การกลับมาครั้งที่สาม ของลุงสตอลโลน พร้อมด้วยลูกทีมเหล่าทหารรับจ้างเดนตาย ที่มาพร้อมกับมัดกล้ามและปืนกล มีด และระเบิด ใน The Expendables 3 ที่ยังคงนำเสนอฉากแอคชั่นวินาศสันตระโล และจำนวนผู้ร้ายที่โดนฆ่าตายกองเท่าภูเขา ซึ่งก็คงตอบโจทย์คอหนังแอคชั่นได้ดี
เนื้อเรื่องก็ไม่มีอะไรมาก ก็เป็นการผูกเรื่องแบบง่ายๆ ที่คราวนี้ทีม Expendables ต้องหันไปจัดการอดีตผู้ก่อตั้งทีม Expendables คนหนึ่ง ที่รับบทโดย เมล กิ๊บสัน ที่หันมาผันตัวเองเป็นผู้ค้าอาวุธสงคราม โดยที่คราวนี้ต้องหาลูกทีมหน้าใหม่ๆมาเสริมความแข็งแกร่ง ทั้งที่ดูมีนิสัยพิลึกๆ พูดมาก และ เด็กใหม่รุ่นหลานที่มีความมั่นใจสูง
จุดขายของหนัง The Expendables คือขายความเป็นหนังแอคชั่นยุค 80, 90 อารมณ์แบบหนังแรมโบ้ คือพระเอกต้องกล้ามล่ำบึ้ก และอึดเหมือนวัวเหมือนควาย ฉากแอคชั่นก็เน้นยิงกันเยอะๆ แผนการอะไรไม่ต้องมีมาก แต่ต้องมีปืนกับระเบิดเยอะๆ แล้วลุยเลย ซึ่งในภาคแรกๆ มันก็ยังดูดีอยู่ แต่พอมาภาคสามแล้ว รู้สึกว่าฉากแอคชั่นมันเริ่มไม่มีอะไรมากไปกว่าการยิงกัน และรู้สึกว่าคิวบู๊ฉากแอคชั่นภาคสามนี้ ถูกสร้างออกมาแบบลวกๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจเลย เน้นแต่ปริมาณ แต่ดูไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าไร
แต่ว่านอกเหนือจากฉากแอคชั่นแบบย้อนยุคแล้ว จุดขายอีกอย่างหนึ่งของหนัง The Expendables คือการนำเหล่าดาราแอคชั่นชื่อดังในยุคก่อน ซึ่งในปัจจุบันค่อยๆเลือนหายไปจากวงการ กลับมาขึ้นจออีกครั้ง ซึ่งตรงนี้ยังคงพอเป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ดูมีอะไรดีบ้าง ท่ามกลางฉากแอคชั่นที่ดูไร้จุดหมาย ซึ่งเหล่านักแสดงชื่อดังในยุคก่อนที่เข้ามาสบทบใน The Expendables ภาค 3 นี้ ก็มี เมล กิ๊บสัน, เวสลีย์ สไนป์ และ แฮริสัน ฟอร์ด ซึ่งทุกครั้งที่เขาเหล่านี้ปรากฎบนหน้าจอ ก็พอมีพลังนักแสดงชื่อดังที่สะกดคนดูให้อยู่ได้ ส่วนนักแสดงหน้าเก่าๆ ก็ได้รับบทประปรายบ้าง ซึ่งก็มีทั้งคนที่ขโมยซีนโดดเด่นเหนือคนอื่น กับคนที่มาแสดงๆแบบให้มันจบๆไป
ฉากแอคชั่นตอนจบดูยืดยาวเกินไป เพราะต้องนำทีมนักแสดงทั้งหมดสิบกว่าคนมามีส่วนร่วมในการโชว์ฉากแอคชั่น คนนี้นิด คนนั้นหน่อย จนดูมั่วไปหมด จริงๆแล้วถ้าดูกันที่ฉากแอคชั่นอย่างเดียวซึ่งเป็นจุดประสงค์ของหนังเรื่องนี้ ต้องถือว่าออกมาน่าผิดหวังพอควร แต่ว่าด้วยบุญบารมีและพลังดาราของเหล่านักแสดงแอคชั่นชื่อดังอายุเยอะทั้งหลาย ที่มารวมตัวกันในหนังเรื่องนี้ ก็พอกอบกู้หนังเรื่องนี้ให้รอดพ้นจากการเป็นหนังห่วย ให้กลายเป็นหนังที่พอมีดีอยู่บ้างได้
2 ดาวครึ่ง
ติดตามข่าวสาร อัพเดทโปสเตอร์หนังใหม่สวยๆ และพูดคุยเรื่องหนังเพิ่มเติมกันได้ที่ link ด้านล่างนะครับ
https://www.facebook.com/moviepolice
สารวัตรโรงหนังไปดูมาแล้ว "The Expendables 3" ลุงแก่แล้วแต่ยังล่ำ บทหนังห่วยแต่ยังพอมีของดีให้โชว์อยู่
เนื้อเรื่องก็ไม่มีอะไรมาก ก็เป็นการผูกเรื่องแบบง่ายๆ ที่คราวนี้ทีม Expendables ต้องหันไปจัดการอดีตผู้ก่อตั้งทีม Expendables คนหนึ่ง ที่รับบทโดย เมล กิ๊บสัน ที่หันมาผันตัวเองเป็นผู้ค้าอาวุธสงคราม โดยที่คราวนี้ต้องหาลูกทีมหน้าใหม่ๆมาเสริมความแข็งแกร่ง ทั้งที่ดูมีนิสัยพิลึกๆ พูดมาก และ เด็กใหม่รุ่นหลานที่มีความมั่นใจสูง
จุดขายของหนัง The Expendables คือขายความเป็นหนังแอคชั่นยุค 80, 90 อารมณ์แบบหนังแรมโบ้ คือพระเอกต้องกล้ามล่ำบึ้ก และอึดเหมือนวัวเหมือนควาย ฉากแอคชั่นก็เน้นยิงกันเยอะๆ แผนการอะไรไม่ต้องมีมาก แต่ต้องมีปืนกับระเบิดเยอะๆ แล้วลุยเลย ซึ่งในภาคแรกๆ มันก็ยังดูดีอยู่ แต่พอมาภาคสามแล้ว รู้สึกว่าฉากแอคชั่นมันเริ่มไม่มีอะไรมากไปกว่าการยิงกัน และรู้สึกว่าคิวบู๊ฉากแอคชั่นภาคสามนี้ ถูกสร้างออกมาแบบลวกๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจเลย เน้นแต่ปริมาณ แต่ดูไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าไร
แต่ว่านอกเหนือจากฉากแอคชั่นแบบย้อนยุคแล้ว จุดขายอีกอย่างหนึ่งของหนัง The Expendables คือการนำเหล่าดาราแอคชั่นชื่อดังในยุคก่อน ซึ่งในปัจจุบันค่อยๆเลือนหายไปจากวงการ กลับมาขึ้นจออีกครั้ง ซึ่งตรงนี้ยังคงพอเป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ดูมีอะไรดีบ้าง ท่ามกลางฉากแอคชั่นที่ดูไร้จุดหมาย ซึ่งเหล่านักแสดงชื่อดังในยุคก่อนที่เข้ามาสบทบใน The Expendables ภาค 3 นี้ ก็มี เมล กิ๊บสัน, เวสลีย์ สไนป์ และ แฮริสัน ฟอร์ด ซึ่งทุกครั้งที่เขาเหล่านี้ปรากฎบนหน้าจอ ก็พอมีพลังนักแสดงชื่อดังที่สะกดคนดูให้อยู่ได้ ส่วนนักแสดงหน้าเก่าๆ ก็ได้รับบทประปรายบ้าง ซึ่งก็มีทั้งคนที่ขโมยซีนโดดเด่นเหนือคนอื่น กับคนที่มาแสดงๆแบบให้มันจบๆไป
ฉากแอคชั่นตอนจบดูยืดยาวเกินไป เพราะต้องนำทีมนักแสดงทั้งหมดสิบกว่าคนมามีส่วนร่วมในการโชว์ฉากแอคชั่น คนนี้นิด คนนั้นหน่อย จนดูมั่วไปหมด จริงๆแล้วถ้าดูกันที่ฉากแอคชั่นอย่างเดียวซึ่งเป็นจุดประสงค์ของหนังเรื่องนี้ ต้องถือว่าออกมาน่าผิดหวังพอควร แต่ว่าด้วยบุญบารมีและพลังดาราของเหล่านักแสดงแอคชั่นชื่อดังอายุเยอะทั้งหลาย ที่มารวมตัวกันในหนังเรื่องนี้ ก็พอกอบกู้หนังเรื่องนี้ให้รอดพ้นจากการเป็นหนังห่วย ให้กลายเป็นหนังที่พอมีดีอยู่บ้างได้
2 ดาวครึ่ง
ติดตามข่าวสาร อัพเดทโปสเตอร์หนังใหม่สวยๆ และพูดคุยเรื่องหนังเพิ่มเติมกันได้ที่ link ด้านล่างนะครับ
https://www.facebook.com/moviepolice