บิด 2 ล้อพามักกะโรนีไปกินสเต็กโชคชัย ขากลับเป็นลูกหมาตกน้ำเลย

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับทุกท่าน
วันนี้ขอนำรูปจากทริปเมื่อวันที่ 6 สิงหามาฝากครับ

ด้วยความที่ผมเสี้ยน ไม่ได้ขี่ไปวังน้ำเขียวมาพักหนึ่ง (ปกติชอบบิดเดี่ยว ขึ้นเขาใหญ่ แล้วลงวังน้ำเขียวจนเคยชิน) บวกกับพี่ๆที่ขี่ 795 2 คัน และ Diavel อีก 1 อยากกินสเต็กโชคชัยพอดี ทริปนี้จึงเกิดขึ้นครับ



เส้นทางที่ขี่โดยประมาณของทริปนี้ครับ
สามารถดูรายละเอียดของเส้นทางเพิ่มเติมได้ที่ http://goo.gl/h5TqMU



รวมตัวกันที่ The nine ล้อหมุนออกจากกรุงเทพประมาณ 9 โมง

ขี่เรียบมอเตอร์เวย์มาออกแถวเขตสะพานสูง ขี่ไปนิมิตใหม่
ขี่ตัดผ่านลำลูกกาเข้าถนนเส้น 3004 (มีรถบรรทุกเยอะหน่อย แต่ขี่ง่ายกว่าแถวดอนเมือง)
เข้าสู่เส้น 352 (บางช่วงโล่งขนาดบิดขึ้นเลข 2 ได้สบายๆ) พอเจอป้ายอยุธยา (เส้น 309)
เตรียม U-turn เพื่อเข้าเส้นพหลโยธิน มุ่งหน้าสู่สระบุรี

ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงนิดๆเท่านั้น



แต่ด้วยความที่ผมเอ๋อ เพราะปกติ ผมจะขี่ไปเขาใหญ่ทางนครนายก - ปราจีน เสียมากกว่า เลยไม่ชินทางนี้
จึงตัดสินใจเข้าทางหลักไปเลย เพราะกลัวจะเกิดความสับสนระหว่างขี่ (ปกติชอบพาเพื่อนขี่เลย ร้องไห้ )

แต่พอขี่ไปได้สักพัก ก็เจอคุณตำรวจสร้าง Landmark เอาไว้ เลยโดนเก็บค่าผ่านทางไปตามระเบียบครับ
คุณตำรวจบอกว่าปกติจะตั้งประมาณ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ถือว่าวันนี้ Jackpot ละกัน เค้าล้อเล่น
แถมยังบอกต่ออีกว่า เดี๋ยวพอจะไปต่อ ก็เข้าทางหลักเหมือนเดิมได้เลย เม่าอุ้มห่าน



ใช้เวลาติดอยู่ที่ด่านเพื่อจ่ายค่าปรับประมาณครึ่งชั่วโมงได้ครับ
กว่าจะขี่ไปถึงฟาร์มโชคชัย ก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง (หลังจากเลยด่านไปละ รถเยอะครับ)



ถึง Steakhouse ประมาณเกือบๆเที่ยงตรงพอดี
กินกันเบิกบาน อิ่มหนำสำราญ เจ้าคิกคัก

พอถึงตอนบ่าย พวกเราก็ออกเดินทางไปวังน้ำเขียวกันต่อครับ



พอเข้าวังน้ำเขียวเท่านั้นแหละ สักพักฝนก็ตก (มีถนนซ่อมไม่เสร็จอีก 2 จุด)
พวกเราตัดสินใจจอดพักตรงเขื่อนพอดีตามที่ตั้งใจจะมาไว้แต่แรก (ถึงประมาณบ่าย 2:40)
น่าเสียดายที่ร้านอาหารดันปิด แต่ก็ยังดีที่มีพี่มาเปิดตู้ขายน้ำให้



อากาศเย็นมาก อย่างกับหน้าหนาว
หมอกค่อยๆคลุมเขาเรื่อยๆ





พอถึงเวลาประมาณบ่าย 3 ครึ่ง พวกเราก็ตัดสินใจขี่กันต่อ เพราะถนนเริ่มแห้งบ้างแล้ว

หลังจากนั้นก็ขี่เข้าเส้น 304 เพื่อมุ่งหน้าไปนครนายก (ปกติผมกลับทางนี้เป็นประจำ)
ถึงแม้ช่วงขี่ลงเขา วันนั้นรถบรรทุกน้อย (แต่ก็ขับกันช้าเหมือนเคย ต้องใจเย็นๆเวลาขี่ลงเขาเส้นนี้)
หลุมเยอะเหมือนเคยในบางช่วง (รู้สึกว่ามีหลุมใหม่เพิ่มขึ้นด้วย)
ใครไม่ชินทาง หรือขี่ยังไม่แข็ง ไม่แนะนำให้มานะครับ (มีรถตกถนนคว่ำหนึ่งคัน)



พอขี่ลงเขามา แล้ววิ่งเข้าเส้น 33
ขี่เข้าเส้น 33 มาได้ประมาณ 10 กว่ากิโล แวะปั้มเพื่อพักร่างกายกันอีกหลังจากที่ต้องขี่หลบ และรูดหลุมมา



ร้านกาแฟไม่มีใครนั่ง ยึดที่ซะเลย

หลังจากพักกันจนพอใจแล้ว ก็มุ่งหน้าเข้าสู่นครนายกต่อ
พอขี่พ้นวงเวียนมา กำลังจะเข้าสู่ตัวเมืองนครนายก
บนฟ้าก็มีเมฆดำก้อนยักษ์รอยอยู่เหนือตัวเมืองเตรียมต้อนรับเรา 4 คนเอาไว้ (ลมแรงมาก แต่ผมก็ชอบ)



พอพวกเราขี่เข้าเส้นนครนายก-รังสิตเท่านั้นแหละ
ฝนตกลงมา เม็ดใหญ่ (เม็ดฝนใหญ่เท่าเห็บควาย เค้าล้อเล่น) ความแรงน่าจะระดับเกือบๆพายุได้เลย
ข้างหน้าผมมองไม่เห็นทางเลย เปิดไฟสูงก็ไม่ได้ช่วยอะไร (ยังดีที่มีประสบการณ์ขี่ฝ่าฝนมาพอสมควร บวกกับชอบขี่ฝนอยู่แล้ว)
ส่วนมักกะโรนีอีก 3 ลำ ก็ชะลอตามหลัง ห่างจากผมประมาณ 700-800 เมตรได้
แต่ยังดีที่ทิศของลมตรงเข้ามาหารถตรงๆ ไม่ได้พัดมาจากด้านใดด้านหนึ่ง จึงยังขี่ได้อยู่ (ในความเร็วระดับไม่เกิน 80)

แต่เซงจริงๆ ที่น้ำเข้า Boot จนได้ ทั้งๆที่เคยฝ่าฝนมา น้ำก็ไม่เข้า Boot นะ (แต่ Boot ไม่ได้กันน้ำอยู่แล้ว/ Supertech R น่ะครับ)



พี่ Diavel ดันทนไม่ไหว (เพราะทั้ง 3 คนยังไม่เคยขี่ฝนหนักขนาดนี้) เลยแซงขึ้นมา เพราะแกเห็นปั้มพอดี
จริงๆผมตั้งใจแต่แรกแล้วว่าจะจอดที่ปตท. จริงๆขี่ไปอีกไม่ถึง 3 กิโลก็เจอละ แต่คงไม่ไหวกัน (ป้ายของปั้มก็ดันเตี้ย มองเห็นยาก)

น้ำที่ขังอยู่ในถุงมือ และ Boot นี่ ถ้าเอามาเทรวมกัน 4 คนเนี้ย คงเอามาเลี้ยงปลาทองได้ตัวหนึ่งสบายๆเลยครับ



พอประมาณ 2 ทุ่ม พวกเราก็เริ่มกลับมาฝ่าฝนเหมือนเดิม เพราะดูแล้วฝนไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเลย
แต่ดีหน่อยที่ฝนเบาลงจนเห็นทางแล้ว เลยขี่กันต่อได้
กว่าจะขี่กลับไปเส้น 3004 ได้ก็เอาเรื่องพอสมควร เพราะขี่กัน 60-80
จริงๆผมขี่ประมาณ 90-110 ได้ แต่ข้างหลังไม่ไหว ขี่ตามห่างกันเกือบกิโลได้

กว่าจะถึง The nine ก็เล่นเอาเกือบๆ 3 ทุ่มครึ่งได้ครับ
ดีหน่อยที่พอเข้าเส้นนิมิตใหม่แล้วไม่มีฝน ถนนแห้ง
แต่ Shield หมวกสกปรกเกินไป ทำความเร็วได้ลำบากเล็กน้อย



ระยะทางทั้งหมด ตั้งแต่ออกจากบ้านตอน 8 โมงตรง (บ้านห่างจาก The nine 13 กิโล)







สภาพความเลอะครับ
จริงๆก็ดีนะที่เจอฝน เพราะตอนขี่ออกจากวังน้ำเขียวนี่ Swing arm กับล้อ เคอะไปด้วยฝุ่นดินแดงครับ

โดยรวมแล้ว เหล่านักขี่มักกะโรนีทั้ง 3 ต่างรู้สึกพอใจกับทริปนี้ประมาณหนึ่ง (เห็นว่า หน้าหนาวจะเอาอีก)
บอกว่า ทั้งมัน ทั้งโหด  สนุกดี

ขอบคุณที่เข้ามารับชมครับ
สวัสดีครับ



พาพันขอบคุณ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่