จากมติชนออนไลน์
อภิวัฒน์ คำสิงห์ (เรื่อง)
เป็นกระแสอีกระลอกกับสุนัขพันธุ์ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ ที่มีเอกลักษณะโดดเด่นแปลก โดยเฉพาะขนาดตัวที่ใหญ่เหมือกับสิงโต และสีแดงของขนที่อัดแน่นฟู จนได้ชื่อว่าเป็นราชาสุนัขที่มีราคาแพงที่สุด ที่มีการชื้อขายกันอยู่ในขณะนี้
ในงาน สมาร์ทฮาร์ท พรีเซ้นต์ ไทยแลนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ด็อกโชว์ 2014 ที่ผ่านมา ได้มีการนำสุนัขสายทิเบตัน มาสทิฟฟ์ จากแดนไกลแห่งขุนเขาทิเบต สายเลือดแชมป์ ปี 2012 นำเข้าจากประเทศจีน ชื่อว่า ซินฮัว อายุ 1 ปี 2 เดือน ราคาค่าตัวกว่า 36 ล้านบาท มาโชว์ภายในงาน โดยการนำเข้ามาของฟาร์มพะเยา ด็อก เคลเนล ซึ่งได้รับการตอบรับจากเหล่าบรรดาคนรักสุนัขที่ไปเดินภายในงานอย่างขับคั่ง
คุณวราภรณ์ ธนศักดิ์รังษี หรือ คุณกิ๊ก เจ้าของฟาร์ พะเยา ด็อก เคลเนล เล่าให้ฟังว่า เริ่มทำ ธุรกิจนำเข้าสุนัขสายพันธุ์ใหญ่และพันธุ์ยักษ์กว่า 10 สายพันธุ์ เช่น ซามอยด์, ไจแอนต์ อะลาสกัน มาลามิวต์ และทิเบตัน มาสทิฟฟ์ จากฟาร์มในจีนมาจำหน่ายในประเทศไทยกว่า 2 ปี ซึ่งตลาดมีแน้วโน้มเริ่มโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี มียอดสั่งนำเข้าสุนัขเฉลี่ย 30 ตัวต่อเดือน ทำให้คุณกิ๊กตัดสินใจสั่งชื้อพ่อแม่พันธุ์ทิเบตัน มาสทิฟฟ์และสายพันธุ์อื่นๆ มาเพาะพันธุ์ขายในประเทศไทย ซึ่งสายพันธุ์ทิเบตันที่เห็นนี้ก็เป็นหนึ่งในห้าตัวที่มีอยู่ในประเทศไทยขณะนี้
คุณกิ๊ก บอกครับว่า ถึงแม้สุนัขสายพันธุ์ทิเบตันจะถูกมอว่าเป็นสัตว์ป่าที่มีความดุร้ายแต่มี สัญชาตญานหวงถิ่นฐาน ซึ่งในตำนานชาวจีนมีความเชื่อว่า เป็นสัตว์พาหนะของเทพพระเจ้าที่มีความศักดิ์สิทธิ์ แต่ปัจจุบันนี้สุนัขสายพันธุ์ ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ มีขนาดที่เล็กลงเพราะสายเลือดบรรพบุรุษของ ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ จืดจางลงทุกที เนื่องจากมีการผสมข้ามสายพันธุ์กัน ทำให้สุนัขมีลักษณะเปลี่ยนไป บวกกับวิธีการเลี้ยงดูทำให้ความดุและลักษณะนิสัยเปลี่ยนไป
ด้วยขนสีแดง ซึ่งคนจีนมีความเชื่อมีความหมายดี จึงเริ่มมีการนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงและจำหน่ายบวกกับความเชื่อว่าเป็นสัตว์ที่เสริมบารมี บ้านไหนเลี้ยงจะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป สร้างความเจริญรุ่งเรือง ช่วย เสริมดวงในเรื่องการค้าให้ร่ำรวยขึ้น อีกทั้งยังบ่งบอกถึงความมีฐานทางสังคมของคนเจ้าของที่ครอบครองอีกด้วย
“สุนัขสายพันธุ์นี้ มีลักษณะโครงสร้างใหญ่ใกล้เคียงกับร๊อตไวเลอร์ หรือใหญ่เท่าเซนเบอร์นาร์ด กล้ามเนื้อแน่น กระโหลกและขาหน้าใหญ่ มีน้ำหนักตัวเฉลี่ยอยู่ประมาณ 60-80 กิโลกรัม ส่วนสูงเฉลี่ย 61-72 เซนติเมตร มีอายุเฉลี่ยกว่า 18 ปี เป็นสุนัขอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ขี้อ้อนเจ้าของเหมือนกับแมว
จุดเด่นของสุนัขสายพันธุ์นี้ คือ เป็นสุนัขที่รักเจ้าของ มีความจงรักภักดี และจะดุร้ายเมื่อเจอคนแปลกหน้า หรือใครก็ตามที่เข้ามาในอาณาบริเวณของมัน ยกเว้นเจ้าของและครอบครัว เพราะด้วยสัญชาตญาณหวงถิ่น นอกจากนี้ยังเป็นสุนัขที่ สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและอากาศได้เร็ว สามารถเลี้ยงได้ในทุกพื้นที่ แต่ต้องใช้เวลา”
แต่ทั้งนี้ในระยะแรกๆ ที่นำเข้ามา คุณกิ๊กบอกว่า จะต้องเปิดแอร์ให้ก่อนระยะหนึ่งเนื่องจากปกติจะเลี้ยงกันในหุบเขาสูง อากาศเย็น ๆหากไม่ให้ความสำคัญตรงนี้สุนัขจะผลัดขนใหม่
ส่วนเรื่องเรื่องการดูแล เห็นตัวใหญ่ๆขนหนาฟู แต่การดูแล คุณกิ๊ก บอกว่า ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด จะเหมือนกับการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ แปรงขนทำความสะอาดอาทิตย์ละ 1 ครั้ง อาบน้ำเดือนละ 1 ครั้ง และให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดช่องปาก หลังจากกินอาหารเสร็จ เนื่องจากอาหารหลักจะเป็นซีโครงไก่สด และในเวลากินจะมีน้ำลายไหลปะเปื้อนขน
นอกจากเรื่องการดูแลทำความสะอาดแล้ว คุณกิ๊กบอกอีกว่า ต้องหาบริเวณพื้นที่ให้สุนักขได้ออกกำลังกาย โดยจะต้องให้เขาได้เดินเล่นวันละครึ่งชั่วโมง แต่ควรเลือกเวลาเดินในตอนเช้าหรือเวลาเย็น ที่อากาศเย็น เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถทนต่ออากาศร้อนได้
สำหรับสุนัขสายพันธุ์ ธิเบตัน มาสทิฟฟ์ จะผสมพันธุ์ได้ปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น คือช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน ก่อนหน้าช่วงฤดูผสมพันธุ์เขาจะผลัดขนเพื่อเตรียมพร้อมปีละครั้ง โดยปลายปีนี้ ฟาร์พะเยา ด็อก เคลเนล คาดว่าจะมีลูกสุนัขทิเบตัน ที่ผสมในฟาร์มพร้อมออกจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 100 ตัว
สอบถามข้อมูลได้ที่ ฟาร์มพะเยา ด็อก เคนเนล โทร. 087-563-4840 (คุณกิ๊ก)
หมาตัวละ 36 ล้าน เพาะพันธุ์จำหน่ายแล้วในไทย!?
อภิวัฒน์ คำสิงห์ (เรื่อง)
เป็นกระแสอีกระลอกกับสุนัขพันธุ์ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ ที่มีเอกลักษณะโดดเด่นแปลก โดยเฉพาะขนาดตัวที่ใหญ่เหมือกับสิงโต และสีแดงของขนที่อัดแน่นฟู จนได้ชื่อว่าเป็นราชาสุนัขที่มีราคาแพงที่สุด ที่มีการชื้อขายกันอยู่ในขณะนี้
ในงาน สมาร์ทฮาร์ท พรีเซ้นต์ ไทยแลนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ด็อกโชว์ 2014 ที่ผ่านมา ได้มีการนำสุนัขสายทิเบตัน มาสทิฟฟ์ จากแดนไกลแห่งขุนเขาทิเบต สายเลือดแชมป์ ปี 2012 นำเข้าจากประเทศจีน ชื่อว่า ซินฮัว อายุ 1 ปี 2 เดือน ราคาค่าตัวกว่า 36 ล้านบาท มาโชว์ภายในงาน โดยการนำเข้ามาของฟาร์มพะเยา ด็อก เคลเนล ซึ่งได้รับการตอบรับจากเหล่าบรรดาคนรักสุนัขที่ไปเดินภายในงานอย่างขับคั่ง
คุณวราภรณ์ ธนศักดิ์รังษี หรือ คุณกิ๊ก เจ้าของฟาร์ พะเยา ด็อก เคลเนล เล่าให้ฟังว่า เริ่มทำ ธุรกิจนำเข้าสุนัขสายพันธุ์ใหญ่และพันธุ์ยักษ์กว่า 10 สายพันธุ์ เช่น ซามอยด์, ไจแอนต์ อะลาสกัน มาลามิวต์ และทิเบตัน มาสทิฟฟ์ จากฟาร์มในจีนมาจำหน่ายในประเทศไทยกว่า 2 ปี ซึ่งตลาดมีแน้วโน้มเริ่มโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี มียอดสั่งนำเข้าสุนัขเฉลี่ย 30 ตัวต่อเดือน ทำให้คุณกิ๊กตัดสินใจสั่งชื้อพ่อแม่พันธุ์ทิเบตัน มาสทิฟฟ์และสายพันธุ์อื่นๆ มาเพาะพันธุ์ขายในประเทศไทย ซึ่งสายพันธุ์ทิเบตันที่เห็นนี้ก็เป็นหนึ่งในห้าตัวที่มีอยู่ในประเทศไทยขณะนี้
คุณกิ๊ก บอกครับว่า ถึงแม้สุนัขสายพันธุ์ทิเบตันจะถูกมอว่าเป็นสัตว์ป่าที่มีความดุร้ายแต่มี สัญชาตญานหวงถิ่นฐาน ซึ่งในตำนานชาวจีนมีความเชื่อว่า เป็นสัตว์พาหนะของเทพพระเจ้าที่มีความศักดิ์สิทธิ์ แต่ปัจจุบันนี้สุนัขสายพันธุ์ ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ มีขนาดที่เล็กลงเพราะสายเลือดบรรพบุรุษของ ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ จืดจางลงทุกที เนื่องจากมีการผสมข้ามสายพันธุ์กัน ทำให้สุนัขมีลักษณะเปลี่ยนไป บวกกับวิธีการเลี้ยงดูทำให้ความดุและลักษณะนิสัยเปลี่ยนไป
ด้วยขนสีแดง ซึ่งคนจีนมีความเชื่อมีความหมายดี จึงเริ่มมีการนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงและจำหน่ายบวกกับความเชื่อว่าเป็นสัตว์ที่เสริมบารมี บ้านไหนเลี้ยงจะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป สร้างความเจริญรุ่งเรือง ช่วย เสริมดวงในเรื่องการค้าให้ร่ำรวยขึ้น อีกทั้งยังบ่งบอกถึงความมีฐานทางสังคมของคนเจ้าของที่ครอบครองอีกด้วย
“สุนัขสายพันธุ์นี้ มีลักษณะโครงสร้างใหญ่ใกล้เคียงกับร๊อตไวเลอร์ หรือใหญ่เท่าเซนเบอร์นาร์ด กล้ามเนื้อแน่น กระโหลกและขาหน้าใหญ่ มีน้ำหนักตัวเฉลี่ยอยู่ประมาณ 60-80 กิโลกรัม ส่วนสูงเฉลี่ย 61-72 เซนติเมตร มีอายุเฉลี่ยกว่า 18 ปี เป็นสุนัขอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ขี้อ้อนเจ้าของเหมือนกับแมว
จุดเด่นของสุนัขสายพันธุ์นี้ คือ เป็นสุนัขที่รักเจ้าของ มีความจงรักภักดี และจะดุร้ายเมื่อเจอคนแปลกหน้า หรือใครก็ตามที่เข้ามาในอาณาบริเวณของมัน ยกเว้นเจ้าของและครอบครัว เพราะด้วยสัญชาตญาณหวงถิ่น นอกจากนี้ยังเป็นสุนัขที่ สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและอากาศได้เร็ว สามารถเลี้ยงได้ในทุกพื้นที่ แต่ต้องใช้เวลา”
แต่ทั้งนี้ในระยะแรกๆ ที่นำเข้ามา คุณกิ๊กบอกว่า จะต้องเปิดแอร์ให้ก่อนระยะหนึ่งเนื่องจากปกติจะเลี้ยงกันในหุบเขาสูง อากาศเย็น ๆหากไม่ให้ความสำคัญตรงนี้สุนัขจะผลัดขนใหม่
ส่วนเรื่องเรื่องการดูแล เห็นตัวใหญ่ๆขนหนาฟู แต่การดูแล คุณกิ๊ก บอกว่า ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด จะเหมือนกับการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ แปรงขนทำความสะอาดอาทิตย์ละ 1 ครั้ง อาบน้ำเดือนละ 1 ครั้ง และให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดช่องปาก หลังจากกินอาหารเสร็จ เนื่องจากอาหารหลักจะเป็นซีโครงไก่สด และในเวลากินจะมีน้ำลายไหลปะเปื้อนขน
นอกจากเรื่องการดูแลทำความสะอาดแล้ว คุณกิ๊กบอกอีกว่า ต้องหาบริเวณพื้นที่ให้สุนักขได้ออกกำลังกาย โดยจะต้องให้เขาได้เดินเล่นวันละครึ่งชั่วโมง แต่ควรเลือกเวลาเดินในตอนเช้าหรือเวลาเย็น ที่อากาศเย็น เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถทนต่ออากาศร้อนได้
สำหรับสุนัขสายพันธุ์ ธิเบตัน มาสทิฟฟ์ จะผสมพันธุ์ได้ปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น คือช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน ก่อนหน้าช่วงฤดูผสมพันธุ์เขาจะผลัดขนเพื่อเตรียมพร้อมปีละครั้ง โดยปลายปีนี้ ฟาร์พะเยา ด็อก เคลเนล คาดว่าจะมีลูกสุนัขทิเบตัน ที่ผสมในฟาร์มพร้อมออกจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 100 ตัว
สอบถามข้อมูลได้ที่ ฟาร์มพะเยา ด็อก เคนเนล โทร. 087-563-4840 (คุณกิ๊ก)