ผมเป็นผู้หนึ่งที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนจากการวางระเบียบวินัยจราจรแบบเข้มงวดของรัฐ จนเป็นช่องทางให้ตำรวจจารจรนำไปแสวงหาผลประโยชน์ ทั้งทางตรงและทางอ้อม (ทางตรงออกใบสั่งทางอ้อมหาภาษีเข้ารัดแต่มิใช่รัฐ อิอิ)
เนื่องจากการจับรถจักรยานยนต์จอดล้ำเส้นหยุดรถ สั่งปรับเป็นเงินพันบาทน่ะจะบอกให้ ผมถือว่าตำรวจจราจรถือโอกาสอย่างยิ่ง เมื่อรัฐมีนโยบายกวดขันวินัยจราจร การห้ามมอเตอร์ไซร์จอดล้ำเส้นหยุดรถคุณคิดดูบรรดาจักรยานยนต์เดือดร้อนแค่ไหน ถ้าใครขับขี่มอเตอร์ไซร์ก็จะทราบถึงปัญหานี้ ทำไมรัฐไม่ทำเขตจอดรถมอเตอร์ไซร์หลังเส้นหยุดรถหละ มอเตอร์ไซร์จะได้ไม่ไปจอดล้ำเส้นหยุดรถ จะได้ไม่ถูกปรับ ธรรมชาติของคนขับรถมอเตอร์ไซร์ไม่มีทางจะจอดรถอยู่ด้านหลังรถยนต์หรอกครับ มันเป็นไปไม่ได้ นี่แหละที่ตำรวจจราจรทราบดี จึงเป็นช่องทางให้หาทางเพิ่มภาษีให้รัฐได้ไง (ภาษีมาจากเงินค่าปรับ อิอิ ผมสงสัยว่ารัฐคงกระเป๋าฉีกจึงหาทางให้ตำรวจหาเงินภาษีเข้ารัฐจากเงินค่าปรับจราจรมั้ง อิอิ) คิดดูมอเตอร์ไปจอดอยู่ตามช่องว่างระหว่างรถยนต์ที่จอดอยู่ระหว่างช่องทางเดินรถอยู่เต็มไปหมด เวลาไฟเขียวทีแล้วรถออกตัวพร้อม ๆ กัน ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซร์ มันอันตรายขนาดไหนมีสมองคิดหรือเปล่าครับ อ้างอย่างเดียวว่ากวดขันวินัยจราจรแล้วผู้ขับขี่จะได้ปลอดภัย ก็ออกกฏต่าง ๆ มา โดยอ้างว่ารักประชาชน รักหรือทำร้ายจ๊ะพ่อคูณพ่อทูลหัว ไอ้กฏต่าง ๆ นั่นแหล่ะตัวดีเป็นช่องทางทุจริตเลย แบบนี้เขาเรียกทุจริตในเชิงบริหารโดยอาศัยอำนาจที่ตนมีอยู่ ถ้าความผิดก็ส่อไปในทางทุจริต ผมขับรถบางทีเจอจับวิ่งขวาทั้ง ๆ ที่ทางซ้ายเป็นช่องทางสำหรับรถลงจากทางด่วน แล้วข้างหน้ายืนจับรถมอเตอร์ไซวิ่งขวา ถามว่าตำรวจรู้ไหมว่าอันตรายขนาดไหนคิดเอา บางทีรถยนต์จอดรถทางช่องซ้ายเต็มไปหมดยังจับวิ่งขวา ผมว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาบอกว่าหัวไม่ส่าย หางมันก็ไม่ขยับ อันนี้ผมว่าถูกต้องครับ แบบปากว่าตาขยิบ อะไรทำนองนี้แหละครับ (นี่แหละสังคมไทย มักจะโชว์พาวว่าข้าดีเสมอเหนือคนทั้งล้า ดีน่ะดีจริงครับยอมรับ แต่มีดีตรง
ดีแต่พูด ตูดกลวงโบ๋)
สมัยท่านคำรณวิทย์ ท่านไม่ขยับคนเดียว ตำรวจจราจรไม่มีบนท้องถนนเลยครับ แต่ปัจจจุบันวันอาทตย์ยังปฏิบัติหน้าที่คิดเอาเอง (หน้าจะให้องค์กรดีเด่น) ท่านคำรณวิทย์นี่ของจริง ตั้งแต่เกิดมาผมก็เพิ่งเคยเห็นคนแบบนี้ครับ การกระทำของท่านคำรณวิทย์ ทำให้สูญเสียผลประโยชน์เดือนละไม่ต่ำกว่าหลักร้อยล้านต่อเดือน ย้ำร้อยล้านต่อเดือน ปีหนึ่งเท่าไหร่คิดกันเอาเอง ผมว่าสิ่งนี้แหละครับเป็นที่มาของการเอาท่านคำรณวิทย์เข้ากรุ ก็พิสูจน์กันเอาเองแล้วกันน่ะครับว่าใครดีใครชั่ว ใครของจริงใครของปลอม คนดีย่อมส่งเสริมคนดีครับตามพระราชรัสขององค์พ่อของแผ่นดิน คนชั่วย่อมส่งเสริมคนชั่ว เพื่อผลประโยชน์ของตัวและพวกพ้อง
ทั้งนี้ถ้ากระทู้นี้ไปโดนใครเจ็บก็ขออภัยด้วยน่ะครับ ไม่มีเจตนาทำร้ายใครทั้งนั้น เพียงแต่ต้องการสะท้อนความรู้สึกของตัวเองที่ได้พบได้เห็นอะไรมา ก็มาถ่ายทอดให้ท่านทั้งหลายฟังเท่านั้นแหละครับ สงสารสังคมที่ย้ำแย่ลงทุกวัน ๆ
ปล. ผมว่ากระทู้นี้ถ้าท่านคำรณวิทย์ทราบ ผมว่าปัญหานี้ยุติทันทีครับ แต่เสียดายตอนนี้ท่านหมดวาสนาเสียแล้ว ไม่มีใครเอาท่านทั้งแดงทั้งเหลืองทั้งฟ้าทั้งชมพูและทุกสี เพราะท่านเป็นตัวอันตรายสำหรับคนชั่ว อิอิอิ
ไงบอกจะคืนความสุขให้ประชาชน
เนื่องจากการจับรถจักรยานยนต์จอดล้ำเส้นหยุดรถ สั่งปรับเป็นเงินพันบาทน่ะจะบอกให้ ผมถือว่าตำรวจจราจรถือโอกาสอย่างยิ่ง เมื่อรัฐมีนโยบายกวดขันวินัยจราจร การห้ามมอเตอร์ไซร์จอดล้ำเส้นหยุดรถคุณคิดดูบรรดาจักรยานยนต์เดือดร้อนแค่ไหน ถ้าใครขับขี่มอเตอร์ไซร์ก็จะทราบถึงปัญหานี้ ทำไมรัฐไม่ทำเขตจอดรถมอเตอร์ไซร์หลังเส้นหยุดรถหละ มอเตอร์ไซร์จะได้ไม่ไปจอดล้ำเส้นหยุดรถ จะได้ไม่ถูกปรับ ธรรมชาติของคนขับรถมอเตอร์ไซร์ไม่มีทางจะจอดรถอยู่ด้านหลังรถยนต์หรอกครับ มันเป็นไปไม่ได้ นี่แหละที่ตำรวจจราจรทราบดี จึงเป็นช่องทางให้หาทางเพิ่มภาษีให้รัฐได้ไง (ภาษีมาจากเงินค่าปรับ อิอิ ผมสงสัยว่ารัฐคงกระเป๋าฉีกจึงหาทางให้ตำรวจหาเงินภาษีเข้ารัฐจากเงินค่าปรับจราจรมั้ง อิอิ) คิดดูมอเตอร์ไปจอดอยู่ตามช่องว่างระหว่างรถยนต์ที่จอดอยู่ระหว่างช่องทางเดินรถอยู่เต็มไปหมด เวลาไฟเขียวทีแล้วรถออกตัวพร้อม ๆ กัน ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซร์ มันอันตรายขนาดไหนมีสมองคิดหรือเปล่าครับ อ้างอย่างเดียวว่ากวดขันวินัยจราจรแล้วผู้ขับขี่จะได้ปลอดภัย ก็ออกกฏต่าง ๆ มา โดยอ้างว่ารักประชาชน รักหรือทำร้ายจ๊ะพ่อคูณพ่อทูลหัว ไอ้กฏต่าง ๆ นั่นแหล่ะตัวดีเป็นช่องทางทุจริตเลย แบบนี้เขาเรียกทุจริตในเชิงบริหารโดยอาศัยอำนาจที่ตนมีอยู่ ถ้าความผิดก็ส่อไปในทางทุจริต ผมขับรถบางทีเจอจับวิ่งขวาทั้ง ๆ ที่ทางซ้ายเป็นช่องทางสำหรับรถลงจากทางด่วน แล้วข้างหน้ายืนจับรถมอเตอร์ไซวิ่งขวา ถามว่าตำรวจรู้ไหมว่าอันตรายขนาดไหนคิดเอา บางทีรถยนต์จอดรถทางช่องซ้ายเต็มไปหมดยังจับวิ่งขวา ผมว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาบอกว่าหัวไม่ส่าย หางมันก็ไม่ขยับ อันนี้ผมว่าถูกต้องครับ แบบปากว่าตาขยิบ อะไรทำนองนี้แหละครับ (นี่แหละสังคมไทย มักจะโชว์พาวว่าข้าดีเสมอเหนือคนทั้งล้า ดีน่ะดีจริงครับยอมรับ แต่มีดีตรงดีแต่พูด ตูดกลวงโบ๋)
สมัยท่านคำรณวิทย์ ท่านไม่ขยับคนเดียว ตำรวจจราจรไม่มีบนท้องถนนเลยครับ แต่ปัจจจุบันวันอาทตย์ยังปฏิบัติหน้าที่คิดเอาเอง (หน้าจะให้องค์กรดีเด่น) ท่านคำรณวิทย์นี่ของจริง ตั้งแต่เกิดมาผมก็เพิ่งเคยเห็นคนแบบนี้ครับ การกระทำของท่านคำรณวิทย์ ทำให้สูญเสียผลประโยชน์เดือนละไม่ต่ำกว่าหลักร้อยล้านต่อเดือน ย้ำร้อยล้านต่อเดือน ปีหนึ่งเท่าไหร่คิดกันเอาเอง ผมว่าสิ่งนี้แหละครับเป็นที่มาของการเอาท่านคำรณวิทย์เข้ากรุ ก็พิสูจน์กันเอาเองแล้วกันน่ะครับว่าใครดีใครชั่ว ใครของจริงใครของปลอม คนดีย่อมส่งเสริมคนดีครับตามพระราชรัสขององค์พ่อของแผ่นดิน คนชั่วย่อมส่งเสริมคนชั่ว เพื่อผลประโยชน์ของตัวและพวกพ้อง
ทั้งนี้ถ้ากระทู้นี้ไปโดนใครเจ็บก็ขออภัยด้วยน่ะครับ ไม่มีเจตนาทำร้ายใครทั้งนั้น เพียงแต่ต้องการสะท้อนความรู้สึกของตัวเองที่ได้พบได้เห็นอะไรมา ก็มาถ่ายทอดให้ท่านทั้งหลายฟังเท่านั้นแหละครับ สงสารสังคมที่ย้ำแย่ลงทุกวัน ๆ
ปล. ผมว่ากระทู้นี้ถ้าท่านคำรณวิทย์ทราบ ผมว่าปัญหานี้ยุติทันทีครับ แต่เสียดายตอนนี้ท่านหมดวาสนาเสียแล้ว ไม่มีใครเอาท่านทั้งแดงทั้งเหลืองทั้งฟ้าทั้งชมพูและทุกสี เพราะท่านเป็นตัวอันตรายสำหรับคนชั่ว อิอิอิ