอย่าเพราะถ้าบินสู้จะสู้ไม่ไหว ทั้งสองคนก็เลยยอมตกลงมาถึงพื้นล่างก่อนเพื่อเตรียมรับมือใหม่ และเมื่อทั้งสองคนถึงพื้นล่างก็เริ่มหาตัวพัมพ์กิ้นแต่ก็หาตัวไม่เจอยิ่งมีฝุ่นตลบจากการพังของเสาหินด้วย แต่วิศนะก็มั่นใจเลยว่าพัมพ์กิ้นต้องอยู่แถวนี้แน่จึงบอกให้มินต์ระวังตัวไว้ พอดีตอนนั้นเองที่มีข้อความส่งมาถึงมินต์ พอมินต์อ่านข้อความที่ส่งมาถึงเธอปุ๊บก็รีบเข้าไปบอกวิศนะ(แต่เพราะยังไม่รู้ชื่อก็เลยเรียกว่า "พี่ชายกานดา" จนวิศนะขอเลยว่าให้เรียกชื่ออื่น) พอมินต์กระซิบบอกวิศนะ วิศนะก็เข้าใจที่บอกแล้ว

อีกด้าน พัมพ์กิ้นเองก็กำลังหาตัวมินต์เพื่อคิดจะจัดการก่อนหรือล่าให้ได้สักคนก่อน ชั่ววินาทีนั้นเองมือซ้ายของวิศนะก็เข้าจู่โจมพัมพ์กิ้น แต่พัมพ์กิ้นไหวตัวทันจึงโดดหลบได้ พอพัมพ์กิ้นหาที่ตั้งหลักได้วิศนะก็เดินเข้ามาพูดๆบอกอยากให้แผลที่ขาอีกข้างของพัมพ์กิ้นจริงๆจะได้เหมือนกันทั้งสองข้างจะได้ดูไม่แปลก ทางพัมพ์กิ้นพอเห็นวิศนะแต่ก่อนที่จะได้เอ่ยปากพูดก็สังเกตเห็นอะไรอย่างหนึ่งที่ตัววิศนะ นั้นคือ หน้ากาก

ทันทีที่พัมพ์กิ้นเห็นวิศนะใส่หน้ากากก็เริ่มเอะใจได้เรื่องหนึ่ง ความคึงเครียดของพัมพ์กิ้นเพิ่มขึ้นทันทีจนสีหน้าบ่งบอกได้เลยว่าไม่ใช่เวลามาเล่นสนุกอีกแล้ว พัมพ์กิ้นจึงเริ่มตวัดมือโจมตีอีกครั้ง แต่พริบตานั้นเองกานดาก็โผล่ออกมาด้านหลังวิศนะและวิศนะก็โดดหนีแส่ของพัมพ์กิ้น ทำให้การโจมตีของพัมพ์กิ้นพลาดเป้าและยังเปิดช่องว่างให้กานดาด้วย

ตอนนี้ในมือของกานดามีท่าไม้ตายประสานระหว่างจัสติสเรย์และบุปผาสวรรค์ "จัสติสเอฟฟลอเรสเซนส์" พร้อมในมือแล้ว เมื่อได้จังหวะที่พัมพ์กิ้นโจมตีพลาดเป้าไปแล้ว กานดาก็ปาไม้ตายออกไปทันที พลังของท่าไม้ตายประสานพุ่งตรงเข้าหาพัมพ์กิ้นอย่างรวดเร็วจนกระทบเป้าหมายและระเบิดไปเต็มๆ แต่เพราะกลุ่มฝุ่นควันทำให้กานดาไม่รู้ว่าโดนหรือไม่โดน แต่หน้ากากไฟเยอร์บอกเลยว่าโดนเข้าเต็มๆเลย แต่พัมพ์กิ้นก็ไม่โผล่ออกมาเลยจนเริ่มคิดว่าสุ่มโจมตีอยู่รึเปล่าเลยคิดจะค้นหา แต่ตอนนั้นมินต์ที่ซ่อนตัวอยู่ก็ออกมาบอกว่าพัมพ์กิ้นไม่อยู่แล้ว เธอล็อคเป้าพัมพ์กิ้นไว้และตอนนี้จับสัญญาณไม่ได้ก็เท่ากับพัมพ์กิ้นไปไกลแล้ว กานดาเลยเสียดายเพราะคิดว่ามีโอกาสดีๆที่จะจัดการแล้วเชียว

ขณะที่กานดาพูดแบบนั้น มัจฉา(ร่างปลา)ก็เข้ามาบอกให้กานดาคิดใหม่ดีกว่าและบอกให้กานดาดูรอบๆตัวอีกที พอกานดาหันไปดูก็ถึงกับตะลึงเมื่อลำแสงแส่ของพัมพ์กิ้นไปเล่นงานคนอื่นๆในกลุ่มตายเกลี้ยงหมดทั้งกลุ่มนอกจาก กานดา มัจฉา และภัสสร เท่านั้นทำเอากานดาถึงกับตะลึงปากค้างไปเลย พอหายตะลึงกานดาก็รีบไปไล่ชุบชีวิตทุกคนเป็นการด่วนทันที

สรุปแล้วคนที่ส่งข้อความติดต่อมินต์ก็คือพวกกานดาเอง และที่รู้ว่าผิดปกติก็เพราะตอนที่เพิ่งเสร็จธุระก็เห็นเสาหินถล่มลงมาจนมัจฉานึกสงสัยและก็คิดไม่ผิดจริงๆ มินต์บอกพอเห็นข้อความของพวกกานดาเธอก็เลยรีบหาที่ซ่อนและคอยเล็งพัมพ์กิ้นต่อ พอกำลังจะปะทะอีกรอบพวกกานดาก็มาพอดี และถือว่าเป็นโชคดีของพวกกานดาด้วยที่ซ่อมส่วนตัวดาบลำแสงของจัสติสเรย์เสร็จพอดีจึงพอใช้ไม้ตายประสานได้ ส่วนเรื่องที่พัมพ์กิ้นหนีนั้นไม่ใช่เพราะจำนวนกานดามีมากกว่า(เพราะจัดการไปกว่าครึ่งแล้ว) แต่เพราะกลัวสกิลไม้ตายจะโดนมินต์ซื้อไป แต่ที่มัจฉาคาดไม่ถึงคือการที่ทั้งสองคนปะทะกับพัมพ์กิ้นแล้วยังรอดมาได้อีก วิศนะที่ดูรู้ว่ามัจฉาคิดอะไรอยู่ก็เลยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ผิวปากกลบเกลี้ยน แต่ยังไงซะการที่โดนตามรอยได้แบบนี้แล้วก็คิดว่าควรจะรีบเผ่นจากที่นี่ด่วนเลยดีกว่า

หลังจากนั้นพวกกานดาก็ขึ้นยานโดยมีเป้าหมายต่อไปคือการซ่อมด้ามดาบจัสติสเรย์โดยแข่งกับเวลาก่อนการแข่งขันและระวังไม่ให้โดนตามล่าอีก ระหว่างที่เดินทางอยู่วิศนะก็ได้รับการติดต่อแบบส่วนตัวจากผู้คุมคลังแสง บอกกับวิศนะว่ามีเรื่องคุยด้วยเป็นการส่วนตัว ด้วยเหตุนี้วิศนะเลยปลีกตัวออกมาบนดาดฟ้ายานเพื่อคุยกับผู้คุมคลังแสงซึ่งเธอบอกเป็นเรื่องในฐานะที่วิศนะเกี่ยวข้องกับ Space เธอบอกกับวิศนะเลยว่า "ถ้ายังต้องการจะทำหน้าที่ลูกครึ่ง NPC Space อยู่ล่ะก็... ได้เวลาบอกลาเพื่อนๆแล้วล่ะ"

วิศนะที่ไม่เข้าใจเลยให้ผู้คุมคลังแสงบอกเหตุผล เธอก็บอกให้วิศนะฟัง(แต่คนอ่านไม่รู้) วิศนะก็เข้าใจเหตุผลแต่โดยดีและยอมรับเรื่องที่จะต้องแยกจากกลุ่มของกานดาแล้ว แต่บอกเลยว่าเรื่องการบอกลานั้น ไม่จำเป็น ทันทีที่คุยกับผู้คุมเสร็จ วิศนะก็โดดลงจากยานสู่เบื้องล่างทันทีแบบไม่ให้ใครในกลุ่มกานดารู้ตัว ทางกานดาที่คิดจะขึ้นมาหาเพื่อขอบใจเรื่องเมื่อครู่แต่พอขึ้นมาบนดาดฟ้าก็ไม่เจอตัวหน้ากากไฟเยอร์แล้ว

จบตอน


และแล้วพี่พริกก็ต้องไปจากน้องจนได้ เหตุผลยังเป็นความลับสำหรับคนอ่านไปก่อน แต่แบบนี้กลุ่มกานดาเท่ากับเสียสุดยอดผู้ช่วยไปเลยนะเนี้ย ยิ่งรอลุ้นฉากที่กานดารู้ว่าเป็นพี่ีพริกอีก จะได้ลุ้นมั้ยเนี้ย

ภาพเดียวตอนนี้ ตอนแรกก็ว่าจะเอาฉากที่วณวรรณบอกให้พี่พริกบอกลาพวกกานดา แต่ดูเฉยๆไปหน่อย งั้นเอาฉากโดนเชือดหมู่ไปดูเล่นแล้วกันครับ

ปล. เนื่องจาก C-KiDs ฉบับอาทิตย์นี้เป็นเล่มควบ ดังนั้น EXE ตอนต่อไปรอ 3 อาทิตย์นะครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่