"มาปั้นมนุษย์หิมะด้วยกันไหม?"
และแล้ว... วันถัดมาจากวันล่าเงือก สาเหตุที่เดนมาร์กหนาวเหน็บและลมแรงก็มาถึง
วันนั้นเป็นวันศุกร์ค่ะ เป็นวันสุดท้ายของเพื่อนสองคนที่มาอยู่เทอมก่อนหน้าเราก่อนที่เค้าจะกลับสู่แดนลอดช่อง เลยนัดกินข้าวเย็นกันค่ะ (ลอดช่องสิงคโปร์ไม่หร่อยนะ ลอดช่องสิงคโปร์ที่เมืองไทยเด็ดกว่าเยอะค่ะ ยิ่งถ้ามาแบบน้ำตาลข้นจากเพชรบุรีนะคะ... ฟิน) แล้วไหนๆมากันครบ 5 วันแล้ว ได้เวลาไปซักผ้าละ
เราสองคนก็จัดผ้า ใส่เป้ปั่นจักรยานขึ้นเขาไปที่ Campus village ที่เอ็ดมาร์อยู่ค่ะ และได้บอกเอ็ดมาร์แบบหน้าด้านๆตรงๆไปเลยว่าระหว่างที่ผ้าซักอยู่ จะหลบภัยที่ห้องเขา
ใน 1 ตู้มีเครื่องซักผ้า กับเครื่องปั่นผ้าแค่อย่างละตัวค่ะ วันนั้นปิ๊งเลยเดินไปที่ตู้ข้างๆ เพื่อเอาผ้าไปซัก
จัดการเสร็จ ก็เดินกลับมาที่ตู้ของเอ็ดมาร์ และแล้วอะไรบางอย่างก็เกิดขึ้นค่ะ
เคยเล่าไปเมื่อตอนที่สองว่าวันแรกที่เราถึง ก็เจอละอองน้ำแข็งปลิวเบาๆระหว่างทางใช่ปะคะ แต่คราวนั้นมันแค่กะปริบกะปรอย มานิดๆ เป็นผงๆ แต่คราวนี่มาเต็มค่ะ เห็นชัดๆว่าเห้ยยยยยย หิมะตกแล้ว!!!!!!!! ตกลงมาเบาๆ ขาวๆ เหมือนปุยนุ่นเลยค่ะ *ซาบซึ้งแป๊ปค่ะ*
บอกตรงๆว่าตอนนั้นตื่นเต้นมาก คือรีบวิ่งเข้าไปในห้องของเอ็ดมาร์แล้วตะโกนโหวกเหวกโวยวายว่า
"OHMYGOD IT'S SNOWINGGG!!!!!!!" ด้วยความดังแปด(สิบ)หลอดค่ะ
แคสก็ตื่นเต้นพอกัน เพราะพอมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วเห็นว่าหิมะตกจริงๆ นางมีอาการไม่แพ้กันค่ะ แต่เอ็ดมาร์วางเฉย (จนน่าหมั่นไส้) ชิ
หลังจากนั้นเราสองคนก็ออกไปยืนท่ามกลางหิมะ เพื่อดูหิมะ และด้วยความที่โค้ตของปิ๊งเป็นสีดำ ทำให้เห็นเกล็ดหิมะได้ชัดมากค่ะ
ยิ่งเห็นเป็นเกล็ดยิ่งดีใจ เพราะมันหน้าตาเหมือนที่คนชอบวาดเลยค่ะ ไม่เคยนึกว่าของจริงจะสวยขนาดนั้น แล้วมีรูปร่างแบบนั้นจริงๆ พอสังเกตุเห็น คราวนี้ปิ๊งก็พยายามจะจับเกล็ดหิมะมาถ่ายรูปค่ะ แต่ใช้มือจับแล้วละลายตลอดเลย (แหงสิ ไม่คิดเนอะตอนนั้น) เลยเปลี่ยนมาใช้แขนเสื้อตัวเองค่ะ เรียกว่าตอนนั้นสาวฝรั่งมายืนมองยิ้มๆ ให้กำลังใจกับเด็กเอเชียดำๆที่พยายามจะจับเกล็ดหิมะค่ะ
เราสองคนยืนเล่นหิมะกันอยู่ประมาน 10นาที ก่อนที่แคสจะแพ้ความหนาวแล้วกลับเข้าไปข้างใน แต่ด้วยความที่ปิ๊งยังไม่ได้รูปที่ต้องการ ก็ยืนจับหิมะต่อไปสิคะ
ยืนต่อไปอีกประมาณ 5นาที แล้วได้รูปนี้มาค่ะ บอกตรงๆว่าเป็นรูปที่ภูมิใจมาก เพราะมันสวยจริงๆค่ะ (ขยายแล้วหลายยยยยเท่าเลยค่ะ)
สวยเนอะ ไม่เคยคิดเลยค่ะ ว่าเกล็ดหิมะหน้าตาอย่างนี้จริงๆ
วันนั้ยหิมะตกทั้งวันทั้งคืนค่ะ
นี่คือรูปที่ถ่ายจากหน้าต่างห้องครัว วันแรกที่ถ้งเดนมาร์กค่ะ เห็นถนนหน่อยๆค่ะ
เช้าตื่นมา นี่คือถนนหน้าบ้านค่ะ แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
และนี่คือในสวนหลังบ้าน (ที่ไม่ค่อยได้เข้าไปเพราะมันมืดเร็ว และพวกเราป๊อดมากค่ะ)
และแน่นอน ความคิดแรกคือ
เราจะปั้นมนุษย์หิมะ!!! (ก่อนที่จะไม่มีโอกาส เพราะอีกอาทิตย์นึงเราก็ต้องไปกิจกรรมรับน้องของมหาลัยแล้ว และคงกลับถึงบ้านตอนฟ้ามืดทุกวัน)
ลงมือเลยค่ะ ใส่ถุงมือ ออกมานั่งปั้นมนุษย์หิมะ เด็ดลูกดำๆ ซึ่งเป็นลูกอะไรไม่รู้จากพุ่มไม้หน้าบ้านมาทำเป็นตา แล้ววิ่งขึ้นบ้านไปเอาแครรอทมาหนึ่งอันค่ะ
ปั้นมาแล้วมนุษย์หิมะตัวแรกของหนูปิ๊ง หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ
น่ารักปะล่าาาาาาา
คงจะนึกว่าสูงสักประมานเมตรนึงละสิ หึๆๆๆ น้อยไปค่ะ
นี่คือรูปเทียบกับตัวของปิ๊ง 😂😂 น่ารักมั้ยคะ มนุษย์หิมะ(แคระ)ของเก๊าาาา
เพ้อมากค่ะวันนั้น ประหนึ่งว่าตัวเองเป็นเอลซ่า อยากจะร้อง let it go มากค่ะ (แต่เราชอบแอนนามากกว่านะ 555)
ถ่ายรูปส่งไปให้ผู้บ่าว(เอ็ดมาร์ เคเค และหยาง) ดู พวกหนุ่มๆพูดเป็นเสียงเดียวกันค่ะ
"ไร้สาระ!!!!!"
ยะ พวกผู้ใหญ่ พวกสุขุม แหม่ แต่มันมาบ่นทีหลังว่าน่าจะปั้นเล่นบ้าง เสียดาย ช้าไปแล้วค่ะคุณ หุๆๆๆ
วันนี้มาสั้นๆแค่นี้ละค่ะ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีอะไรมาก(ในสายตาหลายๆคน โดยเฉพาะคนที่เคยเห็นหิมะมาแล้ว) แต่มันเป็นสองวันที่มีความหมายมากๆค่ะ เป็นสองวันที่ตื่นเต้นมาก เพราะไม่คิดมาก่อนเลย ว่าเราจะมีโอกาสได้สัมผัสหิมะจริงๆ ไม่ใช่แค่ใน Snow city ตามสวนสนุก สวยมากค่ะ สวยจริงๆ
พูดแล้วก็คิดถึง TT__TT
ปล. ขอลาไปด้วย Cover แบบเปียโน เพลง Let it go นะคะ 5555555 ไหนๆก็จะมาแนวนี้แล้ว โฆษณาสักหน่อย เป็นเพลงอังกฤษเพลงเดียวที่ได้รับการ Cover ค่ะ เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบฟังเพลงไทยมากกว่า เพลงอังกฤษที่ฟัง ส่วนใหญ่จะมาจากการ์ตูนดิสนีย์ ไม่ก็เป็นเพลงเก่าๆ คลาสสิคๆอะค่ะ (ไม่เกี่ยวกับโพสท์ค่ะ แต่จะบอกเล่าเก้าสิบ จะได้เอาวีดีโอมาแปะค่ะ 555)
ไปละค่าาาาาาา
ปล. ถ้าสนใจจะฟังเพลงอื่นๆ แวะชมได้เลยนะคะ www.youtube.com/wwp92
ล่าสุดที่เล่นไว้คือเพลงจาก Club friday the series ค่ะ เสียใจไม่ยอมเสียเธอ
ลิ้งค์รวมกระทู้ #pingineurope ทั้งหมดค่ะ
#pingineurope EP. 5 - หิมะครั้งแรกในชีวิต มีใครเห่อแบบเค้าบ้างมั้ย??
และแล้ว... วันถัดมาจากวันล่าเงือก สาเหตุที่เดนมาร์กหนาวเหน็บและลมแรงก็มาถึง
วันนั้นเป็นวันศุกร์ค่ะ เป็นวันสุดท้ายของเพื่อนสองคนที่มาอยู่เทอมก่อนหน้าเราก่อนที่เค้าจะกลับสู่แดนลอดช่อง เลยนัดกินข้าวเย็นกันค่ะ (ลอดช่องสิงคโปร์ไม่หร่อยนะ ลอดช่องสิงคโปร์ที่เมืองไทยเด็ดกว่าเยอะค่ะ ยิ่งถ้ามาแบบน้ำตาลข้นจากเพชรบุรีนะคะ... ฟิน) แล้วไหนๆมากันครบ 5 วันแล้ว ได้เวลาไปซักผ้าละ
เราสองคนก็จัดผ้า ใส่เป้ปั่นจักรยานขึ้นเขาไปที่ Campus village ที่เอ็ดมาร์อยู่ค่ะ และได้บอกเอ็ดมาร์แบบหน้าด้านๆตรงๆไปเลยว่าระหว่างที่ผ้าซักอยู่ จะหลบภัยที่ห้องเขา
ใน 1 ตู้มีเครื่องซักผ้า กับเครื่องปั่นผ้าแค่อย่างละตัวค่ะ วันนั้นปิ๊งเลยเดินไปที่ตู้ข้างๆ เพื่อเอาผ้าไปซัก
จัดการเสร็จ ก็เดินกลับมาที่ตู้ของเอ็ดมาร์ และแล้วอะไรบางอย่างก็เกิดขึ้นค่ะ
เคยเล่าไปเมื่อตอนที่สองว่าวันแรกที่เราถึง ก็เจอละอองน้ำแข็งปลิวเบาๆระหว่างทางใช่ปะคะ แต่คราวนั้นมันแค่กะปริบกะปรอย มานิดๆ เป็นผงๆ แต่คราวนี่มาเต็มค่ะ เห็นชัดๆว่าเห้ยยยยยย หิมะตกแล้ว!!!!!!!! ตกลงมาเบาๆ ขาวๆ เหมือนปุยนุ่นเลยค่ะ *ซาบซึ้งแป๊ปค่ะ*
บอกตรงๆว่าตอนนั้นตื่นเต้นมาก คือรีบวิ่งเข้าไปในห้องของเอ็ดมาร์แล้วตะโกนโหวกเหวกโวยวายว่า
"OHMYGOD IT'S SNOWINGGG!!!!!!!" ด้วยความดังแปด(สิบ)หลอดค่ะ
แคสก็ตื่นเต้นพอกัน เพราะพอมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วเห็นว่าหิมะตกจริงๆ นางมีอาการไม่แพ้กันค่ะ แต่เอ็ดมาร์วางเฉย (จนน่าหมั่นไส้) ชิ
หลังจากนั้นเราสองคนก็ออกไปยืนท่ามกลางหิมะ เพื่อดูหิมะ และด้วยความที่โค้ตของปิ๊งเป็นสีดำ ทำให้เห็นเกล็ดหิมะได้ชัดมากค่ะ
ยิ่งเห็นเป็นเกล็ดยิ่งดีใจ เพราะมันหน้าตาเหมือนที่คนชอบวาดเลยค่ะ ไม่เคยนึกว่าของจริงจะสวยขนาดนั้น แล้วมีรูปร่างแบบนั้นจริงๆ พอสังเกตุเห็น คราวนี้ปิ๊งก็พยายามจะจับเกล็ดหิมะมาถ่ายรูปค่ะ แต่ใช้มือจับแล้วละลายตลอดเลย (แหงสิ ไม่คิดเนอะตอนนั้น) เลยเปลี่ยนมาใช้แขนเสื้อตัวเองค่ะ เรียกว่าตอนนั้นสาวฝรั่งมายืนมองยิ้มๆ ให้กำลังใจกับเด็กเอเชียดำๆที่พยายามจะจับเกล็ดหิมะค่ะ
เราสองคนยืนเล่นหิมะกันอยู่ประมาน 10นาที ก่อนที่แคสจะแพ้ความหนาวแล้วกลับเข้าไปข้างใน แต่ด้วยความที่ปิ๊งยังไม่ได้รูปที่ต้องการ ก็ยืนจับหิมะต่อไปสิคะ
ยืนต่อไปอีกประมาณ 5นาที แล้วได้รูปนี้มาค่ะ บอกตรงๆว่าเป็นรูปที่ภูมิใจมาก เพราะมันสวยจริงๆค่ะ (ขยายแล้วหลายยยยยเท่าเลยค่ะ)
สวยเนอะ ไม่เคยคิดเลยค่ะ ว่าเกล็ดหิมะหน้าตาอย่างนี้จริงๆ
วันนั้ยหิมะตกทั้งวันทั้งคืนค่ะ
นี่คือรูปที่ถ่ายจากหน้าต่างห้องครัว วันแรกที่ถ้งเดนมาร์กค่ะ เห็นถนนหน่อยๆค่ะ
เช้าตื่นมา นี่คือถนนหน้าบ้านค่ะ แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
และนี่คือในสวนหลังบ้าน (ที่ไม่ค่อยได้เข้าไปเพราะมันมืดเร็ว และพวกเราป๊อดมากค่ะ)
และแน่นอน ความคิดแรกคือ
เราจะปั้นมนุษย์หิมะ!!! (ก่อนที่จะไม่มีโอกาส เพราะอีกอาทิตย์นึงเราก็ต้องไปกิจกรรมรับน้องของมหาลัยแล้ว และคงกลับถึงบ้านตอนฟ้ามืดทุกวัน)
ลงมือเลยค่ะ ใส่ถุงมือ ออกมานั่งปั้นมนุษย์หิมะ เด็ดลูกดำๆ ซึ่งเป็นลูกอะไรไม่รู้จากพุ่มไม้หน้าบ้านมาทำเป็นตา แล้ววิ่งขึ้นบ้านไปเอาแครรอทมาหนึ่งอันค่ะ
ปั้นมาแล้วมนุษย์หิมะตัวแรกของหนูปิ๊ง หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ
น่ารักปะล่าาาาาาา
คงจะนึกว่าสูงสักประมานเมตรนึงละสิ หึๆๆๆ น้อยไปค่ะ
นี่คือรูปเทียบกับตัวของปิ๊ง 😂😂 น่ารักมั้ยคะ มนุษย์หิมะ(แคระ)ของเก๊าาาา
เพ้อมากค่ะวันนั้น ประหนึ่งว่าตัวเองเป็นเอลซ่า อยากจะร้อง let it go มากค่ะ (แต่เราชอบแอนนามากกว่านะ 555)
ถ่ายรูปส่งไปให้ผู้บ่าว(เอ็ดมาร์ เคเค และหยาง) ดู พวกหนุ่มๆพูดเป็นเสียงเดียวกันค่ะ
"ไร้สาระ!!!!!"
ยะ พวกผู้ใหญ่ พวกสุขุม แหม่ แต่มันมาบ่นทีหลังว่าน่าจะปั้นเล่นบ้าง เสียดาย ช้าไปแล้วค่ะคุณ หุๆๆๆ
วันนี้มาสั้นๆแค่นี้ละค่ะ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีอะไรมาก(ในสายตาหลายๆคน โดยเฉพาะคนที่เคยเห็นหิมะมาแล้ว) แต่มันเป็นสองวันที่มีความหมายมากๆค่ะ เป็นสองวันที่ตื่นเต้นมาก เพราะไม่คิดมาก่อนเลย ว่าเราจะมีโอกาสได้สัมผัสหิมะจริงๆ ไม่ใช่แค่ใน Snow city ตามสวนสนุก สวยมากค่ะ สวยจริงๆ
พูดแล้วก็คิดถึง TT__TT
ปล. ขอลาไปด้วย Cover แบบเปียโน เพลง Let it go นะคะ 5555555 ไหนๆก็จะมาแนวนี้แล้ว โฆษณาสักหน่อย เป็นเพลงอังกฤษเพลงเดียวที่ได้รับการ Cover ค่ะ เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบฟังเพลงไทยมากกว่า เพลงอังกฤษที่ฟัง ส่วนใหญ่จะมาจากการ์ตูนดิสนีย์ ไม่ก็เป็นเพลงเก่าๆ คลาสสิคๆอะค่ะ (ไม่เกี่ยวกับโพสท์ค่ะ แต่จะบอกเล่าเก้าสิบ จะได้เอาวีดีโอมาแปะค่ะ 555)
ไปละค่าาาาาาา
ปล. ถ้าสนใจจะฟังเพลงอื่นๆ แวะชมได้เลยนะคะ www.youtube.com/wwp92
ล่าสุดที่เล่นไว้คือเพลงจาก Club friday the series ค่ะ เสียใจไม่ยอมเสียเธอ
ลิ้งค์รวมกระทู้ #pingineurope ทั้งหมดค่ะ