ทริปเชียร์บอล ตะลอนทัวร์ ยุโรป 7 วัน 7 คืน(Switzerland&Germany)
สวัสดีครับทุกคนๆ ผมชื่อ“จอนนี่(นักเดินทาง)”นะครับ ก่อนอื่นต้องขอออกตัวว่า นี่เป็นการเขียน review ครั้งแรกของผมและคาดว่าจะมีออกมาเรื่อยๆต่อจากนี้ไป หากมีข้อบกพร่องในเรื่องภาษาหรือภาพไม่สวย(เพราะส่วนใหญ่ถ่ายภาพจาก iPhone)ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย....................ถ้างั้นมาเริ่มกันเลย
ติดตามตอนอื่นๆได้ที่นี้เลยครับ
Europe trip Day#1 : สไตน์แอมไลน์ สายน้ำตกไลน์ สบายๆเชียร์บอล :
http://ppantip.com/topic/32430482
Europe trip Day#2 : เดินทางขึ้นเขา เล่าเรื่องลูเซิร์น เพลินๆยามเย็น :
http://ppantip.com/topic/32433928
Europe trip Day#3 : เข้าสู่เยอรมัน ลั้นลาสตุจการ์ด ฟาดอาหารจานยักษ์ :
http://ppantip.com/topic/32434213
Europe trip Day#4 : ปราสาทดิสนี่ Taxiลงเขา เมาเบียร์มิวนิค :
http://ppantip.com/topic/32443263
Europe trip Day#5 : ขึ้นหอคอยชมเมือง เลื่องลือวู๊ดบวก ผู้คนหลงทาง :
http://ppantip.com/topic/32454006
Europe trip Day#6 : ไวน์ดีมีชื่อ ซื้อกางเกงใส่ ชัยชนะเยอรมัน :
http://ppantip.com/topic/32470887
Europe Trip Day#0 :
การเตรียมตัวและเดินทางไป Switzerland “ดินแดนแห่งช๊อกโกแลต”
การเดินทางในครั้งนี้เกิดขึ้นในวันที่ 29 มิถุนายน ถึง 5 กรกฎาคม 57 โดยที่ผมไปพร้อมกับพ่อแม่และครอบครัวเพื่อนของพ่ออีกครอบครัวหนึ่ง(ลูก3คน) จึงมีสมาชิกที่ร่วมทริปไปทั้งหมด 8 คน [ผมถูกขอร้องให้เก็บชื่อทุกคนไว้เป็นความลับ// หากใครเห็นคนรู้จักในภาพก็เก็บเงียบไว้น่ะครับ55]
หมายเหตุ! การเตรียมตัวอาจจะเขียนไว้เยอะไปหน่อย ใครขี้เกียจอ่าน สามารถเลื่อนไปอ่านต่อที่เริ่มต้นการเดินทางได้เลยครับ
การเตรียมตัว
ก่อนที่จะเดินทางก็ต้องเตรียมตัวหลายๆอย่างด้วยกัน โดยแบ่งเป็นหลักๆคือ 1. ตั๋วต่างๆ 2.Passport&Visa 3.ที่พัก 4. เสื้อผ้า 5.เครื่องอุปโภคบริโภค 6.เงินสกุลของประเทศนั้นๆ 7.สายชาร์ตและสิ่งบันเทิง
1. ตั๋วต่างๆ
1.1 ตั๋วเครื่องบิน
ตั๋วเครื่องบินไปยุโรปจะมีทั้งแบบสายตรง คือ นั่งเครื่องบินเครื่องเดียวส่งตรงถึงจุดหมาย ไม่ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศอื่น และ แบบ Transit หรือก็คือแบบที่ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศอื่น โดยอาจจะเปลี่ยนรอบเดียวหรืออาจจะเปลี่ยนเครื่อง2-3รอบก็แล้วแต่การจองของเรา (ตัวอย่าง web ที่ช่วยคำนวณอัตราค่าโดยสาร:
http://www.cheaptickets.co.th/en) ซึ่งการเดินทางแบบ Transit ถึงแม้อาจจะดูลำบากกว่าแบบสายตรง แต่สิ่งที่ทำให้มันน่าสนใจก็คือราคาที่ถูกกว่าถึงเท่าตัวนั้นเอง
นอกจากนี้เราเอาจะใช้แต้มสะสมจากบัตร credit แลกเป็นค่าเครื่องบินได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น บัตร Citibank สามารถสะสมแต้มที่เรียกว่า ไมล์ เพื่อแลกเป็นตัวเครื่องบินการบินไทยได้ การเดินทางครั้งนี้ครอบครัวผมจึงได้ใช้แต้มที่สะสมไว้แลกเป็นตั๋ว 3 ใบ
1.2 ตั๋วรถไฟ
สำหรับค่าตั๋วรถไฟในยุโรปก็แพงไม่แพ้ค่าตั๋วเครื่องบิน โดยหนึ่งในวิธีการที่สะดวกที่สุดและคุ้มค่าที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวก็คงหนีไม่พ้นการซื้อ Eurail pass ซึ่งตั๋วนี้จะสามารถใช้กับรถไฟในประเทศได้เกือบทุกขบวน (ยกเว้นรถไฟใต้ดินในบางประเทศ) และสามารถใช้เดินทางข้ามประเทศที่เราระบุได้ (เช่นตั๋ว 3 ประเทศ ก็ใช้ได้ใน3 ประเทศนั้นและข้ามไปมาระหว่าง3 ประเทศนั้นได้หากอยู่ติดกัน) ทริปของเราในครั้งนี้ไป2 ประเทศจึงเลือกซื้อตั๋ว2 ประเทศครับ แบบ6 วัน อายุ2 เดือน (คือจะเลือกใช้ตั๋ววันไหนก็ได้6 วัน ในระยะเวลา 2 เดือนหลังการใช้ตั๋วครั้งแรก) ราคาก็ตกอยู่ที่คนละ14000 บาท
เสริม!!! Eurail pass มีตั๋วประเภทหนึ่งชื่อ Global Pass ซึ่งสามารถเดินทางได้ถึง 24 ประเทศในยุโรป [การเป็นสหภาพยุโรปมันดีอย่างนี้เอง]
2. Passport &Visa
2.1Passport เปรียบเสมือนบัตรประชาชนของเราในต่างประเทศ (!!!ต้องมีทุกคนไม่ว่าจะไปประเทศไหนก็ตาม แม้กระทั่งประเทศระบุว่าไม่ต้องใช้ Visa เช่น ญี่ปุ่น ก็ต้องใช้ passport) โดยต้องทำก่อนเดินทางอย่างน้อย6 เดือน ในบางประเทศอาจจะอนุโลมให้เหลือ 4 เดือนเช่น ประเทศเยอรมัน (รายละเอียดเพิ่มเติม
http://travel.kapook.com/view25439.html)
2.2 Visa คล้ายๆกับใบอนุญาตให้เข้าประเทศ หากเราเดินทางไปหลายประเทศในยุโรป(ซึ่งใช้ เซงเก้น(Schengen) visa เหมือนกัน เพราะเป็นสหภาพยุโรป) เรามักจะ(ควร)ทำVisa ประเทศที่เราอาศัยอยู่นานที่สุด เช่น ทริปในครั้งนี้อยู่เยอรมัน5วัน และสวิตเซอร์แลนด์2วัน จึง Schengen Visa ที่สถานฑูติเยอรมัน
Cr.
http://www.frontlinedefenders.org/news/brussels-front-line-defenders-publishes-guidelines-schengen-visa-application-process
3. ที่พัก
สำหรับที่พัก ต้องแล้วแต่ ความต้องการของแต่ละคน ต้องการประหยัดหรืออยู่สบาย/ใกล้สถานีรถไฟหรือไม่/ต้องการอาหารเช้าหรือไม่/ต้องการWifi หรือไม่/หรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆที่ต้องการอีกหรือไม่ โดยโรงแรมที่ผมได้ใช้บริการในครั้งนี้มีดังต่อไปนี้
1. โรงแรม Montana เมือง Zurich ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โรงแรมใกล้สถานีรถไฟ มีบริการบุฟเฟ่อาหารเช้า(Breakfast) ห้องพักขนาดกำลังสบาย ห้อง2คนเสริมเตียงได้ครับ
Cr.
http://www.travelpod.com/hotel/Hotel-Montana-Zurich.html
2. โรงแรม Ludwig เมือง Fussen ประเทศเยอรมัน โรงแรมอยู่ในเมืองเล็กๆชื่อฟุสเซ่น โดยมีร้านอาหารอยู่ในตัวโรงแรม อาหารมื้อเย็นที่นี้อร่อยมาก ตัวอาคารตกแต่งสวยงามค่าที่พักถูก(เพราะเมืองมันเล็ก) มีBreakfast
Cr.
http://www.panoramio.com/photo/41369998
3. โรงแรม Courtyard Marriott เมือง Munich ประเทศเยอรมัน โรงแรม4ดาวมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน(เช่น ห้องfitness) ที่สำคัญคืออยู่ใกล้สถานีรถไฟมาก แต่มีข้อเสียคือไม่มีWifiฟรีในห้องพัก(ฟรีที่lobby) เสริมเตียงไม่ได้ และ ไม่มีBreakfastครับ
Cr.
http://www.holidaycheck.de/vollbild-Hotel+Courtyard+by+Marriott+Muenchen+City+Center+Ol%C3%A9o+Pazzo+Bar+Muenchen+im+Courtyard+Munich+City-ch_ub-id_1157154512.html
4. โรงแรม Novotel เมือง Wurzburg ประเทศเยอรมัน โรงแรม 4 ดาว มีoption เสริมมากมายไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ห้องซาวน่า โซนเล่นเกม (มีเครื่อง PS และ Xbox) Wifi ในห้องพักฟรี มีBreakfast แต่อาจจะอยู่ไกลจากสถานีรถไฟนิดหน่อย (เมือง Wurzburg บรรยากาศดีน่าเดินเล่นอยู่แล้วครับ จึงไม่มีปัญหาเท่าไหร่) และเสริมเตียงไม่ได้ครับ
Cr.
http://www.novotel.com/gb/hotel-5362-novotel-wurzburg/index.shtml
5. โรงแรม Colour เมือง Frankfurt ประเทศเยอรมัน โรงแรม 3 ดาว ใกล้สถานีรถไฟมาก ข้างๆโรงแรมมีร้านค้าเล็กๆ Wifiในห้องพักฟรี มี Breakfast เช่นเดียวกับโรงแรมอื่นๆ
Cr.
http://holidays.syl.com/en/hotel/12943/Colour+Hotel/
เสริม !!! ผมเคยไปอ่านกระทู้หนึ่ง จขกท.หาที่พักฟรีได้ด้วย ใครสนใจที่พักฟรีอ่านได้จาก link นี้ได้ครับ
http://ppantip.com/topic/32140189
4. เสื้อผ้า
ก่อนอื่นต้องเช็คสภาพอากาศของเมืองที่เราจะเดินทางไปและเตรียมให้เหมาะสม แม้ยุโรปจะขึ้นชื่อเรื่องเป็นเมืองหนาวแต่ในหน้าร้อนมันก็ร้อนจริงๆครับ อากาศร้อนของยุโรปอาจจะแย่กว่าเมืองไทยด้วยซ้ำเพราะไม่ค่อยมีลมจึงอบอ่าวมากครับ นอกจากนี้สำหรับคนที่วางแผนจะขึ้นภูเขาสูงที่มีหิมะควรเตรียมรองเท้าบูท หมวกไหมพรม(กันหนาวหู)และแว่นกันแดดให้ดีครับ และอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรลืมหากจะเดินทางไปยุโรปช่วงเวลาเดียวกับผมคือ “ร่ม” ฝนตกเยอะและหนักมากครับ
5. เครื่องอุปโภคบริโภค
-แปรงสีฟัน –ลิปมัน –ครีมล้างหน้า -ครีมบำรุงผิว –น้ำยา Contact Lens *** อย่าลืม load กระเป๋าที่ใส่ของพวกนี้ เพราะสนามบินไม่ให้เอาของเหลวเกิน100ml ขึ้นเครื่อง รวมไปถึงของมีคมต่างๆเช่น กรรไกรตัดเล็บและมีดพกด้วยครับ***
6. เงินสกุลของประเทศนั้นๆ
ในที่นี้คือ Swiss franc สำหรับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และ Euro สำหรับเยอรมัน (ปกติประเทศในยุโรปใช้ เงินสกุล Euro หมดยกเว้นสวิตเซอร์แลนด์และอังกฤษที่ใช้ British pound //ประเทศยุโรปตะวันออกบางประเทศก็ใช้เงินตราแตกต่างออกไป)
หมายเหตุ! จริงๆเราใช้ เงินสกุล Euro ในสวิตเซอร์แลนด์ได้ แต่อาจจะไม่คุ้มเท่าไหร่ บางร้านค้าให้1 Swiss franc = 1 Euro ทั้งๆที่ Euro แพงกว่า
7. สายชาร์ตและสิ่งบันเทิง
อย่าลืมว่าการเดินทางในยุโรปจะได้นั่งรถไฟบ่อยมากและเป็นระยะเวลานาน หากคุณไม่ใช่ผู้มีความสุนทรีกับการนั่งชมวิวไปเรื่อยๆหรือสนิทกับคนในกรุ๊ปจนสามารถหาเรื่องคุยกันได้ตลอด ขอแนะนำให้เตรียมสิ่งบันเทิงต่างๆไป ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์ที่มีเกม เกมกดต่างๆ หนังสืออ่านเล่น นิยาย และสำหรับคนที่ติด Social ขอแนะนำให้หาWifi ที่สามารถเล่นระหว่างการเดินทางได้ โดยสำหรับกรณีของผม ผมได้ไปซื้อPackage Wifi ที่เยอรมัน จากร้าน Vodafone ปริมาณ 4GB มีอายุ 4 เดือน แต่ใช้4 วันก็หมดละครับ เพราะshare hotspot เล่นพร้อมกัน 6 เครื่อง (- -“)
** เตือนสำหรับผู้ที่จะเอา pocket Wifi ไปจากประเทศไทยนะครับ มันอาจจะใช้ไม่ได้กับ Sim internet ของต่างประเทศ // ผมโดนไปละครับ TT
[CR] ทริปเชียร์บอล ตะลอนทัวร์ ยุโรป 7 วัน 7 คืน(Switzerland&Germany) Day#0
สวัสดีครับทุกคนๆ ผมชื่อ“จอนนี่(นักเดินทาง)”นะครับ ก่อนอื่นต้องขอออกตัวว่า นี่เป็นการเขียน review ครั้งแรกของผมและคาดว่าจะมีออกมาเรื่อยๆต่อจากนี้ไป หากมีข้อบกพร่องในเรื่องภาษาหรือภาพไม่สวย(เพราะส่วนใหญ่ถ่ายภาพจาก iPhone)ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย....................ถ้างั้นมาเริ่มกันเลย
ติดตามตอนอื่นๆได้ที่นี้เลยครับ
Europe trip Day#1 : สไตน์แอมไลน์ สายน้ำตกไลน์ สบายๆเชียร์บอล : http://ppantip.com/topic/32430482
Europe trip Day#2 : เดินทางขึ้นเขา เล่าเรื่องลูเซิร์น เพลินๆยามเย็น : http://ppantip.com/topic/32433928
Europe trip Day#3 : เข้าสู่เยอรมัน ลั้นลาสตุจการ์ด ฟาดอาหารจานยักษ์ : http://ppantip.com/topic/32434213
Europe trip Day#4 : ปราสาทดิสนี่ Taxiลงเขา เมาเบียร์มิวนิค : http://ppantip.com/topic/32443263
Europe trip Day#5 : ขึ้นหอคอยชมเมือง เลื่องลือวู๊ดบวก ผู้คนหลงทาง : http://ppantip.com/topic/32454006
Europe trip Day#6 : ไวน์ดีมีชื่อ ซื้อกางเกงใส่ ชัยชนะเยอรมัน : http://ppantip.com/topic/32470887
Europe Trip Day#0 : การเตรียมตัวและเดินทางไป Switzerland “ดินแดนแห่งช๊อกโกแลต”
การเดินทางในครั้งนี้เกิดขึ้นในวันที่ 29 มิถุนายน ถึง 5 กรกฎาคม 57 โดยที่ผมไปพร้อมกับพ่อแม่และครอบครัวเพื่อนของพ่ออีกครอบครัวหนึ่ง(ลูก3คน) จึงมีสมาชิกที่ร่วมทริปไปทั้งหมด 8 คน [ผมถูกขอร้องให้เก็บชื่อทุกคนไว้เป็นความลับ// หากใครเห็นคนรู้จักในภาพก็เก็บเงียบไว้น่ะครับ55]
หมายเหตุ! การเตรียมตัวอาจจะเขียนไว้เยอะไปหน่อย ใครขี้เกียจอ่าน สามารถเลื่อนไปอ่านต่อที่เริ่มต้นการเดินทางได้เลยครับ
การเตรียมตัว
ก่อนที่จะเดินทางก็ต้องเตรียมตัวหลายๆอย่างด้วยกัน โดยแบ่งเป็นหลักๆคือ 1. ตั๋วต่างๆ 2.Passport&Visa 3.ที่พัก 4. เสื้อผ้า 5.เครื่องอุปโภคบริโภค 6.เงินสกุลของประเทศนั้นๆ 7.สายชาร์ตและสิ่งบันเทิง
1. ตั๋วต่างๆ
1.1 ตั๋วเครื่องบิน
ตั๋วเครื่องบินไปยุโรปจะมีทั้งแบบสายตรง คือ นั่งเครื่องบินเครื่องเดียวส่งตรงถึงจุดหมาย ไม่ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศอื่น และ แบบ Transit หรือก็คือแบบที่ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศอื่น โดยอาจจะเปลี่ยนรอบเดียวหรืออาจจะเปลี่ยนเครื่อง2-3รอบก็แล้วแต่การจองของเรา (ตัวอย่าง web ที่ช่วยคำนวณอัตราค่าโดยสาร: http://www.cheaptickets.co.th/en) ซึ่งการเดินทางแบบ Transit ถึงแม้อาจจะดูลำบากกว่าแบบสายตรง แต่สิ่งที่ทำให้มันน่าสนใจก็คือราคาที่ถูกกว่าถึงเท่าตัวนั้นเอง
นอกจากนี้เราเอาจะใช้แต้มสะสมจากบัตร credit แลกเป็นค่าเครื่องบินได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น บัตร Citibank สามารถสะสมแต้มที่เรียกว่า ไมล์ เพื่อแลกเป็นตัวเครื่องบินการบินไทยได้ การเดินทางครั้งนี้ครอบครัวผมจึงได้ใช้แต้มที่สะสมไว้แลกเป็นตั๋ว 3 ใบ
1.2 ตั๋วรถไฟ
สำหรับค่าตั๋วรถไฟในยุโรปก็แพงไม่แพ้ค่าตั๋วเครื่องบิน โดยหนึ่งในวิธีการที่สะดวกที่สุดและคุ้มค่าที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวก็คงหนีไม่พ้นการซื้อ Eurail pass ซึ่งตั๋วนี้จะสามารถใช้กับรถไฟในประเทศได้เกือบทุกขบวน (ยกเว้นรถไฟใต้ดินในบางประเทศ) และสามารถใช้เดินทางข้ามประเทศที่เราระบุได้ (เช่นตั๋ว 3 ประเทศ ก็ใช้ได้ใน3 ประเทศนั้นและข้ามไปมาระหว่าง3 ประเทศนั้นได้หากอยู่ติดกัน) ทริปของเราในครั้งนี้ไป2 ประเทศจึงเลือกซื้อตั๋ว2 ประเทศครับ แบบ6 วัน อายุ2 เดือน (คือจะเลือกใช้ตั๋ววันไหนก็ได้6 วัน ในระยะเวลา 2 เดือนหลังการใช้ตั๋วครั้งแรก) ราคาก็ตกอยู่ที่คนละ14000 บาท
เสริม!!! Eurail pass มีตั๋วประเภทหนึ่งชื่อ Global Pass ซึ่งสามารถเดินทางได้ถึง 24 ประเทศในยุโรป [การเป็นสหภาพยุโรปมันดีอย่างนี้เอง]
2. Passport &Visa
2.1Passport เปรียบเสมือนบัตรประชาชนของเราในต่างประเทศ (!!!ต้องมีทุกคนไม่ว่าจะไปประเทศไหนก็ตาม แม้กระทั่งประเทศระบุว่าไม่ต้องใช้ Visa เช่น ญี่ปุ่น ก็ต้องใช้ passport) โดยต้องทำก่อนเดินทางอย่างน้อย6 เดือน ในบางประเทศอาจจะอนุโลมให้เหลือ 4 เดือนเช่น ประเทศเยอรมัน (รายละเอียดเพิ่มเติม http://travel.kapook.com/view25439.html)
2.2 Visa คล้ายๆกับใบอนุญาตให้เข้าประเทศ หากเราเดินทางไปหลายประเทศในยุโรป(ซึ่งใช้ เซงเก้น(Schengen) visa เหมือนกัน เพราะเป็นสหภาพยุโรป) เรามักจะ(ควร)ทำVisa ประเทศที่เราอาศัยอยู่นานที่สุด เช่น ทริปในครั้งนี้อยู่เยอรมัน5วัน และสวิตเซอร์แลนด์2วัน จึง Schengen Visa ที่สถานฑูติเยอรมัน
Cr. http://www.frontlinedefenders.org/news/brussels-front-line-defenders-publishes-guidelines-schengen-visa-application-process
3. ที่พัก
สำหรับที่พัก ต้องแล้วแต่ ความต้องการของแต่ละคน ต้องการประหยัดหรืออยู่สบาย/ใกล้สถานีรถไฟหรือไม่/ต้องการอาหารเช้าหรือไม่/ต้องการWifi หรือไม่/หรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆที่ต้องการอีกหรือไม่ โดยโรงแรมที่ผมได้ใช้บริการในครั้งนี้มีดังต่อไปนี้
1. โรงแรม Montana เมือง Zurich ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โรงแรมใกล้สถานีรถไฟ มีบริการบุฟเฟ่อาหารเช้า(Breakfast) ห้องพักขนาดกำลังสบาย ห้อง2คนเสริมเตียงได้ครับ
Cr.http://www.travelpod.com/hotel/Hotel-Montana-Zurich.html
2. โรงแรม Ludwig เมือง Fussen ประเทศเยอรมัน โรงแรมอยู่ในเมืองเล็กๆชื่อฟุสเซ่น โดยมีร้านอาหารอยู่ในตัวโรงแรม อาหารมื้อเย็นที่นี้อร่อยมาก ตัวอาคารตกแต่งสวยงามค่าที่พักถูก(เพราะเมืองมันเล็ก) มีBreakfast
Cr. http://www.panoramio.com/photo/41369998
3. โรงแรม Courtyard Marriott เมือง Munich ประเทศเยอรมัน โรงแรม4ดาวมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน(เช่น ห้องfitness) ที่สำคัญคืออยู่ใกล้สถานีรถไฟมาก แต่มีข้อเสียคือไม่มีWifiฟรีในห้องพัก(ฟรีที่lobby) เสริมเตียงไม่ได้ และ ไม่มีBreakfastครับ
Cr. http://www.holidaycheck.de/vollbild-Hotel+Courtyard+by+Marriott+Muenchen+City+Center+Ol%C3%A9o+Pazzo+Bar+Muenchen+im+Courtyard+Munich+City-ch_ub-id_1157154512.html
4. โรงแรม Novotel เมือง Wurzburg ประเทศเยอรมัน โรงแรม 4 ดาว มีoption เสริมมากมายไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ห้องซาวน่า โซนเล่นเกม (มีเครื่อง PS และ Xbox) Wifi ในห้องพักฟรี มีBreakfast แต่อาจจะอยู่ไกลจากสถานีรถไฟนิดหน่อย (เมือง Wurzburg บรรยากาศดีน่าเดินเล่นอยู่แล้วครับ จึงไม่มีปัญหาเท่าไหร่) และเสริมเตียงไม่ได้ครับ
Cr. http://www.novotel.com/gb/hotel-5362-novotel-wurzburg/index.shtml
5. โรงแรม Colour เมือง Frankfurt ประเทศเยอรมัน โรงแรม 3 ดาว ใกล้สถานีรถไฟมาก ข้างๆโรงแรมมีร้านค้าเล็กๆ Wifiในห้องพักฟรี มี Breakfast เช่นเดียวกับโรงแรมอื่นๆ
Cr. http://holidays.syl.com/en/hotel/12943/Colour+Hotel/
เสริม !!! ผมเคยไปอ่านกระทู้หนึ่ง จขกท.หาที่พักฟรีได้ด้วย ใครสนใจที่พักฟรีอ่านได้จาก link นี้ได้ครับ http://ppantip.com/topic/32140189
4. เสื้อผ้า
ก่อนอื่นต้องเช็คสภาพอากาศของเมืองที่เราจะเดินทางไปและเตรียมให้เหมาะสม แม้ยุโรปจะขึ้นชื่อเรื่องเป็นเมืองหนาวแต่ในหน้าร้อนมันก็ร้อนจริงๆครับ อากาศร้อนของยุโรปอาจจะแย่กว่าเมืองไทยด้วยซ้ำเพราะไม่ค่อยมีลมจึงอบอ่าวมากครับ นอกจากนี้สำหรับคนที่วางแผนจะขึ้นภูเขาสูงที่มีหิมะควรเตรียมรองเท้าบูท หมวกไหมพรม(กันหนาวหู)และแว่นกันแดดให้ดีครับ และอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรลืมหากจะเดินทางไปยุโรปช่วงเวลาเดียวกับผมคือ “ร่ม” ฝนตกเยอะและหนักมากครับ
5. เครื่องอุปโภคบริโภค
-แปรงสีฟัน –ลิปมัน –ครีมล้างหน้า -ครีมบำรุงผิว –น้ำยา Contact Lens *** อย่าลืม load กระเป๋าที่ใส่ของพวกนี้ เพราะสนามบินไม่ให้เอาของเหลวเกิน100ml ขึ้นเครื่อง รวมไปถึงของมีคมต่างๆเช่น กรรไกรตัดเล็บและมีดพกด้วยครับ***
6. เงินสกุลของประเทศนั้นๆ
ในที่นี้คือ Swiss franc สำหรับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และ Euro สำหรับเยอรมัน (ปกติประเทศในยุโรปใช้ เงินสกุล Euro หมดยกเว้นสวิตเซอร์แลนด์และอังกฤษที่ใช้ British pound //ประเทศยุโรปตะวันออกบางประเทศก็ใช้เงินตราแตกต่างออกไป)
หมายเหตุ! จริงๆเราใช้ เงินสกุล Euro ในสวิตเซอร์แลนด์ได้ แต่อาจจะไม่คุ้มเท่าไหร่ บางร้านค้าให้1 Swiss franc = 1 Euro ทั้งๆที่ Euro แพงกว่า
7. สายชาร์ตและสิ่งบันเทิง
อย่าลืมว่าการเดินทางในยุโรปจะได้นั่งรถไฟบ่อยมากและเป็นระยะเวลานาน หากคุณไม่ใช่ผู้มีความสุนทรีกับการนั่งชมวิวไปเรื่อยๆหรือสนิทกับคนในกรุ๊ปจนสามารถหาเรื่องคุยกันได้ตลอด ขอแนะนำให้เตรียมสิ่งบันเทิงต่างๆไป ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์ที่มีเกม เกมกดต่างๆ หนังสืออ่านเล่น นิยาย และสำหรับคนที่ติด Social ขอแนะนำให้หาWifi ที่สามารถเล่นระหว่างการเดินทางได้ โดยสำหรับกรณีของผม ผมได้ไปซื้อPackage Wifi ที่เยอรมัน จากร้าน Vodafone ปริมาณ 4GB มีอายุ 4 เดือน แต่ใช้4 วันก็หมดละครับ เพราะshare hotspot เล่นพร้อมกัน 6 เครื่อง (- -“)
** เตือนสำหรับผู้ที่จะเอา pocket Wifi ไปจากประเทศไทยนะครับ มันอาจจะใช้ไม่ได้กับ Sim internet ของต่างประเทศ // ผมโดนไปละครับ TT