สะพานมอญ จากมุมชาวบ้าน

หลังจาก “สะพานมอญ” หรือ “สะพานอุตตมานุสรณ์” ที่เป็นสัญลักษณ์ของ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ได้ถูกน้ำป่าและน้ำฝนพัดผ่าน ทำให้ช่วงกลางของสะพานพังลงมาเป็นระยะทางกว่า 50 เมตร เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา จนทำให้เกิดความเสียหาย ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่สัญจรผ่านสะพานไม่ได้ทำให้ต้องสร้างสะพานลูกบวบขึ้นมาให้ชาวบ้านได้ใช้


ทำให้หลายภาคส่วนร่วมกันระดมทุน โดยมีการตั้ง บัญชีเงินบริจาค จากหลายภาคส่วน
ทั้ง จากกองทุนที่ ผวจ.กาญจนบุรี ประมาณ 7 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าว http://www.manager.co.th/local/viewnews.aspx?NewsID=9570000014202
และยังมีการตั้งกล่องรับบริจาค ณ สถานที่สะพานขาด จนถึงปัจจุบัน
เงินช่วยเหลือจากเขื่อนที่สบทบให้อีก หลายล้านบาท
ข่าวจากข้าราชการท้องถิ่น ในเขตสังขละ แจ้งว่า เงินบริจาครวมประมาณ 20 ล้านบาท
ผมอยากเรียกร้อง ให้มีการแจ้งยอดงบประมาณในการก่อสร้างสะพาน จากการได้รับทั้งหมด ว่าเป็นไปจริงดังที่ชาวบ้านเล่าให้ฟังหรือไม่

ในส่วนการก่อสร้างนั้น ปัญหาแรก ๆ ที่ออกสื่อคือ แพพักริมแม่น้ำได้รับผลกระทบ
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000122981

ก็เป็นปัญหาหนึ่งในการสร้างที่ทำให้ล้า ช้า อีกทั้ง น้ำบริเวณสะพานมีความลึกและเชี่ยวในบางช่วง เป็นอีกหนึ่งข้ออ้างที่ทำให้สร้างไม่ได้

ปัญหาหลักที่เกิดขึ้น คือ การที่อำนาจ ตัดสินใจในการสร้างไปอยู่ใน ผู้บริหารภาครัฐ ทำให้มีกลุ่มบุคคลมาตักตวงผลประโยชน์
(ผู้จัดการ online)    ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (4 ก.พ.) นายปกรณ์ น้อยเกตุ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวังกะ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ทราบว่าทางจังหวัดกาญจนบุรี จะใช้วิธีการซ่อมบูรณะสะพานด้วยการจ้างเหมา หากเป็นเช่นนั้นจริงก็จะทำให้การดำเนินการล่าช้าไปอีก จะด้วยประการใดก็ตามตนเชื่อว่า ทางวัดวังก์วิเวการาม ที่มีอุปกรณ์และเครื่องมือที่พร้อมอยู่แล้วสามารถระดมกำลังของชาวบ้านในพื้นที่มาช่วยกันซ่อมแซมบูรณะเองได้ และเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะชาวบ้านในพื้นที่ต่างเคยมีประสบการณ์ และผ่านการซ่อมบำรุงสะพานมาแล้วกันทั้งนั้น
    
     อีกทั้งยังเชื่อว่า หากทางจังหวัดกาญจนบุรี จะใช้วิธีแบบรับเหมาก็จะเป็นการใช้เงินนับสิบล้านบาท เงินที่ใช้จะแตกต่างจากการที่ปล่อยให้ทางวัดดำเนินการเอง และตนเชื่อว่าจากพลังแห่งศรัทธาที่ยังมีต่อหลวงพ่ออุตตมะ จะมีจิตอาสาเข้ามาช่วยเหลือโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ดังนั้น หากเป็นการจัดซื้อจัดจ้างโดยระบบราชการ พลังศรัทธาก็จะเสื่อมถอยลงไป เพราะสะพานแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของชาวอำเภอสังขละบุรีไปแล้ว
    
     นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า หลายเดือนที่ผ่านมาตนถูกซักถาม และถูกต่อว่ามามากว่าเมื่อไรจะซ่อมสะพานเสร็จเสียที แต่ก็ไม่สามารถตอบคำถามได้ จึงรู้สึกลำบากใจมาก แต่ก็ได้พยายามอธิบายให้ทุกคนเข้าใจถึงขั้นตอนต่างๆ จนทุกคนเข้าใจ แต่อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจปริมาณน้ำในแม่น้ำซองกาเรีย บริเวณสะพานไม้พบว่า ปริมาณน้ำเริ่มลดระดับลงไปมาก ทำให้สะพานลูกบวบลดระดับต่ำลงไปตามผิวของน้ำ อีกทั้งไม้ไผ่เริ่มเสื่อมสภาพลงตามเวลา อุปสรรคที่พบคือ เมื่อตลิ่งสูงชันขึ้น ทำให้ประชาชน และเด็กนักเรียนเริ่มเดินทางไปมาลำบาก บางรายต้องให้บุตรหลานนั่งรถโดยสารไปโรงเรียนเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย ซึ่ตนเชื่อว่าทางวัดสามารถดำเนินการซ่อมเองได้แต่ติดอยู่ที่ทางจังหวัดรับไปดำเนินการเอง
    
     “เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พูดยาก เพราะอำนาจอยู่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี แต่เพียงผู้เดียว จากการสอบถามชาวบ้านก็พบว่า ทุกคนเริ่มอึดอัดใจมากขึ้น แต่ไม่มีใครกล้าพูดทั้งๆ ที่เงินที่จะนำไปซ่อมบูรณะก็มีแล้ว” นายปกรณ์ กล่าว

ณวันนี้ 6 สิงหาคม 2557 สะพานมอญ ยังไม่ได้สร้าง หรือไม่คืบหน้าใด ๆ เลย และตามกำหนด สัญญาที่ ผวจ กาญจนบุรี ได้ทำไว้กับ บ.ผู้รับเหมานั้น จะต้องส่งมอบงาน ชาวบ้านจึงรวมตัวกันประท้วง ในวันนี้ โดยจะมีสือ จากช่อง 3 มาทำข่าว

ผมสอบถามในมุมชาวบ้าน และมุมมองของผม มีดังนี้ครับ

ชาวบ้านสามารถสร้างเองได้ โดยให้ทางวัด วังวิเวกการาม เป็นผู้ดำเนินการ จัดสร้าง และชาวบ้านสามารถสร้างได้โดยใช้งบประมาณ เพียง 10 ล้านบาท
เนื่องจาก ชาวมอญทั้งสองฝั่งสามารถทำงานได้ทุกช่วงเวลา แม้ฝนจะตก น้ำจะมา เพราะสะพานไม้ คือสัญลักษณ์ที่ หลวงพ่อได้ให้ไว้ และเป็นแหล่ง ท่องเที่ยว ศูนย์รวมจิตใจของคนมอญ ที่ภาคภูมิใจในการได้อาศัยพระบารมีของกษัตริย์ไทยที่เมตตาต่อชาวมอญ

การจัดหาไม้ สังขละเองก็สามารถนำไม้เข้าจากพม่าได้ และทำได้โดยต้นทุนที่ราคาถูกมาก ในพื้นที่เองก็มีการค้าขาย เฟอร์นิเจอร์ไม้ อีกทั้งสังขละยังใกล้แหล่งไม้ ของอุตสาหกรรมป่าไม้ ที่ปลูกไม้ และตัดไว้ รอการมีเจ้าของ สังเกตได้จากทางไปสังขละ จะมีไม้หมอนวางเรียงราย และป่าไม้ที่ถูกตัด โดยมีป้ายเขียนว่า เขตอุตสาหกรรมป่าไม้ นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะบอกว่า เรามีไม้สร้างครับ

ส่วนสุดท้าย คืองบประมาณในการสร้าง ผมทราบว่า เราได้รับเพียงพอแล้ว ผมอยากเรียกร้อง ให้สังคมช่วยกันติดตาม ช่วยกันต่อสู้ ให้สัญลักษณ์และความภาคภูมิใจ ของคนกาญจนบุรี คนสังขละบุรี ที่มีต่อสะพานไม้ ที่หลวงพ่ออุตตมะ ได้มอบให้ แก่คนไทย ได้กลับมามีชีวิต ได้กลับมาเป็นแหล่งรวมใจ ไม่เป็นเพียงครั้งอดีต ที่ว่า "ครั้งหนึ่งเคยมีสะพานไม้ตรงนี้" และนี่คือเหตุผลที่ชาวบ้านต้องการสะพานไม้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่