นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา เปิดเผยว่าปัจจุบันการสัญจรง่ายขึ้นระหว่างกรุงเทพฯ กับ 5 จังหวัดปริมณฑลมีความเป็นเมืองมากขึ้น คือ ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรปราการ ทำให้ไม่มีเส้นแบ่งระหว่างเมืองกับปริมณฑล ซึ่งจะเห็นจากพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่เปลี่ยนไป โดยมีการใช้ชีวิตในสไตล์คนเมืองมากขึ้น มีการจับจ่ายใข้สอย ทานอาหาร และหาความบันเทิง ในศูนย์การค้ามากขึ้น ประกอบกับมีความหนาแน่นของประชากรในแต่ละจังหวัดปริมณฑลที่จดทะเบียนอยู่ราว 4.8 ล้านคน ยกเว้นกรุงเทพฯ มีประชากรจดทะเบียนที่ 5.6 ล้านคน แต่อาศัยอยู่จริง 10 ล้านคน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นประชากรปริมณฑลที่เข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ ทำให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตเปลี่ยนเป็นคนเมืองมากขึ้น เป็นผลให้บริษัทเห็นโอกาสในการขยายการลงทุนศูนย์การค้าใน 5 จังหวัดปริมณฑลดังกล่าว
โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดให้บริการเซ็นทรัลพลาซา ศาลายา จ.นครปฐม ซึ่งเป็นศูนย์การค้าแห่งที่ 25 ด้วยงบลงทุน 4.2 พันล้านบาท บนพื้นที่ศูนย์การค้า 1.8 แสนตร.ม. บนที่ดิน 70 ไร่ และจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ส.ค.นี้ ทั้งนี้ศักยภาพของที่ตั้งศูนย์การค้า ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายหลัก และกลุ่มเป้าหมายรองกว่า 7 แสนครัวเรือน โดยเฉพาะมีบ้านจัดสรรระดับกลาง-บน ราคาบ้านตั้งแต่ 5-40 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง รวมถึงนักศึกษาและบุคลากรมหาวิทยาลัย อาทิ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตทับแก้ว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน และราชภัฎนครปฐม ซึ่งมีจำนวนรวม 1.5 แสนคน โดยศูนย์ฯแห่งนี้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคที่เป็นคนท้องถิ่นและผู้บริโภคที่เข้ามาเรียนและทำงานในท้องที่ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะมียอดผู้ใช้บริการต่อวันประมาณ 30,000-35,000 คน และคาดหวังศูนย์ฯจะติดตลาดภายใน 3 ปี เนื่องจากมีจุดดึงดูดสำคัญคือ ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ รูปแบบใหม่แห่งแรกของไทย รวมถึงโรงภาพยนตร์เอสเอฟ ซีนีม่า ซิตี้ ระดับ 4X ความชัดสูง รวม 7 โรง และร้านค้าแบรนด์เนมกว่า 250 ร้าน ภายใต้แนวคิดธีมมอลล์ โดยมีการตกแต่งเป็นเมืองกล้วยไม้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจ.นครปฐม
นายณัฐกิตติ์ กล่าวถึงการแข่งขันของตลาดศูนย์การค้าในช่วง 5 เดือนสุดท้ายของปีนี้ แนวโน้มน่าจะดีขึ้น หลังจากความมั่นใจของผู้บริโภคดีขึ้น การเมืองนิ่ง และภายหลังมีการจัดตั้งรัฐบาล คาดว่าจะมีการออกนโยบายผ่านโครงการกระตุ้นกำลังซื้อระยะสั้น รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เริ่มการโปรโมทให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางกลับมาบ้างแล้ว ส่วนที่ยังต้องกระตุ้นต่อคือนักท่องเที่ยวจีนและยุโรป ในขณะที่ภาพรวมการจัดกิจกรรมการตลาดของศูนย์การค้าเซ็นทรัล ผ่าน 25 สาขา ยังคงใช่งบประมาณ 700 ล้านบาท เท่ากับทุกปี แต่จะเน้นการจัดกิจกรรมการตลาดถี่ขึ้น เพื่อดึงกำลังซื้อที่ร่วงลง 10% เมื่อช่วงครึ่งปีแรกให้กลับมา โดยเฉพาะศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จะต้องมีกิจกรรมการตลาดประมาณ 10 กิจกรรมต่อเดือน ขณะที่ศูนย์อื่นจะมีกิจกรรมการตลาด 4-5 กิจกรรมต่อเดือน มากขึ้นจากปีปกติที่มีการจัดกิจกรรมเพียง 2-3 กิจกรรมต่อเดือน โดยที่ในปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโต 15% จากปีก่อน ส่วนในปี 2558 เซ็นทรัลจะเตรียมเปิดให้บริการอีก 3 ศูนย์การค้าประกอบด้วยเซ็นทรัล เวสต์เกท บางใหญ่,เซ็นทรัล จ.ระยอง และเซ็นทรับ อีสต์วิว เรียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ในขณะที่จ.ปทุมธานี และจ.สมุทรปราการ จะมีการลงทุนเกิดขึ้นในอนาคต
Cr.
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd056RTFOell5T0E9PQ==&subcatid=
เซ็นทรัล" จ่อผุดห้างปทุมฯ-สมุทรปราการ ต่อจากศาลายา
โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดให้บริการเซ็นทรัลพลาซา ศาลายา จ.นครปฐม ซึ่งเป็นศูนย์การค้าแห่งที่ 25 ด้วยงบลงทุน 4.2 พันล้านบาท บนพื้นที่ศูนย์การค้า 1.8 แสนตร.ม. บนที่ดิน 70 ไร่ และจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ส.ค.นี้ ทั้งนี้ศักยภาพของที่ตั้งศูนย์การค้า ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายหลัก และกลุ่มเป้าหมายรองกว่า 7 แสนครัวเรือน โดยเฉพาะมีบ้านจัดสรรระดับกลาง-บน ราคาบ้านตั้งแต่ 5-40 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง รวมถึงนักศึกษาและบุคลากรมหาวิทยาลัย อาทิ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตทับแก้ว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน และราชภัฎนครปฐม ซึ่งมีจำนวนรวม 1.5 แสนคน โดยศูนย์ฯแห่งนี้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคที่เป็นคนท้องถิ่นและผู้บริโภคที่เข้ามาเรียนและทำงานในท้องที่ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะมียอดผู้ใช้บริการต่อวันประมาณ 30,000-35,000 คน และคาดหวังศูนย์ฯจะติดตลาดภายใน 3 ปี เนื่องจากมีจุดดึงดูดสำคัญคือ ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ รูปแบบใหม่แห่งแรกของไทย รวมถึงโรงภาพยนตร์เอสเอฟ ซีนีม่า ซิตี้ ระดับ 4X ความชัดสูง รวม 7 โรง และร้านค้าแบรนด์เนมกว่า 250 ร้าน ภายใต้แนวคิดธีมมอลล์ โดยมีการตกแต่งเป็นเมืองกล้วยไม้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจ.นครปฐม
นายณัฐกิตติ์ กล่าวถึงการแข่งขันของตลาดศูนย์การค้าในช่วง 5 เดือนสุดท้ายของปีนี้ แนวโน้มน่าจะดีขึ้น หลังจากความมั่นใจของผู้บริโภคดีขึ้น การเมืองนิ่ง และภายหลังมีการจัดตั้งรัฐบาล คาดว่าจะมีการออกนโยบายผ่านโครงการกระตุ้นกำลังซื้อระยะสั้น รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เริ่มการโปรโมทให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางกลับมาบ้างแล้ว ส่วนที่ยังต้องกระตุ้นต่อคือนักท่องเที่ยวจีนและยุโรป ในขณะที่ภาพรวมการจัดกิจกรรมการตลาดของศูนย์การค้าเซ็นทรัล ผ่าน 25 สาขา ยังคงใช่งบประมาณ 700 ล้านบาท เท่ากับทุกปี แต่จะเน้นการจัดกิจกรรมการตลาดถี่ขึ้น เพื่อดึงกำลังซื้อที่ร่วงลง 10% เมื่อช่วงครึ่งปีแรกให้กลับมา โดยเฉพาะศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จะต้องมีกิจกรรมการตลาดประมาณ 10 กิจกรรมต่อเดือน ขณะที่ศูนย์อื่นจะมีกิจกรรมการตลาด 4-5 กิจกรรมต่อเดือน มากขึ้นจากปีปกติที่มีการจัดกิจกรรมเพียง 2-3 กิจกรรมต่อเดือน โดยที่ในปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโต 15% จากปีก่อน ส่วนในปี 2558 เซ็นทรัลจะเตรียมเปิดให้บริการอีก 3 ศูนย์การค้าประกอบด้วยเซ็นทรัล เวสต์เกท บางใหญ่,เซ็นทรัล จ.ระยอง และเซ็นทรับ อีสต์วิว เรียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ในขณะที่จ.ปทุมธานี และจ.สมุทรปราการ จะมีการลงทุนเกิดขึ้นในอนาคต
Cr. http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd056RTFOell5T0E9PQ==&subcatid=