หากคนตีความไม่มีความเที่ยงธรรม ก็มากปัญหาตามมา
เมื่อมากปัญหา ผลสุดท้าย ก็ต้องไปลงที่นักการเมืองอีกตามเคย ฮิๆ
ประเทศไทยก็เป็นอย่างนี้แหละครับ เหมือนสูตรสําเร็จ ที่ปัญหาทุกอย่างมักต้องโฟกัส ไปที่นักการเมือง เสมอๆ
ประเทศ เลยไม่ไปไหนเสียที
แต่หากวิเคราะห็ดีๆ ก็พอเข้าใจได้
ตั้งแต่หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ที่จริงวัฒนธรรมการเมืองไทย ก็เป็นอย่างนี้มาโดยตลอด
เพราะการก้าวขึ้นสู่อํานาจของพรรคการเมืองไทย
( บางพรรค) ไม่ได้ขาย หรือ แข่งขันกันที่นโยบายเหมือนนาๆประเทศ
แต่ใช้วิธีการทําลายล้าง ใส่ร้ายป้ายสีอีกฝ่าย
( ส่วนเป็นพรรคไหนนั้นคงเข้าใจกันได้อยู่ )
ถ้าใช้คําให้ดุขึ้นมาหน่อย
การเมืองไทยก็เหมือนกับสัตว์ป่า ที่ใช้วิธีทําลายล้างกัน เพื่อแย่งชิงอํานาจ ไม่สร้างสรรค์
เป็นวิธีทําลายพวกเดียวกันเอง ทําลายองค์กรตัวเอง
หากลองเอาวัฒนธรรมการเมืองแบบทําลายล้างนี้ ไปใช้ในองค์กรอื่นๆ
ไม่ว่ากองทัพ หรือ ราชการ ผมว่ามันก็เละเทะ ไม่ต่างกัน
( ผมเพียงแค่เปรียบเทียบ แต่นําไปใช้จริงไม่ได้หรอกครับ เพราะมันต่างวัฒนธรรมกันโดยสิ้นเชิง )
นักการเมืองโกง นัการเมืองเลว
มันเลยเป็นอะไร ที่ถูกปลูกฝังลงในความรู้สึกของคนไทยกันมาตลอด
และ เป็นมาอย่างนี้ อย่างต่อเนื่องยาวนาน จนอยากที่จะเปลี่ยนแปลงความคิด
แต่น่าเสียดาย พอมีพรรคการเมืองหนึ่งพยามาเข้ามาเปลี่ยนแปลง เพื่อนํานโยบายมาขาย
ก็ไม่สามารถต้านทาน กระแสวัฒนธรรมการเมืองเก่าๆแบบนี้ได้
นักการเมืองโกง ถ้าเป็นสินค้า มันขายได้แน่นอนครับ
หากคุณพูด ผมเชื่อว่าจะต้องมีคนจํานวนหนึ่ง พร้อมที่จะให้คุณจูงจมูกไปไหนต่อไหนก็ได้
เหมือนคนบ้าที่ขาดสติ
เพราะต่างคน ต่างก็มีความเชื่อเหล่านี้ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
หรือจะบอกว่าการเมืองเป็นเรื่องของอํานาจ แต่เมื่อมีอํานาจแล้วคุณโดนอย่างนี้
มีใครยังอยากจะมีอํานาจอีกครับ
( หรือ......ใครอยาก )
ดังนี้แล้ว มีเหตุผลอะไรอีก ที่ต้องทําให้เชื่อว่า เมื่อมาเป็นนักการเมือง แล้วจะต้องเลวกว่าอาชีพอื่น
( ถ้าใครมีเหตุผลอื่น ก็อธิบายมาครับ )
เมื่อทุกคนก็คนไทยเหมือนกัน
ก็คงไม่มีใครดีกว่าใคร หรือ ใครรักชาติน้อยกว่าใคร หรอกครับ
ต่างคนต่างความคิด ต่างมุมมอง
และ หากพยายามเอาใจเขามาใส่ใจเรา โดยไม่หลงคิดไปว่าตัวเองคือ ความถูกต้อง
ปัญหาเดิมๆแบบนี้ ก็คงไม่น่าจะเกิดน่ะครับ
---------------------------------
( สามทู้ร้อย)......เค้าว่ามากหมอ ก็มากความ มากข้อกฏหมาย ก็มากการตีความ
เมื่อมากปัญหา ผลสุดท้าย ก็ต้องไปลงที่นักการเมืองอีกตามเคย ฮิๆ
ประเทศไทยก็เป็นอย่างนี้แหละครับ เหมือนสูตรสําเร็จ ที่ปัญหาทุกอย่างมักต้องโฟกัส ไปที่นักการเมือง เสมอๆ
ประเทศ เลยไม่ไปไหนเสียที
แต่หากวิเคราะห็ดีๆ ก็พอเข้าใจได้
ตั้งแต่หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ที่จริงวัฒนธรรมการเมืองไทย ก็เป็นอย่างนี้มาโดยตลอด
เพราะการก้าวขึ้นสู่อํานาจของพรรคการเมืองไทย ( บางพรรค) ไม่ได้ขาย หรือ แข่งขันกันที่นโยบายเหมือนนาๆประเทศ
แต่ใช้วิธีการทําลายล้าง ใส่ร้ายป้ายสีอีกฝ่าย ( ส่วนเป็นพรรคไหนนั้นคงเข้าใจกันได้อยู่ )
ถ้าใช้คําให้ดุขึ้นมาหน่อย
การเมืองไทยก็เหมือนกับสัตว์ป่า ที่ใช้วิธีทําลายล้างกัน เพื่อแย่งชิงอํานาจ ไม่สร้างสรรค์
เป็นวิธีทําลายพวกเดียวกันเอง ทําลายองค์กรตัวเอง
หากลองเอาวัฒนธรรมการเมืองแบบทําลายล้างนี้ ไปใช้ในองค์กรอื่นๆ
ไม่ว่ากองทัพ หรือ ราชการ ผมว่ามันก็เละเทะ ไม่ต่างกัน
( ผมเพียงแค่เปรียบเทียบ แต่นําไปใช้จริงไม่ได้หรอกครับ เพราะมันต่างวัฒนธรรมกันโดยสิ้นเชิง )
นักการเมืองโกง นัการเมืองเลว
มันเลยเป็นอะไร ที่ถูกปลูกฝังลงในความรู้สึกของคนไทยกันมาตลอด
และ เป็นมาอย่างนี้ อย่างต่อเนื่องยาวนาน จนอยากที่จะเปลี่ยนแปลงความคิด
แต่น่าเสียดาย พอมีพรรคการเมืองหนึ่งพยามาเข้ามาเปลี่ยนแปลง เพื่อนํานโยบายมาขาย
ก็ไม่สามารถต้านทาน กระแสวัฒนธรรมการเมืองเก่าๆแบบนี้ได้
นักการเมืองโกง ถ้าเป็นสินค้า มันขายได้แน่นอนครับ
หากคุณพูด ผมเชื่อว่าจะต้องมีคนจํานวนหนึ่ง พร้อมที่จะให้คุณจูงจมูกไปไหนต่อไหนก็ได้
เหมือนคนบ้าที่ขาดสติ
เพราะต่างคน ต่างก็มีความเชื่อเหล่านี้ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
หรือจะบอกว่าการเมืองเป็นเรื่องของอํานาจ แต่เมื่อมีอํานาจแล้วคุณโดนอย่างนี้
มีใครยังอยากจะมีอํานาจอีกครับ ( หรือ......ใครอยาก )
ดังนี้แล้ว มีเหตุผลอะไรอีก ที่ต้องทําให้เชื่อว่า เมื่อมาเป็นนักการเมือง แล้วจะต้องเลวกว่าอาชีพอื่น
( ถ้าใครมีเหตุผลอื่น ก็อธิบายมาครับ )
เมื่อทุกคนก็คนไทยเหมือนกัน
ก็คงไม่มีใครดีกว่าใคร หรือ ใครรักชาติน้อยกว่าใคร หรอกครับ
ต่างคนต่างความคิด ต่างมุมมอง
และ หากพยายามเอาใจเขามาใส่ใจเรา โดยไม่หลงคิดไปว่าตัวเองคือ ความถูกต้อง
ปัญหาเดิมๆแบบนี้ ก็คงไม่น่าจะเกิดน่ะครับ
---------------------------------