วันนี้ครับ
เวลาประมาณ 17.30 น.
ผมขี่รถออกจากบ้าน เพื่อจะซื้ออาหารทานนอกบ้าน
ขี่รถออกจากซอยมาถึงถนนใหญ่ ที่เป็นถนนขนาดสี่เลน (สองเลนไปสองเลนกลับ)
โดยสภาพของละแวกนี้เป็นตลาด ถนนที่มีอยู่สี่เลน ใช้งานได้จริงเพียงสองเลน
เพราะเลนที่อยู่ริมทางเท้าจะถูกใช้เพื่อจอดรถ โดยพ่อค้าแม่ค้าในตลาด และคนมาจับจ่ายใช้สอย
และเป็นย่านอยู่อาศัยของคนไทยเชื้อสายจีนจำนวนมาก มีอาหารอร่อยๆสูตรโบราณขายเยอะ
ช่วงนึง คนในตลาดเคยทำแคมเปญว่าเป็น ไชน่าทาวน์ฝั่งธน
แต่เนื่องจากเป็นตลาดที่อยู่บนถนนตันคือจากสี่แยกไฟแดงไปสุดทางจะเป็นท่าเรือข้ามฟาก ตรงท่าน้ำเป็นที่ดินว่างเปล่า เพิ่งมีตลาดนัดเปิดใหม่ด้วย
ถนนเพียงสองเลน สำหรับไปและกลับอย่างละ 1 เลน ก็เพียงพอต่อการใช้งาน
วันนี้ ผมจะขี่รถไปสี่แยกไฟแดง เพื่อไปซื้ออาหารกินในละแวกถัดออกไป
แต่พบว่าการจราจรติดขัดมาก เป็นเวลาหลายนาที ซึ่งสามารถเดาได้ไม่ยากว่า
บ่อยครั้งจะเป็นคนมาจับจ่ายซื้อของนี่แหละที่ขับรถไม่ค่อยเป็น และใช้เวลาจอดรถเทียบทางเท้าเป็นเวลานาน
แต่วันนี้ ได้พบสาเหตุของรถติดที่ไม่ขยับตั้งแต่ตลาด ยาวไปเกือบถึงท่าน้ำว่าเป็นเพราะ
รถตำรวจ จอดขวางทางอยู่ ทำให้ รถเมล์ ขสมก. ครีมสีน้ำเงิน ที่มีขนาดความกว้างของรถยาวกว่ารถยนต์ปกติไม่สามารถผ่านไปได้
ที่เป็นปัญหาเพราะ รถตำรวจไม่ได้จอดริมทางเท้า ในเลนริมสุด
แต่เนื่องจากถนนเลนริมทางเท้ามีรถจอดอยู่แล้ว
รถตำรวจคันดังกล่าว ได้จอดซ้อนคัน กับรถที่จอดริมทางเท้าอยู่แล้ว 1 คัน ทำให้ รถตำรวจที่จอดอยู่กินพื้นผิวการจราจรมาอีกประมาณเกือบครึ่งเลน ในเลนที่สอง
ทำให้รถเมล์ ขสมก. ไม่สามารถผ่านไปได้
ซึ่งเป็นที่น่าเสียใจมาก เพราะผมเคยคิดว่า รถยนต์ของประชาชนที่จอดเกะกะขวางทาง ทำให้คนอื่นไปไม่ได้ ตำรวจในพื้นที่น่าจะทำอะไรบ้าง
แต่เคสนี้ รถตำรวจ ทำการจราจรติดขัดเสียเอง
ผมจึงได้ถ่ายรูปเก็บไว้
และจะเอามาถามเพื่อนๆในกลุ่มไลน์ที่เรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน
แต่ตำรวจได้เห็นว่าผมถ่ายรูปไว้ ก็ได้ขับรถตามผมมา ซึ่งจุดที่ผมโดนเรียกห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร
และเรียกมาสอบถามว่า น้องถ่ายรูปทำไม น้องไม่ต้องเอาโพสต์นะ รู้ไหมว่าพี่ทำงานอยู่ มันไม่ดี
ผมก็ถามว่า พี่ก็บอกเหตุผลสิครับ ว่าที่จอดรถตรงนั้น จนการจราจรแม้กระทั่ง รถมอเตอร์ไซค์ รถจักรยานยังผ่านไม่ได้
ตำรวจได้ให้ข้อมูลว่า น้องรู้ใช่ไหมครับ ตรงที่พี่จอดอยู่มีร้านทอง ที่พี่จอดรถพี่มาทำงาน ขอให้ช่วยลบรูปด้วยครับ
พอผมได้ปฏิเสธ เพราะผมเป็นคนหวงมือถือ และคิดว่า ตำรวจไม่มีอำนาจสั่ง
พี่ตำรวจ ได้เอามือมาจับคอเสื้อผม และไม่ทราบว่าจะทำอะไรกับผมต่อไป
ผมจึงได้สะบัดออก และคิดว่า ตำรวจเริ่มใช้กำลังกับผม ทั้งที่ผมไม่ได้ทำผิดอะไร
โชคดีนะ ถ้าเป็นผมเป็นผู้หญิง คงไม่รอดจากอำนาจของตำรวจที่เอามือมาจับเสื้อผมแน่ๆ
ปรากฏว่า มีตำรวจอีก สน. นึง ขับมอเตอร์ไซค์ผ่านมาพอดี ก็ได้มาพูดคุยและช่วยหว่านล้อมผมเพิ่มเติม
ผมบอกว่า ผมรับทราบเหตุผลที่ตำรวจจอดรถตรงนั้นแล้ว ผมเข้าใจพี่ตำรวจ และจะไม่โพสต์รูปใดๆ ในสื่อใดๆ
พี่ตำรวจมีเกียรติ ให้น่านับถือ ผมเป็นประชาชน พี่ก็ต้องให้เกียรติผมด้วย
แล้วผมก็จากมา จริงๆ คือขี่รถหนีมา เพราะดูจากสถานการณ์แล้วว่า ถ้าคุยต่อ ตำรวจต้องใช้กำลังบังคับเอากับมือถือผมแน่
พลันที่ผมขี่รถออกมาจากวงสนทนา ตำรวจผู้นั้น ก็ได้ใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปผมไว้บ้าง ซึ่งผมก็ไม่ว่าอะไร
คนไม่ได้ทำผิดอะไร ถ่ายรูปไว้ ก็ไม่เสียหาย
เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรครับ
ตำรวจมีความคิดเห็นอย่างไรครับ
และขอสอบถามนักกฎหมายว่า ตำรวจทำอย่างนี้ได้ไหมครับ
ภายใต้การประกาศใช้ กฎอัยการศึก ผมกลัวที่จะถูกควบคุมตัวมาก
ปล. เริ่มคิดเล็กน้อยว่า ที่ตำรวจห้ามใช้มือถือถ่ายรูปขณะขับรถ
ถ้าใครไปถ่ายรูปตอนตำรวจกำลังทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงแบบนี้บนถนน จะโดนข้อหาใช้โทรศัพท์ขณะขับรถหรือไม่
ปล.2 ผมจะไม่โพสต์รูป รถตำรวจคันดังกล่าวที่จอดกีดขวางการจราจร เพราะผมได้ให้สัญญาไว้แล้ว และผมรู้เหตุผลของการกระทำที่
รับฟังได้แล้ว และผมก็มีเกียรติที่จะรักษาคำพูดเช่นกัน แต่ที่ไม่พอใจคือ การที่มาใช้กำลังกับผม เหมือนจะบังคับเอากับโทรศัพท์ผมให้ได้
ถ่ายรูกรถตำรวจ ระวังโดนตำรวจเรียก และบังคับลบรูป
เวลาประมาณ 17.30 น.
ผมขี่รถออกจากบ้าน เพื่อจะซื้ออาหารทานนอกบ้าน
ขี่รถออกจากซอยมาถึงถนนใหญ่ ที่เป็นถนนขนาดสี่เลน (สองเลนไปสองเลนกลับ)
โดยสภาพของละแวกนี้เป็นตลาด ถนนที่มีอยู่สี่เลน ใช้งานได้จริงเพียงสองเลน
เพราะเลนที่อยู่ริมทางเท้าจะถูกใช้เพื่อจอดรถ โดยพ่อค้าแม่ค้าในตลาด และคนมาจับจ่ายใช้สอย
และเป็นย่านอยู่อาศัยของคนไทยเชื้อสายจีนจำนวนมาก มีอาหารอร่อยๆสูตรโบราณขายเยอะ
ช่วงนึง คนในตลาดเคยทำแคมเปญว่าเป็น ไชน่าทาวน์ฝั่งธน
แต่เนื่องจากเป็นตลาดที่อยู่บนถนนตันคือจากสี่แยกไฟแดงไปสุดทางจะเป็นท่าเรือข้ามฟาก ตรงท่าน้ำเป็นที่ดินว่างเปล่า เพิ่งมีตลาดนัดเปิดใหม่ด้วย
ถนนเพียงสองเลน สำหรับไปและกลับอย่างละ 1 เลน ก็เพียงพอต่อการใช้งาน
วันนี้ ผมจะขี่รถไปสี่แยกไฟแดง เพื่อไปซื้ออาหารกินในละแวกถัดออกไป
แต่พบว่าการจราจรติดขัดมาก เป็นเวลาหลายนาที ซึ่งสามารถเดาได้ไม่ยากว่า
บ่อยครั้งจะเป็นคนมาจับจ่ายซื้อของนี่แหละที่ขับรถไม่ค่อยเป็น และใช้เวลาจอดรถเทียบทางเท้าเป็นเวลานาน
แต่วันนี้ ได้พบสาเหตุของรถติดที่ไม่ขยับตั้งแต่ตลาด ยาวไปเกือบถึงท่าน้ำว่าเป็นเพราะ
รถตำรวจ จอดขวางทางอยู่ ทำให้ รถเมล์ ขสมก. ครีมสีน้ำเงิน ที่มีขนาดความกว้างของรถยาวกว่ารถยนต์ปกติไม่สามารถผ่านไปได้
ที่เป็นปัญหาเพราะ รถตำรวจไม่ได้จอดริมทางเท้า ในเลนริมสุด
แต่เนื่องจากถนนเลนริมทางเท้ามีรถจอดอยู่แล้ว
รถตำรวจคันดังกล่าว ได้จอดซ้อนคัน กับรถที่จอดริมทางเท้าอยู่แล้ว 1 คัน ทำให้ รถตำรวจที่จอดอยู่กินพื้นผิวการจราจรมาอีกประมาณเกือบครึ่งเลน ในเลนที่สอง
ทำให้รถเมล์ ขสมก. ไม่สามารถผ่านไปได้
ซึ่งเป็นที่น่าเสียใจมาก เพราะผมเคยคิดว่า รถยนต์ของประชาชนที่จอดเกะกะขวางทาง ทำให้คนอื่นไปไม่ได้ ตำรวจในพื้นที่น่าจะทำอะไรบ้าง
แต่เคสนี้ รถตำรวจ ทำการจราจรติดขัดเสียเอง
ผมจึงได้ถ่ายรูปเก็บไว้
และจะเอามาถามเพื่อนๆในกลุ่มไลน์ที่เรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน
แต่ตำรวจได้เห็นว่าผมถ่ายรูปไว้ ก็ได้ขับรถตามผมมา ซึ่งจุดที่ผมโดนเรียกห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร
และเรียกมาสอบถามว่า น้องถ่ายรูปทำไม น้องไม่ต้องเอาโพสต์นะ รู้ไหมว่าพี่ทำงานอยู่ มันไม่ดี
ผมก็ถามว่า พี่ก็บอกเหตุผลสิครับ ว่าที่จอดรถตรงนั้น จนการจราจรแม้กระทั่ง รถมอเตอร์ไซค์ รถจักรยานยังผ่านไม่ได้
ตำรวจได้ให้ข้อมูลว่า น้องรู้ใช่ไหมครับ ตรงที่พี่จอดอยู่มีร้านทอง ที่พี่จอดรถพี่มาทำงาน ขอให้ช่วยลบรูปด้วยครับ
พอผมได้ปฏิเสธ เพราะผมเป็นคนหวงมือถือ และคิดว่า ตำรวจไม่มีอำนาจสั่ง
พี่ตำรวจ ได้เอามือมาจับคอเสื้อผม และไม่ทราบว่าจะทำอะไรกับผมต่อไป
ผมจึงได้สะบัดออก และคิดว่า ตำรวจเริ่มใช้กำลังกับผม ทั้งที่ผมไม่ได้ทำผิดอะไร
โชคดีนะ ถ้าเป็นผมเป็นผู้หญิง คงไม่รอดจากอำนาจของตำรวจที่เอามือมาจับเสื้อผมแน่ๆ
ปรากฏว่า มีตำรวจอีก สน. นึง ขับมอเตอร์ไซค์ผ่านมาพอดี ก็ได้มาพูดคุยและช่วยหว่านล้อมผมเพิ่มเติม
ผมบอกว่า ผมรับทราบเหตุผลที่ตำรวจจอดรถตรงนั้นแล้ว ผมเข้าใจพี่ตำรวจ และจะไม่โพสต์รูปใดๆ ในสื่อใดๆ
พี่ตำรวจมีเกียรติ ให้น่านับถือ ผมเป็นประชาชน พี่ก็ต้องให้เกียรติผมด้วย
แล้วผมก็จากมา จริงๆ คือขี่รถหนีมา เพราะดูจากสถานการณ์แล้วว่า ถ้าคุยต่อ ตำรวจต้องใช้กำลังบังคับเอากับมือถือผมแน่
พลันที่ผมขี่รถออกมาจากวงสนทนา ตำรวจผู้นั้น ก็ได้ใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปผมไว้บ้าง ซึ่งผมก็ไม่ว่าอะไร
คนไม่ได้ทำผิดอะไร ถ่ายรูปไว้ ก็ไม่เสียหาย
เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรครับ
ตำรวจมีความคิดเห็นอย่างไรครับ
และขอสอบถามนักกฎหมายว่า ตำรวจทำอย่างนี้ได้ไหมครับ
ภายใต้การประกาศใช้ กฎอัยการศึก ผมกลัวที่จะถูกควบคุมตัวมาก
ปล. เริ่มคิดเล็กน้อยว่า ที่ตำรวจห้ามใช้มือถือถ่ายรูปขณะขับรถ
ถ้าใครไปถ่ายรูปตอนตำรวจกำลังทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงแบบนี้บนถนน จะโดนข้อหาใช้โทรศัพท์ขณะขับรถหรือไม่
ปล.2 ผมจะไม่โพสต์รูป รถตำรวจคันดังกล่าวที่จอดกีดขวางการจราจร เพราะผมได้ให้สัญญาไว้แล้ว และผมรู้เหตุผลของการกระทำที่
รับฟังได้แล้ว และผมก็มีเกียรติที่จะรักษาคำพูดเช่นกัน แต่ที่ไม่พอใจคือ การที่มาใช้กำลังกับผม เหมือนจะบังคับเอากับโทรศัพท์ผมให้ได้