อ่านตอนนี้แล้วก็เข้าใจที่ท่านมิดพูดในเพจของตัวเองเมื่อหลายวันก่อนทันที... อืม... ติดโรค HxH มาจนได้นะท่าน ลายเส้นที่ดูแล้วชวนให้นึกถึง HxH รายสัปดาห์จริงๆ อ่านดูดีๆแล้วเหมือนจะเร่งคิดเรื่องด้วยเหมือนกัน งานนี้แก้ก่อนออกรวมเล่มบานแน่ๆ = ='
ต่อจากตอนที่แล้ว มัจฉาห้ามกานดาไม่ให้ใช้จัสติสเรย์เพราะถ้าพังไปแล้วจะซ่อมไม่ทันคอสมิกแกรนด์แบทเทิล กานดาจึงเข้าสู้กับ Executioner กอบลินโดยไม่ได้ใช้จัสติสเรย์เลย แถมกานดายังต้องคอยหลอกล่อในระยะประชิดด้วย กานดาเองก็พยายามหลบทุกการโจมตีของกอบลินแต่ก็มีพลาดโดนเข้าไปบ้างเหมือนกันแม้จะตั้งการ์ดป้องกันทันก็ตาม แม้กานดาจะเคยสู้กับ Executioner ซีน่อนมาก่อน แต่สำหรับ Executioner กอบลินนั้นเร็วกว่ามากแถมยังโจมตีต่อเนื่องไม่ให้พักอีก
ขณะที่กำลังสู้นั้นเอง กอบลินก็ได้ยินเสียงของหล่นพอเห็นก็รีบเข้าไปเก็บทันที ยิ่งพอเห็นของหล่นเต็มไปหมดก็ยิ่งเข้าไปเก็บเรื่อยๆจนไม่ได้โจมตีเลย เป็นอันเข้าทางอย่างที่มัจฉาคิดไว้ไม่มีผิด ถึงจะเป็น Executioner แต่กอบลินก็ยังเป็นกอบลินอยู่วันยันค่ำ (ไอเทมสารพัดของวิริยาอย่างที่เดากัน) กานดาที่เห็นว่าเป็นช่องว่างแล้วจึงใช้หีบหัวกระโหลกเรียกอาวุธได้ออกมาเป็นลูกตุ้มที่หัวลูกตุ้มเป็นหินสี่เหลี่ยมแทน กานดาคว้าอาวุธนั้นจะเข้าโจมตีกอบลินจากด้านหลังทีเผลอ แต่คิดง่ายเกินไปเมื่อกอบลินรู้ตัวหันกลับมาหลังมือใส่กานดาจนกระเด็นไปเลย มัจฉาที่ดูอยู่คิดเลยว่าท่าจะไม่ได้ผลเพราะอีกฝ่ายเป็นศัตรูระดับสูงแต่ก็ช่วงถ่วงเวลาได้นิดหน่อยซึ่งก็ยังดี
ด้านคนอื่นๆอย่างไวพจน์นั้นอยู่ห่างๆคิดอยู่ว่าจะเรียกคนอื่นๆจากภายในกองดาวมาช่วยดีมั้ย แต่เมื่อคิดถึงระยะห่างแม้ดาวจะอยู่ใกล้ๆแต่ก็ยังเป็นหลักแสนกิโลจึงคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้มาช่วย ระหว่างที่ไวพจน์คิดๆอยู่เจ้าเป็ดก็เข้ามาถามไวพจน์เลยว่าทำอะไรอยู่ ไวพจน์ที่มีดอกทานตะวันหน้าคนอยู่รอบๆเต็มไปหมดก็บอกกำลังปลูกดอกไม้เพิ่มพลังอยู่จนเจ้าเป็ดตบมุขเลยว่าปลูกเป็นไร่เลย และทันทีนั้นเพราะมัวแต่ปลูกจนไม่ระวังไวพจน์ก็เลยโดนมีดขว้างของกอบลินพุ่งเข้ามาเสียบกลางพุงเข้าอย่างจังๆจนถึงกับลงไปนอนเลยจนเจ้าเป็ดต้องเข้ามาช่วยดึงมีดออกให้ บอกให้เลยว่าจะได้ให้เลือดกระฉูดๆ เล่นกันจนวิริยาถึงกับเซ็งคู่นี่จริงๆ
ด้านกอบลินที่ไม่ลืมภัสสรที่โจมตีระยะไกล เมื่อภัสสรโจมตีมาเจ้ากอบลินก็ยังป้องกันได้และอาศัยช่วงที่กานดาไม่ได้เข้าสู้ประชิดเริ่มโจมตีภัสสรด้วยท่ากระสุนลมหมุนอย่างเคย ขณะที่การโจมตีใกล้ถึงตัวภัสสรก็มีคนเข้ามาช่วยป้องกันให้ภัสสร แต่คราวนี้เป็นคนของกองยานที่มาด้วยกันภัสสรก็เลยขอบคุณที่ช่วย คนของกองยานบอกเป็นการตอบแทนที่ช่วยพวกเขาและบอกเลยว่าไหนๆแล้วก็ต้องรอดไปจากที่นี่ให้ได้ต่อให้สิ้นเนื้อประดาตัวก็ตามเพราะที่หมายอยู่แค่นี่เอง ภัสสรได้ยินแบบนี้ก็ดีใจจนน้ำตาไหล จากที่ตลอดมาต้องเป็น tanker ให้ปาร์ตี้ พอเมื่อมีคนมาป้องกันให้แบบนี้เลยซึ้งใจ แต่ดีใจไม่ทันไรกระสุนลมหมุนชุดต่อไปก็กำลังมา พวกไวพจน์เลยรีบไปหลบหลังภัสสรทันทีจนภัสสรถึงกับตะโกนร้องเลย
คราวนี้เริ่มการโจมตีใหม่ด้วยการต่อยพื้นอย่างรุนแรงจนพื้นสั่นสะเทือนทำเอากานดาที่อยู่เกือบประชิดตัวยังเกือบยืนไม่อยู่ แล้วพริบตานั้นก็มีเสาหินพุ่งขึ้นมาพร้อมกับเมฆบางอย่างเล็กๆลอยอยู่เหนือเสาหินนั้นจนทุกคนต่างสงสัยว่าคืออะไร และเมฆนั้นก็เริ่มลืมตาเดียวขึ้นมอง สิ่งนี้คือ "ป้อมปราการเทพเจ้า บัสเตอร์คลาวน์" เมื่อเตรียมพร้อมเสร็จปุ๊บจู่ๆก็มีสายฟ้าผ่าลงมาที่เพลเยอร์ของกองยานคนหนึ่งเข้าจังๆ ด้วยความสามารถของ บัสเตอร์คลาวน์ ที่จะปล่อยสายฟ้าอย่างรุนแรงในอาณาเขตโดยรอบแบบไม่กำหนดเป้าหมายจะมีเพียงเจ้าของไอเทมและปาร์ตี้ที่จะไม่โดนโจมตี ส่วนการโจมตีจะโจมตี 3 วินาทีต่อครั้ง เป้าหมายยังสามารถหลบได้หากเคลื่อนที่ แต่หากโดนโจมตีก็จะขยับไม่ได้ไปเสี้ยววินาที
ทุกคนที่กำลังตกใจกับบัสเตอร์คลาวน์ ไม่ทันไรมัจฉาก็โดนสายฟ้าเป็นคนต่อมาและค่อยๆโดนไปกันเรื่อยๆทีละคนๆ ด้วยความพิเศษของสกิลนี้ทำให้ภัสสรเดาได้ทันทีเลยว่าเจ้ากอบลินนี่ต้องเคยฆ่าเพลเยอร์อาชีพนักประดิษฐ์มาแน่ๆ ด้านไวพจน์ที่เห็นว่าปล่อยไว้ไม่ได้จึงรีบโจมตีกอบลิน แต่เป็นการโจมตีตรงๆด้วยการใช้หนามตาเดียวพุ่งเข้าไปโจมตีเลยโดนกอบลินตบออกเอาง่ายๆ ระหว่างนั้นทางวิริยาก็เริ่มคิดอยู่ว่าหากกอบลินมันฆ่าคนที่ถืออาวุธ Event Horizon ได้จะเป็นยังไง นั้นคือสื่งที่ไวพจน์เองก็ไม่อยากคิด
เมื่อมีหลายคนโดนโจมตี ทางมัจฉาก็เริ่มใช้สกิล "Victory rhyme" ที่ช่วยฟื้นพลัง HP ให้คนในปาร์ตี้อย่างมาก แต่จะใช้ได้เพียงครั้งเดียวในหนึ่งการต่อสู้ หลังจากฟื้นพลังความเร็วจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 10-15 วินาที มัจฉาที่คราวนี้เน้นการ Support แต่ก็สมกับอาชีพ Empress ของเธอที่เป็นอาชีพที่ซ่อนอยู่จากคราส princess ที่ได้ฝึกอาชีพนักวางแผนและนักรบ ทำให้อาชีพ Empress เป็นอาชีพลับที่จะไม่เห็นในแผนผัง และอาชีพนี้ถือเป็นสุดยอดด้านการสนับสนุนที่ช่วยฟื้นฟูและเพิ่มพลังได้ แต่ก็สามารถต่อสู้ด้วยตัวเองได้เหมือนกัน
ตอนนี้เพราะมีสายฟ้าก่อกวนทำให้คนที่มีการโจมตีระยะไกลอย่างเจ้าเป็ดและภัสสรหันไปทำลายบัสเตอร์คลาวน์ก่อน ระหว่างนั้นกานดาก็แทบต้องลุยตัวต่อตัวกับกอบลินไปก่อน แต่เมื่อกานดาเริ่มชินกับความเร็วของกอบลินแล้ว ตอนนี้ก็เลยเริ่มหลบได้แบบชิวๆ หลบไปหยอกเล่นไปได้อย่างสบายๆ ทำเอาเจ้ากอบลินเริ่มมีน้ำโหก็เลยเริ่มจัดไม้ตายออกมาอีกท่า
กอบลินกระโดดและเริ่มใช้ไม้ตายของมีดสั้น "Charybdis" ที่เป็นไม้ตายระดับ 5 ดาวของมีดสั้น เป็นท่าที่มีขอบเขตการทำลายกว้างมาก คนที่โดนท่านี้โดยไร้การป้องกันจะติดสถานะผิดปกติหลายอย่างรวมถึงบาดแผลฉกรรจ์ที่จะทำให้เวลาโดนโจมตีจะแรงขึ้น แต่โชคดีที่หลายคนอย่างพวกไวพจน์ที่ป้องกันได้ทัน วิริยาเองที่ก็หลบหลังกำบังของไวพจน์และเจ้าเป็ดด้วยก็พูดหน่อยว่าเป็นการป้องกันทีดี แต่ท่าประสานที่ใช้ป้องกัน "คิวตี้ฟลัฟฟี่วอลล์" นั้นเป็นปัญหาเรื่องรสนิยมไปหน่อย แม้ไวพจน์กับเจ้าเป็ดจะเถียงแต่กำแพงป้องกันนั้นมีรูปหน้าคนที่เหลือจะรับได้จริงๆ ขนาดไวพจน์ที่ได้เห็นชัดๆจริงๆก็ถึงกับพูดไม่ออกไปเหมือนกันจนต้องบอกเจ้าเป็ดว่าวันหลังมาคุยเรื่องท่าประสานนี้กันใหม่
ในช่วงหลังจากที่กอบลินโจมตีด้วยท่าไม้ตายแล้วนั้นเอง หน้ากากไฟเยอร์ที่อยู่เฉยมานานก็เห็นจังหวะจะโจมตีได้จึงลงมือทันทีด้วยมือซ้ายที่ขว้างหลุมดำออกไปโจมตี แต่เป็นจังหวะที่วิริยาเห็นเป็นการโจมตีที่ได้จังหวะดี เธอจึงรีบพุ่งเข้าไปโจมตีพร้อมหลุมดำของหน้ากากไฟเยอร์กลายเป็นไม้ตายประสานที่หน้ากากไฟเยอร์ไม่อยากทำเลยสักนิดจนพูดเลยว่าฉวยโอกาส แต่ก็กลายเป็นไม้ตายประสานที่รุนแรงจนเจ้ากอบลินออกอาการ และไม่ใช่แค่วิริยาเท่านั้น จังหวะที่วิริยากำลังโจมตีไม้ตายประสานนั้น ไวพจน์และเจ้าเป็ดก็ขอรวมด้วย ร่วมโจมตีประสานเข้าไปอีก ไวพจน์ใช้เถาวัลย์หนามมัดกอบลินไว้ ส่วนเจ้าเป็ดก็กลายร่างมอนสเตอร์เข้าจู่โจมจากด้านบนอัดแบบบนล่างร่วมกับวิริยาที่โจมตีจากด้านล่าง แต่ยังไม่หมด... มีอีกหนึ่งหน่อเข้ามาปิดท้ายด้วยนั้นคือ... วันเดอร์แมน โจมตีใส่พระอาทิตย์....พ่นน้ำลายแหม่บนหัวกอบลิน..... แค่นั้น แต่ก็กลายเป็นไม้ตายประสาน 5 คน "Cataclysmic pillar" ที่ทำความเสียหายให้กอบลินได้กว่า ล้านแปด จนทุกคนเริ่มเห็นความหวังจะชนะได้แล้ว
แต่ในตอนนั้นเองที่จู่ๆร่างของวิริยาที่ขึ้นไปโจมตีไม้ตายประสานนั้นก็ร่วงตกลงมา แม้จะหล่นลงมาได้ต้นไม้รับแรงกระแทกส่วนหนึ่งแต่ทุกคนก็ตกใจเพราะคาดไม่ถึงจนไวพจน์คิดเลยว่าเป็นการโจมตีแบบใหม่อย่างงั้นเหรอ แต่ก็มีคนเห็นว่าไม่ใช่เลย ที่วิริยาร่วงลงมาอย่างเสียหลักนั้นไม่ใช่ฝีมือของกอบลินแต่มาจากอีกทางต่างหาก พอทุกคนหันไปมองทิศทางนั้นรวมถึงกอบลินเองด้วย สิ่งที่ปรากฎนั้นลอยอยู่บนฟ้าที่มองระยะไกลๆแล้วราวกับดวงอาทิตย์ แต่ไม่ใช่ เมื่อมองดีๆแล้วมันคือกรงล้อหนามที่มีมอนสเตอร์รูปร่างคนที่ส่องแสงได้ตัวหนึ่งอยู่กลางวงล้อนั้น หรือว่าแขกไม่ได้รับเชิญนี่ก็คือ Executioner อีกตัว???
จบตอน
เอาแล้วไง Executioner ตัวเดียวก็ยังหืดขึ้นคอ เล่นมาเจออีกตัวอีก ใช้จัสติสเรย์ก็ไม่ได้ จะเอาตัวรอดยังไงคงต้องรอดูกันต่อไป
ภาพเดียวตอนนี้ ภาพของแขกที่ไม่ได้รับเชิญไปดูกันก่อนแล้วกันครับ
[Spoil] EXEcutional - 233 # การต่อสู้ในกองดาวสมาพันธ์
ต่อจากตอนที่แล้ว มัจฉาห้ามกานดาไม่ให้ใช้จัสติสเรย์เพราะถ้าพังไปแล้วจะซ่อมไม่ทันคอสมิกแกรนด์แบทเทิล กานดาจึงเข้าสู้กับ Executioner กอบลินโดยไม่ได้ใช้จัสติสเรย์เลย แถมกานดายังต้องคอยหลอกล่อในระยะประชิดด้วย กานดาเองก็พยายามหลบทุกการโจมตีของกอบลินแต่ก็มีพลาดโดนเข้าไปบ้างเหมือนกันแม้จะตั้งการ์ดป้องกันทันก็ตาม แม้กานดาจะเคยสู้กับ Executioner ซีน่อนมาก่อน แต่สำหรับ Executioner กอบลินนั้นเร็วกว่ามากแถมยังโจมตีต่อเนื่องไม่ให้พักอีก
ขณะที่กำลังสู้นั้นเอง กอบลินก็ได้ยินเสียงของหล่นพอเห็นก็รีบเข้าไปเก็บทันที ยิ่งพอเห็นของหล่นเต็มไปหมดก็ยิ่งเข้าไปเก็บเรื่อยๆจนไม่ได้โจมตีเลย เป็นอันเข้าทางอย่างที่มัจฉาคิดไว้ไม่มีผิด ถึงจะเป็น Executioner แต่กอบลินก็ยังเป็นกอบลินอยู่วันยันค่ำ (ไอเทมสารพัดของวิริยาอย่างที่เดากัน) กานดาที่เห็นว่าเป็นช่องว่างแล้วจึงใช้หีบหัวกระโหลกเรียกอาวุธได้ออกมาเป็นลูกตุ้มที่หัวลูกตุ้มเป็นหินสี่เหลี่ยมแทน กานดาคว้าอาวุธนั้นจะเข้าโจมตีกอบลินจากด้านหลังทีเผลอ แต่คิดง่ายเกินไปเมื่อกอบลินรู้ตัวหันกลับมาหลังมือใส่กานดาจนกระเด็นไปเลย มัจฉาที่ดูอยู่คิดเลยว่าท่าจะไม่ได้ผลเพราะอีกฝ่ายเป็นศัตรูระดับสูงแต่ก็ช่วงถ่วงเวลาได้นิดหน่อยซึ่งก็ยังดี
ด้านคนอื่นๆอย่างไวพจน์นั้นอยู่ห่างๆคิดอยู่ว่าจะเรียกคนอื่นๆจากภายในกองดาวมาช่วยดีมั้ย แต่เมื่อคิดถึงระยะห่างแม้ดาวจะอยู่ใกล้ๆแต่ก็ยังเป็นหลักแสนกิโลจึงคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้มาช่วย ระหว่างที่ไวพจน์คิดๆอยู่เจ้าเป็ดก็เข้ามาถามไวพจน์เลยว่าทำอะไรอยู่ ไวพจน์ที่มีดอกทานตะวันหน้าคนอยู่รอบๆเต็มไปหมดก็บอกกำลังปลูกดอกไม้เพิ่มพลังอยู่จนเจ้าเป็ดตบมุขเลยว่าปลูกเป็นไร่เลย และทันทีนั้นเพราะมัวแต่ปลูกจนไม่ระวังไวพจน์ก็เลยโดนมีดขว้างของกอบลินพุ่งเข้ามาเสียบกลางพุงเข้าอย่างจังๆจนถึงกับลงไปนอนเลยจนเจ้าเป็ดต้องเข้ามาช่วยดึงมีดออกให้ บอกให้เลยว่าจะได้ให้เลือดกระฉูดๆ เล่นกันจนวิริยาถึงกับเซ็งคู่นี่จริงๆ
ด้านกอบลินที่ไม่ลืมภัสสรที่โจมตีระยะไกล เมื่อภัสสรโจมตีมาเจ้ากอบลินก็ยังป้องกันได้และอาศัยช่วงที่กานดาไม่ได้เข้าสู้ประชิดเริ่มโจมตีภัสสรด้วยท่ากระสุนลมหมุนอย่างเคย ขณะที่การโจมตีใกล้ถึงตัวภัสสรก็มีคนเข้ามาช่วยป้องกันให้ภัสสร แต่คราวนี้เป็นคนของกองยานที่มาด้วยกันภัสสรก็เลยขอบคุณที่ช่วย คนของกองยานบอกเป็นการตอบแทนที่ช่วยพวกเขาและบอกเลยว่าไหนๆแล้วก็ต้องรอดไปจากที่นี่ให้ได้ต่อให้สิ้นเนื้อประดาตัวก็ตามเพราะที่หมายอยู่แค่นี่เอง ภัสสรได้ยินแบบนี้ก็ดีใจจนน้ำตาไหล จากที่ตลอดมาต้องเป็น tanker ให้ปาร์ตี้ พอเมื่อมีคนมาป้องกันให้แบบนี้เลยซึ้งใจ แต่ดีใจไม่ทันไรกระสุนลมหมุนชุดต่อไปก็กำลังมา พวกไวพจน์เลยรีบไปหลบหลังภัสสรทันทีจนภัสสรถึงกับตะโกนร้องเลย
คราวนี้เริ่มการโจมตีใหม่ด้วยการต่อยพื้นอย่างรุนแรงจนพื้นสั่นสะเทือนทำเอากานดาที่อยู่เกือบประชิดตัวยังเกือบยืนไม่อยู่ แล้วพริบตานั้นก็มีเสาหินพุ่งขึ้นมาพร้อมกับเมฆบางอย่างเล็กๆลอยอยู่เหนือเสาหินนั้นจนทุกคนต่างสงสัยว่าคืออะไร และเมฆนั้นก็เริ่มลืมตาเดียวขึ้นมอง สิ่งนี้คือ "ป้อมปราการเทพเจ้า บัสเตอร์คลาวน์" เมื่อเตรียมพร้อมเสร็จปุ๊บจู่ๆก็มีสายฟ้าผ่าลงมาที่เพลเยอร์ของกองยานคนหนึ่งเข้าจังๆ ด้วยความสามารถของ บัสเตอร์คลาวน์ ที่จะปล่อยสายฟ้าอย่างรุนแรงในอาณาเขตโดยรอบแบบไม่กำหนดเป้าหมายจะมีเพียงเจ้าของไอเทมและปาร์ตี้ที่จะไม่โดนโจมตี ส่วนการโจมตีจะโจมตี 3 วินาทีต่อครั้ง เป้าหมายยังสามารถหลบได้หากเคลื่อนที่ แต่หากโดนโจมตีก็จะขยับไม่ได้ไปเสี้ยววินาที
ทุกคนที่กำลังตกใจกับบัสเตอร์คลาวน์ ไม่ทันไรมัจฉาก็โดนสายฟ้าเป็นคนต่อมาและค่อยๆโดนไปกันเรื่อยๆทีละคนๆ ด้วยความพิเศษของสกิลนี้ทำให้ภัสสรเดาได้ทันทีเลยว่าเจ้ากอบลินนี่ต้องเคยฆ่าเพลเยอร์อาชีพนักประดิษฐ์มาแน่ๆ ด้านไวพจน์ที่เห็นว่าปล่อยไว้ไม่ได้จึงรีบโจมตีกอบลิน แต่เป็นการโจมตีตรงๆด้วยการใช้หนามตาเดียวพุ่งเข้าไปโจมตีเลยโดนกอบลินตบออกเอาง่ายๆ ระหว่างนั้นทางวิริยาก็เริ่มคิดอยู่ว่าหากกอบลินมันฆ่าคนที่ถืออาวุธ Event Horizon ได้จะเป็นยังไง นั้นคือสื่งที่ไวพจน์เองก็ไม่อยากคิด
เมื่อมีหลายคนโดนโจมตี ทางมัจฉาก็เริ่มใช้สกิล "Victory rhyme" ที่ช่วยฟื้นพลัง HP ให้คนในปาร์ตี้อย่างมาก แต่จะใช้ได้เพียงครั้งเดียวในหนึ่งการต่อสู้ หลังจากฟื้นพลังความเร็วจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 10-15 วินาที มัจฉาที่คราวนี้เน้นการ Support แต่ก็สมกับอาชีพ Empress ของเธอที่เป็นอาชีพที่ซ่อนอยู่จากคราส princess ที่ได้ฝึกอาชีพนักวางแผนและนักรบ ทำให้อาชีพ Empress เป็นอาชีพลับที่จะไม่เห็นในแผนผัง และอาชีพนี้ถือเป็นสุดยอดด้านการสนับสนุนที่ช่วยฟื้นฟูและเพิ่มพลังได้ แต่ก็สามารถต่อสู้ด้วยตัวเองได้เหมือนกัน
ตอนนี้เพราะมีสายฟ้าก่อกวนทำให้คนที่มีการโจมตีระยะไกลอย่างเจ้าเป็ดและภัสสรหันไปทำลายบัสเตอร์คลาวน์ก่อน ระหว่างนั้นกานดาก็แทบต้องลุยตัวต่อตัวกับกอบลินไปก่อน แต่เมื่อกานดาเริ่มชินกับความเร็วของกอบลินแล้ว ตอนนี้ก็เลยเริ่มหลบได้แบบชิวๆ หลบไปหยอกเล่นไปได้อย่างสบายๆ ทำเอาเจ้ากอบลินเริ่มมีน้ำโหก็เลยเริ่มจัดไม้ตายออกมาอีกท่า
กอบลินกระโดดและเริ่มใช้ไม้ตายของมีดสั้น "Charybdis" ที่เป็นไม้ตายระดับ 5 ดาวของมีดสั้น เป็นท่าที่มีขอบเขตการทำลายกว้างมาก คนที่โดนท่านี้โดยไร้การป้องกันจะติดสถานะผิดปกติหลายอย่างรวมถึงบาดแผลฉกรรจ์ที่จะทำให้เวลาโดนโจมตีจะแรงขึ้น แต่โชคดีที่หลายคนอย่างพวกไวพจน์ที่ป้องกันได้ทัน วิริยาเองที่ก็หลบหลังกำบังของไวพจน์และเจ้าเป็ดด้วยก็พูดหน่อยว่าเป็นการป้องกันทีดี แต่ท่าประสานที่ใช้ป้องกัน "คิวตี้ฟลัฟฟี่วอลล์" นั้นเป็นปัญหาเรื่องรสนิยมไปหน่อย แม้ไวพจน์กับเจ้าเป็ดจะเถียงแต่กำแพงป้องกันนั้นมีรูปหน้าคนที่เหลือจะรับได้จริงๆ ขนาดไวพจน์ที่ได้เห็นชัดๆจริงๆก็ถึงกับพูดไม่ออกไปเหมือนกันจนต้องบอกเจ้าเป็ดว่าวันหลังมาคุยเรื่องท่าประสานนี้กันใหม่
ในช่วงหลังจากที่กอบลินโจมตีด้วยท่าไม้ตายแล้วนั้นเอง หน้ากากไฟเยอร์ที่อยู่เฉยมานานก็เห็นจังหวะจะโจมตีได้จึงลงมือทันทีด้วยมือซ้ายที่ขว้างหลุมดำออกไปโจมตี แต่เป็นจังหวะที่วิริยาเห็นเป็นการโจมตีที่ได้จังหวะดี เธอจึงรีบพุ่งเข้าไปโจมตีพร้อมหลุมดำของหน้ากากไฟเยอร์กลายเป็นไม้ตายประสานที่หน้ากากไฟเยอร์ไม่อยากทำเลยสักนิดจนพูดเลยว่าฉวยโอกาส แต่ก็กลายเป็นไม้ตายประสานที่รุนแรงจนเจ้ากอบลินออกอาการ และไม่ใช่แค่วิริยาเท่านั้น จังหวะที่วิริยากำลังโจมตีไม้ตายประสานนั้น ไวพจน์และเจ้าเป็ดก็ขอรวมด้วย ร่วมโจมตีประสานเข้าไปอีก ไวพจน์ใช้เถาวัลย์หนามมัดกอบลินไว้ ส่วนเจ้าเป็ดก็กลายร่างมอนสเตอร์เข้าจู่โจมจากด้านบนอัดแบบบนล่างร่วมกับวิริยาที่โจมตีจากด้านล่าง แต่ยังไม่หมด... มีอีกหนึ่งหน่อเข้ามาปิดท้ายด้วยนั้นคือ... วันเดอร์แมน โจมตีใส่พระอาทิตย์....พ่นน้ำลายแหม่บนหัวกอบลิน..... แค่นั้น แต่ก็กลายเป็นไม้ตายประสาน 5 คน "Cataclysmic pillar" ที่ทำความเสียหายให้กอบลินได้กว่า ล้านแปด จนทุกคนเริ่มเห็นความหวังจะชนะได้แล้ว
แต่ในตอนนั้นเองที่จู่ๆร่างของวิริยาที่ขึ้นไปโจมตีไม้ตายประสานนั้นก็ร่วงตกลงมา แม้จะหล่นลงมาได้ต้นไม้รับแรงกระแทกส่วนหนึ่งแต่ทุกคนก็ตกใจเพราะคาดไม่ถึงจนไวพจน์คิดเลยว่าเป็นการโจมตีแบบใหม่อย่างงั้นเหรอ แต่ก็มีคนเห็นว่าไม่ใช่เลย ที่วิริยาร่วงลงมาอย่างเสียหลักนั้นไม่ใช่ฝีมือของกอบลินแต่มาจากอีกทางต่างหาก พอทุกคนหันไปมองทิศทางนั้นรวมถึงกอบลินเองด้วย สิ่งที่ปรากฎนั้นลอยอยู่บนฟ้าที่มองระยะไกลๆแล้วราวกับดวงอาทิตย์ แต่ไม่ใช่ เมื่อมองดีๆแล้วมันคือกรงล้อหนามที่มีมอนสเตอร์รูปร่างคนที่ส่องแสงได้ตัวหนึ่งอยู่กลางวงล้อนั้น หรือว่าแขกไม่ได้รับเชิญนี่ก็คือ Executioner อีกตัว???
จบตอน
เอาแล้วไง Executioner ตัวเดียวก็ยังหืดขึ้นคอ เล่นมาเจออีกตัวอีก ใช้จัสติสเรย์ก็ไม่ได้ จะเอาตัวรอดยังไงคงต้องรอดูกันต่อไป
ภาพเดียวตอนนี้ ภาพของแขกที่ไม่ได้รับเชิญไปดูกันก่อนแล้วกันครับ