ตามนั้นเลยค่ะ
คุยกันมาปีกว่า ยังไม่ได้คบกัน คุยไปเรื่อยๆ เขาเป็นคนดี แต่พอคุยกันนานๆไปก็มีปัญหา โกรธกัน เขาง้อเราง้อ สลับกัน ส่วนใหญ่เขาจะง้อ แต่เคยตกลงว่ายังไงก็คนนี้ จะไม่เลิกคุยกัน แต่เราชอบพูดตัดเหมือนจะเลิกคุยกันเวลาโมโห ที่จริงอยากให้เขาง้อเฉยๆ พอมาตอนหลังมีปัญหาคาราคาซังมา2 เดือนจนครั้งล่าสุดเราหายไปสองอาทิตย์ เขาบอกว่า ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม ไม่ได้ไม่อยากคุย แต่ก็ไม่ได้อยากคุย รู้สึกเฉยๆแล้ว เราปล่อยเวลาผ่านมานานเกินไปจนเขาโอเคกับมันแล้ว
เราก็บอก อ่าวไหนที่ตกลงกันไว้ไง เขาตัดเราได้จริงเหรอ เขาก็บอกว่า ไม่ใช่เขามั้งที่ปล่อยไป เราเองที่ไม่ยื้อเอาไว้
เค้าบอกอีกว่าตอนนี้เขาไม่พร้อมคุยกับเราเหมือนเดิม ให้กลับไปเริ่มต้นใหม่ คือเป็นเพื่อน ที่คุยกันได้ มีระยะห่างในการปรับตัวสำหรับเราทั้งคู่ ถ้าวันนึงต่างคนต่างพร้อม คงได้กลับมาคุยกัน
เราก็รู้สึกว่ามันค้างคา คือ ถ้าไม่อยากคุยแล้วอยากให้บอกกันตรงๆ พอพูดอย่างนี้ให้ความรู้สึกเหมือนว่าอนาคตอาจจะได้กลับมาคุยนะ กลายเป็นเหมือนเราจะเปิดใจกับใครที่จะเข้ามาต่อจากนี้ไม่ได้เลย ลึกๆจะแอบรอว่าซักวันนึงเขาจะกลับมาคุย
พอเราถามคำถามเบสิค ว่ายังรักรึเปล่า เขาก็บอกว่า เขารู้สึกดีกับเราเสมอ
ส่วนตัวเราหลังจากวันนั้นไม่ได้คุยกันอีกค่ะ ไม่คิดจะทักไป แต่เขายังมาไลค์รูปเราอยู่ซึ่งอาจจะเผลอไปโดนหรือไม่ได้คิดอะไรก็ตาม 555
ที่ข้องใจก็คือ เขาหมายความว่ายังไงคะ กับประโยคที่ว่า ถ้าวันนึงต่างคนต่างพร้อมคงได้กลับมาคุยกัน พอไปถามเพื่อน เพื่อนบอกว่า เขาแค่ถนอมน้ำใจค่ะ ไม่เห็นต้องทะเลาะกันเลยเลิกคุยกันด้วยดีก็ได้ จะได้เป็นเพื่อนกันได้ สำหรับเรารู้สึกว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นพูดตรงๆคงดีกว่าถนอมน้ำใจ เพราะเราทำใจคุยกันเป็นเพื่อนได้อยู่แล้ว พอเขาพูดอย่างนี้ มันแอบคาดหวังมากกว่านั้นน่ะค่ะ
ตอนนี้ยังรู้สึกหน่วงๆอยู่เลยค่ะ ช่วยกันตอบหน่อยนะคะ เข้าใจว่าไม่มีใครรู้นอกว่าเจ้าตัวเขาว่าจริงๆแล้วคิดอะไร แต่อยากได้ความเห็นจากมุมมองคนอื่นๆบ้างค่ะ
เราอาจจะพิมพ์งงๆไปบ้าง ตั้งกระทู้ครั้งแรก ผิดพลาดตรงไหนขอโทษด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
เขาบอกว่า...ถ้าต่างคนต่างพร้อมคงได้กลับมาคุยกัน...มันหมายความว่ายังไงคะ
คุยกันมาปีกว่า ยังไม่ได้คบกัน คุยไปเรื่อยๆ เขาเป็นคนดี แต่พอคุยกันนานๆไปก็มีปัญหา โกรธกัน เขาง้อเราง้อ สลับกัน ส่วนใหญ่เขาจะง้อ แต่เคยตกลงว่ายังไงก็คนนี้ จะไม่เลิกคุยกัน แต่เราชอบพูดตัดเหมือนจะเลิกคุยกันเวลาโมโห ที่จริงอยากให้เขาง้อเฉยๆ พอมาตอนหลังมีปัญหาคาราคาซังมา2 เดือนจนครั้งล่าสุดเราหายไปสองอาทิตย์ เขาบอกว่า ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม ไม่ได้ไม่อยากคุย แต่ก็ไม่ได้อยากคุย รู้สึกเฉยๆแล้ว เราปล่อยเวลาผ่านมานานเกินไปจนเขาโอเคกับมันแล้ว
เราก็บอก อ่าวไหนที่ตกลงกันไว้ไง เขาตัดเราได้จริงเหรอ เขาก็บอกว่า ไม่ใช่เขามั้งที่ปล่อยไป เราเองที่ไม่ยื้อเอาไว้
เค้าบอกอีกว่าตอนนี้เขาไม่พร้อมคุยกับเราเหมือนเดิม ให้กลับไปเริ่มต้นใหม่ คือเป็นเพื่อน ที่คุยกันได้ มีระยะห่างในการปรับตัวสำหรับเราทั้งคู่ ถ้าวันนึงต่างคนต่างพร้อม คงได้กลับมาคุยกัน
เราก็รู้สึกว่ามันค้างคา คือ ถ้าไม่อยากคุยแล้วอยากให้บอกกันตรงๆ พอพูดอย่างนี้ให้ความรู้สึกเหมือนว่าอนาคตอาจจะได้กลับมาคุยนะ กลายเป็นเหมือนเราจะเปิดใจกับใครที่จะเข้ามาต่อจากนี้ไม่ได้เลย ลึกๆจะแอบรอว่าซักวันนึงเขาจะกลับมาคุย
พอเราถามคำถามเบสิค ว่ายังรักรึเปล่า เขาก็บอกว่า เขารู้สึกดีกับเราเสมอ
ส่วนตัวเราหลังจากวันนั้นไม่ได้คุยกันอีกค่ะ ไม่คิดจะทักไป แต่เขายังมาไลค์รูปเราอยู่ซึ่งอาจจะเผลอไปโดนหรือไม่ได้คิดอะไรก็ตาม 555
ที่ข้องใจก็คือ เขาหมายความว่ายังไงคะ กับประโยคที่ว่า ถ้าวันนึงต่างคนต่างพร้อมคงได้กลับมาคุยกัน พอไปถามเพื่อน เพื่อนบอกว่า เขาแค่ถนอมน้ำใจค่ะ ไม่เห็นต้องทะเลาะกันเลยเลิกคุยกันด้วยดีก็ได้ จะได้เป็นเพื่อนกันได้ สำหรับเรารู้สึกว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นพูดตรงๆคงดีกว่าถนอมน้ำใจ เพราะเราทำใจคุยกันเป็นเพื่อนได้อยู่แล้ว พอเขาพูดอย่างนี้ มันแอบคาดหวังมากกว่านั้นน่ะค่ะ
ตอนนี้ยังรู้สึกหน่วงๆอยู่เลยค่ะ ช่วยกันตอบหน่อยนะคะ เข้าใจว่าไม่มีใครรู้นอกว่าเจ้าตัวเขาว่าจริงๆแล้วคิดอะไร แต่อยากได้ความเห็นจากมุมมองคนอื่นๆบ้างค่ะ
เราอาจจะพิมพ์งงๆไปบ้าง ตั้งกระทู้ครั้งแรก ผิดพลาดตรงไหนขอโทษด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ