เรากับแฟนคบกันมา 5 ปีแล้วค่ะ ตั้งแต่ตอนที่เรียนปริญญาตรี ตอนนี้จบมา 2 ปีแล้ว
สมัยเรียน เวลาเราไปทานข้าวด้วยกัน ตอนนั้นคือเราจะบอกแฟนว่าให้หารค่าข้าวกันเพราะแฟนก็ใช้เงินพ่อแม่ กว่าพ่อแม่จะหามาได้มันลำบาก
บ้านเราไม่ได้มีเงินมากมาย ดังนั้นเราจึงเห็นคุณค่าของเงิน
แฟนเรารักเราและเป็นคนนิสัยดีไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ขี้เกียจบ้างขยันบ้างตามประสาผู้ชาย
แฟนเราจะติดแม่มาก มีอะไรๆจะบอกแม่หมด เช่าหอพักก็ต้องเช่าใกล้ๆบ้านแม่ ไปกินข้าวบ้านแม่ทุกวัน แม่ซักผ้าให้ตากผ้าให้ หากช่วงที่แม่ไม่อยู่และไปต่างจังหวัด แฟนเราจะผอมลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะไม่ค่อยกินข้าวเหมือนอยู่กับแม่... เวลามีเรื่องอะไรก็จะตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องรอถามแม่ ...
ตอนเราจบใหม่ๆอยากไปทำงานอีกจังหวัดถัดไป ห่างไปแค่ 50 กม. แฟนเราไม่ให้ไปเพราะห่วงเรา เราก็เข้าใจว่าแฟนอาจจะเป็นห่วง
เราก็ทำเพื่อแฟนไม่ไปก็ได้ ทั้งๆ ที่งานที่จะไปทำเป็นงานที่ดีกว่า ทำกับบริษัทใหญ่ เงินเดือนสวัสดิการดีกว่าหมด
ประมาณปีก่อน แฟนเราก็ถามว่าถ้าเราแต่งงานกันจะเรียกค่าสินสอดเท่าไหร่
เราตอบไปว่าไม่รู้เดี๋ยวถามแม่เราให้นะ
พอเราได้มีโอกาสกลับบ้านก็เลยถามแม่เล่นๆ แม่ก็ตอบว่าแล้วแต่เราแล้วกัน ... พอแฟนเราถามเราก็ตอบไปว่า แม่บอกว่า 5บาท 10 หมื่น ก็ประมาณ 2 แสน แฟนเราตอบกลับมาว่า ... "งั้น 2 แสนนี่เราหารกันคนละแสนนะ แล้วพอหลังแต่งงานแม่เธอจะคืนเงินสินสอดให้เราใช่มั้ย ค่าจัดงานล่ะเราช่วยกันออกเนาะ" เราอึ้งค่ะ คือบอกไม่ถูก ผู้หญิงด้วยกันคงคิดออกนะคะ ว่าถ้าเจอแบบนี้จะรู้สึกยังไง
หลังจากนั้นเราก็ไม่พูดเรื่องแต่งงานอีกเลย พอแม่เค้าถามเราก็จะบอกว่ายังไม่อยากแต่งอยากทำงาน คือเอาจริงๆแล้วผู้หญิงเราทุกคนอยากแต่งงานกับคนที่ดูแลเราได้ทั้งนั้น อย่างน้อยก็ต้องเป็นผู้ชายที่เพิ่งพาได้
แก้ไข ... อยากรู้ว่าผู้หญิงคิดยังไงกับเรื่องอย่างนี้คะ
เมื่อแฟนเราอยากให้เราช่วยหารค่าสินสอด
สมัยเรียน เวลาเราไปทานข้าวด้วยกัน ตอนนั้นคือเราจะบอกแฟนว่าให้หารค่าข้าวกันเพราะแฟนก็ใช้เงินพ่อแม่ กว่าพ่อแม่จะหามาได้มันลำบาก
บ้านเราไม่ได้มีเงินมากมาย ดังนั้นเราจึงเห็นคุณค่าของเงิน
แฟนเรารักเราและเป็นคนนิสัยดีไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ขี้เกียจบ้างขยันบ้างตามประสาผู้ชาย
แฟนเราจะติดแม่มาก มีอะไรๆจะบอกแม่หมด เช่าหอพักก็ต้องเช่าใกล้ๆบ้านแม่ ไปกินข้าวบ้านแม่ทุกวัน แม่ซักผ้าให้ตากผ้าให้ หากช่วงที่แม่ไม่อยู่และไปต่างจังหวัด แฟนเราจะผอมลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะไม่ค่อยกินข้าวเหมือนอยู่กับแม่... เวลามีเรื่องอะไรก็จะตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องรอถามแม่ ...
ตอนเราจบใหม่ๆอยากไปทำงานอีกจังหวัดถัดไป ห่างไปแค่ 50 กม. แฟนเราไม่ให้ไปเพราะห่วงเรา เราก็เข้าใจว่าแฟนอาจจะเป็นห่วง
เราก็ทำเพื่อแฟนไม่ไปก็ได้ ทั้งๆ ที่งานที่จะไปทำเป็นงานที่ดีกว่า ทำกับบริษัทใหญ่ เงินเดือนสวัสดิการดีกว่าหมด
ประมาณปีก่อน แฟนเราก็ถามว่าถ้าเราแต่งงานกันจะเรียกค่าสินสอดเท่าไหร่
เราตอบไปว่าไม่รู้เดี๋ยวถามแม่เราให้นะ
พอเราได้มีโอกาสกลับบ้านก็เลยถามแม่เล่นๆ แม่ก็ตอบว่าแล้วแต่เราแล้วกัน ... พอแฟนเราถามเราก็ตอบไปว่า แม่บอกว่า 5บาท 10 หมื่น ก็ประมาณ 2 แสน แฟนเราตอบกลับมาว่า ... "งั้น 2 แสนนี่เราหารกันคนละแสนนะ แล้วพอหลังแต่งงานแม่เธอจะคืนเงินสินสอดให้เราใช่มั้ย ค่าจัดงานล่ะเราช่วยกันออกเนาะ" เราอึ้งค่ะ คือบอกไม่ถูก ผู้หญิงด้วยกันคงคิดออกนะคะ ว่าถ้าเจอแบบนี้จะรู้สึกยังไง
หลังจากนั้นเราก็ไม่พูดเรื่องแต่งงานอีกเลย พอแม่เค้าถามเราก็จะบอกว่ายังไม่อยากแต่งอยากทำงาน คือเอาจริงๆแล้วผู้หญิงเราทุกคนอยากแต่งงานกับคนที่ดูแลเราได้ทั้งนั้น อย่างน้อยก็ต้องเป็นผู้ชายที่เพิ่งพาได้
แก้ไข ... อยากรู้ว่าผู้หญิงคิดยังไงกับเรื่องอย่างนี้คะ