http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000084969
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ทภ.2” สรุปผลการตรวจโกดังข้าวภาคอีสานทั้งหมด 297 โกดัง ใน 14 จังหวัด พบล่องหนกว่า4,200 กระสอบ และมีข้าวเสียหายจากเก็บรักษาไม่ดีอีกกว่า 17,000 กระสอบ ด้านผู้การฯ โคราชเผยล่าสุด อคส. โร่แจ้งความข้าวหายที่ อ.ขามสะแกแสง อีก 130 กระสอบ ตร.ออกหมายเรียกเจ้าของโกดังแล้ว
วันนี้ (27 ก.ค.) พ.อ.(พิเศษ) ชินกาจ รัตนจิตติ รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยถึงผลการตรวจปริมาณข้าวตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระหว่างวันที่ 3-26 ก.ค.2557 ว่า ทางกองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) จัดกำลังทหารเข้าร่วมกับคณะทำงานตรวจปริมาณและคุณภาพข้าวในพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 13 ชุด ชุดละ 8 นาย รวมทั้งสิ้น 104 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบคลังสินค้ากลาง หรือโกดังจัดเก็บข้าวสารโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคอีสาน ทั้งหมดจำนวน 297 โกดัง
ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี และ จ.ศรีสะเกษ
ล่าสุด คณะทำงานฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบปริมาณข้าวทุกโกดังเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผลปรากฏว่ามีข้าวหายไปไม่ตรงกับบัญชีทั้งสิ้น 4,294 กระสอบ คิดเป็นร้อยละ 0.018 จากบัญชีข้าวทั้งหมด 23,235,449 กระสอบ ถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยไม่ถึงร้อยละ 1 และพบมีปริมาณข้าวที่เสียหายจากการเก็บรักษาไม่ดี สภาพโกดังไม่ดีอีกจำนวน 17,505 กระสอบ คิดเป็นร้อยละ 0.08
ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีนั้น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้ดำเนินการ แต่ในส่วนของทหารที่เข้าไปร่วมตรวจสอบจะทำหน้าที่เฉพาะการเช็กปริมาณข้าวเท่านั้น
“ทั้งนี้ คณะทำงานฯ ได้เก็บตัวอย่างข้าวจากทุกโกดังส่งไปยังคณะกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวส่วนกลาง รวมถึงส่งผลสรุปทั้งหมดไปเรียบร้อยแล้ว เพื่อทำการตรวจสอบคุณภาพข้าวว่ามีความผิดปกติหรือมีการปลอมปนอย่างไรหรือไม่” พ.อ.(พิเศษ)ชินกาจ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากรายงานการตรวจปริมาณข้าวในพื้นที่ จ.นครราชสีมา พบว่า ล่าสุดมีเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ขามสะแกแสง ว่า มีข้าวสารหายไปจากโกดังรวม 130 กระสอบ หรือประมาณ 13,000 กิโลกรัม (กก.) คิดมูลค่าความเสียหาย 325,000 บาท
โดย นายบรรจง เกษมธรรมนันท์ พนักงานคลังสินค้า 5 องค์การคลังสินค้า (อคส.) เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ขามสะแกแสง เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่าข้าวสารหอมมะลิชั้น 2 ซึ่งเป็นข้าวที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ฤดูกาลผลิตปี 2556/57 ของคลังเก็บสินค้า พัฒนกำชัย หลังที่ 2 อ.ขามสะแกแสง หายไปจำนวน 130 กระสอบ
ล่าสุด ทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้เจ้าของโกดังมาชี้แจง และรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ซึ่งได้รับการติดต่อจากทางเจ้าของโกดังว่า จะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ภายใน 1-2 วันนี้
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
จากข้อมูลข้างบน เปอร์เซ็นต์ ข้าวที่สูญหาย และเสียหาย น้อยมาก
แต่ สลิ่มโวยวายจะเป็นจะตาย
ข่าวล่าสุด
วันนี้ (28 ก.ค.๕๗ ) ณ บก.ทบ. พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ได้เปิดเผยหลังการประชุม นบข. ครั้งที่ 2/57 ถึงการดำเนินการของคณะอนุกรรมการสองคณะ คือ คณะอนุกรรมการกำหนดนโยบาย และคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณข้าวว่า ได้มีการเสนอยุทธศาสตร์เพิ่มเติมในการผลิตข้าวของไทย ซึ่งประกอบด้วยยุทธศาสตร์ด้านการผลิตและด้านการตลาด โดยมุ่งหวังให้เกษตรกรผลิตข้าวคุณภาพดี และขายได้ในราคาเหมาะสม โดยคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณข้าว ได้รายงานผลให้ทราบว่า ขณะนี้ได้ทำการตรวจสอบข้าวทั่วประเทศไปแล้ว 1,290 แห่ง จากที่มีทั้งหมด 1,787 แห่ง ซึ่งคิดเป็น 72 เปอร์เซนต์ และพบว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นข้าวที่มีคุณภาพดีและถูกต้อง มีเพียง10 เปอร์เซ็นต์ ที่ไม่ตรงกับที่แจ้งไว้และเสื่อมคุณภาพ ซึ่งต้องมีการตรวจสอบในรายละเอียดต่อไป ขณะนี้ไม่จำเป็นต้องมีการเร่งระบายข้าว แต่ต้องดูตามกลไกตลาด ไม่ให้มีผลกระทบต่อราคาข้าว และต้องดูว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่จะสามารถระบายข้าวได้ และในอนาคตเรื่องของประกันราคาข้าวและการจำนำข้าว จะไม่มีการพิจารณาใช้กับระบบของไทย แต่จะเน้นให้เกษตรกรปลูกข้าวที่มีคุณภาพ รวมถึงปลูกพืชอื่นๆทดแทนด้วย ทั้งนี้ พลเอกฉัตรชัยฯ ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ทุ่มเทปฏิบัติภารกิจในการติดตาม ประเมินตรวจสอบคุณภาพข้าวในห้วงเดือนนี้ พร้อมให้ดำเนินการสรุปผลการตรวจสอบให้ คสช. ทราบโดยเร็ว เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
พลเอกฉัตรชัย ฯ ยังระบุด้วยว่า ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามความคืบหน้าและตรวจสอบผลสำเร็จของมาตรการต่างๆ ที่ คสช. กำหนดไว้ในการช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งการสร้างความเข้าใจกับชาวนาและผู้ที่เกี่ยวข้อง ในแนวทางการแก้ปัญหาของเกษตรกรอย่างยั่งยืน เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงมาตรฐานการตลาดและการผลิตในอนาคต นอกจากนี้ได้ย้ำให้ภาครัฐให้ความสำคัญกับการเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น พร้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักในการกำหนดยุทธศาสตร์ทางการเกษตร ส่วนการส่งเสริมให้ชาวนาปลูกข้าวที่มีคุณภาพ หรือปลูกข้าวตามท้องถิ่น เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีและง่ายต่อการจำหน่ายนั้น เป็นเรื่องที่ควรได้รับการสนับสนุน นอกจากนี้เร่งรัดให้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลด้านเกษตรกรรมประจำจังหวัด/อำเภอ เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผลผลิตร่วมกันระหว่างภาครัฐและเกษตรกร
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1406547713
อ้าว ... สลิ่ม ยังสบายดีไหมจ๊ะ !!!!
ไหนใครบอกว่า "ปู" โกงข้าว ข้าวเสียหายเยอะแยะไง ?? ( 2 )
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000084969
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ทภ.2” สรุปผลการตรวจโกดังข้าวภาคอีสานทั้งหมด 297 โกดัง ใน 14 จังหวัด พบล่องหนกว่า4,200 กระสอบ และมีข้าวเสียหายจากเก็บรักษาไม่ดีอีกกว่า 17,000 กระสอบ ด้านผู้การฯ โคราชเผยล่าสุด อคส. โร่แจ้งความข้าวหายที่ อ.ขามสะแกแสง อีก 130 กระสอบ ตร.ออกหมายเรียกเจ้าของโกดังแล้ว
วันนี้ (27 ก.ค.) พ.อ.(พิเศษ) ชินกาจ รัตนจิตติ รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยถึงผลการตรวจปริมาณข้าวตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระหว่างวันที่ 3-26 ก.ค.2557 ว่า ทางกองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) จัดกำลังทหารเข้าร่วมกับคณะทำงานตรวจปริมาณและคุณภาพข้าวในพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 13 ชุด ชุดละ 8 นาย รวมทั้งสิ้น 104 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบคลังสินค้ากลาง หรือโกดังจัดเก็บข้าวสารโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคอีสาน ทั้งหมดจำนวน 297 โกดัง
ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี และ จ.ศรีสะเกษ
ล่าสุด คณะทำงานฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบปริมาณข้าวทุกโกดังเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผลปรากฏว่ามีข้าวหายไปไม่ตรงกับบัญชีทั้งสิ้น 4,294 กระสอบ คิดเป็นร้อยละ 0.018 จากบัญชีข้าวทั้งหมด 23,235,449 กระสอบ ถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยไม่ถึงร้อยละ 1 และพบมีปริมาณข้าวที่เสียหายจากการเก็บรักษาไม่ดี สภาพโกดังไม่ดีอีกจำนวน 17,505 กระสอบ คิดเป็นร้อยละ 0.08
ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีนั้น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้ดำเนินการ แต่ในส่วนของทหารที่เข้าไปร่วมตรวจสอบจะทำหน้าที่เฉพาะการเช็กปริมาณข้าวเท่านั้น
“ทั้งนี้ คณะทำงานฯ ได้เก็บตัวอย่างข้าวจากทุกโกดังส่งไปยังคณะกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวส่วนกลาง รวมถึงส่งผลสรุปทั้งหมดไปเรียบร้อยแล้ว เพื่อทำการตรวจสอบคุณภาพข้าวว่ามีความผิดปกติหรือมีการปลอมปนอย่างไรหรือไม่” พ.อ.(พิเศษ)ชินกาจ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากรายงานการตรวจปริมาณข้าวในพื้นที่ จ.นครราชสีมา พบว่า ล่าสุดมีเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ขามสะแกแสง ว่า มีข้าวสารหายไปจากโกดังรวม 130 กระสอบ หรือประมาณ 13,000 กิโลกรัม (กก.) คิดมูลค่าความเสียหาย 325,000 บาท
โดย นายบรรจง เกษมธรรมนันท์ พนักงานคลังสินค้า 5 องค์การคลังสินค้า (อคส.) เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ขามสะแกแสง เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่าข้าวสารหอมมะลิชั้น 2 ซึ่งเป็นข้าวที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ฤดูกาลผลิตปี 2556/57 ของคลังเก็บสินค้า พัฒนกำชัย หลังที่ 2 อ.ขามสะแกแสง หายไปจำนวน 130 กระสอบ
ล่าสุด ทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้เจ้าของโกดังมาชี้แจง และรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ซึ่งได้รับการติดต่อจากทางเจ้าของโกดังว่า จะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ภายใน 1-2 วันนี้
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
จากข้อมูลข้างบน เปอร์เซ็นต์ ข้าวที่สูญหาย และเสียหาย น้อยมาก
แต่ สลิ่มโวยวายจะเป็นจะตาย
ข่าวล่าสุด
วันนี้ (28 ก.ค.๕๗ ) ณ บก.ทบ. พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ได้เปิดเผยหลังการประชุม นบข. ครั้งที่ 2/57 ถึงการดำเนินการของคณะอนุกรรมการสองคณะ คือ คณะอนุกรรมการกำหนดนโยบาย และคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณข้าวว่า ได้มีการเสนอยุทธศาสตร์เพิ่มเติมในการผลิตข้าวของไทย ซึ่งประกอบด้วยยุทธศาสตร์ด้านการผลิตและด้านการตลาด โดยมุ่งหวังให้เกษตรกรผลิตข้าวคุณภาพดี และขายได้ในราคาเหมาะสม โดยคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณข้าว ได้รายงานผลให้ทราบว่า ขณะนี้ได้ทำการตรวจสอบข้าวทั่วประเทศไปแล้ว 1,290 แห่ง จากที่มีทั้งหมด 1,787 แห่ง ซึ่งคิดเป็น 72 เปอร์เซนต์ และพบว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นข้าวที่มีคุณภาพดีและถูกต้อง มีเพียง10 เปอร์เซ็นต์ ที่ไม่ตรงกับที่แจ้งไว้และเสื่อมคุณภาพ ซึ่งต้องมีการตรวจสอบในรายละเอียดต่อไป ขณะนี้ไม่จำเป็นต้องมีการเร่งระบายข้าว แต่ต้องดูตามกลไกตลาด ไม่ให้มีผลกระทบต่อราคาข้าว และต้องดูว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่จะสามารถระบายข้าวได้ และในอนาคตเรื่องของประกันราคาข้าวและการจำนำข้าว จะไม่มีการพิจารณาใช้กับระบบของไทย แต่จะเน้นให้เกษตรกรปลูกข้าวที่มีคุณภาพ รวมถึงปลูกพืชอื่นๆทดแทนด้วย ทั้งนี้ พลเอกฉัตรชัยฯ ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ทุ่มเทปฏิบัติภารกิจในการติดตาม ประเมินตรวจสอบคุณภาพข้าวในห้วงเดือนนี้ พร้อมให้ดำเนินการสรุปผลการตรวจสอบให้ คสช. ทราบโดยเร็ว เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
พลเอกฉัตรชัย ฯ ยังระบุด้วยว่า ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามความคืบหน้าและตรวจสอบผลสำเร็จของมาตรการต่างๆ ที่ คสช. กำหนดไว้ในการช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งการสร้างความเข้าใจกับชาวนาและผู้ที่เกี่ยวข้อง ในแนวทางการแก้ปัญหาของเกษตรกรอย่างยั่งยืน เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงมาตรฐานการตลาดและการผลิตในอนาคต นอกจากนี้ได้ย้ำให้ภาครัฐให้ความสำคัญกับการเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น พร้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักในการกำหนดยุทธศาสตร์ทางการเกษตร ส่วนการส่งเสริมให้ชาวนาปลูกข้าวที่มีคุณภาพ หรือปลูกข้าวตามท้องถิ่น เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีและง่ายต่อการจำหน่ายนั้น เป็นเรื่องที่ควรได้รับการสนับสนุน นอกจากนี้เร่งรัดให้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลด้านเกษตรกรรมประจำจังหวัด/อำเภอ เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผลผลิตร่วมกันระหว่างภาครัฐและเกษตรกร
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1406547713
อ้าว ... สลิ่ม ยังสบายดีไหมจ๊ะ !!!!