เจ้าของกระทู้มีความเข้าใจว่า การทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยคือการเรียนรู้อย่างหนึ่งได้แก่ มิตรภาพ ความรับผิดชอบ การแบ่งเวลา การรู้จักหน้าที่
เเต่เมื่อได้ใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยจริงๆ กลับรู้สึกว่า ถ้ากิจกรรมเยอะเกินไปก็ไม่ไหวเเล้วนะ เพราะตอนปีหนึ่งเทอมเเรกต้องซ้อมเชียร์ทุกวันตั้งเเต่ห้าโมงเย็นเป็นต้นไป ช่วงเเรกรุ่นพี่ก็ใจดีปล่อยกลับเร็วมากๆ เเต่พอทำไปสักพักรุ่นพี่ให้ซ้อมนานขึ้นสรุปเลยได้เลิกซ้อมประมาณสี่ทุ่มถึงเที่ยงคืน ทำให้เจ้าของกระทู้รู้สึกเบื่อ เพราะง่วงนอนต้องตื่นเเต่เช้าเตรียมตัวเข้าเรียน เเถมเวลาซ้อมอากาศก็ร้อน เเต่ทนได้ สิ่งที่ทนไม่ได้คือเวลาซ้อมทั้งยุ่งเเละเเมงวันทั้งกัด เกาะ เเละตอม ดังนั้นเลยบอกรุ่นพี่หนูขอเลิกค่ะ หนูทนไม่ไหวเเล้วเหนื่อย ไม่ไหว เพราะนิสัยเจ้าของกระทู้ไม่ใช่เด็กกิจกกรม
เมื่อเวลาผ่านไปเจ้าของกระทู้ก็พยายามหากิจกรรมใหม่ที่เหมาะกับตัวเอง บางอย่างก็ดี บางอย่างก็โอเค บางอย่างก็ขอให้มันผ่านๆ ไป เพราะทนรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว
จนกระทั่งวันหนึ่งได้ยินรุ่นพี่พูดว่า "น้องคนไหนไม่อยากทำกิจกรรมก็บอกได้นะ พวกพี่ไม่ได้บังคับ" เเต่เมื่อเจ้าของกระทูเจอกับชีวิตจริงกับสิ่งที่รุ่ยพี่พูด มันไม่ใช่เเบบรุ่นพี่พูดเลยนะ
เพราะถ้าไม่ยอมไปร่วมกิจกรรมของเอก ทุกคนมักตอบประมาณว่า ทำไมไม่ยอมทำล่ะ มันคือหน้าที่นะ ทุกคนต้องทำมัน มันจำเป็น โดยการพิมพ์ข้อความส่งมาทางกลุ่มในline รวมทั้งส่งข้อความมาเพิ่มประมาณว่า เราจะยกเลิกกิจกรรมของเอกเราดีมั้ย? เพราะเพื่อนไม่ค่อยร่วมมือ ไม่ไหวนะ
เจ้าของกระทู้เลยสงสัย ถ้าเราไม่ทำกิจกรรม เพื่อนรุ่นพี่ก็หมั่นไส้ไม่พอใจ เเต่รุ่นพี่กับพูดอีกอย่างหนึ่ง ทำให้รู้สึกว่า มันเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกัน
เเล้วเจ้าของกระทู้จะวางตัวในมหาลัยหรือในเอกที่เรียนยังไงดี? คือว่า เจ้าของกระทู้ไม่ได้กระเป๋าหนักเเบบพวกคุณเธอทั้งหลายที่มีเงินใช้เเบบสายน้ำ เพราะค่าเทอมอย่างเดียวเจ้าของกระทู้ก็รับไม่ไหวเเล้ว รวมทั้งไม่ชอบการกู้ยืมเงินอีกด้วย นอกจากนี้การทำกิจกรรมเเต่ล่ะอย่างเจ้าของกระทู้รู้สึกว่าจ่ายเยอะเกิน ไม่ไหวจริงๆ อาทิเช่น ค่าเสื้อ ค่าทำอุปกรณ์ เเละเงินสำหรับรุ่นน้อง เยอะเกิน จนทุกวันนี้ไม่อยากเข้าสังคมกับใครล่ะ เรียนก็หนัก กิจกรรมก็ต้องใช้เงินเยอะ เเถมค่ากินในเเต่ละวันอีก ขอบคุณทุกคนมากๆค่ะ
การทำกิจกรรมในมหาลัย เราทำแทบที่เรารับไหวไม่ได้หรือไงค่ะ?
เเต่เมื่อได้ใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยจริงๆ กลับรู้สึกว่า ถ้ากิจกรรมเยอะเกินไปก็ไม่ไหวเเล้วนะ เพราะตอนปีหนึ่งเทอมเเรกต้องซ้อมเชียร์ทุกวันตั้งเเต่ห้าโมงเย็นเป็นต้นไป ช่วงเเรกรุ่นพี่ก็ใจดีปล่อยกลับเร็วมากๆ เเต่พอทำไปสักพักรุ่นพี่ให้ซ้อมนานขึ้นสรุปเลยได้เลิกซ้อมประมาณสี่ทุ่มถึงเที่ยงคืน ทำให้เจ้าของกระทู้รู้สึกเบื่อ เพราะง่วงนอนต้องตื่นเเต่เช้าเตรียมตัวเข้าเรียน เเถมเวลาซ้อมอากาศก็ร้อน เเต่ทนได้ สิ่งที่ทนไม่ได้คือเวลาซ้อมทั้งยุ่งเเละเเมงวันทั้งกัด เกาะ เเละตอม ดังนั้นเลยบอกรุ่นพี่หนูขอเลิกค่ะ หนูทนไม่ไหวเเล้วเหนื่อย ไม่ไหว เพราะนิสัยเจ้าของกระทู้ไม่ใช่เด็กกิจกกรม
เมื่อเวลาผ่านไปเจ้าของกระทู้ก็พยายามหากิจกรรมใหม่ที่เหมาะกับตัวเอง บางอย่างก็ดี บางอย่างก็โอเค บางอย่างก็ขอให้มันผ่านๆ ไป เพราะทนรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว
จนกระทั่งวันหนึ่งได้ยินรุ่นพี่พูดว่า "น้องคนไหนไม่อยากทำกิจกรรมก็บอกได้นะ พวกพี่ไม่ได้บังคับ" เเต่เมื่อเจ้าของกระทูเจอกับชีวิตจริงกับสิ่งที่รุ่ยพี่พูด มันไม่ใช่เเบบรุ่นพี่พูดเลยนะ
เพราะถ้าไม่ยอมไปร่วมกิจกรรมของเอก ทุกคนมักตอบประมาณว่า ทำไมไม่ยอมทำล่ะ มันคือหน้าที่นะ ทุกคนต้องทำมัน มันจำเป็น โดยการพิมพ์ข้อความส่งมาทางกลุ่มในline รวมทั้งส่งข้อความมาเพิ่มประมาณว่า เราจะยกเลิกกิจกรรมของเอกเราดีมั้ย? เพราะเพื่อนไม่ค่อยร่วมมือ ไม่ไหวนะ
เจ้าของกระทู้เลยสงสัย ถ้าเราไม่ทำกิจกรรม เพื่อนรุ่นพี่ก็หมั่นไส้ไม่พอใจ เเต่รุ่นพี่กับพูดอีกอย่างหนึ่ง ทำให้รู้สึกว่า มันเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกัน
เเล้วเจ้าของกระทู้จะวางตัวในมหาลัยหรือในเอกที่เรียนยังไงดี? คือว่า เจ้าของกระทู้ไม่ได้กระเป๋าหนักเเบบพวกคุณเธอทั้งหลายที่มีเงินใช้เเบบสายน้ำ เพราะค่าเทอมอย่างเดียวเจ้าของกระทู้ก็รับไม่ไหวเเล้ว รวมทั้งไม่ชอบการกู้ยืมเงินอีกด้วย นอกจากนี้การทำกิจกรรมเเต่ล่ะอย่างเจ้าของกระทู้รู้สึกว่าจ่ายเยอะเกิน ไม่ไหวจริงๆ อาทิเช่น ค่าเสื้อ ค่าทำอุปกรณ์ เเละเงินสำหรับรุ่นน้อง เยอะเกิน จนทุกวันนี้ไม่อยากเข้าสังคมกับใครล่ะ เรียนก็หนัก กิจกรรมก็ต้องใช้เงินเยอะ เเถมค่ากินในเเต่ละวันอีก ขอบคุณทุกคนมากๆค่ะ