เรื่องนี้เกิดขึ้นภายในระยะเวลาสองอาทิตย์
เรื่องมีอยู่ว่า....แฟนกับเราคบกันมาได้สี่ปี เค้าเป็นผู้ชายที่ดี ดูแลเราและครอบครัวเราทุกอย่าง ตัวแฟนไม่ได้มีฐานะอะไรมากมายครอบครัวหาเช้ากินค่ำ
ส่วนที่บ้านเราเป็นครอบครัวใหญ่มีความสุขดี แฟนกับเราตัดสินใจออกมาจากบ้านของแต่ละคนมาหางานทำเพราะอยากมีเงินเป็นของตัวเองโดยที่ไม่ต้องขอที่บ้านเรามาทำงานด้วยกันที่ร้านเหล้าธรรมดา เราได้รับเงินเดือน 10,000 บาท ส่วนแฟน 9,000 บาท ได้เงินเดือนงวดแรกก็นำไปเป็นค่ามัดจำคอนโด เราสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ต่อไป ผ่านมาเกือบหนึ่งปี เราสองคนมีความสุขมาก อยากจะไปเที่ยวไหนหรือกินอะไรเราก็กิน ได้พบเจอผู้คนมากหน้าหลายตาเพิ่มขึ้น จนกระทั่งร้านปิดตัวลง เราสองคนเลือกเดินตามความฝันของตัวเอง แฟนเราอยากเป็นบาร์เทนเดอร์ ส่วนเราอยากมีธุรกิจส่วนตัวเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว เราเอาเงินเก็บลงทุนทำร้านก๋วยเตี๋ยว แต่แฟนต้องไปอบรมบาร์เทนเดอร์ เราเกิดความน้อยใจว่าทำไมแฟนไม่ช่วยเรา แต่เราก็เข้าใจความฝันแต่ละคนไม่เหมือนกัน จนร้านใหม่เปิดแฟนเราได้เริ่มงานเป็นบาร์เทนเดอร์ ส่วนเราทำร้านก๋วยเตี๋ยวคนเดียวแล้วดูท่าจะไม่ไหว เพราะเราเหนื่อยมาก ร้านขายดีขึ้นเรื่อยๆแต่เราทำไม่ไหว ไม่มีกำไร ทำด้วยใจรัก ขาดทุน ค่าเช่า ฯลฯ เราตัดสินใจปิดร้านก๋วยเตี๋ยวและไปสมัครทำงานร้านเดียวกับแฟน เหตุผลเพราะเจ้าของร้านรู้จักกับเราสองคนมาตั้งแต่ร้านเหล้าที่เราทำงานกัน
แล้วถึงวันเริ่มงาน แฟนเราขยัน รับผิดชอบ ดูแลเราเหมือนเดิม แต่ที่ร้านนี้มีกฏไม่ให้พนักงานที่เป็นแฟนกันทำงานรอบเวลาเดียวกัน ทำให้เราต้องเข้าทำงานในเวลาเช้าหน้าที่รับผิดชอบเยอะกับตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการร้านร่วมด้วยงานแคชเชียร์ แฟนเราทุ่มเทลงไปที่หน้าที่บาร์เทนเดอร์เข้างานตอนเย็นถึงตีหนึ่ง ตอนแรกเราเข้าใจเพราะเราอยากได้เงินตัวเงินเดือนเยอะ หวังแค่ว่าเราสองคนอดทนเก็บเงินเปิดร้านกาแฟของพวกเราเอง เดี๋ยวก็สบาย พอทำไปได้สักแปดเดือนเราเริ่มรู้สึกว่า เหมือนเราใช้ชีวิตคนเดียว ปัญหาต่างๆเพิ่มมากขึ้นเนื่องด้วยความรับผิดชอบที่เราดูแลทำให้เรามีปากเสียงกับทางเจ้าของร้านและผู้จัดการที่ทำงานไม่เป็น เราได้เจอคนหลายรูปแบบ แต่เราก็ไม่สนใจในเรื่องความรัก เพราะเราเชื่อมั่นและไว้ใจในความรู้สึกที่แฟนกับเรามีให้กัน สุดท้ายเรื่องงานก็ไปไม่รอด เราไม่สามารถทนกับการทำดีเข้าตัวทำชั่วใส่เราของเพื่อนร่วมงานและคำตักเตือนว่ากล่าวในสิ่งที่เราไม่ได้ผิด ทำให้เราต้องบีบตัวเองออกจากงานมาอยู่บ้าน เพียงเพราะคิดว่าเราจะหางานใหม่ได้ในเร็ววัน แฟนเราให้เหตุผลเค้าต้องทนอยู่ตรงนี้เพื่อเงิน ไม่งั้นรายได้จะขาด ค่าเช่าห้อง ค่ากินอยู่ของเรา เค้าต้องดูแล แล้วที่สำคัญ เราสองคนไปดาวน์คอนโดสร้างใหม่ไว้เพื่อการสร้างอนาคต ทำให้เรามีรายจ่ายและความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ลาออกมาอยู่บ้าน เราไม่ได้คิดอะไรเลย คุยกับแฟนว่าเราขอพักน่ะ เข้าใจเราหน่อย เดี๋ยวเราจะรีบหางานใหม่เพราะมีรายจ่ายรอเราอยู่สิ้นเดือน ไหนจะค่ารถ ค่าเช่าห้อง และค่าผ่อนดาวน์คอนโดใหม่ หนึ่งเดือนก็แล้ว สองเดือน เรื่อยไปจนเข้าเดือนที่ หก แฟนเราบ่นกับเราว่าเค้าเหนื่อย เค้าไม่น่าซื้อคอนโดเลย ทำไมเราไม่หางานทำ แต่จริงๆแล้วความรู้สึกของเราเห็นแก่ตัวไปน่ะค่ะอันที่จริงคือ เราไม่ยอมไปสัมภาษณ์งาน เราอยากใช้เวลาอยู่กับแฟน ส่งเค้าไปทำงาน เปิดห้องต้อนรับเค้ากลับบ้าน ทำกับข้าวให้ทาน ดูและบ้านและสุนัข1 ตัว เรามีความสุขมากที่ได้กลับมาดูแลเค้าอีกที แต่เราเริ่มรู้สึกแล้วว่า แฟนเราเริ่มเปลี่ยนไป เค้าดูหงุดหงิด พอครบกำหนดรายจ่ายสิ้นเดือนมาถึงเค้าก็จะเริ่มมีอารมณ์โมโห เราเอาโทรศัพท์ไอโฟนที่ซื้อกันมาไปจำนำเพื่อหาเงินจ่ายค่าห้องงวดเดือนที่ผ่านมา สภาวะทางการเงินของเรากับแฟนเริ่มแย่หนักขึ้น เราเข้าใจเค้ามาก เราจึงเริ่มตั้งใจหางานอีกที คราวนี้คือต้องหางานทำให้ได้ เพื่อที่จะไม่ต้องเห็นเค้าเป็นแบบนี้
และแล้วเหตุการณ์ก็เกิดขึ้น วันหยุดที่แฟนเราหยุดเราใช้เวลาอยู่ด้วยกัน มีเสียงไลน์ดังขึ้น เราจึงกดเข้าไปดูด้วยความเคยชินที่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์เครื่องเดียวกัน มีข้อความจากน้องที่ทำงานที่เราก็รู้จักก่อนจะออกจากงานมา ถามแฟนเราว่า "ตื่นรึยัง" "ตื่นได้แล้วน๊า" ส่งสติ๊กเกอร์ว่า เทคแคร์ ด้วยความที่เรารู้จักน้องคนนี้ดีเราจึงตอบไลน์กลับไปว่า "อืม ตื่นแล้ว มีอะไรรึเปล่า" เค้าตอบไลน์กลับมาทันทีว่า "นี่ใช่ ชื่อแฟนเรา รึเปล่า ใครมิทราบ คำพูดนี้ไม่ใช่ กลับไปอ่านข้อความข้างบนดูน่ะ" เรางงมาก ก็เลยกดข้อความย้อนขึ้นไปปรากฏว่าไลน์เป็นแชทอันใหม่ ข้อความเก่าถูกลบไปแล้ว จะมีเฉพาะข้อความที่เราคุยกับน้องคนนี้เท่านั้น เราใจแป้วมาก รีบปลุกแฟน แล้วตั้งคำถามทันที แฟนตกใจมาก บอกเราว่าไม่มีอะไร น้องเค้ามาชอบ ไลน์มาบอกว่าแอบชอบแอบชอบมาหกเดือนแล้ว ต้องรีบบอกก่อนจะไม่ได้บอกเผื่อไปทำงานที่อื่น แต่เราในที่นี้หมายถึงตัวแฟนไม่ได้คิดอะไรน่ะเค้าบอกเราอย่างนั้น ก็ยังงงๆอยู่ว่าน้องเค้าต้องการอะไร แต่เราถามแฟนว่าไม่เข้าใจทำไมต้องลบห้องไลน์ไป เราอ่านไม่ได้หรอ เท่านั้นแหล่ะ เค้าโกรธห้ามเรายุ่งโทรศัพท์บอกว่าอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของเค้า เค้าบอกไม่มีอะไร ด้วยความช็อคผสมกับตกใจมาก เพราะแฟนเราจะมีเรื่องราวรายวันของผู้หญิงคนนี้มาเล่าให้ฟังตลอด ว่าเค้าไปนอนกับลูกค้าชาวต่างชาติมา วันนี้น้องคนนี้ด่ากับเพื่อนพนักงานด้วยกัน แฟนของน้องเค้าโพสด่าเฟสบุ๊ค ประมาณนี้ตลอด เราเลยกดโทรไปหาผู้หญิงคนนั้นทันทีเพราะรับรู้ได้จากความรู้สึกในใจลึกๆว่าแฟนเราโกหกเราซะแล้วหล่ะ
พอโทรไปผู้หญิงโวยวายใส่เราบอกกับเราทันทีหลังจากที่เราบอกว่า "นี่ พี่....น่ะ" "มีอะไรรึเปล่า เกิดอะไรขึ้น ทำแบบนี้ทำไมคะ" คำตอบที่เราได้รับคือ"เออ ก็ชอบไง ก็ไม่ได้มีไรมากค่ะพี่ หนูก็เคารพพี่นะ ก็แค่ชอบไม่มีอะไรพี่ คิดมากไปได้" เราถึงบางอ้อเลย วางหูเสร็จแฟนเราต้องกลับบ้านกลับแม่ที่ต่างจังหวัด คว้าโทรศัพท์คืน เราเริ่มร้องไห้ มันตื้นตันในอกอาการเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่ๆเราถามแฟนว่า ขอร้องแหล่ะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเลิกยุ่งน๊ากับผู้หญิงคนนี้ แฟนเราบอกเค้าไม่ยุ่งไม่ได้อยากยุ่งอยู่แล้ว ไม่สนใจทำงานก็กลับบ้าน เราเลยเอาโทรศัพท์มาบล็อค ไลน์ และเฟสบุ๊คของน้องคนนั้นจากมือถือแฟนเราทันที และกำชับแฟนว่าถ้าเกิดน้องคนนี้พิมอะไรมาอีกเราขอดูด้วยน่ะเพื่อความบริสุทธิ์ใจ เราอยากรู้ว่าน้องเค้าทำแบบนี้ทำไมและต้องการอะไร แฟนเราก็รับปาก
กลับมาจากต่างจังหวัด เราเริ่มระแวงทุกอย่าง แต่แฟนสั่งห้ามเรายุ่งโทรศัพท์และบอกเราว่า อย่าบังคับเค้าได้ไม๊ อย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวให้เชื่อเค้าว่าไม่มีอะไรเราก็โอเคเราจะไม่เช็คเชื่อใจแต่ก็เริ่มรับรู้ถึงอาการที่เปลี่ยนไปของเค้าอย่างชัดเจน ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์หลังจากเกิดเรื่องไลน์ เราจับได้อีกว่าเค้ายังไม่เลิกคุยกัน ผู้หญิงบอกให้แฟนเราเคลียอะไรสักอย่างในข้อความไลน์ แล้วแฟนเราพิมตอบไปว่า สับสนอยู่ เรางงมาก นี่เกิดอะไรขึ้น เราจับแฟนนั่งคุยอีกครั้งพร้อมคำถามและระเบิดอารมณ์ของการคิดว่า ทำไมเราโดนหลอกอีกแล้ว ไหนบอกจะเลิกคุยกันไง แฟนเรายอมรับว่า อยากรู้ว่าผู้หญิงต้องการอะไรถึงมาทำแบบนี้ มาอ้อนมาบอกว่าชอบ ทั้งๆที่รู้ว่าเค้ามีเราอยู่แล้ว แล้วแฟนเราบอกน้องเค้าไปว่า ถ้าจะมาคบกัน ก็ต้องเคลียของแต่ละฝ่ายก่อน ไม่ใช่จะมาคบกันแบบนี้ คือเราไม่ชอบเรื่องโกหก เราจะเค้นจนแฟนบอกความจริงจนได้ แต่พอเราได้ยิน เราก็รับไม่ได้แสดงว่าเค้าต้องการคบกันหรือ มีคำถามเพิ่มขึ้นอีกมากมาย แล้วแฟนเราคิดอะไรอยู่ทำไมบอกไปแบบนั้น เราเริ่มรู้สึกเสียใจลึกๆ แต่ยังไม่อยากโวยวายเพราะเราให้เกียรติแฟนมากในเรื่องการพูดความจริงและเราก็เชื่อว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะรับรู้ว่าเค้าแอบคุยกัน เพราะเราต้องเผื่อใจ ในการไปทำงานของแฟนแต่ละวัน เราอยู่บ้าน เค้าอยู่ด้วยกันทำงานด้วยกัน เราไม่อยากคิดเยอะกลัวจะคิดไปเอง เดี๋ยวแฟนจะโกรธอีก
จนกระทั่งผ่านมาอีก 1 อาทิตย์ มีการเลี้ยงส่งเพื่อนร่วมบาร์เทนเดอร์ลาออก เราก็ขอร้องให้แฟนลาออกซะ ไปหางานทำด้วยกันดีกว่า อยู่แบบนี้เราก็ทรมานกลัวอยู่ตลอดเวลาว่าผู้หญิงคนนั้นจะมายุ่งอะไรกับแฟนเราอีกรึเปล่า เค้าขอกินเลี้ยงส่ง เราบอกแฟนว่าถ้าบริสุทธิ์ใจให้ไปเลี้ยงข้างนอกอย่านั่งกินที่ร้านตอนร้านปิดแล้วเพราะเรากลัวว่าน้องคนนี้จะต้องมาร่วมวงด้วย คือเจตนาเราไม่อยากให้แฟนเราคุยหรือ มีความเกี่ยวโยงกันอีกแล้ว แฟนเราก็รับปากว่าอืมจะไปกินร้านแถวบ้านของเพื่อนร่วมงานคนนี้ เราก็โอเค ไม่ไปให้เกียรติเค้าไม่อยากไปคุมไปวุ่นวาย จนกระทั่งเราเผลอหลับไปด้วยความที่โทรศัพท์หาย เราต้องนั่งมอเตอร์ไซค์ออกมาปากซอยเพื่อหยอดตู้โทรศัพท์สาธารณะโทรหาเค้า แต่เค้าไม่รับโทรศัพท์ จากตีสามหนึ่งรอบ เราออกมาโทรอีกทีตอนตีห้า ก็ไม่รับ หกโมงเช้า ก็ไม่รับ สิบโมงเช้า ก็ไม่รับ เลยตัดสินใจโทรหาเพื่อนของแฟน เค้าบอกว่าแฟนเราไปกินต่อที่ห้องเพื่อนบาร์อีกคน เราก็โล่งใจเพราะกลัวเค้าจะเกิดอุบัติเหตุ กลับมานอน สะดุ้งตื่นอีกที บ่ายสองโมงแฟนยังไม่กลับ เลยออกไปโทรศัพท์หาอีกที เค้าบอกว่ามาถึงห้องแล้วกำลังอาบน้ำแต่งตัวจะไปทำงานให้เราเข้ามาเถอะ
เราทั้งโกรธทั้งดีใจร่วมกันไปเพราะคิดว่าเค้าจะเกิดอุบัติเหตุ เพราะดื่มมาด้วย เค้าบอกว่าไปนอนบ้านแม่มา แต่อาการคือเรารู้แล้วหล่ะว่าเค้าโกหกแน่นอน เราเลยกราบเค้าบอกว่าเล่าความจริงกับเรามาเถอะเราเริ่มจะรับไม่ไหวแล้วเราเหนื่อยกับการวิ่งตาม คำถาม กระวนกระวาย เราร้องไห้จนไม่มีน้ำตาอ้อนวอนเค้าให้เค้าเล่าความจริงมา เค้าก็เล่าทุกอย่างว่า เค้าเป็นคนชวนน้องคนนี้ไปงานด้วย แฟนเราให้เค้าซ้อนท้ายรถไปด้วยกันที่ร้าน นั่งติดกัน มีการถ่ายรูปกอดคอ โน้มคอ ใกล้ชิด (อันนี้เรามาเห็นในเฟสบุ๊คของเพื่อนที่หลัง หลังจากเค้าเล่าความจริงให้เราฟังน่ะ) สิ่งที่เรากลัว ทุกอย่างมันกลับเป็นความจริงทั้งหมด ผู้หญิงไม่ยอมไปต่อ เมามาก อ้อนแฟนเราให้ไปส่งเค้าที่ห้อง แล้วแฟนเราก็ไปส่งเค้าที่ห้อง เราสะอึกมากตรงนี้เราถามแฟนเราทั้งน้ำตาว่า ทำไมจะต้องไปส่งเค้า ทำไมกล้าที่จะเดินเข้าไปในห้องของเค้า เธอรู้ใช่ไม๊ว่าเข้าไปแล้วจะต้องทำอะไร ผู้หญิงเค้าต้องการขนาดนั้น แฟนเราบอกว่า เค้าแค่ไปส่ง แล้วก็บอกให้นอนซะ แล้วกำลังจะกลับ ผู้หญิงวิ่งเข้ามากอดเอวขอให้นอนอยู่ด้วยก่อน แฟนเราก็โอเคนอนน่ะ แล้วเค้าก็นอนมองหน้าแฟนเราและขอให้แฟนเรากอดเค้า แฟนเราก็กอด พอเล่าถึงตรงนี้น้ำตาเราไหลออกมาแบบไม่มีคำพูดอีกแล้ว คำพูดมันก้องอยู่ในหัว ว่า "เราก็กอดเค้า เราก็กอดเค้า"ตลอดเวลา ผู้หญิงหอมแก้มแฟนเรา แล้วสักพักไม่ถึง 5 วินาที ผู้หญิง ถามแฟนเราด้วยความสงสัยว่า "ไม่อยากได้หรอ ไม่มีอารมณ์รึไง ทำไมไม่สวยหรอ ไม่อยากทำแบบอย่างว่ารึไง" แฟนเราตกใจไม่คิดว่าผู้หญิงจะพูดแบบนี้ออกมา แฟนเราเลยบอกไปว่าไม่หล่ะ แล้วผู้หญิงก็ ฟึดฟัด นอนตะแคงค้างหลับไป แฟนเราก็หลับเพราะเมาด้วยแล้วก็จะสิบโมงเช้าแล้วด้วย แฟนเราเล่าต่อว่าสะดุ้งตื่นมาบ่ายโมง เลยลุกมาจะกลับบ้าน ผู้หญิงวิ่งตามมาถามว่า เมื่อคืนเราไม่มีอะไรกันหรอ ไม่ได้มีเลยหรอ แล้วก็ตะโกนออกมาว่า โอ้ มายก้อด แฟนเราก็เลยบอกว่าอืมดูเสื้อผ้าซิยังอยู่ครบ ทุกอย่างไม่ได้ทำอะไรเลยแค่นอน ขอกลับบ้านก่อนน่ะ พอจบประโยคที่เค้าเล่าเรายกมือไหว้แฟน ร้องไห้ฟูมฟาย พูดไม่เป็นภาษาคน เราช็อคมาก สิ่งที่เรากลัวที่สุด กลับเกิดขึ้นกับเราแล้ว เราถามแฟนด้วยคำถามว่า ตอนที่กอดเค้านึกถึงเราบ้างไหม มีหน้าเรากับน้องหมาที่เลี้ยงกันมาบ้างไหม เค้าบอกเค้าเห็นหน้าเราเค้าถึงลุกกลับบ้าน แต่สุดท้ายเค้าก็บอกกับเราแค่ว่า เค้าหมดรักเรามานานแล้ว เค้าไม่ได้รักเราแล้ว เค้าแค่อยู่ด้วยเพราะหน้าที่ เค้าห่วงเรา เราจะอยู่คนเดียวได้หรอถ้าไม่มีแฟน เราเลยถามเค้าว่าเราผิดอะไรมากหรอ เราทำร้ายอะไรเธอมากหรอเธอถึงทำกับเราแบบนี้ วันรุ่งขึ้นเราจะไปเคลียกับผู้หญิงคนนั้นที่ร้าน แฟนเราร้องไห้ขอร้องเราเค้าไม่อยากมีปัญหาที่ร้าน เราขอให้เค้าลาออกเค้าบอกเราว่าเค้ามีภาระ แล้วย้อนถามกลับเราว่าเค้าขออิสระจากเราได้ไหม เค้าไม่เลือกใครทั้งนั้นแล้วตอนนี้ เราตอนนี้อยากจะหายไป ไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว ไม่อยากเจอความจริงตรงนี้
ใครมีคำตอบให้เราทีเราต้องทำยังไงค่ะ
มันเกิดขึ้นกับเราแล้ว ผู้หญิงอยากได้แฟนของเรา แฟนเราก็รู้สึกดีกับเค้า เราต้องทำยังไง
เรื่องมีอยู่ว่า....แฟนกับเราคบกันมาได้สี่ปี เค้าเป็นผู้ชายที่ดี ดูแลเราและครอบครัวเราทุกอย่าง ตัวแฟนไม่ได้มีฐานะอะไรมากมายครอบครัวหาเช้ากินค่ำ
ส่วนที่บ้านเราเป็นครอบครัวใหญ่มีความสุขดี แฟนกับเราตัดสินใจออกมาจากบ้านของแต่ละคนมาหางานทำเพราะอยากมีเงินเป็นของตัวเองโดยที่ไม่ต้องขอที่บ้านเรามาทำงานด้วยกันที่ร้านเหล้าธรรมดา เราได้รับเงินเดือน 10,000 บาท ส่วนแฟน 9,000 บาท ได้เงินเดือนงวดแรกก็นำไปเป็นค่ามัดจำคอนโด เราสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ต่อไป ผ่านมาเกือบหนึ่งปี เราสองคนมีความสุขมาก อยากจะไปเที่ยวไหนหรือกินอะไรเราก็กิน ได้พบเจอผู้คนมากหน้าหลายตาเพิ่มขึ้น จนกระทั่งร้านปิดตัวลง เราสองคนเลือกเดินตามความฝันของตัวเอง แฟนเราอยากเป็นบาร์เทนเดอร์ ส่วนเราอยากมีธุรกิจส่วนตัวเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว เราเอาเงินเก็บลงทุนทำร้านก๋วยเตี๋ยว แต่แฟนต้องไปอบรมบาร์เทนเดอร์ เราเกิดความน้อยใจว่าทำไมแฟนไม่ช่วยเรา แต่เราก็เข้าใจความฝันแต่ละคนไม่เหมือนกัน จนร้านใหม่เปิดแฟนเราได้เริ่มงานเป็นบาร์เทนเดอร์ ส่วนเราทำร้านก๋วยเตี๋ยวคนเดียวแล้วดูท่าจะไม่ไหว เพราะเราเหนื่อยมาก ร้านขายดีขึ้นเรื่อยๆแต่เราทำไม่ไหว ไม่มีกำไร ทำด้วยใจรัก ขาดทุน ค่าเช่า ฯลฯ เราตัดสินใจปิดร้านก๋วยเตี๋ยวและไปสมัครทำงานร้านเดียวกับแฟน เหตุผลเพราะเจ้าของร้านรู้จักกับเราสองคนมาตั้งแต่ร้านเหล้าที่เราทำงานกัน
แล้วถึงวันเริ่มงาน แฟนเราขยัน รับผิดชอบ ดูแลเราเหมือนเดิม แต่ที่ร้านนี้มีกฏไม่ให้พนักงานที่เป็นแฟนกันทำงานรอบเวลาเดียวกัน ทำให้เราต้องเข้าทำงานในเวลาเช้าหน้าที่รับผิดชอบเยอะกับตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการร้านร่วมด้วยงานแคชเชียร์ แฟนเราทุ่มเทลงไปที่หน้าที่บาร์เทนเดอร์เข้างานตอนเย็นถึงตีหนึ่ง ตอนแรกเราเข้าใจเพราะเราอยากได้เงินตัวเงินเดือนเยอะ หวังแค่ว่าเราสองคนอดทนเก็บเงินเปิดร้านกาแฟของพวกเราเอง เดี๋ยวก็สบาย พอทำไปได้สักแปดเดือนเราเริ่มรู้สึกว่า เหมือนเราใช้ชีวิตคนเดียว ปัญหาต่างๆเพิ่มมากขึ้นเนื่องด้วยความรับผิดชอบที่เราดูแลทำให้เรามีปากเสียงกับทางเจ้าของร้านและผู้จัดการที่ทำงานไม่เป็น เราได้เจอคนหลายรูปแบบ แต่เราก็ไม่สนใจในเรื่องความรัก เพราะเราเชื่อมั่นและไว้ใจในความรู้สึกที่แฟนกับเรามีให้กัน สุดท้ายเรื่องงานก็ไปไม่รอด เราไม่สามารถทนกับการทำดีเข้าตัวทำชั่วใส่เราของเพื่อนร่วมงานและคำตักเตือนว่ากล่าวในสิ่งที่เราไม่ได้ผิด ทำให้เราต้องบีบตัวเองออกจากงานมาอยู่บ้าน เพียงเพราะคิดว่าเราจะหางานใหม่ได้ในเร็ววัน แฟนเราให้เหตุผลเค้าต้องทนอยู่ตรงนี้เพื่อเงิน ไม่งั้นรายได้จะขาด ค่าเช่าห้อง ค่ากินอยู่ของเรา เค้าต้องดูแล แล้วที่สำคัญ เราสองคนไปดาวน์คอนโดสร้างใหม่ไว้เพื่อการสร้างอนาคต ทำให้เรามีรายจ่ายและความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ลาออกมาอยู่บ้าน เราไม่ได้คิดอะไรเลย คุยกับแฟนว่าเราขอพักน่ะ เข้าใจเราหน่อย เดี๋ยวเราจะรีบหางานใหม่เพราะมีรายจ่ายรอเราอยู่สิ้นเดือน ไหนจะค่ารถ ค่าเช่าห้อง และค่าผ่อนดาวน์คอนโดใหม่ หนึ่งเดือนก็แล้ว สองเดือน เรื่อยไปจนเข้าเดือนที่ หก แฟนเราบ่นกับเราว่าเค้าเหนื่อย เค้าไม่น่าซื้อคอนโดเลย ทำไมเราไม่หางานทำ แต่จริงๆแล้วความรู้สึกของเราเห็นแก่ตัวไปน่ะค่ะอันที่จริงคือ เราไม่ยอมไปสัมภาษณ์งาน เราอยากใช้เวลาอยู่กับแฟน ส่งเค้าไปทำงาน เปิดห้องต้อนรับเค้ากลับบ้าน ทำกับข้าวให้ทาน ดูและบ้านและสุนัข1 ตัว เรามีความสุขมากที่ได้กลับมาดูแลเค้าอีกที แต่เราเริ่มรู้สึกแล้วว่า แฟนเราเริ่มเปลี่ยนไป เค้าดูหงุดหงิด พอครบกำหนดรายจ่ายสิ้นเดือนมาถึงเค้าก็จะเริ่มมีอารมณ์โมโห เราเอาโทรศัพท์ไอโฟนที่ซื้อกันมาไปจำนำเพื่อหาเงินจ่ายค่าห้องงวดเดือนที่ผ่านมา สภาวะทางการเงินของเรากับแฟนเริ่มแย่หนักขึ้น เราเข้าใจเค้ามาก เราจึงเริ่มตั้งใจหางานอีกที คราวนี้คือต้องหางานทำให้ได้ เพื่อที่จะไม่ต้องเห็นเค้าเป็นแบบนี้
และแล้วเหตุการณ์ก็เกิดขึ้น วันหยุดที่แฟนเราหยุดเราใช้เวลาอยู่ด้วยกัน มีเสียงไลน์ดังขึ้น เราจึงกดเข้าไปดูด้วยความเคยชินที่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์เครื่องเดียวกัน มีข้อความจากน้องที่ทำงานที่เราก็รู้จักก่อนจะออกจากงานมา ถามแฟนเราว่า "ตื่นรึยัง" "ตื่นได้แล้วน๊า" ส่งสติ๊กเกอร์ว่า เทคแคร์ ด้วยความที่เรารู้จักน้องคนนี้ดีเราจึงตอบไลน์กลับไปว่า "อืม ตื่นแล้ว มีอะไรรึเปล่า" เค้าตอบไลน์กลับมาทันทีว่า "นี่ใช่ ชื่อแฟนเรา รึเปล่า ใครมิทราบ คำพูดนี้ไม่ใช่ กลับไปอ่านข้อความข้างบนดูน่ะ" เรางงมาก ก็เลยกดข้อความย้อนขึ้นไปปรากฏว่าไลน์เป็นแชทอันใหม่ ข้อความเก่าถูกลบไปแล้ว จะมีเฉพาะข้อความที่เราคุยกับน้องคนนี้เท่านั้น เราใจแป้วมาก รีบปลุกแฟน แล้วตั้งคำถามทันที แฟนตกใจมาก บอกเราว่าไม่มีอะไร น้องเค้ามาชอบ ไลน์มาบอกว่าแอบชอบแอบชอบมาหกเดือนแล้ว ต้องรีบบอกก่อนจะไม่ได้บอกเผื่อไปทำงานที่อื่น แต่เราในที่นี้หมายถึงตัวแฟนไม่ได้คิดอะไรน่ะเค้าบอกเราอย่างนั้น ก็ยังงงๆอยู่ว่าน้องเค้าต้องการอะไร แต่เราถามแฟนว่าไม่เข้าใจทำไมต้องลบห้องไลน์ไป เราอ่านไม่ได้หรอ เท่านั้นแหล่ะ เค้าโกรธห้ามเรายุ่งโทรศัพท์บอกว่าอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของเค้า เค้าบอกไม่มีอะไร ด้วยความช็อคผสมกับตกใจมาก เพราะแฟนเราจะมีเรื่องราวรายวันของผู้หญิงคนนี้มาเล่าให้ฟังตลอด ว่าเค้าไปนอนกับลูกค้าชาวต่างชาติมา วันนี้น้องคนนี้ด่ากับเพื่อนพนักงานด้วยกัน แฟนของน้องเค้าโพสด่าเฟสบุ๊ค ประมาณนี้ตลอด เราเลยกดโทรไปหาผู้หญิงคนนั้นทันทีเพราะรับรู้ได้จากความรู้สึกในใจลึกๆว่าแฟนเราโกหกเราซะแล้วหล่ะ
พอโทรไปผู้หญิงโวยวายใส่เราบอกกับเราทันทีหลังจากที่เราบอกว่า "นี่ พี่....น่ะ" "มีอะไรรึเปล่า เกิดอะไรขึ้น ทำแบบนี้ทำไมคะ" คำตอบที่เราได้รับคือ"เออ ก็ชอบไง ก็ไม่ได้มีไรมากค่ะพี่ หนูก็เคารพพี่นะ ก็แค่ชอบไม่มีอะไรพี่ คิดมากไปได้" เราถึงบางอ้อเลย วางหูเสร็จแฟนเราต้องกลับบ้านกลับแม่ที่ต่างจังหวัด คว้าโทรศัพท์คืน เราเริ่มร้องไห้ มันตื้นตันในอกอาการเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่ๆเราถามแฟนว่า ขอร้องแหล่ะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเลิกยุ่งน๊ากับผู้หญิงคนนี้ แฟนเราบอกเค้าไม่ยุ่งไม่ได้อยากยุ่งอยู่แล้ว ไม่สนใจทำงานก็กลับบ้าน เราเลยเอาโทรศัพท์มาบล็อค ไลน์ และเฟสบุ๊คของน้องคนนั้นจากมือถือแฟนเราทันที และกำชับแฟนว่าถ้าเกิดน้องคนนี้พิมอะไรมาอีกเราขอดูด้วยน่ะเพื่อความบริสุทธิ์ใจ เราอยากรู้ว่าน้องเค้าทำแบบนี้ทำไมและต้องการอะไร แฟนเราก็รับปาก
กลับมาจากต่างจังหวัด เราเริ่มระแวงทุกอย่าง แต่แฟนสั่งห้ามเรายุ่งโทรศัพท์และบอกเราว่า อย่าบังคับเค้าได้ไม๊ อย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวให้เชื่อเค้าว่าไม่มีอะไรเราก็โอเคเราจะไม่เช็คเชื่อใจแต่ก็เริ่มรับรู้ถึงอาการที่เปลี่ยนไปของเค้าอย่างชัดเจน ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์หลังจากเกิดเรื่องไลน์ เราจับได้อีกว่าเค้ายังไม่เลิกคุยกัน ผู้หญิงบอกให้แฟนเราเคลียอะไรสักอย่างในข้อความไลน์ แล้วแฟนเราพิมตอบไปว่า สับสนอยู่ เรางงมาก นี่เกิดอะไรขึ้น เราจับแฟนนั่งคุยอีกครั้งพร้อมคำถามและระเบิดอารมณ์ของการคิดว่า ทำไมเราโดนหลอกอีกแล้ว ไหนบอกจะเลิกคุยกันไง แฟนเรายอมรับว่า อยากรู้ว่าผู้หญิงต้องการอะไรถึงมาทำแบบนี้ มาอ้อนมาบอกว่าชอบ ทั้งๆที่รู้ว่าเค้ามีเราอยู่แล้ว แล้วแฟนเราบอกน้องเค้าไปว่า ถ้าจะมาคบกัน ก็ต้องเคลียของแต่ละฝ่ายก่อน ไม่ใช่จะมาคบกันแบบนี้ คือเราไม่ชอบเรื่องโกหก เราจะเค้นจนแฟนบอกความจริงจนได้ แต่พอเราได้ยิน เราก็รับไม่ได้แสดงว่าเค้าต้องการคบกันหรือ มีคำถามเพิ่มขึ้นอีกมากมาย แล้วแฟนเราคิดอะไรอยู่ทำไมบอกไปแบบนั้น เราเริ่มรู้สึกเสียใจลึกๆ แต่ยังไม่อยากโวยวายเพราะเราให้เกียรติแฟนมากในเรื่องการพูดความจริงและเราก็เชื่อว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะรับรู้ว่าเค้าแอบคุยกัน เพราะเราต้องเผื่อใจ ในการไปทำงานของแฟนแต่ละวัน เราอยู่บ้าน เค้าอยู่ด้วยกันทำงานด้วยกัน เราไม่อยากคิดเยอะกลัวจะคิดไปเอง เดี๋ยวแฟนจะโกรธอีก
จนกระทั่งผ่านมาอีก 1 อาทิตย์ มีการเลี้ยงส่งเพื่อนร่วมบาร์เทนเดอร์ลาออก เราก็ขอร้องให้แฟนลาออกซะ ไปหางานทำด้วยกันดีกว่า อยู่แบบนี้เราก็ทรมานกลัวอยู่ตลอดเวลาว่าผู้หญิงคนนั้นจะมายุ่งอะไรกับแฟนเราอีกรึเปล่า เค้าขอกินเลี้ยงส่ง เราบอกแฟนว่าถ้าบริสุทธิ์ใจให้ไปเลี้ยงข้างนอกอย่านั่งกินที่ร้านตอนร้านปิดแล้วเพราะเรากลัวว่าน้องคนนี้จะต้องมาร่วมวงด้วย คือเจตนาเราไม่อยากให้แฟนเราคุยหรือ มีความเกี่ยวโยงกันอีกแล้ว แฟนเราก็รับปากว่าอืมจะไปกินร้านแถวบ้านของเพื่อนร่วมงานคนนี้ เราก็โอเค ไม่ไปให้เกียรติเค้าไม่อยากไปคุมไปวุ่นวาย จนกระทั่งเราเผลอหลับไปด้วยความที่โทรศัพท์หาย เราต้องนั่งมอเตอร์ไซค์ออกมาปากซอยเพื่อหยอดตู้โทรศัพท์สาธารณะโทรหาเค้า แต่เค้าไม่รับโทรศัพท์ จากตีสามหนึ่งรอบ เราออกมาโทรอีกทีตอนตีห้า ก็ไม่รับ หกโมงเช้า ก็ไม่รับ สิบโมงเช้า ก็ไม่รับ เลยตัดสินใจโทรหาเพื่อนของแฟน เค้าบอกว่าแฟนเราไปกินต่อที่ห้องเพื่อนบาร์อีกคน เราก็โล่งใจเพราะกลัวเค้าจะเกิดอุบัติเหตุ กลับมานอน สะดุ้งตื่นอีกที บ่ายสองโมงแฟนยังไม่กลับ เลยออกไปโทรศัพท์หาอีกที เค้าบอกว่ามาถึงห้องแล้วกำลังอาบน้ำแต่งตัวจะไปทำงานให้เราเข้ามาเถอะ
เราทั้งโกรธทั้งดีใจร่วมกันไปเพราะคิดว่าเค้าจะเกิดอุบัติเหตุ เพราะดื่มมาด้วย เค้าบอกว่าไปนอนบ้านแม่มา แต่อาการคือเรารู้แล้วหล่ะว่าเค้าโกหกแน่นอน เราเลยกราบเค้าบอกว่าเล่าความจริงกับเรามาเถอะเราเริ่มจะรับไม่ไหวแล้วเราเหนื่อยกับการวิ่งตาม คำถาม กระวนกระวาย เราร้องไห้จนไม่มีน้ำตาอ้อนวอนเค้าให้เค้าเล่าความจริงมา เค้าก็เล่าทุกอย่างว่า เค้าเป็นคนชวนน้องคนนี้ไปงานด้วย แฟนเราให้เค้าซ้อนท้ายรถไปด้วยกันที่ร้าน นั่งติดกัน มีการถ่ายรูปกอดคอ โน้มคอ ใกล้ชิด (อันนี้เรามาเห็นในเฟสบุ๊คของเพื่อนที่หลัง หลังจากเค้าเล่าความจริงให้เราฟังน่ะ) สิ่งที่เรากลัว ทุกอย่างมันกลับเป็นความจริงทั้งหมด ผู้หญิงไม่ยอมไปต่อ เมามาก อ้อนแฟนเราให้ไปส่งเค้าที่ห้อง แล้วแฟนเราก็ไปส่งเค้าที่ห้อง เราสะอึกมากตรงนี้เราถามแฟนเราทั้งน้ำตาว่า ทำไมจะต้องไปส่งเค้า ทำไมกล้าที่จะเดินเข้าไปในห้องของเค้า เธอรู้ใช่ไม๊ว่าเข้าไปแล้วจะต้องทำอะไร ผู้หญิงเค้าต้องการขนาดนั้น แฟนเราบอกว่า เค้าแค่ไปส่ง แล้วก็บอกให้นอนซะ แล้วกำลังจะกลับ ผู้หญิงวิ่งเข้ามากอดเอวขอให้นอนอยู่ด้วยก่อน แฟนเราก็โอเคนอนน่ะ แล้วเค้าก็นอนมองหน้าแฟนเราและขอให้แฟนเรากอดเค้า แฟนเราก็กอด พอเล่าถึงตรงนี้น้ำตาเราไหลออกมาแบบไม่มีคำพูดอีกแล้ว คำพูดมันก้องอยู่ในหัว ว่า "เราก็กอดเค้า เราก็กอดเค้า"ตลอดเวลา ผู้หญิงหอมแก้มแฟนเรา แล้วสักพักไม่ถึง 5 วินาที ผู้หญิง ถามแฟนเราด้วยความสงสัยว่า "ไม่อยากได้หรอ ไม่มีอารมณ์รึไง ทำไมไม่สวยหรอ ไม่อยากทำแบบอย่างว่ารึไง" แฟนเราตกใจไม่คิดว่าผู้หญิงจะพูดแบบนี้ออกมา แฟนเราเลยบอกไปว่าไม่หล่ะ แล้วผู้หญิงก็ ฟึดฟัด นอนตะแคงค้างหลับไป แฟนเราก็หลับเพราะเมาด้วยแล้วก็จะสิบโมงเช้าแล้วด้วย แฟนเราเล่าต่อว่าสะดุ้งตื่นมาบ่ายโมง เลยลุกมาจะกลับบ้าน ผู้หญิงวิ่งตามมาถามว่า เมื่อคืนเราไม่มีอะไรกันหรอ ไม่ได้มีเลยหรอ แล้วก็ตะโกนออกมาว่า โอ้ มายก้อด แฟนเราก็เลยบอกว่าอืมดูเสื้อผ้าซิยังอยู่ครบ ทุกอย่างไม่ได้ทำอะไรเลยแค่นอน ขอกลับบ้านก่อนน่ะ พอจบประโยคที่เค้าเล่าเรายกมือไหว้แฟน ร้องไห้ฟูมฟาย พูดไม่เป็นภาษาคน เราช็อคมาก สิ่งที่เรากลัวที่สุด กลับเกิดขึ้นกับเราแล้ว เราถามแฟนด้วยคำถามว่า ตอนที่กอดเค้านึกถึงเราบ้างไหม มีหน้าเรากับน้องหมาที่เลี้ยงกันมาบ้างไหม เค้าบอกเค้าเห็นหน้าเราเค้าถึงลุกกลับบ้าน แต่สุดท้ายเค้าก็บอกกับเราแค่ว่า เค้าหมดรักเรามานานแล้ว เค้าไม่ได้รักเราแล้ว เค้าแค่อยู่ด้วยเพราะหน้าที่ เค้าห่วงเรา เราจะอยู่คนเดียวได้หรอถ้าไม่มีแฟน เราเลยถามเค้าว่าเราผิดอะไรมากหรอ เราทำร้ายอะไรเธอมากหรอเธอถึงทำกับเราแบบนี้ วันรุ่งขึ้นเราจะไปเคลียกับผู้หญิงคนนั้นที่ร้าน แฟนเราร้องไห้ขอร้องเราเค้าไม่อยากมีปัญหาที่ร้าน เราขอให้เค้าลาออกเค้าบอกเราว่าเค้ามีภาระ แล้วย้อนถามกลับเราว่าเค้าขออิสระจากเราได้ไหม เค้าไม่เลือกใครทั้งนั้นแล้วตอนนี้ เราตอนนี้อยากจะหายไป ไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว ไม่อยากเจอความจริงตรงนี้
ใครมีคำตอบให้เราทีเราต้องทำยังไงค่ะ