เคสง่ายๆอย่าง เก้งกวาง กะเทย ตุ๊ด ทอมดี้ เลสเบี้ยน WHO ถอดออกจากบัญชีการเป็นโรคมาหลายปีมากแล้ว เพราะมันไม่ใช่โรคจิต
แต่กับประเทศหยุดและด้อยพัฒนายังมองว่ามันเป็นกรรมเก่าบ้าง อีตุ๊ด อีกะเทย(ควาย) เกิดมาเสียชาติเกิด มีลูกเป็นฆาตกรดีกว่ามีลูกเป็นตุ๊ด บลาๆๆๆ...
ส่วนตัวเราเป็นเก้งที่ก้ำกึ่งระหว่างตุ๊ด แต่งชายแต่ก้อไม่ได้แมน เรามีความชอบในกลิ่นตัวผู้ชาย กลิ่นสาบ ฟีโรโมนส์ และชอบดมกุงเกงลิง
พวกชุดกีฬา เสื้อบอล กางเกงบอล เสื้อนักเรียนไรงี้ เราว่ามันซับกลิ่นสาบบุรุษได้ดีมากๆ พวกเด็กมหาลัย ม.ต้น ม.ปลาย ก้อมีกลิ่นแบบนี้ เวลาเดินผ่านเรา ได้อารมณ์มาก
บางคนหาว่าเราโรคจิตแต่เรากลับรู้สึกว่ามันเป็นแค่รสนิยม(ทางเพศ)เพราะเราไม่ดมก้อไม่รู้สึกลงแดงตาย แค่เห็นแล้วหยิบมาดมเมื่อมีโอกาสแล้วก้อวางไว้ที่เดิม
ไม่ลักขโมยแบบในข่าวที่เอามาเป็นกองภูเขาทั้งๆที่ซักแล้ว คงเอามาจิ้นเพราะคงได้แค่กลิ่นผงซักฟอก
เวลาพวกผู้หญิงได้กลิ่นพวกผู้ชายเตะบอลแล้วไปยืนใกล้ๆพวกนาง พวกนางจะบอกเหม็นไปไกลๆไป้(ไม่รู้พวกนางแสร้งพูดว่าเหม็นแต่ในใจชอบหรือเปล่า...?!?!)
แต่กลิ่นแบบนั้นแหละเราอยากสูดดมทุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะตามข้อพับ ซอกหลืบต่างๆ...(ละไว้ในฐานที่เข้าใจ)
เคยมีครั้งนึงเราไปซื้อเฟอร์นิเจอร์กับพ่อ คนขายรักแร้แฉะ เราแกล้งเดินวนไปข้างหลังเขา สบโอกาสลองไปยืนใกล้ กรี๊ดดดด ฟินเบาๆ~
นักบาส นักบอล ที่ถอดเสื้อ แล้วเห็นขนรักแร้หยิกหยอยฟู แค่เห็นก้อน้ำเดินแระ ก้มๆเป็นรอยกกน.แบบ Brief(สามเหลี่ยม) ชอบมองเหมือนกัน
กกน.บ้านๆตามตลาดนัด ซุปเปอร์สโตร์ตามห้าง แผนกชุดชั้นในชาย ตามกระบะ แล้วเห็นเหล่าบุรุษไปยืนเลือกผึ่งๆกันดู เราก้อจิ้นและมีอารมณ์
เราเลยอยากทราบว่าที่เราพิมพ์ไปทั้งหมดมันคือรสนิยม(ทางเพศ)หรือโรคจิต ในมุมมองวิทยาศาสตร์ของประเทศพัฒนาแล้ว
แล้ว รสนิยม(ทางเพศ)กับโรคจิต วิทยาศาสตร์ของประเทศพัฒนาแล้ว เขาแยกกันอย่างไร...?!?!
อนึ่ง! เราขอย้ำว่าเราชอบดมแค่กลิ่นภายในแต่ละวัน ไม่ใช่ 3 วัน 7 วันไม่อาบน้ำหรอกนะ ประมาณนี้...
*ขอ Tag เกี่ยวกับอเมริกาด้วยเพราะเราอยากทราบความเห็นพลเมืองที่อยู่ในดินแดนแห่งเสรีภาพประเทศนี้!
[แอบเรต!] รสนิยม(ทางเพศ)กับโรคจิต วิทยาศาสตร์ของประเทศพัฒนาแล้ว เขาแยกกันอย่างไร...?!?!
แต่กับประเทศหยุดและด้อยพัฒนายังมองว่ามันเป็นกรรมเก่าบ้าง อีตุ๊ด อีกะเทย(ควาย) เกิดมาเสียชาติเกิด มีลูกเป็นฆาตกรดีกว่ามีลูกเป็นตุ๊ด บลาๆๆๆ...
ส่วนตัวเราเป็นเก้งที่ก้ำกึ่งระหว่างตุ๊ด แต่งชายแต่ก้อไม่ได้แมน เรามีความชอบในกลิ่นตัวผู้ชาย กลิ่นสาบ ฟีโรโมนส์ และชอบดมกุงเกงลิง
พวกชุดกีฬา เสื้อบอล กางเกงบอล เสื้อนักเรียนไรงี้ เราว่ามันซับกลิ่นสาบบุรุษได้ดีมากๆ พวกเด็กมหาลัย ม.ต้น ม.ปลาย ก้อมีกลิ่นแบบนี้ เวลาเดินผ่านเรา ได้อารมณ์มาก
บางคนหาว่าเราโรคจิตแต่เรากลับรู้สึกว่ามันเป็นแค่รสนิยม(ทางเพศ)เพราะเราไม่ดมก้อไม่รู้สึกลงแดงตาย แค่เห็นแล้วหยิบมาดมเมื่อมีโอกาสแล้วก้อวางไว้ที่เดิม
ไม่ลักขโมยแบบในข่าวที่เอามาเป็นกองภูเขาทั้งๆที่ซักแล้ว คงเอามาจิ้นเพราะคงได้แค่กลิ่นผงซักฟอก
เวลาพวกผู้หญิงได้กลิ่นพวกผู้ชายเตะบอลแล้วไปยืนใกล้ๆพวกนาง พวกนางจะบอกเหม็นไปไกลๆไป้(ไม่รู้พวกนางแสร้งพูดว่าเหม็นแต่ในใจชอบหรือเปล่า...?!?!)
แต่กลิ่นแบบนั้นแหละเราอยากสูดดมทุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะตามข้อพับ ซอกหลืบต่างๆ...(ละไว้ในฐานที่เข้าใจ)
เคยมีครั้งนึงเราไปซื้อเฟอร์นิเจอร์กับพ่อ คนขายรักแร้แฉะ เราแกล้งเดินวนไปข้างหลังเขา สบโอกาสลองไปยืนใกล้ กรี๊ดดดด ฟินเบาๆ~
นักบาส นักบอล ที่ถอดเสื้อ แล้วเห็นขนรักแร้หยิกหยอยฟู แค่เห็นก้อน้ำเดินแระ ก้มๆเป็นรอยกกน.แบบ Brief(สามเหลี่ยม) ชอบมองเหมือนกัน
กกน.บ้านๆตามตลาดนัด ซุปเปอร์สโตร์ตามห้าง แผนกชุดชั้นในชาย ตามกระบะ แล้วเห็นเหล่าบุรุษไปยืนเลือกผึ่งๆกันดู เราก้อจิ้นและมีอารมณ์
เราเลยอยากทราบว่าที่เราพิมพ์ไปทั้งหมดมันคือรสนิยม(ทางเพศ)หรือโรคจิต ในมุมมองวิทยาศาสตร์ของประเทศพัฒนาแล้ว
แล้ว รสนิยม(ทางเพศ)กับโรคจิต วิทยาศาสตร์ของประเทศพัฒนาแล้ว เขาแยกกันอย่างไร...?!?!
อนึ่ง! เราขอย้ำว่าเราชอบดมแค่กลิ่นภายในแต่ละวัน ไม่ใช่ 3 วัน 7 วันไม่อาบน้ำหรอกนะ ประมาณนี้...
*ขอ Tag เกี่ยวกับอเมริกาด้วยเพราะเราอยากทราบความเห็นพลเมืองที่อยู่ในดินแดนแห่งเสรีภาพประเทศนี้!