Europe trip Day#3 : เข้าสู่เยอรมัน ลั้นลาสตุจการ์ด ฟาดอาหารจานยักษ์
วันนี้เราจะเดินทางข้ามประเทศแล้วครับเพื่อไปยังประเทศเยอรมัน กลางวันเราได้เยี่ยมชมและพักรับประทานอาหารที่เมืองสตุจการ์ด ส่วนตอนเย็นเราเข้าพักที่เมืองฟุสเซ่นและรับประทานอาหารเย็นที่นี้ครับ เชิญรับชมได้เลยครับ
ติดตามตอนอื่นๆได้ที่นี้เลยครับ
Europe Trip Day#0 : การเตรียมตัวและเดินทางไป Switzerland “ดินแดนแห่งช๊อกโกแลต” :
http://ppantip.com/topic/32426455
Europe trip Day#1 : สไตน์แอมไรน์ สายน้ำตกไรน์ สบายๆเชียร์บอล :
http://ppantip.com/topic/32430482
Europe trip Day#2 : เดินทางขึ้นเขา เล่าเรื่องลูเซิร์น เพลินๆยามเย็น :
http://ppantip.com/topic/32433928
Europe trip Day#4 : ปราสาทดิสนี่ Taxiลงเขา เมาเบียร์มิวนิค :
http://ppantip.com/topic/32443263
Europe trip Day#5 : ขึ้นหอคอยชมเมือง เลื่องลือวู๊ดบวก ผู้คนหลงทาง :
http://ppantip.com/topic/32454006
Europe trip Day#6 : ไวน์ดีมีชื่อ ซื้อกางเกงใส่ ชัยชนะเยอรมัน :
http://ppantip.com/topic/32470887
อรุณสวัสดิ์ครับทุกคน เช้าวันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีท้าทีว่าฝนจะตกเลยครับเยี่ยมจริงๆ หลังจากเก็บของเตรียมย้ายออกจากโรงแรม ผมก็รีบลงไปทานอาหารเช้าของโรงแรมและรีบไปขึ้นรถไฟเพื่อไปยังเมืองสตุจการ์ด[Stuttgart] ประเทศเยอรมัน
นั่งรถไฟนานถึง 3 ชั่วโมง ก็มาถึงเมือง Stuttgart ครับ แต่คืนนี้เราไม่ได้พักที่เมืองนี้นะครับ แค่แวะชมเมือง เราจึงเอากระเป๋าสัมภาระไปเก็บในล็อคเกอร์เก็บของ
แต่ละล๊อคเกอร์มีอัตราค่าบริการแตกต่างกันไปตามขนาดตู้ ล๊อคเกอร์ในภาพขนาดปกติ คิดค่าบริการ 1 Euro ทุกๆ1 ชั่วโมง (เราเข้าสู่ประเทศเยอรมันแล้วจึงเปลี่ยนมาใช้ค่าเงิน Euro)
ต่อจากนั้นเราก็เดินผ่านทางเดินใต้ดินเพื่อไปออกสู่ถนน โคนิกสเตส [Königstrasse] สิ่งแรกที่จะเจอเมื่อขึ้นบันไดเลื่อนจากทางเดินใต้ดินมา ก็คือร้ายขายขนมปังเพรสเซล [Pretzel] และร้านฟาสฟู๊ดอื่นๆอีกมากมาย
Cr.
http://delicious-food-kitchen.blogspot.com/2010/10/soft-pretzels-german-for-our.html
ถัดจากโซนฟาสฟู๊ดหน้าสถานีก็จะเป็นแหล่ง ซ๊อปปิ๊ง ซึ่งมีสินค้ามากมายหลากหลายอย่าง
เมื่อเดินตรงต่อไปเรื่อยๆ ก็จะพบกลับจัตุรัสขนาดใหญ่ ที่มีทั้งวิหาร สวนดอกไม้และพระราชวัง
ผมรู้สึกชอบรูปนี้ด้วยเหตุผลบางอย่าง อาจจะเป็นเพราะท่าทางการเดินของแต่ละคนที่ถูกทำให้หยุดนิ่งไว้ เราดูออกได้ว่าใครกำลังรีบมากรีบน้อย หรือใครไม่รู้จะไปไหนกำลังเดินเล่นอยู่
ถัดมาจากจัตุรัสก่อนที่จะถึงสถานีรถใต้ดินซึ้งอยู่ปลายถนนอีกฝั่ง ก็จะพบร้านอาหารมากมาย รวมถึงร้านไอศกรีม
ใกล้ๆกันมีทางลาดลงไป ด้านล่างมีร้านขายเนื้อ ร้านขายเค้ก ร้านมือถือ และอื่นๆอีกมากมาย
เดินไปเดินมาชักรู้สึกหิว ผมจึงหยุดหาอะไรกินที่ร้านขนมปังแห่งหนึ่ง ซึ่งราคาก็ไม่แพงมาก (ถูกมากเมื่อเทียบกับค่าอาหารที่สวิส) ผมซื้อขนมปังหน้าพิซซ่าและPretzel มาอย่างละ1 ชิ้นราคา 0.8 Euro และ 0.3 Euro (1 Euro ประมาณ 45 บาท)
หลังจากนั้นจึงเดินลงไปสำรวจสถานีรถไฟใต้ดินเล็กน้อย
มาถึงสุดถนนแล้วครับ ช้ายมือและขวามือก็มีร้านอาหารเรียงรายอยู่มากมาย แต่เพราะผมอิ่มแล้วจากขนมปัง2 ชิ้น จึงเดินกลับไปเก็บภาพพระราชวังที่จัตุรัสแทนการไปเดินสำรวจร้านอาหาร
เมื่อถ่ายภาพเสร็จ ผมจึงเดินกลับไปรอคณะเดินทางที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟ
ผ่านไป30 นาทีทุกคนก็มาครบ และพร้อมขึ้นรถไฟไปเมืองฟุสเซ่น [Fussen] เมืองแห่งเทพนิยาย ซึ่งเป็นเมืองที่เราจะพักอาศัยในคืนนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เมืองฟุสเซ่นตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเยอรมัน เป็นเมืองที่ใกล้กับประเทศออสเตรีย ฟุสเซ่นเป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เป็นที่ตั้งปราสาทของกษัตริย์บาวาเรีย เมืองฟุสเซ่นนั้นมีสิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างคือตัวอาคารหรือบ้านช่องของทั้งเมืองจะมีสีสันหลากสีเหมือนกับลูกกวาดสีสวยๆทั้งเมือง
ก่อนจะขึ้นรถไฟไป Fussen ผมเจอร้านขายอินเตอร์เน็ทใต้สถานีจึงได้วิ่งเข้าไปซื้อเน็ทมา4 GB (อธิบายไว้แล้วในการเตรียมตัว Day 0)
นั่งรถไฟจาก Stuttgart ไป Fussen โดยเปลี่ยนขบวนที่เมือง Augsberg รวมเวลาทั้งหมด 3 ชั่วโมง 40 นาที
ในที่สุดเราก็มาถึง Fussen
เมืองนี้เป็นเมืองที่เงียบสงบไม่ครึกครื้นเท่าไหร่ เหราะแก่การมาพักผ่อนใจให้สงบ ปล่อยความคิดให้ไหลไปกับสายกาลเวลา
จากสถานีรถไฟ เดินมา 10 นาทีก็จะมาถึง ที่พักของเราในวันนี้ชื่อ โรงแรม “ลู๊ดวิก [Ludwig]” (Ludwig เป็นชื่อของกษัตริย์ที่สร้างปราสาทในบริเวณรอบๆเมือง โดยเฉพาะ Ludwig II สร้างปราสาทที่เราจะไปเยี่ยมชมในวันพรุ่งนี้ ปราสาทนอยชวานสไตส์ [Neuschwanstein] ซึ่งเป็นปราสาทที่ Disney เอาไปเป็นต้นแบบของปราสาทซินเดอเรล่าสัญลักษณ์ของดิสนี่แลนด์)
ภายในตัวโรงแรมตกแต่งได้เก๋ไก๋ ดูดีมีระดับมากครับ
เมื่อเก็บของเสร็จ เราก็ออกมาเดินเล่นรอบๆเมือง ซึ่งจริงๆเราได้เดินไปเพียงนิดเดียวจากโรงแรมเพราะเมืองมันเล็กมาก
ก่อนอื่นก็กินไอศกรีมกันก่อนเลย ไม่พลาดอยู่แล้วครับ
ต่อมาก็เดินทางตรงไปจนสุดซอยแล้วเลี้ยวซ้ายไปจนถึงสะพานข้ามแม่น้ำ
แม่น้ำใสมาก ถ้ามาคราวหลังจะลองลงไปว่ายดูครับ
ระหว่างทางมีนักวาดรูปคนหนึ่งสะดุดสายตาผมเข้าให้ เขาวาดรูปสุนัขได้สมจริงมากจริงๆ
หลังจากเดินดูรอบๆเมืองจนทั่วทุกชอกทุกมุม เราก็เข้าไปซื้อของที่ระลึกในร้านแห่งหนึ่ง พ่อผมได้ซื้อลูกแก้วของปราสาท Neuschwanstein มาลูกหนึ่ง ส่วนผมก็ไม่ได้ซื้ออะไร
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
ซื้อของเสร็จแล้วเราก็กลับที่พักเพื่อรับประทานอาหารเย็นหน้าโรงแรม Ludwig (ร้านอาหารโรงแรมที่เราพัก ดูเหมือนจะมีลูกค้ามากที่สุดในแถบนั้น)
อาหารที่สั่งก็มีหลายอย่างและจานใหญ่มากครับ
เนื้อวัวแล่บางสูตรต้นตำรับเยอรมัน เสิร์ฟพร้อมมันบดลูกยักษ์และซาวเคร้าท์สีม่วง
ปลาเทราต์ย่างเสิร์ฟพร้อมเนยสมุนไพรและมันฝรั่งต้ม
(ซ้ายบน): Mixed Grill มีอะไรก็ย่างๆไป มีทั้งขาหมู สเต็กเนื้อวัวและเนื้อหมู เสิร์ฟพร้อมมันบดยักษ์
(ขวาบน): สเต็กหมูโป๊ะด้วยไข่ดาวกึ่งสุกกึ่งดิบเสริฟพร้อมเฟรนฟราย
(ซ้ายล่าง): พาสต้าสูตรท้องถิ่น เนื้อพาสต้ามีกลิ่นหอมของผักและสมุนไพร เสิร์ฟพร้อมผักสลัด
(ขวาล่าง): ไส้กรอกเยอรมันย่างหอมกรุ่น เสิร์ฟพร้อมซาวเคร้าท์รสเปรี้ยว
จากเมนูทั้งหมดผมประทับใจไส้กรอกเยอรมันที่สุดครับ ไส้กรอกมันกรอบมาก เนื้อข้างในก็หอมและชุ่มไปด้วยน้ำดีมากๆครับ
ร้านอาหารของโรงแรมคนเยอะจริงๆ ถึงแม้จะดึกแล้วคนก็ยังเยอะอยู่ครับ
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ก็เหมือนว่าจะมีนัดเล่นไพ่กัน แต่เอาเข้าจริงๆแล้วทุกคนอาบน้ำเสร็จก็หลับเลยครับ (คงเป็นเพราะการเดินทางบนรถไฟอันแสนยาวนานในวันนี้)
วันนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้ อาจจะไม่ค่อยได้ไปไหนเท่าไหร่เพราะเป็นวันเดินทางเพื่อเปลี่ยนประเทศครับ ส่วนพรุ่งนี้เราจะได้ขึ้นเขาไปปราสาทดิสนี่ในตำนานกันแล้วและยังต่อด้วยตอนเย็นในเมืองมิวนิกครับ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอยู่นะครับ หากมีข้อติชมอะไรหรือข้อแก้ไขอะไรบอกผมได้ครับ จะพยายามรีบแก้ไขให้ครับ สำหรับวันนี้ก็ฝันดีครับ
[CR] ทริปเชียร์บอล ตะลอนทัวร์ ยุโรป 7 วัน 7 คืน(Switzerland&Germany) Day#3
วันนี้เราจะเดินทางข้ามประเทศแล้วครับเพื่อไปยังประเทศเยอรมัน กลางวันเราได้เยี่ยมชมและพักรับประทานอาหารที่เมืองสตุจการ์ด ส่วนตอนเย็นเราเข้าพักที่เมืองฟุสเซ่นและรับประทานอาหารเย็นที่นี้ครับ เชิญรับชมได้เลยครับ
ติดตามตอนอื่นๆได้ที่นี้เลยครับ
Europe Trip Day#0 : การเตรียมตัวและเดินทางไป Switzerland “ดินแดนแห่งช๊อกโกแลต” : http://ppantip.com/topic/32426455
Europe trip Day#1 : สไตน์แอมไรน์ สายน้ำตกไรน์ สบายๆเชียร์บอล : http://ppantip.com/topic/32430482
Europe trip Day#2 : เดินทางขึ้นเขา เล่าเรื่องลูเซิร์น เพลินๆยามเย็น : http://ppantip.com/topic/32433928
Europe trip Day#4 : ปราสาทดิสนี่ Taxiลงเขา เมาเบียร์มิวนิค : http://ppantip.com/topic/32443263
Europe trip Day#5 : ขึ้นหอคอยชมเมือง เลื่องลือวู๊ดบวก ผู้คนหลงทาง : http://ppantip.com/topic/32454006
Europe trip Day#6 : ไวน์ดีมีชื่อ ซื้อกางเกงใส่ ชัยชนะเยอรมัน : http://ppantip.com/topic/32470887
อรุณสวัสดิ์ครับทุกคน เช้าวันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีท้าทีว่าฝนจะตกเลยครับเยี่ยมจริงๆ หลังจากเก็บของเตรียมย้ายออกจากโรงแรม ผมก็รีบลงไปทานอาหารเช้าของโรงแรมและรีบไปขึ้นรถไฟเพื่อไปยังเมืองสตุจการ์ด[Stuttgart] ประเทศเยอรมัน
นั่งรถไฟนานถึง 3 ชั่วโมง ก็มาถึงเมือง Stuttgart ครับ แต่คืนนี้เราไม่ได้พักที่เมืองนี้นะครับ แค่แวะชมเมือง เราจึงเอากระเป๋าสัมภาระไปเก็บในล็อคเกอร์เก็บของ
แต่ละล๊อคเกอร์มีอัตราค่าบริการแตกต่างกันไปตามขนาดตู้ ล๊อคเกอร์ในภาพขนาดปกติ คิดค่าบริการ 1 Euro ทุกๆ1 ชั่วโมง (เราเข้าสู่ประเทศเยอรมันแล้วจึงเปลี่ยนมาใช้ค่าเงิน Euro)
ต่อจากนั้นเราก็เดินผ่านทางเดินใต้ดินเพื่อไปออกสู่ถนน โคนิกสเตส [Königstrasse] สิ่งแรกที่จะเจอเมื่อขึ้นบันไดเลื่อนจากทางเดินใต้ดินมา ก็คือร้ายขายขนมปังเพรสเซล [Pretzel] และร้านฟาสฟู๊ดอื่นๆอีกมากมาย
Cr. http://delicious-food-kitchen.blogspot.com/2010/10/soft-pretzels-german-for-our.html
ถัดจากโซนฟาสฟู๊ดหน้าสถานีก็จะเป็นแหล่ง ซ๊อปปิ๊ง ซึ่งมีสินค้ามากมายหลากหลายอย่าง
เมื่อเดินตรงต่อไปเรื่อยๆ ก็จะพบกลับจัตุรัสขนาดใหญ่ ที่มีทั้งวิหาร สวนดอกไม้และพระราชวัง
ผมรู้สึกชอบรูปนี้ด้วยเหตุผลบางอย่าง อาจจะเป็นเพราะท่าทางการเดินของแต่ละคนที่ถูกทำให้หยุดนิ่งไว้ เราดูออกได้ว่าใครกำลังรีบมากรีบน้อย หรือใครไม่รู้จะไปไหนกำลังเดินเล่นอยู่
ถัดมาจากจัตุรัสก่อนที่จะถึงสถานีรถใต้ดินซึ้งอยู่ปลายถนนอีกฝั่ง ก็จะพบร้านอาหารมากมาย รวมถึงร้านไอศกรีม
ใกล้ๆกันมีทางลาดลงไป ด้านล่างมีร้านขายเนื้อ ร้านขายเค้ก ร้านมือถือ และอื่นๆอีกมากมาย
เดินไปเดินมาชักรู้สึกหิว ผมจึงหยุดหาอะไรกินที่ร้านขนมปังแห่งหนึ่ง ซึ่งราคาก็ไม่แพงมาก (ถูกมากเมื่อเทียบกับค่าอาหารที่สวิส) ผมซื้อขนมปังหน้าพิซซ่าและPretzel มาอย่างละ1 ชิ้นราคา 0.8 Euro และ 0.3 Euro (1 Euro ประมาณ 45 บาท)
หลังจากนั้นจึงเดินลงไปสำรวจสถานีรถไฟใต้ดินเล็กน้อย
มาถึงสุดถนนแล้วครับ ช้ายมือและขวามือก็มีร้านอาหารเรียงรายอยู่มากมาย แต่เพราะผมอิ่มแล้วจากขนมปัง2 ชิ้น จึงเดินกลับไปเก็บภาพพระราชวังที่จัตุรัสแทนการไปเดินสำรวจร้านอาหาร
เมื่อถ่ายภาพเสร็จ ผมจึงเดินกลับไปรอคณะเดินทางที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟ
ผ่านไป30 นาทีทุกคนก็มาครบ และพร้อมขึ้นรถไฟไปเมืองฟุสเซ่น [Fussen] เมืองแห่งเทพนิยาย ซึ่งเป็นเมืองที่เราจะพักอาศัยในคืนนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก่อนจะขึ้นรถไฟไป Fussen ผมเจอร้านขายอินเตอร์เน็ทใต้สถานีจึงได้วิ่งเข้าไปซื้อเน็ทมา4 GB (อธิบายไว้แล้วในการเตรียมตัว Day 0)
นั่งรถไฟจาก Stuttgart ไป Fussen โดยเปลี่ยนขบวนที่เมือง Augsberg รวมเวลาทั้งหมด 3 ชั่วโมง 40 นาที
ในที่สุดเราก็มาถึง Fussen
เมืองนี้เป็นเมืองที่เงียบสงบไม่ครึกครื้นเท่าไหร่ เหราะแก่การมาพักผ่อนใจให้สงบ ปล่อยความคิดให้ไหลไปกับสายกาลเวลา
จากสถานีรถไฟ เดินมา 10 นาทีก็จะมาถึง ที่พักของเราในวันนี้ชื่อ โรงแรม “ลู๊ดวิก [Ludwig]” (Ludwig เป็นชื่อของกษัตริย์ที่สร้างปราสาทในบริเวณรอบๆเมือง โดยเฉพาะ Ludwig II สร้างปราสาทที่เราจะไปเยี่ยมชมในวันพรุ่งนี้ ปราสาทนอยชวานสไตส์ [Neuschwanstein] ซึ่งเป็นปราสาทที่ Disney เอาไปเป็นต้นแบบของปราสาทซินเดอเรล่าสัญลักษณ์ของดิสนี่แลนด์)
ภายในตัวโรงแรมตกแต่งได้เก๋ไก๋ ดูดีมีระดับมากครับ
เมื่อเก็บของเสร็จ เราก็ออกมาเดินเล่นรอบๆเมือง ซึ่งจริงๆเราได้เดินไปเพียงนิดเดียวจากโรงแรมเพราะเมืองมันเล็กมาก
ก่อนอื่นก็กินไอศกรีมกันก่อนเลย ไม่พลาดอยู่แล้วครับ
ต่อมาก็เดินทางตรงไปจนสุดซอยแล้วเลี้ยวซ้ายไปจนถึงสะพานข้ามแม่น้ำ
แม่น้ำใสมาก ถ้ามาคราวหลังจะลองลงไปว่ายดูครับ
ระหว่างทางมีนักวาดรูปคนหนึ่งสะดุดสายตาผมเข้าให้ เขาวาดรูปสุนัขได้สมจริงมากจริงๆ
หลังจากเดินดูรอบๆเมืองจนทั่วทุกชอกทุกมุม เราก็เข้าไปซื้อของที่ระลึกในร้านแห่งหนึ่ง พ่อผมได้ซื้อลูกแก้วของปราสาท Neuschwanstein มาลูกหนึ่ง ส่วนผมก็ไม่ได้ซื้ออะไร
ซื้อของเสร็จแล้วเราก็กลับที่พักเพื่อรับประทานอาหารเย็นหน้าโรงแรม Ludwig (ร้านอาหารโรงแรมที่เราพัก ดูเหมือนจะมีลูกค้ามากที่สุดในแถบนั้น)
อาหารที่สั่งก็มีหลายอย่างและจานใหญ่มากครับ
เนื้อวัวแล่บางสูตรต้นตำรับเยอรมัน เสิร์ฟพร้อมมันบดลูกยักษ์และซาวเคร้าท์สีม่วง
ปลาเทราต์ย่างเสิร์ฟพร้อมเนยสมุนไพรและมันฝรั่งต้ม
(ซ้ายบน): Mixed Grill มีอะไรก็ย่างๆไป มีทั้งขาหมู สเต็กเนื้อวัวและเนื้อหมู เสิร์ฟพร้อมมันบดยักษ์
(ขวาบน): สเต็กหมูโป๊ะด้วยไข่ดาวกึ่งสุกกึ่งดิบเสริฟพร้อมเฟรนฟราย
(ซ้ายล่าง): พาสต้าสูตรท้องถิ่น เนื้อพาสต้ามีกลิ่นหอมของผักและสมุนไพร เสิร์ฟพร้อมผักสลัด
(ขวาล่าง): ไส้กรอกเยอรมันย่างหอมกรุ่น เสิร์ฟพร้อมซาวเคร้าท์รสเปรี้ยว
จากเมนูทั้งหมดผมประทับใจไส้กรอกเยอรมันที่สุดครับ ไส้กรอกมันกรอบมาก เนื้อข้างในก็หอมและชุ่มไปด้วยน้ำดีมากๆครับ
ร้านอาหารของโรงแรมคนเยอะจริงๆ ถึงแม้จะดึกแล้วคนก็ยังเยอะอยู่ครับ
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ก็เหมือนว่าจะมีนัดเล่นไพ่กัน แต่เอาเข้าจริงๆแล้วทุกคนอาบน้ำเสร็จก็หลับเลยครับ (คงเป็นเพราะการเดินทางบนรถไฟอันแสนยาวนานในวันนี้)
วันนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้ อาจจะไม่ค่อยได้ไปไหนเท่าไหร่เพราะเป็นวันเดินทางเพื่อเปลี่ยนประเทศครับ ส่วนพรุ่งนี้เราจะได้ขึ้นเขาไปปราสาทดิสนี่ในตำนานกันแล้วและยังต่อด้วยตอนเย็นในเมืองมิวนิกครับ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอยู่นะครับ หากมีข้อติชมอะไรหรือข้อแก้ไขอะไรบอกผมได้ครับ จะพยายามรีบแก้ไขให้ครับ สำหรับวันนี้ก็ฝันดีครับ