(เค้า)ว่ากันว่า...คนแต่งกลอน มักอ่อนหวาน
ภาษากานท์ ในกาพย์กลอน ล้วนอ่อนไหว
ถ่ายอารมณ์ ผสมคำ ดื่มด่ำใจ
สะกดให้ ลุ่มรัก สลักจินต์
(เค้า)ว่ากันว่า...คนแต่งกลอน มักนอนดึก
ตื่นตัวคึก นึกกลอน ตอนถวิล
ยิ่งเย็นย่ำ ค่ำมา อารมณ์ฟิน
ข้าวไม่กิน เร่งงาน มาสานกลอน
(เค้า)ว่ากันว่า...คนแต่งกลอน มักนอนหงาย
คิดมากมาย ก่ายหน้า ขาหนุนหมอน
จะมีไหม ใครหนอ ต่อบทตอน
มาเป็นกลอน ทิ้งท้าย ให้ยินดี
จริงไหมค่ะ...ที่เค้าว่า มาอย่างนั้น
ทำไมฉัน ไม่หวานอ่อน กลอนขมปี๋
หัวถึงหมอน นอนยิ้ม พริ้มทุกที
หมอนข้างมี ก็กระเด็น เป็นตกเตียง
(เค้า) ว่ากันว่า..
ภาษากานท์ ในกาพย์กลอน ล้วนอ่อนไหว
ถ่ายอารมณ์ ผสมคำ ดื่มด่ำใจ
สะกดให้ ลุ่มรัก สลักจินต์
(เค้า)ว่ากันว่า...คนแต่งกลอน มักนอนดึก
ตื่นตัวคึก นึกกลอน ตอนถวิล
ยิ่งเย็นย่ำ ค่ำมา อารมณ์ฟิน
ข้าวไม่กิน เร่งงาน มาสานกลอน
(เค้า)ว่ากันว่า...คนแต่งกลอน มักนอนหงาย
คิดมากมาย ก่ายหน้า ขาหนุนหมอน
จะมีไหม ใครหนอ ต่อบทตอน
มาเป็นกลอน ทิ้งท้าย ให้ยินดี
จริงไหมค่ะ...ที่เค้าว่า มาอย่างนั้น
ทำไมฉัน ไม่หวานอ่อน กลอนขมปี๋
หัวถึงหมอน นอนยิ้ม พริ้มทุกที
หมอนข้างมี ก็กระเด็น เป็นตกเตียง